เผอิญเขียนกระทู้ครั้งแรก...ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องการโพสเท่าไรค่ะ เรื่องออกจะยาวไปซักเล็กน้อยค่ะ แต่คั้นออกมาจากความรู้สึกและเหตุการณ์ที่มีตลอดในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา อยากทราบว่ามีใครมีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ อยากทราบความรู้สึก และแนวทางปฏิบัติเพื่อความเป็นธรรมค่ะ...
คือพอดีว่าตัวเองปกติเป็นคนใส่รองเท้าคู่นึงไม่ถึง 1000 ค่ะ แต่พอดีได้ไปซื้อรองเท้าแตะมาคู่ละ 3000 - 4000 บาท ตอนซื้อมาคนขายก็บอกว่าการันตีการซ่อม เราลองดูในใบแผ่นพับโฆษณา เค้าก็เขียนว่าการันตีค่ะ อย่างนี้น่าจะถือเป็นการซื้อที่คุ้มค่าล่ะสิ คิดอย่างนี้ก็ยอมควักตังค์ซื้อ...
ใส่เดินไปได้แค่ 6 เดือน รอยเหวอะหวะ หูขาด และสภาพแลดูไม่ดีนัก แอบผิดหวังกับสินค้าชิ้นนี้อยู่เล็กๆ แต่ก็คิดว่าคงเพราะเราใช้งานเยอะไปในช่วงนั้น เลยอาจทำให้พังเร็วกว่ารองเท้าคู่ปกติที่เคยใส่ และก็คิดว่าสินค้าแบรนเนม คงมีอายุการใช้งานได้น้อยกว่ารองเท้าคู่ละไม่ถึง 1000 ที่เราเคยใส่ประจำอยู่แน่ๆ เค้าถึงมีการันตีการซ่อมมารับรองลูกค้าอย่างนี้...
เอากลับไปซ่อมที่บูทในห้าง สิ่งที่ปรากฎขึ้นกับสายตาก็คือ...เค้าบอกว่าการันตีการซ่อมก็คือ...เค้ารับซ่อมให้...แต่หนูต้องเสียตังค์ค่าซ่อมนะ...
แอบช็อคกับคำตอบของร้านเล็กน้อย... แล้วก็ถามแบบงงๆ ว่า...ค่ะๆ แล้วค่าซ่อมเท่าไรค่ะ
ซึ่งทางร้านเค้าตอบว่า 200 บาท... โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าราคานี้ก็พอรับได้ ไหนๆ เราก็ต้องขับรถมาที่ห้างนี้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะแพงกว่าร้านซ่อมรองเท้าหน้าปากซอย และเพราะคิดว่าไหนๆ รองเท้าซื้อมาละตั้งหลายพัน ถ้าซ่อมกับศูนย์เลยน่าจะไว้ใจได้มากกว่า แถมรองเท้ารอยเหวอะเยอะด้วย ไหนๆ ซ่อมแล้วก็ซ่อมที่นี่ไปเลย
เดินออกมาจากร้านไปเจอแฟน และเล่าให้ฟังว่าร้านเค้าคิด 200 บาทค่าซ่อม... อีก 2 - 3 อาทิตย์ให้มาเอา... แต่ถ้าได้ก่อนแล้วทางร้านเค้าจะโทรไปบอก ซึ่งแฟนก็บ่นๆ ว่าไหนตอนซื้อเค้าบอกว่าการันตีไม่ใช่หรอ แล้วทำไมใช้ไป 6 เดือน ก็พังละ แถมซ่อมทีนึง ยังต้องกับต้องเอาไปส่งซ่อมถึงอเมริกา... ทำไมไม่เอาไปซ่อมที่หน้าปากซอยบ้านซะล่ะ (เออ..เนอะ... คิดเหมือนเราเลย)...
