ความเชื่อที่ผิดๆ ที่ฝังหัวมานานแสนนาน ที่ว่า นักการเมืองเลว ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่จึงยอม
ให้นักการเมืองดีดี ถูกทำลายไปด้วยวาทกรรมที่ว่า "นักการเมืองเลว โกง ทุจริตเหมือนกันทุกคน
ดังนั้น เมื่อนักการเมืองถูกทำลายไป ประชาชนส่วนใหญ่จึง ไม่รู้สึกสูญเสียสิ่งมีคุณค่ามากมายนัก แม้แต่
อาจารย์ ปรีดี พนมยงค์ อาจารย์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ ประชาชน ไม่รู้สึกหวงแหนบุคคลทรงคุณค่าเหล่านั้น
เพราะความเคยชิน ที่ถูกกรอกหูอยู่ทุกวัน จากนักสร้างวาทกรรม ที่วันๆไม่ทำอะไรนอกจาก นั่งวิพากษณ์
วิจารณ์ นั่งอิจฉาริษยา ใส่ร้ายป้ายสี นี่แหละ คนไทย !
แต่วาทกรรมนั้น จะใช้ไม่ได้ เมื่อมาถึงยุคของ ทักษิณ ชินวัตร และตอกย้ำเข้าไปอีกในยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ประชาชนเริ่มมีความรู้สึกหวงแหน และสูญเสีย ถ้าบุคคลสองคนนี้ ถูกทำลาย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ประชาชน
ได้เรียนร็ ได้สัมผัส จับต้องได้ และมีความรู้สึกผูกพันธ์และได้ประโยชน์จากนโยบายต่างๆของนักการเมือง
ประชาชนใกล้ชิดเห็นผิดเห็นถูก รู้ถึงสิ่งที่ถูกสิ่งที่ผิด ประชาชนได้รับประโยชน์ ได้ความรักความห่วงใย
จากใจจริงของบุคคลทั้งสอง และเมื่อคนที่เขารักถูกทำลาย พวกเขาจึงไม่ยอม นั่นคือวิวัฒนาการ ที่ประชาชนเริ่ม
เรียนรู้ว่า ฉันเชื่อสิ่งที่คนบางกลุ่มปลูกฝัง และสั่งสอนให้ฉันเชื่อมานานแสนนาน ว่านักการเมืองเชื่อถือไม่ได้
พวกมันคือคนเลว เข้ามาตักตวงหาผลประโยชน์ เข้ามาเล่นการเมือง แล้วก็เข้ามาโกงชาติ วันนี้ความเชื่อเช่นนั้น
หมดสิ้นกันเสียที เมื่อรู้จะจักผู้หญิงชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ยิ่งลักษณ์ ชิยวัตร ได้พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า นักการเมืองไม่ได้เลวไปหมดทุกคน คนที่ดีดี คนมีความสามารถ
และสามารถท่ายทอดความรักความห่วงใยความหวังดี สู่ประชาชน อย่างไม่ย่อท้อ ตลอดเวลานับสิบปีที่ผ่านมา
ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า นักการเมืองที่เสียสละและทำประโยชน์ให้ประชาชนมีจริง
แต่ขณะที่ฝ่ายคนดีขี้อิจฉา คนที่สั่งสอนให้ประชาชนเกลียดกลัวนักการเมืองก็ไม่ลดละความพยายามที่จะสอนสั่ง
และชี้ให้เห็นว่ามันเลว มันชั่ว แม้กระทั่ง สิ่งที่เขาไม่ได้ทำ ก็พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหา อย่างกรณี นายก ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร เป็นต้น นับเนื่องต่อนี้ไป อย่ากระพริบตา ใครจะอยู่ใครจะไป ประชาชนจะเชื่อใครสุดท้าย ประชาชนจะ
เป็นคนตัดสิน ว่า ระหว่างสงครามชวนเชื่อ สงครามใส่ร้ายป้ายสี กับความจริงความดี ที่มอบให้ประชาชนด้วยความ
จริงใจนั้น ประชาชนจะเชื่อใคร สุดท้ายประเทศนี้จะเดินไปทางไหน ทุกอย่างจะเป็นอย่างไรคนตัดสินใจคือประชาชน ?
