สวัสดีครับ ท่านสมาชิกทุกคน..
ผมชื่อว่า ไจแอ๊นท์ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แอ๊นท์ก็ได้ครับ ผมก็เป็นหนึ่งคนนะครับ ที่ถ้ามีเวลาว่างก็จะไปเที่ยวพักผ่อนเรื่อย ๆ ไปในที่ ๆ อยากไป ซึ่งคราวนี้ก็เป็นวันและเวลาที่ดี ที่เหล่าเพื่อน ๆ ว่างตรงกันก็เลยจัดทริปไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอีก ตามแบบฉบับเที่ยวของพวกผม...โดยรวบนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนมหาวิทยาลัยกันหมด (มจพ.) เลยใช้ชื่อรุ่นตัวเองเป็นทริปซะเลย TTE-39
โดยทริปนี้ผมจะเป็นคนรีวิวทั้งหมด จะใช้ภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือทั้งหมด (iPhone 5 , 6+) ก็ขอ Tag ไปห้องภาพถ่ายจากมือถือด้วย ภาพอาจจะสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง บางภาพอาจจะแต่งด้วย APP รวมทั้งข้อมูลถ้าหากมีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะครับ ....
:::: 39's Traveler ::::
:: เริ่มกันเลยนะเกี่ยวกับรายละเอียดการเตรียมตัวว่าผมเตรียมอะไรก่อนไปบ้าง ::
1. Passport (แน่นอนไปต่างประเทศทุกคนต้องมีญ
2. ตั๋วเครื่องบิน ซึ่งคราวนี้ผมใช้บริการพี่หางแดงแบบบินตรง AirAsiaX ราคาถือว่าไม่แพง
3. ตั๋วเครื่องบินในประเทศถ้ามีแพลนนะครับ Kansai to Sapporo ตกคนละ 1,500 บาทไปและกลับเจอมาจาก Ar-pae
4. วางแผนการเดินทาง
5. บัตรโดยสารรถไฟ รถบัส ผมเลือกใช้ Kansai Thu Pass ราคา 1,470 บาท แบบ 3 Days ซื้อจาก H.I.S อโศก
6. บัตรเข้าสวนสนุก Universal Studio Japan (USJ) ราคา 2,070 บาท (ราคาตามค่าเงิน ณ เวลานั้น)
7. Pocket Money
8. ที่พักในญี่ปุ่นครับผมเลือกเป็นแบบบ้านพัก หาจาก Airbnb.com ราคารวมทั้งหมดประมาณ 23,000 บาท รวมค่าเซอร์วิส ค่าทำความสะอาดทั้งหมดแล้ว
9. กระเป๋าเดินทาง พร้อมใจหนึ่งดวงครับบบบ ^^
โดยพวกเราเดินทางวันที่ 14 - 21 Apr'15
พูดอะไรไม่รู้ไม่เยอะแล้วมาเริ่มกันเลยนะครับ... โดยขอเปิดทริปด้วยภาพนี้นะครับ
มาต่อกันเลย ... เริ่มที่วันแรกของการเดินทาง 14 Apr'15 โดยหางแดงเซ็กซี่ AirAsiaX Flight นี้เดินทาง 15:20 PM. ถึง KIX Airport 22:50 PM.
:: รูปซ้ายบนเป็นอาหารก่อนขึ้นเครื่องที่สนามบิน คะน้าหมูกรอบ 95 บาท ::
:: รูปขวาบนเป็นอาหารบนเครื่อง ข้าวไก่เทอริยากิ พร้อมชาเขียว 1 ขวด ราคา 220 บาท เขาบอกว่าแนะนำ ...เอิ่ม นี่แนะนำ 555+
คนไทยเกือบทั้งลำเลยก็ว่าได้กว่าจะรอโหลดกระเป๋าตรวจคนเข้าเมืองก็เสร็จราว ๆ ห้าทุ่มกว่าแล้ว ...