นึกว่าเรื่องจะจบ... แต่พอเวลาผ่านเลยไป 2 - 3 อาทิตย์... ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น... คือไม่มีใครโทรมาแจ้งว่าซ่อมเสร็จแล้ว หรือว่าได้ซ่อมถึงไหนแล้ว หนูกับแฟนก็ถ่อไปที่ร้านถามถึงความคืบหน้า... ซึ่งเค้าก็บอกว่ารอซ่อมอยู่...เดี๋ยวได้ๆ
และแล้วความสนุกจรรลัยก็เกิดขึ้น (ขอโทดที่ใช้คำไม่สุภาพนะคะ) เมื่อหนูกับแฟนต้องเดินไปทวงรองเท้าที่ร้านซ้ำไปซ้ำมาอีก เหมือนตามทวงหนี้... เค้าบอกว่าช่างซ่อมรองเท้าท้งประเทศมีอยู่แค่ 2 คนเอง...จะเอาอะไรมาก (แหม่...นึกว่าต้องส่งไปซ่อมที่สิงคโปร์หรืออเมริกาก็ว่าไปอย่าง กะอีแค่ปะกาวและเปลี่ยนขอบ...ทำไมมันนานกว่าส่งซ่อมไอโฟนอีกฟะ...ในใจเริ่มออกอารมณ์)
สุดท้าย เค้าบอกว่าถ้าอยากได้เร็ว ให้เราไปรับที่อีกห้างนึง ก็งงว่าส่งซ่อมร้านนี้ ทำไมต้องไปทวงที่สาขาอีกห้างนึง แต่เรารอมา 2 เดือนกว่าๆ กับการซ่อมรองเท้า (คู่โปรด ตอนซื้อ - คู่เจ้าปัญหา ตอนซ่อม) ยังไงก็ทำตามเหมือนเป็นทาสของร้านรองเท้านั้นแต่โดยดี...
และแล้วก็ถึงวันที่เข้าไปเอาของ... แม่เจ้าช่วย...
ซ่อมมาให้แค่เอา หูคีบไปติดให้ดี และอัดกาว ให้มันแน่นขึ้น... รอยเหวอะที่ขอบอันน่าสมเพชนั้น...ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เหมือนเดิม... แฟนเห็น...แฟนบอกว่า...มันเป็นพวกอนุรักษ์นิยมหรือไง...ซ่อมอะไรไม่ซ่อม ไม่ซ่อมขอบให้ (รองเท้านะเฟ้ย...ไม่ใช่กางเกงยีน...)
ทางร้านให้เหตุผลว่า เค้ารับซ่อมแค่ หู และ อัดกาวเท่านั้น... ขอบรองเท้านี่นอกเหนือ scope ของการซ่อม.... จบข่าว...
ฉุน...สิคะ... แต่ไม่รู้ทำยังไงดี... เหมือนเค้าแบรนด์ดังอ่ะ... จำทำยังไงกับลูกค้าก็ได้... ตอนซื้อนั้นก็ไม่เท่าไร แต่ทำไมตอนซ่อมนั้น เหมือนจะต้องไปง้อ ไปขอเค้าซ่อมยังไงก็ไม่รู้ รู้อย่างนี้ทำตามแฟนไปซ่อมหน้าปากซอย เค้าคิด 50 บาท ยืนรอ 15 นาที จบ... อัดกาว กับ หูคีบขาด เนี่ยนะ.. 2 เดือน... แม่เจ้า...
ประเด็นที่รู้สึกว่าถูกหลอกลวงคือ...
