Flight of the gibbon เราสี่สาว ตัดสินใจกันอยู่นานว่าจะเล่นดีไหม 1 สาวออกตัวเพราะว่ามีอาการท้องเสียมาก อีก 1 สาวบอกว่าคล้ายๆกะที่เคยเล่นมาก ส่วนที่สาวหนึ่ง นางอยากเล่นมากกกกก... แต่ไม่มีเพื่อนเล่นด้วย สุดท้ายก็ต้องลากเจ้าของกระทู้ไปเล่น
เข้าไปในออฟฟิศของ Flight of the gibbon เซ็นต์เอกสารอะไรสักอย่าง พร้อมจ่ายตังค์ 2,499 บาทโอ้วววว!! มันแพงมาก ถ้าไม่สนุกนะ แล้วเกิดเสียดายว่าเล่นไปทำไม ฉันจะร้องไห้ T.T ทั้งหมดมี 24 ฐาน แต่ละฐานไม่มีโอกาสได้เหยียบพื้นดิน นอกเสียจากว่าตก แต่คิดดูให้ดีดีนะคะ เราโหนไปตามยอดต้นไม้ที่สูงมากอยู่แล้ว.... คิดแล้ว ขาก็เริ่มสั่น
เขามีของที่ระลึกที่เอาไว้ขาย ให้เราสองคนฟรีคะ ซึ่งเราสองคนเลือกเสื้อยืดสีน้ำเงิน เอาไปใส่เล่นซะเลย
โบกลาร่ำลาเพื่อนสาวอีกสองคน ปกติแล้วเขาจะให้ไปเป็นกลุ่มนะคะ แต่ว่าเราอภิสิทธิ์หน่อย เพราะว่ามาสาย ไปกันสองคน ชิลปายยย เขามีรถให้นั่งคะ รถเปิดประทุน เอิ่ม!! กระบะดีดีนี่เอง จับให้แน่นเลยนะคะ ทั้งฝุ่น ทั้งชัน
และแล้วก็มาถึงกันจนได้คะ ที่ทางเดินขึ้นไปเป็นเส้นทางเล็กๆจะเห็นกระท่อมไม้เป็นออฟฟิศ ที่นี่ก็จะมีพี่เจ้าหน้าที่คอยพาเราไปไต่ต้นไม้คะ ก่อนอื่นเลยหาซื้อน้ำไปกินด้วยนะคะ เพราะแต่ละฐานไม่มีร้านค้าเน้อ ฮ่าๆ
เริ่มจากจับพวกเราแต่งตัวคะ งานง่ายๆ
แต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกพี่ๆเจ้าหน้าที่เขาจะมาสาธิตวิธีการเล่นให้พวกเราสองคนคะ โดยเราจะมีพี่เจ้าหน้าที่ไปด้วยสองคน
เริ่มออกเดินทางกันเลยนะคะ ขอบอกว่า ยิ่งเดินยิ่งไม่อยากให้ถึงฐานแรกคะ ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่กลัวความสูงมากกก ก้มลงมองไม่ได้เลย เราต้องล้างความกลัว ด้วยการขอเป็นคนแรกของฐานที่ 1 คะ โอววว มายย ก้อดดด !!!
ขอออกตัวอีกนิดหน่อยนะคะ ว่าเราได้อภิสิทธิ์นำกล้องใหญ่คล้องคอ โดยทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้กะเพื่อนสาว เพราะพี่เจ้าหน้าที่บอกว่า หล่นหายตอนปีนต้นไม้หลายเครื่องแล้วคะ ลงไปเก็บก็ไม่ได้
เล่นกันต่อเรื่อยๆเจอกรุ๊ปชาวรัสเซีย ดูเขาสนุกสนานกันมาก ไม่เหนื่อยเลย
แต่ละฐานจะสูงขึ้นๆ และเชือกก็ยาวขึ้นๆ ห้อยโหนกันมันส์เลยทีเดียว พี่เจ้าหน้าที่ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น พี่เขาบอกว่าบางคนไม่ยอมไป จนพี่เขาแกล้งบอกว่าไม่ไปสักทีจะถีบแล้วนะ ฮ่าๆ
ฐานนี้ชอบมาก ถ้ามาเป็นคู่รักนี่อย่างโรแมนติค (ไหมนะ?) โหนคู่....