นักการเมืองเลว โกง ทุจริต ขายชาติ วาทกรรมผิดผิดที่สอนให้ประชาชนเกลียดกลัวการเมือง
ให้นักการเมืองดีดี ถูกทำลายไปด้วยวาทกรรมที่ว่า "นักการเมืองเลว โกง ทุจริตเหมือนกันทุกคน
ดังนั้น เมื่อนักการเมืองถูกทำลายไป ประชาชนส่วนใหญ่จึง ไม่รู้สึกสูญเสียสิ่งมีคุณค่ามากมายนัก แม้แต่
อาจารย์ ปรีดี พนมยงค์ อาจารย์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ ประชาชน ไม่รู้สึกหวงแหนบุคคลทรงคุณค่าเหล่านั้น
เพราะความเคยชิน ที่ถูกกรอกหูอยู่ทุกวัน จากนักสร้างวาทกรรม ที่วันๆไม่ทำอะไรนอกจาก นั่งวิพากษณ์
วิจารณ์ นั่งอิจฉาริษยา ใส่ร้ายป้ายสี นี่แหละ คนไทย !
แต่วาทกรรมนั้น จะใช้ไม่ได้ เมื่อมาถึงยุคของ ทักษิณ ชินวัตร และตอกย้ำเข้าไปอีกในยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ประชาชนเริ่มมีความรู้สึกหวงแหน และสูญเสีย ถ้าบุคคลสองคนนี้ ถูกทำลาย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ประชาชน
ได้เรียนร็ ได้สัมผัส จับต้องได้ และมีความรู้สึกผูกพันธ์และได้ประโยชน์จากนโยบายต่างๆของนักการเมือง
ประชาชนใกล้ชิดเห็นผิดเห็นถูก รู้ถึงสิ่งที่ถูกสิ่งที่ผิด ประชาชนได้รับประโยชน์ ได้ความรักความห่วงใย
จากใจจริงของบุคคลทั้งสอง และเมื่อคนที่เขารักถูกทำลาย พวกเขาจึงไม่ยอม นั่นคือวิวัฒนาการ ที่ประชาชนเริ่ม
เรียนรู้ว่า ฉันเชื่อสิ่งที่คนบางกลุ่มปลูกฝัง และสั่งสอนให้ฉันเชื่อมานานแสนนาน ว่านักการเมืองเชื่อถือไม่ได้
พวกมันคือคนเลว เข้ามาตักตวงหาผลประโยชน์ เข้ามาเล่นการเมือง แล้วก็เข้ามาโกงชาติ วันนี้ความเชื่อเช่นนั้น
หมดสิ้นกันเสียที เมื่อรู้จะจักผู้หญิงชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ยิ่งลักษณ์ ชิยวัตร ได้พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า นักการเมืองไม่ได้เลวไปหมดทุกคน คนที่ดีดี คนมีความสามารถ
และสามารถท่ายทอดความรักความห่วงใยความหวังดี สู่ประชาชน อย่างไม่ย่อท้อ ตลอดเวลานับสิบปีที่ผ่านมา
ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า นักการเมืองที่เสียสละและทำประโยชน์ให้ประชาชนมีจริง
แต่ขณะที่ฝ่ายคนดีขี้อิจฉา คนที่สั่งสอนให้ประชาชนเกลียดกลัวนักการเมืองก็ไม่ลดละความพยายามที่จะสอนสั่ง
และชี้ให้เห็นว่ามันเลว มันชั่ว แม้กระทั่ง สิ่งที่เขาไม่ได้ทำ ก็พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหา อย่างกรณี นายก ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร เป็นต้น นับเนื่องต่อนี้ไป อย่ากระพริบตา ใครจะอยู่ใครจะไป ประชาชนจะเชื่อใครสุดท้าย ประชาชนจะ
เป็นคนตัดสิน ว่า ระหว่างสงครามชวนเชื่อ สงครามใส่ร้ายป้ายสี กับความจริงความดี ที่มอบให้ประชาชนด้วยความ
จริงใจนั้น ประชาชนจะเชื่อใคร สุดท้ายประเทศนี้จะเดินไปทางไหน ทุกอย่างจะเป็นอย่างไรคนตัดสินใจคือประชาชน ?