อย่าพึ่งหมดหวังครับ........เรายังมีโอกาส.......?

กระทู้คำถาม
ห่างเหินจากการเขียนกระทู้ไประยะหนึ่ง เนื่องจากอยากใช้เวลาช่วงวันหยุดยาว

อ่านหนังสือดีๆ และพักผ่อนให้เต็มที่ หลังจากเหนื่อยมาทั้งปี ช่วงนี้เลยได้แต่อาศัย

"ห้องเพลงคนรากหญ้า" เป็นที่ผ่อนคลาย และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ


วิกฤตเศรษฐกิจของไทยปีนี้ หนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา รุนแรงกว่าวิกฤตค่าเงินบาท เมื่อปี พ.ศ 2540

ครั้งนั้นผลกระทบแค่ผู้นำเข้า กับ ผู้กู้เงินตราต่างประเทศ แต่ผู้ส่งออกกลับได้ประโยชน์มหาศาลจากค่าเงิน

ที่อ่อนไป แต่ครั้งนี้ เดือดร้อนไปถึงทุกกลุ่มทั้ง นำเข้า ส่งออก ท่องเที่ยว พืชผลทางการเกษตร การลงทุนภาครัฐ

ตัวเลขทางเศรษฐกิจทุกตัว ชี้ว่า เข้าสู่ภาวะถดถอย เงินฝืด อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ เริ่มกังวลถึงอนาคตข้างหน้า หลายคนเริ่มหมดหวัง เริ่มท้อ  โดยเฉพาะผู้ที่มีภาระ

เรื่องดอกเบี้ย ซึ่งใครมีแล้วจะยิ่งเหนื่อยเป็นทวีคูณ  ยิ่งถ้าเป็นดอกเบี้ยจากการกู้นอกระบบแล้ว โอกาส

ที่จะรอดจากวิกฤตคราวนี้แทบเป็น 0


เมื่อคราวพิธีศพ รัฐบุรุษสิงคโปร์ "ลี กวน ยิว" ในลิตส์รายชื่อบุคคลสำคัญที่ไปร่วมพิธี ขณะที่ทุกคนโฟกัสไปที่

ทักษิณ และ ท่านประยุทธ์  แต่ จขกท กับสนใจบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ลำดับที่ 2 " Li Ka SHING "







ลี กา ชิง หรือ หลี่ เจีย เฉิง ในภาษาจีนกลาง เป็นคนซัวเถา เมืองแต้จิ๋ว หนีภัยสงครามจากการรุกรานของญี่ปุ่น

มาที่ฮ่องกง บิดาตายตั้งแต่เด็ก ทำให้ ลี กา ชิง ต้องทำงานหนัก และด้วยความเป้นผู้มีวิริยะ อุตสาหะ ประกอบกับ

ความมีวิสัยทัศน์ ทำให้ ลี กา ชิง ประสบความสำเร็จ เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเอเชียติดต่อกันเป็นสิบปี

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


แนวคิด ลี กา ชิง หลายๆเรื่องเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป และที่มีชื่อมากที่สุดคือ

การเตรียมตัวที่จะมีบ้าน และ รถ ภายในเวลา 5 ปี โดยแบ่งรายได้เป็น 5 กอง คือ

30 % เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 20 % สำหรับการสร้างคอนเนกชั่น 25 % สำหรับการออม 10 % สำหรับการเดินทาง

ไปต่างประเทศ และ 15% สำหรับการเรียนรู้ หาความรู้เพิ่มเติม


ตัวอย่าง สำหรับผู้มีรายได้ 10,000 บาท



เครดิตรูปจาก ไทยอินโฟเนต [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


อีกเรื่องคือ การคิดนอกกรอบ ของ ลี กา ชิง ที่สอนถึงการดำรงชีวิตของคนๆหนึ่ง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ซึ่งถ้าอ่านและคิดตามไปด้วย ก็จะเห็นว่าสิ่งที่ ลี กา ชิง คิดนั้น ให้น้ำหนักอยู่ที่คอนเนกชั่น กับ การมีวินัยทางการเงิน

มีประโยคเด็ดที่ ลี กา ชิง พูดไว้คือ



ซึ่งมีคนพิสูจน์แล้วว่าจริง คือ คนขับรถ ของ ลี กา ชิง เอง โดยเรื่องมีอยู่ว่า

คนขับรถทำงานให้ ลี กา ชิง มากว่า 30 ปี วันหนึ่งขอลาออก ลี กา ชิง เห็นแก่ความดีจึงให้โบนัสไป 2 ล้านเหรียญ

แต่คนขับรถไม่ขอรับ โดยให้เหตุผลว่า "ช่วงเวลาที่ขับรถให้ ลี กา ชิง ได้ใช้โอกาสที่ ลี กา ชิง ทำธุรกิจในรถ

ถือโอกาสซื้อตามน้ำไปด้วย ถึงแม้จะเป็นเงินเล็กน้อย แต่นานปีเข้าก็กลายเป็นเงินก้อนใหญ่