ฐานไต่สะพานเชือก ฐานนี้พี่เจ้าหน้าที่พร้อมใจกันขย่มสะพานน่าดู ฮ่าๆ
มาถึงด่านหรโหดของเจ้าของกระทู้แล้วล่ะคะ 300 เมตร อยู่ดีดีพี่เจ้าหน้าที่ก็ถาม น้องหนักเท่าไหร่ครับ "42 ค่ะพี่" พี่เจ้าหน้าที่พากันส่วยหัว อย่างกะเรื่องใหญ่ หน้าตาซีเรียสมาก ฐานนี้น้องต้องถีบตัวแรงๆนะครับ เพราะถ้าหนักไม่เกิน 50 มีโอกาสไปไม่ถึง ต้องค้างเติ่งอยู่กลางเชือก
กรี๊ดดดดดดดดด!! ค้างอยู่ตรงกลาง 300 เมตร แล้วแม่เจ้า มันสูงงงงงงมาก อยากจะร้องไห้ งานนี้ให้เพื่อนคนนึงไปก่อน เกือบไม่รอดแน่ะ คิดในใจแล้วตูจะรอดไหม .... ในที่สุดคะ...ในที่สุด
ไม่รอด
พี่เจ้าหน้าที่ได้ปีนมาเก็บศพคะ ใช้เวลาเกือบ 10 นาที ขาห้องโตงเตงอยู่บนเชือก ขาสั่นพั่บๆๆๆ
ฐานสุดท้ายแล้วคะ โหนตัวลงมาข้างล่าง ซึ่งก็จะเจอกระท่อมออฟฟิศที่เรามาตอนแรกนั่นแหละ
จบกิจกรรมคะ ถามว่าคุ้มไหม คุ้มมาก เล่นแลวหายเหนื่อยปลดปล่อยสุดๆได้ตะโกนวี้ดว้ายตลอดทาง มันส์กว่าเที่ยวผับตอนกลางคืนอีกคะ ฮ่าๆ
นั่งรถกระบะกลับลงมาป๊ะกับเพื่อนสาวอีกสองคนข้างล่าง ที่นี่มีอาหารให้ทานฟรีด้วยนะคะ อร่อยใช้ได้
เดินทางกลับกรุงเทพแล้วคะ เหนื่อยมากมาย โชคดีที่เพื่อนคนขับไม่เล่นด้วย ไม่งั้นเป็นอันสลบด้วยกัน 1 คืน 2 วันที่สวนสัตว์เขาเขียวใช้ได้เลยคะ สำหรับเพื่อนๆที่ไม่มีเวลาออกต่างจังหวัดนานๆแนะนำที่นี่เลยคะ มาประทับใจด้วยกันนะ
[CR] [Review: Adventure Trip] พักกับ Es-Ta-Te Resort ตะลุย Flight of the Gibbon ชลบุรี
ไม่น่าเชื่อ เราเดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติเขาเขียว เกือบจะสองทุ่ม เพราะหลงทาง มันมืดมาก พอเราออกมาจากเขาวงกตได้สักพัก ก็ถามลุงยามข้างหน้าทันที ว่าที่พักที่เราจะไปนั่นอยู่ที่ไหน คุณลุงชี้บอกว่า ขับขึ้นไปอีกไม่ไกลก็จะเจอ
เรา check in ที่พักที่สมาชิกของเราได้จองเอาไว้ เพราะว่ามีโปรโมชั่น มากัน 4 คน แยกกันนอน 2 คนต่อ 1 หลัง เจ้าหน้าที่ได้พาเรานั่งรถกอล์ฟเข้าไปในที่พัก ซึ่งลึกเข้าอีก อย่างกะคนละโลกกะที่เรามาแน่ะ
พวกเราเดินสำรวจกันอยู่สักพัก ก่อนที่จะแยกย้ายเข้าที่พัก ก็เจอน้องกวางน้อยน่ารัก มันไม่กลัวคนด้วยนะ
ตรงนี้เป็นห้องน้ำ ห้องน้ำรวมนะคะ แต่แยกชาย-หญิง ห้องอาบน้ำเป็นกระโจม ท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ เห็นแล้วตื่นเต้นอยากอาบน้ำเลยทีเดียว
มาดูข้างในที่พักมั่งดีกว่านะคะ เราได้เตียงใหญ่คะ ข้างในมีแอร์คอนดิชั่นเนอร์ด้วยนะคะ รวมทั้งตู้เย็น สะดวกสบายมาก
