นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิต ตื่นเต้นนิดๆ แต่อยากแชร์ค่ะ 55555555  รีวิวครั้งแรกในชีวิต ผิดพลาดตรงไหนขออภัยล่วงหน้าเลยนะคร๊า อิอิ

อะแห่มๆ  คืองี้ เรากับแฟนไปเที่ยวเกาะช่วงสงกรานต์มาค่ะ ก็อยากจะแบ่งปันอารมณ์คนติดเกาะ สงบ ชิลล์ เกร๋ๆไรงี้

เกริ่นสั้นๆ (มั้ง) เรากับแฟนชอบทะเลมากกกกกๆๆๆๆค่ะ แม้ว่าจะอยู่ใกล้ทะเลมากก็เถอะ ( เราอยู่ภูเก็ต แฟนอยู่สุราษฯ ) ก็ยังไม่เคยเบื่อทะเลเลย ช่วงปลายปีที่แล้วเราก็เลยคิดว่า สงกรานต์หยุดยาวจะไปเที่ยวไหนกันดี แต่ขอคนไม่เยอะ สงบๆ ....

ด้วยความที่แฟนเราชอบหาที่เที่ยว ชอบดูรีวิวต่างๆ แฟนเราก็เลยบอกว่า เห็นแว๊บๆ ในเฟสบุ๊ค กับรีสอร์ทที่อยู่บนเกาะ ชื่อว่า เกาะจำรีสอร์ทค่ะ  เห็นในเฟสบุ๊คแล้วคนน้อย เงียบ สงบดี อิอิ เราก็อ่ะ โอเค เข้าไปดูซะหน่อย เพราะชื่อ เกาะจำ ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย อยู่กระบี่ ใกล้ๆเรานี่เอง ทำไมเราไม่รู้จัก ไปอยู่ไหนมา 5555

หลังจากนั้นแฟนก็ส่งลิ้งค์มาให้ดูค่ะ จัดเต็มมาก ทั้งเฟสบุ๊ค และ เว็บไซต์  (แหมๆ ไม่ค่อยบิ้วท์กันเลยนะ 555555 ) หลังจากโดนบิ้วท์เรียบร้อยทั้งรูป และ การหารีวิวเกาะจำรีสอร์ทในเว็บต่างๆ (ที่ไม่ค่อยจะมีให้อ่านสักเท่าไหร่ )  

***เอาข้อมูลบางส่วนของเว็บไซต์รีสอร์ทที่เราพักมาให้อ่านนะคะ   http://kohjumresort.com
สำหรับเกาะจำรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทส่วนตัวที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายจากความวุ่นวาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย มีห้องพัก แบบ Seaview Teakwood Villa, Teakwood House และแบบ Seaview Bamboo Cottage (เราพักแบบนี้ค่ะ)

ได้ข้อมูลเรียบร้อย สุดท้ายก็ตกลงปลงใจจะไปใช้ชีวิตติดเกาะช่วงสงกรานต์กัน ..... เอ๊า รออะไรล่ะ จองสิคะ จอง
ตอนโทรไปช่วงที่เราจองคือเดือนมกราคมค่ะ รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในเว็บไซต์นะคะ มีโปรโมชั่นสำหรับคนไทยด้วยน่าสนใจมากๆค่ะ  http://kohjumresort.com (บอกแล้วว่าเป็นมินิรีวิวไง จำไม่ได้หรออ อิอิ)



เอาล่ะจองเดือนมกราคม ไปลั้ลลาสงกรานต์ กว่าจะถึงก็อีกหลายเดือนระหว่างนี้ก็นั่งดู นอนดูภาพในเว็บไซต์จินตนาการ กริบกริ้วกันไป.......

---

วันที่ 1

และแล้ววันเดินทางก็มาถึง เย้ๆ จะได้ไปเป็นชาวเกาะแล้วดีใจจัง กรีดร้องง 55555
ออกเดินทางกันค่ะ ออกจากสุราษฯประมาณ 8 โมงเช้า มุ่งหน้าตรงไปยังท่าเรือแหลมกรวด เพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะจำ
ขับรถมาเรื่อยๆ ฟังเพลงชิลล์ๆกับคนรู้ใจนี่เพลินดีนะคะ ตลอดทางอาศัยมองป้ายและ google map ค่ะ  ไม่กี่ชั่วโมง ก็มาถึงท่าเรือแล้ว เย้!!
(ตอนขับรถไม่ได้ถ่ายป้าย เลยขอเอามาจากกูเกิ้ลนะคะ)

ตรงข้ามท่าเรือที่เราขึ้น จะมีลานจอดรถ รับฝากรถ คืนละ 50 บาทเท่านั้นค่ะ เข้าไปในซอยหน่อย ก็ตามรูปเลยค่ะ
ฝากรถเสร็จเรียบร้อยเตรียมสะพายเป้ขึ้นเรือไปเกาะกันค่ะ

และนี่คือรอบเรือที่เดินทางไปยังเกาะนะคะ

ระหว่างรอเวลาขึ้นเรือก็เก็บรูปกันสักนิดนึง ....
  