...จริงแผนเดิมของเราก็จะเที่ยวแค่ Kansai อย่างเดียวแต่ด้วยทริปนี้มีเพื่อนเลื่อนวันมาจาก 14 มาเป็น 15 ก็เลยไม่ได้เที่ยวพร้อมกัน ก็เลยตัดสินใจรอเพื่อนมาวันที่ 15 แล้วค่อยเริ่มเที่ยวพร้อมกัน ... แต่ดันมีเพื่อนคนนึ่งไปเจอโปรโมชั่นบินในประเทศของ Peach Air ในราคาที่น่าสนใจ ตกคนละ 1,500 บาทไปกลับ เพื่อเป็นการค่าเวลาที่ต้องรอเพื่อนก็จัดการจองและซื้อตั๋วซะเลยเกิดเป็นทริป Hokkaido 1 Day...
ปล.ส่วนเรื่องกระเป๋าสัมภาระผมฝากไว้ที่ตู้รับฝากราคา 600 Yen ต่อวันครับอยู่ใต้บันไดชั้น 2
:::: Hokkaido 1 Day (15-APR'15) ::::
ที่นี่ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่ เน้นเอาบรรยากาศ แต่ฝนตกทั้งวัน เน้นเดินเที่ยวที่ตัวเมือง ถนนคนเดิน แวะกินปลาดิบ กับไปจบด้วย Otaru ครับ
เครื่องบินออกเวลา 07:20 ถึง ประมาณ 09:20 และกลับรอบ 17:30 ถึงที่ KIX ประมาณ 19:10 โดยที่นี่ก็ไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องเส้นทางมาดีเท่าไหร่ แต่ก็ไปเที่ยวได้ตามที่วางไว้ มาเริ่มกันเลยละกัน
เครื่องก็เหมือน AirAsia ที่บินในประเทศเหมือนกับเราเลยนั่นไงสีม่วงจอดรออยู่ ต้องนั่งรถจาก Terminal 1 มา Terminal 2 จะมีบริการฟรีอยู่ครับ รู้สึกที่ที่นี่จะบินภายในประเทศคนญี่ปุ่นใช้บริการกันเยอะมีหลายเส้นทางในประเทศ ลองหาข้อมูลกันดูนะ เผื่อใครมีแพลนเที่ยวต่างจังหวัดครับ
ขอลงเป็นภาพนะครับ รายละเอียด 1 วันเที่ยวแบบรีบ ๆ เอาบรรยากาศหนาว ๆ มาฝากครับ
...เริ่มด้วยเดินเที่ยวในตัวเมืองกันเลย ...ไปหอนาฬิกาโบราณ 1 ในแลนมาร์คของที่เหมือนกันเสียค่าเข้า 300 Yen
...เดินเล่นไปเรื่อย ๆ
เห็นสวยดีเลยถ่ายมา ^^
...TV Tower จุดนี้ก็เป็นแลนมาร์คครับ
...หลังจากเดินเที่ยวพอได้บรรยากาศก็มาเดินเล่นที่ถนนคนเดินที่นี่เค้าเรียกว่า Tanujikoki เดินตรงขึ้นมาจากสถานีรถไฟ จะมีป้ายบอกเป็นระยะ ๆ
มาที่นี่ก็ต้องหาของสด ๆ กิน ราคา 3,000 กับ 2,800 Yen ...อร่อยมาก ๆ
...ก็มีคนไทยมาร้านนี้ก็ได้เขียนเอาไว้แบบนี้ ^^
หลังจากอิ่มแอมจากมื้อกลางวัน และก็บรรยากาศที่นี่พอสมควรก็เดินทางต่อกลับไปสถานีรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไป Otaru ที่เที่ยวสุดท้ายก่อนบินครับ ....การเดินทางไป Otaru ใช้เวลาพอสมควร ค่ารถไฟประมาณพันกว่าเยน จำไม่ได้ ....ตลอดสองเส้นทางยังมีหิมะกองให้เห็นมากมาย เนื่องจากฝนตก ถ้าไม่ตกคงจะได้วิวเชาที่มีหิมะปกคลุมไม่มากก็น้อย ..พร้อมกับวิวทะเลที่สวยพอสมควรครับ..
