Big Game เมื่อเด็กหนุ่มน้อยชาวแลพแลนด์ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ ต้องเดินทางเข้าป่าล่าสัตว์เพื่อพิสูจน์สายเลือดตระกูลนักล่าของตัวเอง เขาได้พบกับประธานาธิบดีสหรัฐในป่า ซึ่งกำลังหนีการตามล่าจากกลุ่มก่อการร้ายลึกลับ เขาจึงต้องดึงความกล้าออกมาเพื่อปกป้องประธานาธิบดี
นี่เป็นหนังจากประเทศฟินแลนด์ ซึ่งถ้าเทียบด้านงบการสร้างกับหนังฮอลลีวู้ด ก็ถือว่านี่เป็นหนังทุนต่ำมาก แต่ก็ถือว่ามีไอเดียดีเกี่ยวกับการนำเสนอเรื่องราวของการเติบโตของเด็กผู้ชายที่ต้องค้นหาความกล้าหาญในตัวเอง เรื่องราวพิธีกรรมของการส่งเด็กเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ในยุคสมัยนี้ ก็ดูแปลกใหม่
แต่ว่าหนังก็มีจุดอ่อนตรงที่ว่า มันพยายามจะอัพตัวเองให้เป็นหนังแอคชั่นเต็มรูปแบบมากไป ด้วยการใส่ฉากระเบิดตูมตามหรือฉากยิงปืนมากมายเข้ามา และเล่นมุมกล้องให้ดูเหมือนว่าตัวเองเป็นหนังทุนสูง แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว มันก็ยังคงเป็นหนังทุนต่ำอยู่ดี ฉากแอคชั่นอะไรที่ใส่มาส่วนใหญ่ดูยืดยาดและไม่ได้ดูน่าตื่นตาตื่นใจอะไร ส่วนความตื่นเต้นก็ยังไม่ค่อยมีเท่าไร เพราะว่าตัวผู้ร้ายในเรื่องนั้น ดูไม่ค่อยร้าย หรือโหดเหี้ยมเท่าไรเลย ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าถ้าผู้ร้ายเก่งมากๆ หรือโหดมากๆ พระเอกของเราที่เป็นเด็ก 13 ขวบ คงจะไปสู้อะไรด้วยไม่ได้ หนังก็เลยต้องลดดีกรีคามร้ายกาจของเหล่าร้ายให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่เราพอจะเชื่อได้ว่า เด็กพอจะรับมือได้
จริงๆแล้ว ถ้าผู้ร้ายไม่ได้ร้ายกาจอะไรมาก หนังน่าจะใส่ความร้ายกาจไปที่ธรรมชาติของภูเขาแทน ให้ธรรมชาติดูมีความโหดเหี้ยม เป็นศัตรูที่แท้จริงไปแทน ซึ่งน่าจะทำให้เราเห็นว่าเด็กในเรื่องกลายเป็นฝ่ายคุมเกมขึ้นมาแทน เพราะเขาเชี่ยวชาญพื้นที่และมีความสามารถในการเอาชีวิตรอดในภูเขาสูงได้ดีกว่า แต่ว่าธรรมชาติในเรื่องก็ดูไม่ได้โหดร้ายอะไรตรงไหน ทั้งๆที่หนังน่าจะถ่ายทอดตรงนี้ออกมาบ้าง กลายเป็นว่าถ่ายทอดแค่ทิวทัศน์ที่สวยงามเฉยๆ เหมือนเน้นโฆษณาการท่องเที่ยวฟินแลนด์ไปซะงั้น
การแสดงถือว่าอยู่ในขั้นดี ตัวนักแสดงเด็กชาวฟินแลนด์ แม้จะตัวเล็ก แต่ก็ถ่ายทอดความกล้าหาญ ความแน่วแน่ ออกมาทางสายตาได้ยอดเยี่ยม ส่วนแซมเมียล แอล แจ็คสัน ก็ดูเป็นประธานาธิบดีที่สบายๆ กวนๆ มีอารมณ์ขัน ตามสไตล์แก การแสดงของสองคนนี้ก็เข้าคู่กันได้ดี ถ้าหากว่าหนังหันมาโฟกัสเรื่องราวที่ตัวเด็กให้มากขึ้น เกี่ยวกับความขัดแย้งในจิตใจของเด็กที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับประธานาธิบดีรวมถึงเล่นมุขเรื่องความแตกต่างของวัฒนธรรมให้มากขึ้นกว่านี้ น่าจะสนุกกว่านี้
2 ดาวครึ่ง
