จากที่อ่านข่าวก็แรงทั้งคู่ เจ้าของอู่ก็ผิดเห็นๆเบี้ยวงานเค้า ไม่ตรงเวลา เงินก็ไม่มีคืนให้ ส่วนเจ้าของรถชักปืนมาขู่ก็แรงไปน่ะ แต่ก็เข้าใจอารมณ์คนโมโห จ่ายตังค์แต่งานไม่คืบ

เนื้อข่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ งานนี้ใครจะผิดกว่ากัน http://news.ch7.com/detail/119529/
ช่างซ่อมรถในจังหวัดชลบุรี ก่อเหตุทำร้ายลูกค้าที่มาขอยกเลิกงานและทวงเงินค่ามัดจำคืน ได้รับบาดเจ็บ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 3 ทุ่มเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ว่า เกิดเหตุทะเลาะวิวาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณอู่ซ่อมรถ หลังสถานีขนส่งเก่า ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมืองชลบุรี  

ที่เกิดเหตุซึ่งเปิดเป็นร้านซ่อม ทำสีรถ บริเวณหน้าร้านพบรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นมาร์ช หมายเลขทะเบียน ฎษ3330 กทม. จอดอยู่ ข้างรถพบร่างของ นายอนุสรณ์ เพียรมนูพิพัฒน์ อายุ 31 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ นอนจมกองเลือดไม่ได้สติ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปฐมพยาบาลแล้วนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบลูกกระสุนปืนขนาด .32  มม. จำนวน 1 นัด ตกอยู่หน้าร้าน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นางสาวศิริวารี วรรณษา ภรรยาของนายอนุสรณ์ ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า สามีได้มาว่าจ้างอู่ซ่อมรถแห่งนี้ให้ทำสีตัวรถบิ๊กไบค์ตั้งแต่เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยให้เงินมัดจำไว้เป็นเงิน 5,000 บาท แต่เมื่อถึงเวลามารับของพบว่า เจ้าของอู่ยังไม่ลงมือทำงานให้ตามที่ตกลงไว้ โดยอ้างว่าไม่มีเวลา ตนกับแฟนจึงขอยกเลิกจ้างและขอเงินมัดจำคืน  แต่เจ้าของอู่กลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนให้ อ้างว่าไม่มีเงิน จากนั้นเจ้าของอู่ได้โทรตามเพื่อนมา และสามีตนก็ถูกรุมทำร้าย ส่วนตนก็ต้องวิ่งหนีไปหลบใน บขส.

ด้านนายสันทัด พิพัฒนากุล เจ้าของร้านซ่อมรถ ยอมรับว่า ตนไม่ได้ทำงานตามว่าจ้าง และไม่มีเงินคืนให้คู่กรณีจริง ทำให้คู่กรณีไม่พอใจ และชักปืนขึ้นมาข่มขู่ ตนจึงโทรตามเพื่อนให้นำเงินมาให้ คู่กรณีจึงลดปืนลงและชักลำกล้องอาวุธปืน จนลูกกระสุนกระเด็นออกมา ซึ่งคู่กรณีก็ยังคงต่อว่าด้วยความไม่พอใจอยู่ ก่อนจะเดินกลับไปหยิบมีดที่รถ

โดยหลังจากนั้นเพื่อนของตนที่มาถึงพอดีเห็นว่า ตนจะถูกทำร้าย จึงเข้าชกต่อยตะลุมบอน เป็นเหตุให้นายออมสิน ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนของตนถูกนายอนุสรณ์ใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่แขนซ้ายได้รับบาดเจ็บ ส่วนคู่กรณีก็ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ

เบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัว นายสัดทัด เจ้าของอู่ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองชลบุรี และจะทำการติดตามผู้ร่วมก่อเหตุกับนายสันทัด ทำร้ายร่างกาย นายอนุสรณ์ มาสอบสวนดำเนินคดีด้วย ส่วนนายอนุสรณ์ต้องรอให้อาการดีขึ้นได้สติก่อน จึงจะเรียกตัวมาสอบสวนเช่นกัน