ระหว่างทางไป Otaru ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วเศษได้
พอมาถึงสถานีรถไฟก็ต้องเดินลงไป ระยะทางไกลพอสมควร อีกอย่างฝนตกตลอดทาง พร้อมกับอากาศหนาว ๆ กับลมฝน บรึ๋ยยยหนาววววว
บรรยากาศที่นี่ก็สวยงามดี ถ้าใครมาตอนหิมะตกที่นี่จะสวยมากครับ ผมไปดูรูปจากในเน๊ต สวยมากสองข้างทางนี้ตอนหิมะตก
เป็นภาพตอนหิมะตก สวยใช่ไหมละครับ คราวหน้าไปช่วงนี้จะมารีวิวให้ดูนะครับ
ขอจบ Hokkaido 1 Day ไว้แค่นี้นะครับ เพราะว่าใช้เวลาอยู่ที่นี่ก็ประมาณ 5 ชั่วโมงได้ก้ต้องบินกลับ Osaka
.................................................................................................................
ส่วนเรื่องที่พักผมจองอพารทเม้นไว้แถว Juso station ผ่าน Airbnb.com ส่วนรายละเอียดจะสรุปตอนสุดท้ายครับ
:::: Kansai (16-APR'15) ::::
โดยวันนี้ผมจะอยู่ Universal Studio Japan (USJ) ทั้งวัน .... ส่วนสวนสนุกของที่ก็คล้ายของสิงคโปร์ (USS) แต่มี THEME ที่น่าเล่นเยอะกว่า ส่วนพวก 4D ก็มีเยอะกว่า แต่จะไม่มี Transformer ของเล่นที่นี่ผมให้สนุกกว่าสิงคโปร์ ไงลองมาดูรูปกันนะ ^^
คนเยอะพอสมควรสมควรครับ คนเยอะแบบนี้ผมเลยต้องซื้อบัตร Express หรือบัตรเบ่งนั่นเองเพื่อที่จะได้เข้าไปดูในส่วนของ Harry Potter
หรือถ้าใครไม่อยากซื้อต้องไปแต่เช้านะครับ เพื่อไปกดบัตรคิวเข้าปราสาทของ Harry Potter บางคนอาจได้เข้า หรือไม่ได้เข้าเพราะจะมีปล่อยเข้าไปเป็นรอบเวลาเฉพาะแฮรี่...
ภาพบน เป็นบัตรเข้า USJ สามารถซื้อได้ที่หน้าทางเข้าเลย แต่คิวมหาศาล
ภาพล่าง เป็นบัตร Express 5 ณ ตอนนั้น Express 7 ถูกขายหมดแล้วสามารถซื้อได้ด้านในครับ
ปล.แนะนำให้ซื้อบัตรจากตัวแทนในประเทศไทยไปเลยนะครับ เพราะคิวจะเยอะ ส่วนบัตรเบ่งก็มีในไทยขายเช่นกันค่าบริการบวกเพิ่ม 200 บาท
ขอเปิดเที่ยว USJ ด้วยภาพนี้เป็นความชอบส่วนตัวด้วย ๕๕๕+
::: จากนี่ก็ตระเวณเดินเล่น กิน ไปเรื่อย ๆ :::
Spider man ใช้บัตรเบ่งได้เร็วมาก
Jurassic Park จะแตกต่างจากสิงคโปร์ครับ เสียวกว่า..ดูจากรูปเอานะ
บอกแล้วว่าเสียว..
