มีเรื่องเล่ากันว่า การสูบไปป์ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ Albert Einstein
ทำให้ท่านมีอารมณ์สงบมากขึ้นและตัดสินใจได้บนพื้นฐานของความเป็นจริง
แม้ว่าแพทย์จะบอกให้ท่านเลิกพฤติกรรมการสูบไปป์ก็ตาม
ไปป์ของ Albert Einstein's Pipe มีการยืมไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์สถานอื่น ๆ มากที่สุด
ไปป์นี้เป็นสมบัติของ Philadelphia's National Museum of American Jewish History
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ข้าวของที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Albert Einstein ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติแต่อย่างใด
แต่การสูบไปป์ทำให้ท่านอารมณ์สงบ และอาจจะเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ช่วยให้ Albert Einstein
คิดวิเคราะห์/เปลี่ยนแปลงทฤษฎีและสูตรต่าง ๆ ของโลกใบนี้
การมีชัยชนะทางวิชาการร่วมกับ Alfred O.C Nier เรื่อง Mass-spectrograph (the first atom–beam block)
ที่มา
http://goo.gl/yNGW2U
การค้นพบร่วมกันจนมีทฤษฏี Bose-Einstein Condensation Apparatus
ที่มา
http://goo.gl/HLvpJ7
" มันคือห้องเรียนที่เรียนรู้ด้วยตนเอง "
Roger Sherman ผู้ช่วยภัณฑารักษ์
แผนกยาและวิทยาศาสตร์ ภาคีสมาชิก Smithsonian
บอกเล่าเกี่ยวกับ ไปป์ไม้ขนาดปานกลาง
ที่ได้รับมาก่อนปี ค.ศ.1948
แม้ว่าจะครบรอบ 60 ปีการตายของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา
แต่ไปป์นี้ไม่ได้ตั้งแสดงไว้ท่ามกลางเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์
ที่ Smithsonian’s National Museum of American History ใน Washington
แต่มีการตั้งแสดงไว้อย่างโดดเด่นและเป็นที่นิยมชื่นชอบกันมากที่
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชนชาติอเมริกันยิว
National Museum of American Jewish History
http://goo.gl/k8CCCD
พันธมิตรของ Smithsonian ใน Philadelphia
http://goo.gl/IT8D8V
" เราได้รับคำร้องขอยืมไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์อื่น ๆ หลายแห่งแล้ว
และได้ให้ยืมไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์อื่น ๆ เป็นจำนวนหลาย ๆ ครั้งแล้วเช่นกัน
เป็นการวัดค่าความนิยมของไปป์ดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี " Roger Sherman
ขนาดความยาวด้ามไปป์ 6
1/4 นิ้ว
กับเบ้าที่ลึกน้อยกว่า 1
7/16 นิ้ว
แต่ไปป์นี้มีความสำคัญอย่างมาก
เพราะเป็นของส่วนตัวที่เหลืออยู่
ของผู้ชนะรางวัลโนเบล Nobel Prize
ในเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพ Theory of relativity
Albert Einstein ช่วงปี 1939 Sygma/Corbis
" มีผู้คนเชื่อมโยงอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เข้ากับเรื่องราวชีวิตจิตใจส่วนตัวของท่าน
กับการเขียนเอกสารทฤษฎีต่าง ๆ ดังนั้นไปป์นี้จึงเป็นข้าวของส่วนตัว ที่ไม่ได้มีการใช้งานร่วมกับคนอื่น ๆ
เรื่องจริงมีอยู่ว่า ไม่มีข้าวของที่มีค่าหรือไปป์จำนวนหลายอันที่หลงเหลืออยู่เลย
หลังการตายของท่าน แม้ว่าจะมีภาพถ่ายหลายภาพที่แสดงให้เห็นว่า
ท่านมีไปป์หลายแบบก็ตามซึ่งเป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งในการใช้ชีวิตของท่าน
