สวัสดีค่ะ ขออกตัวก่อนว่านี่เป็นกระทู้แรกที่รีวิวอย่างจริงจังเพื่อเป็นข้อมูลให้กับใครที่ต้องการเที่ยวตุรกีด้วยตนเองสืบเนื่องจากโปร Qatar Airway ไปกลับ BKK-Sabiha Gokcen Istanbul(สนามบินฝั่งเอเซีย) ที่ปล่อยมาในราคา 25,130 บาท แบบ Full service โหลดกระเป๋าได้ 30 Kg แถมบินช่วงสงกรานต์ทริปนี้จึงเกิดขึ้น เราเดินทางด้วยกันทั้งหมด 4 คน แนะนำว่าถ้าใครมีบัตรเครดิต KTC สามารถจองผ่าน KTC Travel service(www.ktc.co.th) ได้นะคะพนักงานให้ความช่วยเหลือดีมากแถมจองที่นั่งให้เสร็จเรียบร้อย ราคาดีกว่าจองตาม Expedia, Cheapticket หรืออื่นๆอีกเล็กน้อยค่ะ แถมเวลามีปัญหายังโทรติดต่อง่ายไม่ต้องรอสายนานๆด้วยค่ะ  ปล.เราไม่ได้เป็นคนของ KTC แต่อย่างใดนะ แต่เราเคยใช้บริการ 2-3 ครั้งแล้วประทับใจทุกครั้งเลยอยากแนะนำลืมบอกไปเราเดินทางวันที่ 9-17 เมษา 2015 หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินมาเป็นที่เรียบร้อยจากนี้ก็เริ่มหาข้อมูลและทำแพลนเดินทางตามนี้
9 Apr: BKK-Istanbul Sabiha Gokcen Airport
21.30: Istanbul Sabiha Gokcen to Izmir by Turkish airline(นอน Izmir 1 คืน)
10 Apr: Izmi to Selsuck(Ephesus)
16.30: Selsuck to Pamukkale
11 Apr: Pamukkale all day
20.00: Pamukkale to Goreme, Cappadocia
12 Apr: Green tour
13 Apr: Red Tour
14 Apr: Balloon tour
11.55: Kayseri to Istanbul Ataturk(ฝั่งยุโรป) by Turkish airline
15 Apr: Istanbul(Blue mosque, Hagia Sophia, Topkapi, Basilica Cistern ล่องเรือช่องแคบ Bosphorus)
ๅ16 Apr: Bigbus tour(blue ad red route), Ortakoy Mosque, Galata Tower เดินเล่นแถนสะพาน Galata
17 Apr: Dolmabahce palace
17.25: Istanbul(sabiha Gokcen) to BKK
สำหรับใครที่อยากเช่า Pocket Wifi เราแนะนำของ Rent'n Connect สามารถทำจองในเนตแล้วให้เค้าส่งมาที่โรงแรมได้เลย แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าซัก 2-3 วันนะเผื่อเวลาในการส่งให้เค้าด้วย ตอนจ่ายเงินต้องจ่ายผ่านระบบ Paypal ถ้าใครยังไม่มีรีบสมัครไว้ก่อนเลยจ้า ค่าสมัครประมาณ 70 บาทเพื่อเปิด account ในการซื้อของออนไลน์

ทีนี้เราจะมาเรื่มลงรายละเอียดแต่ละวันแล้วนะ วันแรกเราเดินทาง 9 Apr เวลา น. ถึงโดฮาประมาณ 14.25 น. เราใช้เวลาทรานสิตประมาณ 2 ชม. สนามบินที่ใหญ่มากกว่าจะเดินเล่นถ่ายรูปเสร็จก็เกือบหมดเวบาพอดี สำหรับใครที่ต้องทรานสิตนานๆแนะนำว่าที่นีมีห้อง Quite room มองหาป้ายชื่อนี้แล้วเข้าไปนอนได้เลยหลับสบายไม่อยากตื่นเลยทีเดียว