หิวครับ ....เลยซื้อน่องไดโนเสาร์มาทานกัน ราคา 550 Yen
Water world โชว์นี้เหมือนที่สิงคโปร์ โชว์ที่นี่จะใช้ภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด
รถไฟเหาะ เป็นอะไรที่สนุกมาก แนะนำห้ามพลาดอีกอันเลย ใช้บัตรเบ่งได้ เครื่องเล่นทำเพื่อนผมตัวแข็งไปเลย ""
Wonder land เข้ามาที่นี่อยากย้อนวัยว์ตัวเองไปเป็นเด็กเลย
ขอข้ามมาส่วนของ Harry เลยนะครับ
ระหว่างทางเดินเข้าจะเจอรถของรอน จอดพังอยู่ตรงนี้ แวะถ่ายเสียหน่อย
ผมได้รอบ 17:00 น. คนเยอะมาก
ตรอกไดอาก้อน สวยมากกับบรรยากาศเย็น ๆ
[CR] รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืนเที่ยวเอง เดินเองหาเองไม่ยากอย่างที่คิด (Hokkaido 1 Day - Kansai 5 Days) ... 39's Traveler
ผมชื่อว่า ไจแอ๊นท์ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แอ๊นท์ก็ได้ครับ ผมก็เป็นหนึ่งคนนะครับ ที่ถ้ามีเวลาว่างก็จะไปเที่ยวพักผ่อนเรื่อย ๆ ไปในที่ ๆ อยากไป ซึ่งคราวนี้ก็เป็นวันและเวลาที่ดี ที่เหล่าเพื่อน ๆ ว่างตรงกันก็เลยจัดทริปไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอีก ตามแบบฉบับเที่ยวของพวกผม...โดยรวบนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนมหาวิทยาลัยกันหมด (มจพ.) เลยใช้ชื่อรุ่นตัวเองเป็นทริปซะเลย TTE-39
โดยทริปนี้ผมจะเป็นคนรีวิวทั้งหมด จะใช้ภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือทั้งหมด (iPhone 5 , 6+) ก็ขอ Tag ไปห้องภาพถ่ายจากมือถือด้วย ภาพอาจจะสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง บางภาพอาจจะแต่งด้วย APP รวมทั้งข้อมูลถ้าหากมีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะครับ ....
:: เริ่มกันเลยนะเกี่ยวกับรายละเอียดการเตรียมตัวว่าผมเตรียมอะไรก่อนไปบ้าง ::
1. Passport (แน่นอนไปต่างประเทศทุกคนต้องมีญ
2. ตั๋วเครื่องบิน ซึ่งคราวนี้ผมใช้บริการพี่หางแดงแบบบินตรง AirAsiaX ราคาถือว่าไม่แพง
3. ตั๋วเครื่องบินในประเทศถ้ามีแพลนนะครับ Kansai to Sapporo ตกคนละ 1,500 บาทไปและกลับเจอมาจาก Ar-pae
4. วางแผนการเดินทาง
5. บัตรโดยสารรถไฟ รถบัส ผมเลือกใช้ Kansai Thu Pass ราคา 1,470 บาท แบบ 3 Days ซื้อจาก H.I.S อโศก
6. บัตรเข้าสวนสนุก Universal Studio Japan (USJ) ราคา 2,070 บาท (ราคาตามค่าเงิน ณ เวลานั้น)
7. Pocket Money
8. ที่พักในญี่ปุ่นครับผมเลือกเป็นแบบบ้านพัก หาจาก Airbnb.com ราคารวมทั้งหมดประมาณ 23,000 บาท รวมค่าเซอร์วิส ค่าทำความสะอาดทั้งหมดแล้ว
9. กระเป๋าเดินทาง พร้อมใจหนึ่งดวงครับบบบ ^^
พูดอะไรไม่รู้ไม่เยอะแล้วมาเริ่มกันเลยนะครับ... โดยขอเปิดทริปด้วยภาพนี้นะครับ
มาต่อกันเลย ... เริ่มที่วันแรกของการเดินทาง 14 Apr'15 โดยหางแดงเซ็กซี่ AirAsiaX Flight นี้เดินทาง 15:20 PM. ถึง KIX Airport 22:50 PM.
:: รูปซ้ายบนเป็นอาหารก่อนขึ้นเครื่องที่สนามบิน คะน้าหมูกรอบ 95 บาท ::
:: รูปขวาบนเป็นอาหารบนเครื่อง ข้าวไก่เทอริยากิ พร้อมชาเขียว 1 ขวด ราคา 220 บาท เขาบอกว่าแนะนำ ...เอิ่ม นี่แนะนำ 555+
คนไทยเกือบทั้งลำเลยก็ว่าได้กว่าจะรอโหลดกระเป๋าตรวจคนเข้าเมืองก็เสร็จราว ๆ ห้าทุ่มกว่าแล้ว ...