รวมทั้งชีวิตส่วนตัวของท่านก็ไม่ได้ให้คุณค่า/ให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพย์สมบัติแต่อย่างใด "
Albert Einstein กับน้องสาว Maja Winteler-Einstein ที่ Worlds Fair ในปี 1939 (Betterman/Corbis)
" ตัวอย่างเช่น บ้านพักอาศัยของท่านที่อยู่ใน Princeton รัฐ New Jersey
ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์สถาน แต่มันเป็นเพียงบ้านพักส่วนตัว (ที่มีการอนุรักษ์ไว้เป็นสถานรำลึก)
และยังไม่มีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งใดเลย ที่ได้เก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติ/มรดกตกทอดส่วนตัวของท่านเลย
ยกเว้นแต่เอกสารส่วนตัวของท่านที่เป็นมรดกที่ดีที่สุด และตอนนี้ส่วนมากจะเก็บรักษาไว้ที่ Jerusalem "
Albert Einstein (Corbis)
ไปป์ อาจเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญ ในการสร้างทฤษฏีต่าง ๆ ของ Albert Einstein
" ผมเชื่อว่า การสูบไปป์ทำให้คนเรามีอารมณ์สงบ และมีการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง "
ครั้งหนึ่งคือ คำพูดของ Albert Einstein ในปีค.ศ.1950
Albert Einstein ขณะกำลังครุ่นคิด (Lucien Aigner/Corbis)
" แม้ว่า Albert Einstein รู้ดีว่า การสูบไปป์ไม่ดีต่อสุขภาพ
แต่ท่านก็ยังชื่นชอบกับการสูบไปป์ เมื่อแพทย์ได้เตือนให้ท่านเลิกสูบไปป์
ท่านก็เลิกสูบไปป์ในที่สุด แต่ก็ยังไม่เลิกถือไปป์ไว้ในมือและคาบไว้ที่ปาก
เพียงแต่ว่าไม่ได้ใส่ยาเส้นเพื่อจุดไปป์สูบแต่อย่างใด "
Albert Einstein ที่บ้าน Princeton, New Jersey (Lucien Aigner/Corbis)
"และเรื่องจริงก็คือ เรามีพยานหลักฐานว่า ไปป์ตัวนี้มีร่องรอยฟันกัดอยู่ที่ด้านปลาย
แน่นอนว่า Albert Einstein เคยใช้งานมาแล้ว ไปป์ตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของสะสมส่วนตัว
ของ Gina Plunguian ประติมากรจาก Newark รัฐ Delaware
" เธอเป็นเพื่อนสนิทของ Albert Einstein และยังช่วยงานทำงานให้ท่าน
รวมทั้งช่วยงานด้านเอกสารที่ทำงานของท่านด้วย เธอได้ปั้นรูปครึ่งท่อนบนของท่าน
ดังนั้น Albert Einstein จึงได้มอบไปป์ ให้เธอเป็นของขวัญ/ของที่ระลึก "
ในปี ค.ศ. 1979 สามีของ Gina Plunguian ได้มอบรูปประติมากรรม Albert Einstein
พร้อมกับภาพถ่ายอีกหลายภาพของ Gina Plunguian ขณะที่กำลังปั้นรูปครึ่งท่อนบนของ Albert Einstein
ให้กับ Smithsonian Archives of American Art
http://goo.gl/YmC9g3
ประติมากร Gina Plunguian (ผู้บริจาคไปป์) กำลังปั้นรูปครึ่งท่อนบน Albert Einstein (ไปป์ในมือด้านขวาล่าง)
ส่วนหนึ่งที่มีคนนิยมชื่นชอบไปป์ของ Albert Einstein
คือความเป็นตัวของตัวเอง ความสง่างาม(มีสติปัญญาเป็นอาวุธ)
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับท่าน ในการเลิกสูบไปป์ก็ตามแต่
Albert Einstein มตะ(เสียชีวิต) ที่ Princeton
http://goo.gl/Ht7cpu
ในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ.1955 ตอนวัย 76 ปี
สันนิษฐานสาเหตุการตายด้วย โรคภาวะเส้นเลือดแดงใหญ่ช่วงท้องโป่งพอง abdominal aortic aneurysm
" ข้อมูลที่ปรากฏในเครื่องหมายคำพูด "
เป็นเรื่องราวบอกเล่าของ Roger Sherman
Associate Curator Division of Medicine and Science
The National Museum of American History
http://goo.gl/Rby1O5