ได้เวลาเดินทางแล้ว ตื่นเต้นมากค่ะ คริคริ ค่าโดยสารไปยังเกาะจำ 50 บาท / คน  จ่ายโดยตรงกับคนขับเรือเลยค่ะ (เราได้เรือรอบ 11.30 ค่ะ เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากตารางที่เห็นด้านบนนิดนึงนะคะ)



นั่งเรือพอให้เมื่อยก้นเบาๆ เปลี่ยนท่า 2-3 ท่า (ท่านั่งนะคะ) ประมาณประมาณ 30-40 นาทีเท่านั้นค่ะ ตอนแรกนึกว่าจะช้ากว่านี้ แต่เร็วแบบนี้อารมณ์ดี๊ดีนะคะ ก็ถึงแล้วคร๊า ( อ่อ ลืมบอกไปว่าครั้งนี้มีผู้ร่วมทริปกับเราไปยังเกาะจำรีสอร์ท ประมาณ 3 แก๊งค์นะคะ ทั้งแก๊งค์ครอบครัว คู่รักหวานแหวว และ แก็งค์เพื่อนสาว คร๊า )
ฮัลโหลลลลลลลลลลลล เกาะจำ จำเราได้มั้ย (จะจำได้ไง นี่ครั้งแรกที่มานะ อย่ามั่วสิ 5555555555 )
มาถึงเกาะ ตากล้องสุดหล่อของเราก็ขอเก็บภาพนิดนึง แท็กซี่ของรีสอร์ทก็มารับพอดี เช็คชื่อ ขึ้นรถไปกันเล้ยยยยยย

*เนื่องจากของเยอะ คนเยอะเราเลยไม่ได้ถ่ายระหว่างการเดินทางไปเกาะนะคะ แต่จะบอกว่าธรรมชาติจริงๆค่ะ ขึ้นเขา ลงเขา ทางลูกรัง ขรุขระบ้าง พอให้ตื่นเต้น ไม่นานก็ถึงจุดหมายของเรา จะได้เป็นชาวเกาะเต็มตัวแล้วน๊า กรีดดดดร้องอีกที 55555

เช็คอินกันค่ะ มีเวลคัมดริ้ง เป็นน้ำสัปปะรดเย็นชื่นใจ เพราะอากาศในวันนี้เหมือนจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ อบอ้าว เมฆครึ้มมาเชียว


เช็คอินเสร็จแล้วไปห้องพักกันเลย เย้ๆ


  


ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันเล็กน้อย เบาๆ เกือบ 100 รูป 55555 ก็ขอนอนกลิ้งกินบรรยากาศก่อนจะไปหาอะไรลงท้องกันช่วงบ่ายนะคะ จากการสังเกต รีสอร์ทที่นี่เงียบมากค่ะ บรรยากาศทั้งห้องพัก และ รอบๆ เป็นส่วนตัวมากทีเดียว คนที่เข้าพักก็ไม่วุ่นวาย ไม่เสียงดัง  เราได้ห้องพักแบบ bamboo cottage ซึ่งเป็นห้องพักแบบพัดลม ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งตลอดเวลาเลยค่ะ ลมทะเลเบาๆ ฟินนนนนนมากกกกกกขอบอก อิอิ

สำหรับมื้อแรกของเรา เป็นอาหารจานเดียว หน้าตาน่าทาน รสชาติขอบอกว่าผิดคาดมากค่ะ คือ อร่อยกว่าที่คิดไว้เยอะแยะทีเดียว ปริมาณ รสชาติ และราคาสมน้ำสมเนื้อนะคะ รับได้ ไม่ผิดหวัง


กินเสร็จขอตัวไปกลิ้งให้อาหารย่อยซะหน่อย บอกก่อนว่าทริปนี้เราเน้นพักผ่อน ชิลล์ๆ เบาๆ เรื่อยๆ สโลวไลฟ์นะคะ อิอิ จริงๆที่รีสอร์ทเค้าก็มีแพคเกจไปดำน้ำ ราคาไม่แพงด้วยนะคะ เผื่อใครสนใจก็สามารถสอบถามได้ที่รีสอร์ทค่ะ ..... ไว้ครั้งหน้าเราไม่พลาดแน่ค่ะ แต่เพราะอากาศน่านอนซะเหลือเกิน เราสองคนแทบจะไม่อยากลุกไปไหนเลยจริงๆ