อาบน้ำเสร็จแล้ว เข้านอนกันดีกว่าคะ พรุ่งนี้เรามีนัดถ่ายรูปกันตอนเช้าๆ สนามหญ้าข้างหน้าเต้นท์ของเราท่าทางจะสวย
เราออกไปทานอาหารเช้ากันเถอะ
อิ่มแล้ว เราก็ออกเดินเล่นถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆที่นี่ร่มรื่นมากเลย
พวกเราเวิ่นเว้อ กันอยู่นานว่าจะไปต่อที่ไหนดี เพราะเราสำรวจราคา Flight of the gibbon มา แพงมากกกก แต่สุดท้ายไม่มีที่ไป ไหนๆก็ดั้นด้นมาแล้ว ก็ต้องไปต่อให้ได้ ได้เวลาบะบาย Es-Ta-Te Resort แล้ว
ขับรถวนไปวนมา ในที่สุดเราก็เจอ
Flight of the gibbon เราสี่สาว ตัดสินใจกันอยู่นานว่าจะเล่นดีไหม 1 สาวออกตัวเพราะว่ามีอาการท้องเสียมาก อีก 1 สาวบอกว่าคล้ายๆกะที่เคยเล่นมาก ส่วนที่สาวหนึ่ง นางอยากเล่นมากกกกก... แต่ไม่มีเพื่อนเล่นด้วย สุดท้ายก็ต้องลากเจ้าของกระทู้ไปเล่น
เข้าไปในออฟฟิศของ Flight of the gibbon เซ็นต์เอกสารอะไรสักอย่าง พร้อมจ่ายตังค์ 2,499 บาทโอ้วววว!! มันแพงมาก ถ้าไม่สนุกนะ แล้วเกิดเสียดายว่าเล่นไปทำไม ฉันจะร้องไห้ T.T ทั้งหมดมี 24 ฐาน แต่ละฐานไม่มีโอกาสได้เหยียบพื้นดิน นอกเสียจากว่าตก แต่คิดดูให้ดีดีนะคะ เราโหนไปตามยอดต้นไม้ที่สูงมากอยู่แล้ว.... คิดแล้ว ขาก็เริ่มสั่น
เขามีของที่ระลึกที่เอาไว้ขาย ให้เราสองคนฟรีคะ ซึ่งเราสองคนเลือกเสื้อยืดสีน้ำเงิน เอาไปใส่เล่นซะเลย
โบกลาร่ำลาเพื่อนสาวอีกสองคน ปกติแล้วเขาจะให้ไปเป็นกลุ่มนะคะ แต่ว่าเราอภิสิทธิ์หน่อย เพราะว่ามาสาย ไปกันสองคน ชิลปายยย เขามีรถให้นั่งคะ รถเปิดประทุน เอิ่ม!! กระบะดีดีนี่เอง จับให้แน่นเลยนะคะ ทั้งฝุ่น ทั้งชัน
และแล้วก็มาถึงกันจนได้คะ ที่ทางเดินขึ้นไปเป็นเส้นทางเล็กๆจะเห็นกระท่อมไม้เป็นออฟฟิศ ที่นี่ก็จะมีพี่เจ้าหน้าที่คอยพาเราไปไต่ต้นไม้คะ ก่อนอื่นเลยหาซื้อน้ำไปกินด้วยนะคะ เพราะแต่ละฐานไม่มีร้านค้าเน้อ ฮ่าๆ
เริ่มจากจับพวกเราแต่งตัวคะ งานง่ายๆ
แต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกพี่ๆเจ้าหน้าที่เขาจะมาสาธิตวิธีการเล่นให้พวกเราสองคนคะ โดยเราจะมีพี่เจ้าหน้าที่ไปด้วยสองคน
เริ่มออกเดินทางกันเลยนะคะ ขอบอกว่า ยิ่งเดินยิ่งไม่อยากให้ถึงฐานแรกคะ ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่กลัวความสูงมากกก ก้มลงมองไม่ได้เลย เราต้องล้างความกลัว ด้วยการขอเป็นคนแรกของฐานที่ 1 คะ โอววว มายย ก้อดดด !!!