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/OZf2Z2
คำเตือนกระทรวงสาธารณสุข
การสูบบุหรี่หรือไปป์หรือยาเส้น เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
รายชื่อบุรุษที่ชื่นชอบสูบไปป์
http://goo.gl/RrBtYb
สถานที่แสดงการผ่าตัดมันสมองของ Albert Einstein ที่พิพิธภัณฑ์ Mütter Museum ในรัฐ Philadelphia
(Evi Numen, 2011, Mütter Museum of The College of Physicians of Philadelphia)
หลังจากที่ Albert Einstein เสียชีวิตได้ไม่นานนัก Harvey กับผู้ช่วยเทคนิคการแพทย์
ที่ University of Philadelphia ได้ผ่าตัดมันสมองของ Albert Einstein
เป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ นับหลายร้อยชิ้นแล้วจัดทำเป็นแผ่นกระจกใส(Slides)
เพื่อการศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ Mütter Museum ในรัฐ Philadelphia
(Evi Numen Colletions of Mütter Museum of The College of Physicians of Philadelphia)
ที่มา
http://goo.gl/R7ZHua
เรื่องเล่าไร้สาระ
บุหรี่ หรือ ซิการ์ มีก่อนหน้า Albert Einstein สูบไปป์แล้ว
บุหรี่ในยุคแรก ๆ จะพันด้วยใบยาสูบแล้วเรียกว่า ซิการ์ cigar
ส่วนรูปร่างคล้ายบุหรี่ Cigarettes เริ่มปรากฏเป็นรูปร่างเป็นมวนแบบทุกวันนี้
ในดินแดนโบราณที่ Mexico กับ อเมริกาตอนกลาง ในคริสต์ศตวรรษที่ 9
โดยจะจุดใบยาสูบด้วยต้นกกหรือกล้องยาเส้นทำจากไม้
นิยมกันมากในชนเผ่า Maya ต่อมาเป็นชนเผ่า Aztecs
ควันบุหรี่ใช้ในพิธีกรรมของหมอผี ในศาสนาพิธีไหว้ผีของชนเผ่า
สืบทอดกันมาจนเรื่องการสูบบุหรี่/ซิการ์เป็นเรื่องธรรมดามากใน
หมู่เกาะ Caribbean Mexico อเมริกากลางกับอเมริกาใต้ ในทุกวันนี้
ภาพแกะสลักแผ่นหินในโบสถ์ที่ Palenque ประเทศ Mexico
แสดงภาพหมอผี Mayan กำลังสูบบุหรี่จากกล้องยาเส้น
ส่วนในภาคเหนืออเมริกามีการใช้ใบยาสูบหลายแบบมาก
บางครั้งก็ใช้ซังข้าวโพดสูบแทนใบยาสูบ
มีการใช้กระดาษห่อยาสูบในสเปญตอนคริสต์ศตวรรษที่ 17
เรียกว่า papelate มีภาพวาดของ Goya เกี่ยวกับการสูบบุหรี่
Goya's paintings La Cometa, La Merienda en el Manzanares,
and El juego de la pelota a pala (18th century)
ในปีค.ศ.1830 การสูบบุหรี่เริ่มเป็นที่นิยมกันมากในฝรั่งเศส
เลยมีการตั้งชื่อบุหรี่ว่า cigarette
จนกระทั่งในปีค.ศ.1845 รัฐบาลฝรั่งเศส
ได้เริ่มผูกขาดธุรกิจอุตสาหกรรมบุหรี่
ส่วนอุตสาหกรรมการผลิตบุหรี่แบบมวน
เริ่มพัฒนาในปีค.ศ.1880 โดย James Albert Bonsack
ที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตบุหรี่แบบมวนในรูปโรงงาน
จากเดิมที่ผลิตด้วยการม้วนบุหรี่เป็นมวนด้วยมือคน
มีกำลังผลิตได้เต็มที่เพียงวันละ 40,000 มวน
เป็นผลิตด้วยเครื่องจักรมีกำลังผลิตวันละ 4 ล้านมวนอย่างต่ำ
ส่วนในอังกฤษมีการใช้คำว่า cigarette
ในช่วงสงคราม Crimean War
ช่วงกองทัพสหราชอาณาจักรทำสงครามกับ
อาณาจักร Ottoman Turkish กับสหายร่วมรบรัสเซีย
ด้วยการใช้กระดาษห่อหนังสือพิมพ์มวนบุหรี่สูบ
เพราะความขาดแคลนในเรื่องใบยาสูบและกระดาษมวนบุหรี่
นำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมบุหรี่ในอียิปต์ในสมัยต่อมา
สรุปย่อ/เรียบเรียงจาก
http://goo.gl/AE6m9k
เพิ่มเติมกลุ่มคนสูบไปป์ของไทย
http://goo.gl/6gYAXW
http://goo.gl/l7YdIR
ทำไม Albert Einstein ชื่นชอบสูบไปป์