...จริงแผนเดิมของเราก็จะเที่ยวแค่ Kansai อย่างเดียวแต่ด้วยทริปนี้มีเพื่อนเลื่อนวันมาจาก 14 มาเป็น 15 ก็เลยไม่ได้เที่ยวพร้อมกัน ก็เลยตัดสินใจรอเพื่อนมาวันที่ 15 แล้วค่อยเริ่มเที่ยวพร้อมกัน ... แต่ดันมีเพื่อนคนนึ่งไปเจอโปรโมชั่นบินในประเทศของ Peach Air ในราคาที่น่าสนใจ ตกคนละ 1,500 บาทไปกลับ เพื่อเป็นการค่าเวลาที่ต้องรอเพื่อนก็จัดการจองและซื้อตั๋วซะเลยเกิดเป็นทริป Hokkaido 1 Day...
ที่นี่ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่ เน้นเอาบรรยากาศ แต่ฝนตกทั้งวัน เน้นเดินเที่ยวที่ตัวเมือง ถนนคนเดิน แวะกินปลาดิบ กับไปจบด้วย Otaru ครับ
เครื่องบินออกเวลา 07:20 ถึง ประมาณ 09:20 และกลับรอบ 17:30 ถึงที่ KIX ประมาณ 19:10 โดยที่นี่ก็ไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องเส้นทางมาดีเท่าไหร่ แต่ก็ไปเที่ยวได้ตามที่วางไว้ มาเริ่มกันเลยละกัน
...เริ่มด้วยเดินเที่ยวในตัวเมืองกันเลย ...ไปหอนาฬิกาโบราณ 1 ในแลนมาร์คของที่เหมือนกันเสียค่าเข้า 300 Yen
...เดินเล่นไปเรื่อย ๆ
...ก็มีคนไทยมาร้านนี้ก็ได้เขียนเอาไว้แบบนี้ ^^
หลังจากอิ่มแอมจากมื้อกลางวัน และก็บรรยากาศที่นี่พอสมควรก็เดินทางต่อกลับไปสถานีรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไป Otaru ที่เที่ยวสุดท้ายก่อนบินครับ ....การเดินทางไป Otaru ใช้เวลาพอสมควร ค่ารถไฟประมาณพันกว่าเยน จำไม่ได้ ....ตลอดสองเส้นทางยังมีหิมะกองให้เห็นมากมาย เนื่องจากฝนตก ถ้าไม่ตกคงจะได้วิวเชาที่มีหิมะปกคลุมไม่มากก็น้อย ..พร้อมกับวิวทะเลที่สวยพอสมควรครับ..
โดยวันนี้ผมจะอยู่ Universal Studio Japan (USJ) ทั้งวัน .... ส่วนสวนสนุกของที่ก็คล้ายของสิงคโปร์ (USS) แต่มี THEME ที่น่าเล่นเยอะกว่า ส่วนพวก 4D ก็มีเยอะกว่า แต่จะไม่มี Transformer ของเล่นที่นี่ผมให้สนุกกว่าสิงคโปร์ ไงลองมาดูรูปกันนะ ^^
หรือถ้าใครไม่อยากซื้อต้องไปแต่เช้านะครับ เพื่อไปกดบัตรคิวเข้าปราสาทของ Harry Potter บางคนอาจได้เข้า หรือไม่ได้เข้าเพราะจะมีปล่อยเข้าไปเป็นรอบเวลาเฉพาะแฮรี่...
ภาพล่าง เป็นบัตร Express 5 ณ ตอนนั้น Express 7 ถูกขายหมดแล้วสามารถซื้อได้ด้านในครับ
ปล.แนะนำให้ซื้อบัตรจากตัวแทนในประเทศไทยไปเลยนะครับ เพราะคิวจะเยอะ ส่วนบัตรเบ่งก็มีในไทยขายเช่นกันค่าบริการบวกเพิ่ม 200 บาท