ติดตามชมข่าวสารหนังใหม่ และพูดคุยเรื่องหนังกันได้ที่ facebook fan page สารวัตรโรงหนัง ตามลิงค์ข้างล่างนี้ได้นะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ
สารวัตรโรงหนังไปดูมาแล้ว "Big Game" เล่นเกมกับเด็ก ก็ต่อให้หน่อยละกัน
นี่เป็นหนังจากประเทศฟินแลนด์ ซึ่งถ้าเทียบด้านงบการสร้างกับหนังฮอลลีวู้ด ก็ถือว่านี่เป็นหนังทุนต่ำมาก แต่ก็ถือว่ามีไอเดียดีเกี่ยวกับการนำเสนอเรื่องราวของการเติบโตของเด็กผู้ชายที่ต้องค้นหาความกล้าหาญในตัวเอง เรื่องราวพิธีกรรมของการส่งเด็กเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ในยุคสมัยนี้ ก็ดูแปลกใหม่
แต่ว่าหนังก็มีจุดอ่อนตรงที่ว่า มันพยายามจะอัพตัวเองให้เป็นหนังแอคชั่นเต็มรูปแบบมากไป ด้วยการใส่ฉากระเบิดตูมตามหรือฉากยิงปืนมากมายเข้ามา และเล่นมุมกล้องให้ดูเหมือนว่าตัวเองเป็นหนังทุนสูง แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว มันก็ยังคงเป็นหนังทุนต่ำอยู่ดี ฉากแอคชั่นอะไรที่ใส่มาส่วนใหญ่ดูยืดยาดและไม่ได้ดูน่าตื่นตาตื่นใจอะไร ส่วนความตื่นเต้นก็ยังไม่ค่อยมีเท่าไร เพราะว่าตัวผู้ร้ายในเรื่องนั้น ดูไม่ค่อยร้าย หรือโหดเหี้ยมเท่าไรเลย ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าถ้าผู้ร้ายเก่งมากๆ หรือโหดมากๆ พระเอกของเราที่เป็นเด็ก 13 ขวบ คงจะไปสู้อะไรด้วยไม่ได้ หนังก็เลยต้องลดดีกรีคามร้ายกาจของเหล่าร้ายให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่เราพอจะเชื่อได้ว่า เด็กพอจะรับมือได้
จริงๆแล้ว ถ้าผู้ร้ายไม่ได้ร้ายกาจอะไรมาก หนังน่าจะใส่ความร้ายกาจไปที่ธรรมชาติของภูเขาแทน ให้ธรรมชาติดูมีความโหดเหี้ยม เป็นศัตรูที่แท้จริงไปแทน ซึ่งน่าจะทำให้เราเห็นว่าเด็กในเรื่องกลายเป็นฝ่ายคุมเกมขึ้นมาแทน เพราะเขาเชี่ยวชาญพื้นที่และมีความสามารถในการเอาชีวิตรอดในภูเขาสูงได้ดีกว่า แต่ว่าธรรมชาติในเรื่องก็ดูไม่ได้โหดร้ายอะไรตรงไหน ทั้งๆที่หนังน่าจะถ่ายทอดตรงนี้ออกมาบ้าง กลายเป็นว่าถ่ายทอดแค่ทิวทัศน์ที่สวยงามเฉยๆ เหมือนเน้นโฆษณาการท่องเที่ยวฟินแลนด์ไปซะงั้น
การแสดงถือว่าอยู่ในขั้นดี ตัวนักแสดงเด็กชาวฟินแลนด์ แม้จะตัวเล็ก แต่ก็ถ่ายทอดความกล้าหาญ ความแน่วแน่ ออกมาทางสายตาได้ยอดเยี่ยม ส่วนแซมเมียล แอล แจ็คสัน ก็ดูเป็นประธานาธิบดีที่สบายๆ กวนๆ มีอารมณ์ขัน ตามสไตล์แก การแสดงของสองคนนี้ก็เข้าคู่กันได้ดี ถ้าหากว่าหนังหันมาโฟกัสเรื่องราวที่ตัวเด็กให้มากขึ้น เกี่ยวกับความขัดแย้งในจิตใจของเด็กที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับประธานาธิบดีรวมถึงเล่นมุขเรื่องความแตกต่างของวัฒนธรรมให้มากขึ้นกว่านี้ น่าจะสนุกกว่านี้
2 ดาวครึ่ง
ติดตามชมข่าวสารหนังใหม่ และพูดคุยเรื่องหนังกันได้ที่ facebook fan page สารวัตรโรงหนัง ตามลิงค์ข้างล่างนี้ได้นะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