กลิ้งจากที่พัก ลงมาทะเลกันบ้าง บรรยากาศทะเลที่เกาะจำก็ประมาณนี้ค่ะ ชมวิว เดินเล่น เล่นน้ำนิดหน่อย ได้เวลาอาหารค่ำอีกรอบ อิ่มแล้วก็นอนฟังเสียงคลื่น พักผ่อน และ เตรียมพร้อมกับการเป็นชาวเกาะอีกหนึ่งวันในวันพรุ่งนี้ค่ะ

---

วันที่ 2
บรรยากาศตอนเช้าที่เราแทบจะไม่อยากลุกไปไหนเลยค่ะ แต่วันนี้แดดออก อากาศดี อย่ารอช้า ปลุกตัวเองสิคะ ไปถ่ายรูปกัน!!  เอ๊า ตื่นนนนๆๆๆๆ!


ทานอาหารเช้าเพิ่มพลังกันสักหน่อย อาหารเช้าที่นี่ให้บริการ 07.00-10.00 น.ค่ะ


อิ่มแล้ว....รออะไรล่ะ จิกตากล้องให้มาถ่ายรูป อย่ารอช้า 5555555555





อิ่มเอมกับบรรยากาศดีๆไม่ทันไร เจ้าเมฆฝนก็เริ่มตั้งเค้ามาแล้ว มืดมาเชียวค่ะ ความฝันที่เราจะไปเดินรอบเกาะหายไปเลย T_T
เดินเซ็งๆไปทานอาหารเที่ยงกันสิคะ ทานเสร็จก็สเต็ปเดิม คือ กลิ้งงงงงค่ะ อิอิ เนื่องจากห้องเราไม่มีทีวี แต่เรากลับไม่รู้สึกแปลกๆเลยนะคะ ไม่เบื่อ  ไม่เซ็ง แต่กลับมีความสุข อยู่กันแบบเงียบๆ ฟังเสียงคลื่น และ เสียงฝนตก!! จนถึงเย็นค่ะ


บรรยากาศสวยไปอีกแบบนะคะ  แต่เอ๊ะ!!  เริ่มจะไม่ปกติซะแล้ว  ไฟดับ!!!
ไม่ได้ดับธรรมดานะคะ ดับทั้งเกาะค่ะ โอ้ววววววววววว ไม่นะ .....
ฝนตก ไฟดับเป็นธรรมดาค่ะ แอบเซ็งเล็กน้อย ดับตั้งแต่ บ่าย 2 .... ทานอาหารค่ำเสร็จก็เดินกลับมานอนค่ะ สักพักประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ ไฟก็มา เราถึงจะได้ไปอาบน้ำ และมานอนต่อกัน เฮ้ออ ค่อยยังชั่ว ไฟติดช้า ดีกว่าไม่ติดเลยนะคะว่ามั้ย

---

วันที่ 3

เวลาผ่านไปเร็วมากค่ะ ทุกขณะที่เราอยู่บนเกาะ ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ได้คิดอะไรเพลินๆมากมาย ได้อยู่กับคนที่เรารัก ถ่ายรูป ฟังเพลง มองทะเล มองฟ้า ช่วยเพิ่มพลังชีวิตเราได้มากทีเดียว ครึ่งวันสุดท้ายกับการเป็นชาวเกาะ ไม่มีอะไรมากค่ะ ทานอาหารเช้า ถ่ายรูป เก็บความประทับใจกลับบ้านไปแบบเต็มๆ



สำหรับเที่ยวเรือขากลับไปที่ท่าเรือแหลมกรวด เรือจะออกตามเวลาในภาพด้านล่างนี้เลยนะคะ ต้องแจ้งทางรีสอร์ทด้วยนะคะ ว่าจะไปเที่ยวไหน ทางรีสอร์ทจะมีบริการจัดรถไปส่งที่ท่าเรือค่ะ


ทั้งหมดนี้คืออารมณ์ของคนติดเกาะค่ะ อิอิ เอามาแชร์สำหรับใครที่ชื่นชอบความสงบ เป็นส่วนตัว ทะเลสวย อาหารอร่อย และราคาไม่แพงจนเกินไป  อยากใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ เพิ่มพลังชีวิตด้วยทะเลแบบเราทั้งคู่

ขอบคุณสำหรับการติดตาม เจอกันทริปหน้านะคะ คริคริ