โรคผีเข้า ผีสิง กับวิธีการรักษาโดยหมอผีผู้มีปัญญา

พระพุทธานุญาตเนื้อดิบและเลือดสด

              [๓๖] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเพราะผีเข้า พระอาจารย์ พระอุปัชฌายะ
ช่วยกันรักษาเธอ ก็ไม่สามารถแก้ไขให้หายโรคได้ เธอเดินไปที่เขียงแล่หมู แล้วเคี้ยวกินเนื้อดิบ
ดื่มกินเลือดสด อาพาธเพราะผีเข้าของเธอนั้น หายดังปลิดทิ้ง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตเนื้อดิบ เลือดสด ในเพราะอาพาธเกิดแต่ผีเข้า.

    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๕  บรรทัดที่ ๘๒๔ - ๘๖๗.  หน้าที่  ๓๔ - ๓๕.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=5&A=824&Z=867&pagebreak=0
              ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=5&i=27

************************************************


ลิงค์พระสูตรนึ้ ผมลอกมาจากท่านเหลิม นะครับท่าน คือผมเห็นว่าเรื่องราวน่าสนใจดี ก็เลยไปค้นคว้าข้อมูลต่อ
ขออนุญาตสารภาพตามตรงว่า ผมมีอคติกับเรื่องนึ้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คือผมไม่เชื่อเรื่องผีสางอะไรพวกนี้เลย
ดังนั้น ผมจึงค่อนข้างมองไปในแง่ที่ว่า ผีเข้า ในพระสูตร ก็เป็นแค่ชื่อโรค หรือกลุ่มอาการ ที่คนสมัยก่อน หาสาเหตุ หรือคำอธิบาย ไม่ได้น่ะครับ

คำว่า ป่วยเพราะผึเข้า พระบาลีระบุว่า อมนุสฺสอาพาโธ ท่านคงแปล อมนุสส ว่า ผีมั้งครับ ?
แต่ผมเชื่อว่ามันเป็นแค่โรคชนิดหนึ่งเท่านั้น ก็ลองค้นพระไตรปิฎกดู ได้เงื่อนงำมาดังนี้ครับท่าน

ในชาดก กล่าวถึงโรคที่เกิดจากผี และหมอผี ว่า

[๓๐๖]     อันที่จริง เมื่อบุคคลถูกงูเห่ากัด หมอบางคนก็รักษาได้ อนึ่ง บุคคลถูกผี
                          เข้าสิง  หมอผู้ฉลาดก็ไล่ออกได้ แต่บุคคลถูกความใคร่ครอบงำแล้ว
                          ใครๆ ก็รักษาไม่หาย เพราะว่า เมื่อบุคคลล่วงเลยธรรมขาวเสียแล้ว
                          จะรักษาได้อย่างไร?
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=27&A=1742&w=%A1%D2%C1%B9%D5%B5%AA%D2%B4%A1

พระอรรถกถาจารย์ อธิบายถึงหมอผี และการรักษาว่า


ในบทเหล่านั้น บทว่า กณฺหาหิ ทุฏฺฐสฺส กโรนฺติ เหเก ความว่า อันที่จริงเมื่อบุคคลถูกงูเห่ามีพิษร้ายกัด หมอบางคนก็รักษาด้วยมนต์และด้วยโอสถให้หายได้.
               บทว่า อมนุสฺสวิฏฺฐสฺส กโรนฺติ ปณฺฑิตา ความว่า หมอผีผู้ฉลาดจำพวกหนึ่ง เมื่อคนถูกอมนุษย์มีผีและยักษ์เป็นต้น เข้าสิงแล้วย่อมทำการรักษาได้ด้วยวิธีต่างๆ มีการเซ่นสรวง สวดพระปริตรและวางยาเป็นต้นให้หายได้.
               บทว่า น กามนีตสฺส กโรติ โกจิ ความว่า แต่คนที่ถูกกามชักนำไปแล้ว คืออยู่ในอำนาจของกาม เว้นบัณฑิตเสีย ใครๆ อื่นก็ทำการรักษาไม่ได้ แม้จะรักษาก็ไม่สามารถจะรักษาให้หายได้.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=305


ข้อโต้แย้งของผมก็คือ ถ้าโรคผีเข้า มันหมายถึง มึผี หรือ อมนุษย์ หรือ โอปปาติกะ เข้ามาสิงสู่ และทำอันตรายได้จริง
การอ้างวิธีรักษาด้วยการ เซ่นสรวง สวดมนต์ ก็ดูสมกันดี แต่การอ้างถึงการรักษาด้วยยา อันนี้ผมเห็นว่าแปลกนะครับ

ผี มันกลัวยาด้วยหรือครับ ?

ถ้าให้ผมสันนิษฐาน คนสมัยก่อน มักระบุสมุฎฐานของโรค ที่ตนไม่ทราบว่า ผี เสมอๆ เช่นโรคห่า ก็เกิดจากผีห่า เป็นต้น
คนจับไข้หนาวสั่นเพราะมาลาเรีย ก็บอกว่า ผีเข้า แต่เราก็ทราบนี่ครับ ว่ามันไม่ใช่ เพียงแต่ว่า คนสมัยนั้น เขาไม่รู้อย่างที่เรารู้ เท่านั้นเอง

เรื่องสาเหตุของโรคก็อย่างหนึ่ง เรื่องวิธึการรักษาก็อย่างหนึ่ง
จะเห็นว่า แม้โรคโดยส่วนใหญ่ เราจะทราบถึงสาเหตุและมีวิธีการรักษาอย่างถูกต้องได้ผลแล้วก็ตาม
แต่ก็มีคนบางกลุ่มบางพวก ยังเชื่อ และรักษาโรคเหล่านั้น ด้วยวิธีเดิมๆ แปลกๆ ตามความเชื่อแบบเดิมอยู่น่ะครับ

สรุปก็คือ ผมอ่านพระสูตรเหล่านี้แล้ว ไม่รู้สึก อิน ตามเลยว่ามันจะหมายถึงมีผี เข้าไปสิงสู่ในร่างคนจริงๆ
แต่กลับเห็นว่า มันเป็นเพียงแค่ชื่อของโรค หรือการบอกถึงสมุฏฐานของโรค ด้วยความรู้ความเชื่อที่ล้าหลัง เท่านั้นเอง ครับท่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่