ทำให้ท่านมีอารมณ์สงบมากขึ้นและตัดสินใจได้บนพื้นฐานของความเป็นจริง
แม้ว่าแพทย์จะบอกให้ท่านเลิกพฤติกรรมการสูบไปป์ก็ตาม
ไปป์ของ Albert Einstein's Pipe มีการยืมไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์สถานอื่น ๆ มากที่สุด
ไปป์นี้เป็นสมบัติของ Philadelphia's National Museum of American Jewish History
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ข้าวของที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Albert Einstein ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติแต่อย่างใด
แต่การสูบไปป์ทำให้ท่านอารมณ์สงบ และอาจจะเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ช่วยให้ Albert Einstein
คิดวิเคราะห์/เปลี่ยนแปลงทฤษฎีและสูตรต่าง ๆ ของโลกใบนี้
การมีชัยชนะทางวิชาการร่วมกับ Alfred O.C Nier เรื่อง Mass-spectrograph (the first atom–beam block)
ที่มา http://goo.gl/yNGW2U
การค้นพบร่วมกันจนมีทฤษฏี Bose-Einstein Condensation Apparatus
ที่มา http://goo.gl/HLvpJ7
" มันคือห้องเรียนที่เรียนรู้ด้วยตนเอง "
Roger Sherman ผู้ช่วยภัณฑารักษ์
แผนกยาและวิทยาศาสตร์ ภาคีสมาชิก Smithsonian
บอกเล่าเกี่ยวกับ ไปป์ไม้ขนาดปานกลาง
ที่ได้รับมาก่อนปี ค.ศ.1948
ที่มา http://goo.gl/5xXmW8
แม้ว่าจะครบรอบ 60 ปีการตายของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา
แต่ไปป์นี้ไม่ได้ตั้งแสดงไว้ท่ามกลางเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์
ที่ Smithsonian’s National Museum of American History ใน Washington
แต่มีการตั้งแสดงไว้อย่างโดดเด่นและเป็นที่นิยมชื่นชอบกันมากที่
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชนชาติอเมริกันยิว
National Museum of American Jewish History http://goo.gl/k8CCCD
พันธมิตรของ Smithsonian ใน Philadelphia http://goo.gl/IT8D8V
ที่มา http://goo.gl/5xXmW8
" เราได้รับคำร้องขอยืมไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์อื่น ๆ หลายแห่งแล้ว
และได้ให้ยืมไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์อื่น ๆ เป็นจำนวนหลาย ๆ ครั้งแล้วเช่นกัน
เป็นการวัดค่าความนิยมของไปป์ดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี " Roger Sherman
ขนาดความยาวด้ามไปป์ 6 1/4 นิ้ว
กับเบ้าที่ลึกน้อยกว่า 1 7/16 นิ้ว
แต่ไปป์นี้มีความสำคัญอย่างมาก
เพราะเป็นของส่วนตัวที่เหลืออยู่
ของผู้ชนะรางวัลโนเบล Nobel Prize
ในเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพ Theory of relativity
Albert Einstein ช่วงปี 1939 Sygma/Corbis
" มีผู้คนเชื่อมโยงอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เข้ากับเรื่องราวชีวิตจิตใจส่วนตัวของท่าน
กับการเขียนเอกสารทฤษฎีต่าง ๆ ดังนั้นไปป์นี้จึงเป็นข้าวของส่วนตัว ที่ไม่ได้มีการใช้งานร่วมกับคนอื่น ๆ
เรื่องจริงมีอยู่ว่า ไม่มีข้าวของที่มีค่าหรือไปป์จำนวนหลายอันที่หลงเหลืออยู่เลย
หลังการตายของท่าน แม้ว่าจะมีภาพถ่ายหลายภาพที่แสดงให้เห็นว่า
ท่านมีไปป์หลายแบบก็ตามซึ่งเป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งในการใช้ชีวิตของท่าน