1. ตอนโฆษณา บอกว่าการันตี แต่พอใช้ไปแค่ 6 เดือน บอกว่าการการันตีคือการันตีการซ่อม คือแค่ "รับซ่อม" และต้องเสียตังค์ (เอ๊ะ...ยังไง) สุดท้ายแล้ว ไม่อยากให้ยี่ห้อนี้ใช้คำว่าการันตีกับผู้บริโภคอ่ะค่ะ เพราะมันไม่ได้การันตีอะไรเลย เอาคำว่า "การันตี" ออกไปจากคำโฆษณาชวนให้เชื่อ เถอะค่ะ
2. ไม่เข้าใจว่าการใช้สินค้าแบรนเนมนั้น ต้องฝึกความอดทนมากกว่าปกติ... รอประมาณ 2 เดือน ส่งซ่อมที่นึง ตามไปตามมา สุดท้าย ต้องไปรับอีกที่นึง เสียค่าน้ำมันรถน่ะไม่ว่า แต่เสียเวลานี่มากกว่า ที่ร้ายที่สุดคือเสียความรู้สึก... ลองคิดดูค่ะว่า ถ้าไอโฟนเสียแล้วส่งซ่อม ต้องเจอแบบนี้...จะรู้สึกยังไง
3. พอซ่อมออกมาแล้ว ซ่อมได้ห่วยแตก... อัดกาวกับเปลี่ยนหูที่ขาดนั้น ใครๆ ก็ทำได้ แต่ที่จะให้ซ่อมคือให้ซ่อมขอบที่เหวอะหวะจากการไปเตะโดนขอบฟุตบาทต่างหาก... แต่ใช้คำว่า out of scope ตอนได้รับของนี่... มึน...พะย่ะค่ะ...
ก็มีเรื่องอยากระบายเพียงเท่านี้ค่ะ... เอารองเท้าคู่โปรดกลับมาให้พ่อแม่ที่บ้านดูแล้ว... ได้รับคอมเม้นต์แบบเดียวกัน... เลยไม่แน่ใจว่าคนที่อ่านกระทู้นี้จะคิดแบบเดียวกับหนูไหมคะ
แล้วคิดว่าหนูควรทำอย่างไรต่อคะ... ตอนนี้ พอเอารองเท้าคู่นี้มาใส่ แล้วรู้สึกเห็นถึงความหลังอันน่ารันทดค่ะ... ทางร้านเค้าบอกว่าถ้าไม่พอใจ ก็นี่เลย.. โทรไป call center ของเค้าได้... (อั่นแน่ะ...มีการโบ้ย) สคบ.เค้าจะรับเรื่องหนูไหมคะ มีใครมีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ อยากทราบความรู้สึก และแนวทางปฏิบัติเพื่อความเป็นธรรมค่ะ
คั้นจากความรู้สึก ประสบการณ์ที่เหมือนโดนหลอก จากการซื้อของแบรนเนมในห้าง
คือพอดีว่าตัวเองปกติเป็นคนใส่รองเท้าคู่นึงไม่ถึง 1000 ค่ะ แต่พอดีได้ไปซื้อรองเท้าแตะมาคู่ละ 3000 - 4000 บาท ตอนซื้อมาคนขายก็บอกว่าการันตีการซ่อม เราลองดูในใบแผ่นพับโฆษณา เค้าก็เขียนว่าการันตีค่ะ อย่างนี้น่าจะถือเป็นการซื้อที่คุ้มค่าล่ะสิ คิดอย่างนี้ก็ยอมควักตังค์ซื้อ...
ใส่เดินไปได้แค่ 6 เดือน รอยเหวอะหวะ หูขาด และสภาพแลดูไม่ดีนัก แอบผิดหวังกับสินค้าชิ้นนี้อยู่เล็กๆ แต่ก็คิดว่าคงเพราะเราใช้งานเยอะไปในช่วงนั้น เลยอาจทำให้พังเร็วกว่ารองเท้าคู่ปกติที่เคยใส่ และก็คิดว่าสินค้าแบรนเนม คงมีอายุการใช้งานได้น้อยกว่ารองเท้าคู่ละไม่ถึง 1000 ที่เราเคยใส่ประจำอยู่แน่ๆ เค้าถึงมีการันตีการซ่อมมารับรองลูกค้าอย่างนี้...