จากนั้นก็ต่อไฟล์ทมาลง Istanbul ฝั่งเอเซียตอนที่ไปถึงฝนตกหนักมากดีนะตอนเครื่องลงเราหลับเลยไม่รุสึกสยองขวัญใดๆ เพราะเเพื่อนเราหน้าตาซีดเซียวและกลัวกันกันมากตอนเครื่องลง ไฟล์ทเราดีเลย์ไป 1 ชม. เราเลยถึงสนามบินตอน 1 ทุ่มจากเดิม 6 โมงเย็น เพื่อนๆไม่ต้องกังวลการผ่านตม.ที่นี่แต่อย่างใด คือผ่านง่ายและเร็วมากแทบไม่มองหน้าด้วยฃ้ำจากนั้นเราก็วิ่งหน้าตั้งเลยเพราะเรามีต่อไฟล์ทไป Izmir ต่อ แต่ที่ไหนได้ในวันนั้นไฟล์ทดีเลย์หมดเพราะสภาพอากาศแย่มาก บอกนิดนึงตอนนั่งจากโดฮามาอิสตันบลูเป็นเครื่องลำเล็กเพราะบินประมาณ 4 ชม.  ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากเนื่องจากแขก Doha เยอะมากแถมไม่มีมารยาท ไม่มีความเกรงใจ อุ้มเด็กเดินไปมาตลอดเวลา คุยเสียงดังแอร์บอกให้ทำอะไรก็ไม่ทำ อารมณ์เหมือนอยู่บนรถบัสต่างจังหวัดแบบอำเภอไกลๆอ่ะ แอร์ไม่สามารถจัดการคนพวกนี้ได้เลย เราสงสารแอร์มากทำงานทั้งวัน เห็นละเหนื่อยแทนจิงๆ อ่ะมาต่อๆ หลังจากผ่านไป 2-3 ชม. ไฟล์ทไป Izmir ก็ออกได้ซะที เราจอง Domestic flight ของ Turkish Airline เพราะตอนที่จองมีโปรพอดี ราคาประมาณ 900 บาทได้นน.กระเป๋า 15 Kg. พร้อมอาหาร แต่เอาเข้าจริงนน.กระเป๋าเราและเพื่อนๆเกินประมาณ 5 Kg. กันทุกคนแต่เจ้าหน้าที่ก็ใจดีให้โหลดโดยไม่ว่าอะไร ตอนไปถึสนามบินเราหาที่แลกเงินไปเจอเลยต้องยอมซื้อน้ำเผื่อเอาเงินทอนเป็น TL ไว้ใช้ขึ้น Taxi เรทที่สนามบินอยู่ประมาณ 100 Euro: 230 TL แต่ถ้าร้านแลกเงินตามเมืองต่างจังหวัดจะอยู่ที่ประมาณ 100 Euro:273 TL และในอิสตันบลูเรทดีสุดจะอยู่ที่ 100 Euro:280 TL พอถึง Izmir ตอนประมาณ 5 ทุ่มเราก็นั่ง Taxi เข้าเมืองประมาณ 50 TL ไปยังรร. Zeybek Hotel แนะนำเลยรร.นี้อยู่ใกล้สถานีรถไฟ Basmane มากๆ เดินประมาณ 2 นาทีถึง ห้องก็โอเครเราจองผ่าน Agoda คืนละ 7-8 ร้อยบาท


เช้าวันที่ 10 Apr หลังจากทานอาหารเช้ารร.เสร็จก็ออกจากรร.มาทางขวามือพอถึงหัวมุมก็เลี้ยวซ้ายเดินอีก 2 นาทีก็ถึงสถานีรถไฟ ค่ารถไฟ 25 TL ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.นิดๆถึง Selsuck

ถ้าไม่อยากนั่งรถไฟก็สามารถใช้บริการรถบัสได้นะ ข้อดีของรถบัสคือรถจะจอดที่สถานีรถบัส Selsuck เลยทำให้ตอนไปจองตั๋วรถไป Pamukkale ไม่ต้องเดินหาให้ลำบาก เราขึ้นรถไฟรอบ 9.00 น. คนทีตุรกีใจดรมากๆๆๆ ระหว่างนั่งรถไฟเจอครอบครัวหนึ่งชวนเรากินน้ำ ขนม ชวนคุยและนำที่เที่ยวตลอดทางพอใกล้ถึงจุดลง เค้าก็บอกให้เตรียมตัวคือประทับใจคนที่นี่ตั้งแต่วันแรกจริงๆ พอถึงสถานีรถไฟ Selsuck ก็เดินต่อมาเรื่อยๆเลี้ยวขวาเลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวขวาอีกทีจนเจอ สถานีรถบัสก่อนอื่นเราต้องจองตั๋วสำหรับไป Pamukkale ก่อน เราจองรอบ 16.30 น กับบริษัทรถชื่อ Pamukkale ไปค่ารถ 34 TL เมื่อจองเสร็จก็สามารถฝากกระเป๋าไว้กับคนขายตั๋วได้เลย จะได้เที่ยวอย่างสบายตัว จากนั้นเดินเลยจุดขายตั๋วมาทางซ้ายมือสุดก็จะเจอรถที่จะไป Ephesus ค่ารถ 2.5 TL นั่งรถ 10 mins ก็ถึง จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วเข้า Epesus 30 TL/person เริ่มเดินเล่นไปเรื่อยๆชิวๆ ช่วงที่เราไปอากาศดีเย็นสบายจนหนาว แดดก็ดีถ่ายรูปสวย เดินเล่นชิวๆชื่นชมสถาปัตกรรมโบราณจนสุดด้านบนแล้วเดินย้อนกลับมาด้านล่างเพื่อรอขึ้นรถบัสกลับไปที่สถานีที่เรามาตอนแรก ค่ารถกลับ 2.5 TL เท่าขามา