รวมทั้งชีวิตส่วนตัวของท่านก็ไม่ได้ให้คุณค่า/ให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพย์สมบัติแต่อย่างใด "
Albert Einstein กับน้องสาว Maja Winteler-Einstein ที่ Worlds Fair ในปี 1939 (Betterman/Corbis)
" ตัวอย่างเช่น บ้านพักอาศัยของท่านที่อยู่ใน Princeton รัฐ New Jersey
ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์สถาน แต่มันเป็นเพียงบ้านพักส่วนตัว (ที่มีการอนุรักษ์ไว้เป็นสถานรำลึก)
และยังไม่มีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งใดเลย ที่ได้เก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติ/มรดกตกทอดส่วนตัวของท่านเลย
ยกเว้นแต่เอกสารส่วนตัวของท่านที่เป็นมรดกที่ดีที่สุด และตอนนี้ส่วนมากจะเก็บรักษาไว้ที่ Jerusalem "
Albert Einstein (Corbis)
ไปป์ อาจเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญ ในการสร้างทฤษฏีต่าง ๆ ของ Albert Einstein
" ผมเชื่อว่า การสูบไปป์ทำให้คนเรามีอารมณ์สงบ และมีการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง "
ครั้งหนึ่งคือ คำพูดของ Albert Einstein ในปีค.ศ.1950
Albert Einstein ขณะกำลังครุ่นคิด (Lucien Aigner/Corbis)
" แม้ว่า Albert Einstein รู้ดีว่า การสูบไปป์ไม่ดีต่อสุขภาพ
แต่ท่านก็ยังชื่นชอบกับการสูบไปป์ เมื่อแพทย์ได้เตือนให้ท่านเลิกสูบไปป์
ท่านก็เลิกสูบไปป์ในที่สุด แต่ก็ยังไม่เลิกถือไปป์ไว้ในมือและคาบไว้ที่ปาก
เพียงแต่ว่าไม่ได้ใส่ยาเส้นเพื่อจุดไปป์สูบแต่อย่างใด "
Albert Einstein ที่บ้าน Princeton, New Jersey (Lucien Aigner/Corbis)
"และเรื่องจริงก็คือ เรามีพยานหลักฐานว่า ไปป์ตัวนี้มีร่องรอยฟันกัดอยู่ที่ด้านปลาย
แน่นอนว่า Albert Einstein เคยใช้งานมาแล้ว ไปป์ตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของสะสมส่วนตัว
ของ Gina Plunguian ประติมากรจาก Newark รัฐ Delaware
รายละเอียด/ที่มา http://goo.gl/YNEbsx
" เธอเป็นเพื่อนสนิทของ Albert Einstein และยังช่วยงานทำงานให้ท่าน
รวมทั้งช่วยงานด้านเอกสารที่ทำงานของท่านด้วย เธอได้ปั้นรูปครึ่งท่อนบนของท่าน
ดังนั้น Albert Einstein จึงได้มอบไปป์ ให้เธอเป็นของขวัญ/ของที่ระลึก "
ในปี ค.ศ. 1979 สามีของ Gina Plunguian ได้มอบรูปประติมากรรม Albert Einstein
พร้อมกับภาพถ่ายอีกหลายภาพของ Gina Plunguian ขณะที่กำลังปั้นรูปครึ่งท่อนบนของ Albert Einstein
ให้กับ Smithsonian Archives of American Art http://goo.gl/YmC9g3
ประติมากร Gina Plunguian (ผู้บริจาคไปป์) กำลังปั้นรูปครึ่งท่อนบน Albert Einstein (ไปป์ในมือด้านขวาล่าง)
ส่วนหนึ่งที่มีคนนิยมชื่นชอบไปป์ของ Albert Einstein
คือความเป็นตัวของตัวเอง ความสง่างาม(มีสติปัญญาเป็นอาวุธ)
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับท่าน ในการเลิกสูบไปป์ก็ตามแต่
Albert Einstein มตะ(เสียชีวิต) ที่ Princeton http://goo.gl/Ht7cpu
ในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ.1955 ตอนวัย 76 ปี
สันนิษฐานสาเหตุการตายด้วย โรคภาวะเส้นเลือดแดงใหญ่ช่วงท้องโป่งพอง abdominal aortic aneurysm
ที่มาของภาพ http://goo.gl/x9fh0G
" ข้อมูลที่ปรากฏในเครื่องหมายคำพูด "
เป็นเรื่องราวบอกเล่าของ Roger Sherman
Associate Curator Division of Medicine and Science