เอากลับไปซ่อมที่บูทในห้าง สิ่งที่ปรากฎขึ้นกับสายตาก็คือ...เค้าบอกว่าการันตีการซ่อมก็คือ...เค้ารับซ่อมให้...แต่หนูต้องเสียตังค์ค่าซ่อมนะ...
แอบช็อคกับคำตอบของร้านเล็กน้อย... แล้วก็ถามแบบงงๆ ว่า...ค่ะๆ แล้วค่าซ่อมเท่าไรค่ะ
ซึ่งทางร้านเค้าตอบว่า 200 บาท... โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าราคานี้ก็พอรับได้ ไหนๆ เราก็ต้องขับรถมาที่ห้างนี้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะแพงกว่าร้านซ่อมรองเท้าหน้าปากซอย และเพราะคิดว่าไหนๆ รองเท้าซื้อมาละตั้งหลายพัน ถ้าซ่อมกับศูนย์เลยน่าจะไว้ใจได้มากกว่า แถมรองเท้ารอยเหวอะเยอะด้วย ไหนๆ ซ่อมแล้วก็ซ่อมที่นี่ไปเลย
เดินออกมาจากร้านไปเจอแฟน และเล่าให้ฟังว่าร้านเค้าคิด 200 บาทค่าซ่อม... อีก 2 - 3 อาทิตย์ให้มาเอา... แต่ถ้าได้ก่อนแล้วทางร้านเค้าจะโทรไปบอก ซึ่งแฟนก็บ่นๆ ว่าไหนตอนซื้อเค้าบอกว่าการันตีไม่ใช่หรอ แล้วทำไมใช้ไป 6 เดือน ก็พังละ แถมซ่อมทีนึง ยังต้องกับต้องเอาไปส่งซ่อมถึงอเมริกา... ทำไมไม่เอาไปซ่อมที่หน้าปากซอยบ้านซะล่ะ (เออ..เนอะ... คิดเหมือนเราเลย)...
นึกว่าเรื่องจะจบ... แต่พอเวลาผ่านเลยไป 2 - 3 อาทิตย์... ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น... คือไม่มีใครโทรมาแจ้งว่าซ่อมเสร็จแล้ว หรือว่าได้ซ่อมถึงไหนแล้ว หนูกับแฟนก็ถ่อไปที่ร้านถามถึงความคืบหน้า... ซึ่งเค้าก็บอกว่ารอซ่อมอยู่...เดี๋ยวได้ๆ
และแล้วความสนุกจรรลัยก็เกิดขึ้น (ขอโทดที่ใช้คำไม่สุภาพนะคะ) เมื่อหนูกับแฟนต้องเดินไปทวงรองเท้าที่ร้านซ้ำไปซ้ำมาอีก เหมือนตามทวงหนี้... เค้าบอกว่าช่างซ่อมรองเท้าท้งประเทศมีอยู่แค่ 2 คนเอง...จะเอาอะไรมาก (แหม่...นึกว่าต้องส่งไปซ่อมที่สิงคโปร์หรืออเมริกาก็ว่าไปอย่าง กะอีแค่ปะกาวและเปลี่ยนขอบ...ทำไมมันนานกว่าส่งซ่อมไอโฟนอีกฟะ...ในใจเริ่มออกอารมณ์)
สุดท้าย เค้าบอกว่าถ้าอยากได้เร็ว ให้เราไปรับที่อีกห้างนึง ก็งงว่าส่งซ่อมร้านนี้ ทำไมต้องไปทวงที่สาขาอีกห้างนึง แต่เรารอมา 2 เดือนกว่าๆ กับการซ่อมรองเท้า (คู่โปรด ตอนซื้อ - คู่เจ้าปัญหา ตอนซ่อม) ยังไงก็ทำตามเหมือนเป็นทาสของร้านรองเท้านั้นแต่โดยดี...