กลับมาถึงสถานีรถบัสเพิ่งจะบ่าย 2 กว่าๆเราเลยไปเดินเล่นชมเมือง Selsuck และกินข้าว Kebub ที่เมืองนี้ถูกและอร่อยดีลองไปหาชิมดูนะ ระหกว่างเดินเล่นชมเมืองเราแวะไปวิหาร Atemis(สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ) วิธีไปคือเมื่อออกจากสถานีรถบัสจะเจอสี่แยกให้ข้ามสี่แยกแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆทางเดียวกับที่รถมินิบัสวิ่งไป Ephesus เดินตรงมาจนเจอที่ทำการทหารและทางเดินที่เป็นต้นไม้สองข้องทางเหมือนในรูปขวาบน แล้วจะเจอป้ายไปวิหารให้เลี้ยวขวา เดินเข้าไปอีกหน่อยก็จะเจอตัววิหารซึ่งไม่ค่อยเหลืออะไรให้ดูแล้วนอกจากเสาไม่กี่ต้น ส่วนภาพขวาล่างเป็นเหมือนป้อมปราการอะไรซักอย่างซึ่งจะมองเห็นอยู่ด้านหลังของวิหาร Atemis ถ้าอยากไปดูให้เดินกลับมาที่สี่แยกหน้าสถานีรถบัสแล้วเดินไปทางซ้ายมือเดินไปเรื่อยๆจนเจอคล้ายๆสวนสาธารณะและจะมีป้อมนี้อยู่ด้านหลัง

หลังจากเดินชมเมืองเรียบร้อยก็กลับมารอขึ้นรถบัสไป Pamukkale ตอน 16.30 น. บนรถมีคนเสริฟ์น้ำและขนมให้กินด้วยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. รถจะไปจอดแวะที่ Denizle ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ก่อนแป๊บนึงเผื่อให้ผู้โดยสารที่ต้องการลงสถานีนี้ลงก่อน จากนั้นรถจะขับต่อไปจนถึง Pamukkale และจะจอดที่ Pamukkale Office ที่นี่เราสามารถจองตั๋วรถสำหรับไป Goreme ในวันถัดไปได้เลย นอกจากนี้เรายังจองตั๋วบอลลูนผ่านที่นี่ด้วยในราคา 100 Euro with Urgup balloon รวมทั้ง Green tour ด้วยในราคา 45 Euro พอจองทุกอย่างเีรยบร้อยเราก็เดินต่อไปรร. Alida Hotel ทางมารร.สามารถถามพนักงานที่สถานีได้เลย เดินประมาณ 5 mins ก็ถึง รร.อยู่ใกล้ที่เที่ยวมากเดินแป๊บเดียวก็ถึง
11 Apr: วันนี้ตื่นสายๆได้ตามสบายเลยเพราะที่เที่ยวอยู่ใกล้รร.และเราจะไป Pamukkale and Heilapolis เท่านั้น พอเดินมาถึงทางเข้าก็ต้องซื้อบัตร 30  TL เดินมาอีกนิดก็จะถึงจุดให้ถอดรองเท้าอย่าลืมเตรียมถุงไปใส่รองเท้าด้วยนจะได้ถือสะดวก แล้วก็เดินเล่นชมวิวไปรื่อยๆเหนื่อยและเจ็บเท้าหน่อยอย่าเพิ่งท้อ ข้างบนมีอะไรสวยๆรออยู่รับรองหาายเหนื่อย พอเดินสุดทางด้านบนจะเป็นเมืองโบราณ Heilapolis สิ่งที่แนะนำว่าห้ามพลาดคือ โรงละคร จากนั้นก็เดินเล่นชมวิวไปให้ทั่วๆ สวยทุกจุดจริงๆ