The National Museum of American History http://goo.gl/Rby1O5
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/OZf2Z2
การสูบบุหรี่หรือไปป์หรือยาเส้น เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
รายชื่อบุรุษที่ชื่นชอบสูบไปป์ http://goo.gl/RrBtYb
สถานที่แสดงการผ่าตัดมันสมองของ Albert Einstein ที่พิพิธภัณฑ์ Mütter Museum ในรัฐ Philadelphia
(Evi Numen, 2011, Mütter Museum of The College of Physicians of Philadelphia)
หลังจากที่ Albert Einstein เสียชีวิตได้ไม่นานนัก Harvey กับผู้ช่วยเทคนิคการแพทย์
ที่ University of Philadelphia ได้ผ่าตัดมันสมองของ Albert Einstein
เป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ นับหลายร้อยชิ้นแล้วจัดทำเป็นแผ่นกระจกใส(Slides)
เพื่อการศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ Mütter Museum ในรัฐ Philadelphia
(Evi Numen Colletions of Mütter Museum of The College of Physicians of Philadelphia)
ที่มา http://goo.gl/R7ZHua
เรื่องเล่าไร้สาระ
บุหรี่ หรือ ซิการ์ มีก่อนหน้า Albert Einstein สูบไปป์แล้ว
บุหรี่ในยุคแรก ๆ จะพันด้วยใบยาสูบแล้วเรียกว่า ซิการ์ cigar
ส่วนรูปร่างคล้ายบุหรี่ Cigarettes เริ่มปรากฏเป็นรูปร่างเป็นมวนแบบทุกวันนี้
ในดินแดนโบราณที่ Mexico กับ อเมริกาตอนกลาง ในคริสต์ศตวรรษที่ 9
โดยจะจุดใบยาสูบด้วยต้นกกหรือกล้องยาเส้นทำจากไม้
นิยมกันมากในชนเผ่า Maya ต่อมาเป็นชนเผ่า Aztecs
ควันบุหรี่ใช้ในพิธีกรรมของหมอผี ในศาสนาพิธีไหว้ผีของชนเผ่า
สืบทอดกันมาจนเรื่องการสูบบุหรี่/ซิการ์เป็นเรื่องธรรมดามากใน
หมู่เกาะ Caribbean Mexico อเมริกากลางกับอเมริกาใต้ ในทุกวันนี้
ภาพแกะสลักแผ่นหินในโบสถ์ที่ Palenque ประเทศ Mexico
แสดงภาพหมอผี Mayan กำลังสูบบุหรี่จากกล้องยาเส้น
ส่วนในภาคเหนืออเมริกามีการใช้ใบยาสูบหลายแบบมาก
บางครั้งก็ใช้ซังข้าวโพดสูบแทนใบยาสูบ
มีการใช้กระดาษห่อยาสูบในสเปญตอนคริสต์ศตวรรษที่ 17
เรียกว่า papelate มีภาพวาดของ Goya เกี่ยวกับการสูบบุหรี่
Goya's paintings La Cometa, La Merienda en el Manzanares,
and El juego de la pelota a pala (18th century)
ในปีค.ศ.1830 การสูบบุหรี่เริ่มเป็นที่นิยมกันมากในฝรั่งเศส
เลยมีการตั้งชื่อบุหรี่ว่า cigarette
จนกระทั่งในปีค.ศ.1845 รัฐบาลฝรั่งเศส
ได้เริ่มผูกขาดธุรกิจอุตสาหกรรมบุหรี่
ส่วนอุตสาหกรรมการผลิตบุหรี่แบบมวน
เริ่มพัฒนาในปีค.ศ.1880 โดย James Albert Bonsack
ที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตบุหรี่แบบมวนในรูปโรงงาน
จากเดิมที่ผลิตด้วยการม้วนบุหรี่เป็นมวนด้วยมือคน
มีกำลังผลิตได้เต็มที่เพียงวันละ 40,000 มวน
เป็นผลิตด้วยเครื่องจักรมีกำลังผลิตวันละ 4 ล้านมวนอย่างต่ำ
ส่วนในอังกฤษมีการใช้คำว่า cigarette
ในช่วงสงคราม Crimean War
ช่วงกองทัพสหราชอาณาจักรทำสงครามกับ
อาณาจักร Ottoman Turkish กับสหายร่วมรบรัสเซีย
ด้วยการใช้กระดาษห่อหนังสือพิมพ์มวนบุหรี่สูบ
เพราะความขาดแคลนในเรื่องใบยาสูบและกระดาษมวนบุหรี่
นำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมบุหรี่ในอียิปต์ในสมัยต่อมา
สรุปย่อ/เรียบเรียงจาก http://goo.gl/AE6m9k
เพิ่มเติมกลุ่มคนสูบไปป์ของไทย
http://goo.gl/6gYAXW
http://goo.gl/l7YdIR