และแล้วก็ถึงวันที่เข้าไปเอาของ... แม่เจ้าช่วย...
ทางร้านให้เหตุผลว่า เค้ารับซ่อมแค่ หู และ อัดกาวเท่านั้น... ขอบรองเท้านี่นอกเหนือ scope ของการซ่อม.... จบข่าว...
ฉุน...สิคะ... แต่ไม่รู้ทำยังไงดี... เหมือนเค้าแบรนด์ดังอ่ะ... จำทำยังไงกับลูกค้าก็ได้... ตอนซื้อนั้นก็ไม่เท่าไร แต่ทำไมตอนซ่อมนั้น เหมือนจะต้องไปง้อ ไปขอเค้าซ่อมยังไงก็ไม่รู้ รู้อย่างนี้ทำตามแฟนไปซ่อมหน้าปากซอย เค้าคิด 50 บาท ยืนรอ 15 นาที จบ... อัดกาว กับ หูคีบขาด เนี่ยนะ.. 2 เดือน... แม่เจ้า...
ประเด็นที่รู้สึกว่าถูกหลอกลวงคือ...
1. ตอนโฆษณา บอกว่าการันตี แต่พอใช้ไปแค่ 6 เดือน บอกว่าการการันตีคือการันตีการซ่อม คือแค่ "รับซ่อม" และต้องเสียตังค์ (เอ๊ะ...ยังไง) สุดท้ายแล้ว ไม่อยากให้ยี่ห้อนี้ใช้คำว่าการันตีกับผู้บริโภคอ่ะค่ะ เพราะมันไม่ได้การันตีอะไรเลย เอาคำว่า "การันตี" ออกไปจากคำโฆษณาชวนให้เชื่อ เถอะค่ะ
2. ไม่เข้าใจว่าการใช้สินค้าแบรนเนมนั้น ต้องฝึกความอดทนมากกว่าปกติ... รอประมาณ 2 เดือน ส่งซ่อมที่นึง ตามไปตามมา สุดท้าย ต้องไปรับอีกที่นึง เสียค่าน้ำมันรถน่ะไม่ว่า แต่เสียเวลานี่มากกว่า ที่ร้ายที่สุดคือเสียความรู้สึก... ลองคิดดูค่ะว่า ถ้าไอโฟนเสียแล้วส่งซ่อม ต้องเจอแบบนี้...จะรู้สึกยังไง
3. พอซ่อมออกมาแล้ว ซ่อมได้ห่วยแตก... อัดกาวกับเปลี่ยนหูที่ขาดนั้น ใครๆ ก็ทำได้ แต่ที่จะให้ซ่อมคือให้ซ่อมขอบที่เหวอะหวะจากการไปเตะโดนขอบฟุตบาทต่างหาก... แต่ใช้คำว่า out of scope ตอนได้รับของนี่... มึน...พะย่ะค่ะ...
ก็มีเรื่องอยากระบายเพียงเท่านี้ค่ะ... เอารองเท้าคู่โปรดกลับมาให้พ่อแม่ที่บ้านดูแล้ว... ได้รับคอมเม้นต์แบบเดียวกัน... เลยไม่แน่ใจว่าคนที่อ่านกระทู้นี้จะคิดแบบเดียวกับหนูไหมคะ
แล้วคิดว่าหนูควรทำอย่างไรต่อคะ... ตอนนี้ พอเอารองเท้าคู่นี้มาใส่ แล้วรู้สึกเห็นถึงความหลังอันน่ารันทดค่ะ... ทางร้านเค้าบอกว่าถ้าไม่พอใจ ก็นี่เลย.. โทรไป call center ของเค้าได้... (อั่นแน่ะ...มีการโบ้ย) สคบ.เค้าจะรับเรื่องหนูไหมคะ มีใครมีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ อยากทราบความรู้สึก และแนวทางปฏิบัติเพื่อความเป็นธรรมค่ะ