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


สุดยอดของ ลี กา ชิง คือ การที่เป้นผู้มีใจกุศลเป็นอย่างมาก ครั้งหนึ่ง ลี กา ชิง บริจาค 1 ใน 3 ของทรัพย์สิน

ที่ตัวเองมีซึ่งคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3 แสน 2 หมื่นล้านบาท ให้กับสาธารณะ (มหาเศรษฐีเมืองไทย

น่ายึดเป็นแบบอย่าง)


กระทู้นี้เขียนเพื่อคนที่กำลังสิ้นหวัง หรือ หมดหวัง ในชีวิต อย่าได้คิดสั้นหรือท้อถอย แต่จงฮึดสู้ โดยตั้งสติ

ใช้ปัญญา ศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ดี โอกาสเปิดกว้างเสมอ สำหรับผู้มีความเพียร และความตั้งใจ


สุดท้ายนี้ก็ขออวยพรให้ผู้ที่กำลังเป็นทุกข์ จงหลุดพ้นความทุกข์ทั้งปวงด้วยเทอญ ส่วนผู้ที่กำลังมีความสุข

ก็ขอให้รู้จักแบ่งปันด้วย เฉกเช่น ลี กา ชิง ที่รู้จักหลักการดำเนินชีวิต จนทุกคนยกย่อง


ป.ล คนจีนส่วนใหญ่ที่อพยพเข้ามาเมืองไทยส่วนใหญ่ก็หนีเข้ามาเพราะภัยสงครามญึ่ปุ่นรุกรานจีน

เรียกว่าสงคราม 8 ปี (เริ่มวันที่ 7 เดือน 7 ปี ค.ศ 1937 ถึงปีค.ศ 1945) ต่อเนื่องสงครามกลางเมือง

ระหว่าง ก็กหมินตั๋ง กับ พรรค คอมมิวนิสต์จีน (สิ้นสุดที่ 1 ตุลาคม ค.ศ 1949)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ไอ้ "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" เป็นอีกคนที่มีแล้วให้ครับ

เมื่อ 2 ปีก่อน
มันบริจาคหุ้นของมัน และ ของพริสซิลล่า ชาน เมียมัน
ที่มีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านบาทไทยให้กับมูลนิธิซิลิคอน แวลลี่ คอมมิวนิตี้

หุ้น fb ในตอนที่ไอ้มาร์คบริจาคนั้น
มันให้ไปทั้งหมด 18 ล้านหุ้น มูลค่าร่วมๆ 1,000 ล้านยูเอสดอลล่า

แต่ที่มีแล้วให้
แถมยังให้เยอะสุดๆ
จ่าว่าน่าจะเป็นไอ้บิล เกทส์ครับ

ไอ้บิลบริจาคไปแล้วกว่า 28,000 ล้านยูเอสดอลล่า
หรือ คิดเป็นเงินไทยก็ได้ร่วมๆ 900,000 ล้านบาท
ให้กับมูลนิธิ บิล และ เมลินด้า เกทส์ (มัน และ เมียมันนั่นแหละ)

มูลนิธิของไอ้บิลไม่แสวงหากำไร
มีเป้าหมายสนับสนุนด้านการศึกษา , สุขภาพ และ งานวิจัย

ไอ้บิลถึงขนาดให้ทุนไปทำวิจัย "ส้วม" และ ตั้งเป้าว่าอยากให้ทุกคนในโลกนี้มีส้วมใช้

-ห้องสมุดที่ขาดแคลนมันก็สนับสนุน
-ชุมชนที่แอฟริกาไม่มีคอมพิวเตอร์มันก็ให้
-มาเลเรียระบาดมันก็สนับสนุนวัคซีนไปฉีดให้ผุ้คนในกาฬทวีป แถมยังให้ไปใปวิจัยเพิ่ม

-นักศึกษาจากประเทศด้อยพัฒนามันก็แจกทุนให้เรียน
-ปฏิรูปการศึกษามันก็ทำ โดยเฉพาะการสร้าง "ครู" ซึ่งมันให้ความสำคัญมาก

ไอ้บิลบอกว่ามันจะบริจาคเงินทั้งหมด 95% ที่มันมีอยู่ เพราะตายไปก็เอาไปไม่ได้

"ไอมีกิน มีใช้ และ ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีว่ะ
ไอมีอาหารดีๆ และ เสื้อผ้าดีๆอย่างพอเพียงแล้ว ไม่รู้จะมีไปทำไมอีก
เงินทองไอก็มีมากมาย แต่ไอ้ที่ว่ามากๆนั้นหากไอไม่ใช้มันก็ไม่เกิดประโยชน์ห่ะเหวอะไรเลย ไอว่าไอบริจาคดีกว่าว่ะ"



จ่าขอคารวะเศรษฐีทุกคน
ที่มีแล้วรู้จักที่จะแบ่งปันให้คนที่ขาด
และ ยิ่งเป็นการให้อะไรที่ต่อ-ยอดทางความรู้ด้วยแล้ว ยิ่งดีใหญ่

เพราะความรู้มันคือน้ำพุแห่งสติปัญญาครับ







จ่าพิเชษฐ์
ความคิดเห็นที่ 2
ดีกว่าเชื่อ 2205459

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่