ขอออกตัวอีกนิดหน่อยนะคะ ว่าเราได้อภิสิทธิ์นำกล้องใหญ่คล้องคอ โดยทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้กะเพื่อนสาว เพราะพี่เจ้าหน้าที่บอกว่า หล่นหายตอนปีนต้นไม้หลายเครื่องแล้วคะ ลงไปเก็บก็ไม่ได้
เล่นกันต่อเรื่อยๆเจอกรุ๊ปชาวรัสเซีย ดูเขาสนุกสนานกันมาก ไม่เหนื่อยเลย
แต่ละฐานจะสูงขึ้นๆ และเชือกก็ยาวขึ้นๆ ห้อยโหนกันมันส์เลยทีเดียว พี่เจ้าหน้าที่ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น พี่เขาบอกว่าบางคนไม่ยอมไป จนพี่เขาแกล้งบอกว่าไม่ไปสักทีจะถีบแล้วนะ ฮ่าๆ
ฐานนี้ชอบมาก ถ้ามาเป็นคู่รักนี่อย่างโรแมนติค (ไหมนะ?) โหนคู่....
ฐานไต่สะพานเชือก ฐานนี้พี่เจ้าหน้าที่พร้อมใจกันขย่มสะพานน่าดู ฮ่าๆ
มาถึงด่านหรโหดของเจ้าของกระทู้แล้วล่ะคะ 300 เมตร อยู่ดีดีพี่เจ้าหน้าที่ก็ถาม น้องหนักเท่าไหร่ครับ "42 ค่ะพี่" พี่เจ้าหน้าที่พากันส่วยหัว อย่างกะเรื่องใหญ่ หน้าตาซีเรียสมาก ฐานนี้น้องต้องถีบตัวแรงๆนะครับ เพราะถ้าหนักไม่เกิน 50 มีโอกาสไปไม่ถึง ต้องค้างเติ่งอยู่กลางเชือก
กรี๊ดดดดดดดดด!! ค้างอยู่ตรงกลาง 300 เมตร แล้วแม่เจ้า มันสูงงงงงงมาก อยากจะร้องไห้ งานนี้ให้เพื่อนคนนึงไปก่อน เกือบไม่รอดแน่ะ คิดในใจแล้วตูจะรอดไหม .... ในที่สุดคะ...ในที่สุด
ไม่รอด
พี่เจ้าหน้าที่ได้ปีนมาเก็บศพคะ ใช้เวลาเกือบ 10 นาที ขาห้องโตงเตงอยู่บนเชือก ขาสั่นพั่บๆๆๆ
ฐานสุดท้ายแล้วคะ โหนตัวลงมาข้างล่าง ซึ่งก็จะเจอกระท่อมออฟฟิศที่เรามาตอนแรกนั่นแหละ
จบกิจกรรมคะ ถามว่าคุ้มไหม คุ้มมาก เล่นแลวหายเหนื่อยปลดปล่อยสุดๆได้ตะโกนวี้ดว้ายตลอดทาง มันส์กว่าเที่ยวผับตอนกลางคืนอีกคะ ฮ่าๆ
นั่งรถกระบะกลับลงมาป๊ะกับเพื่อนสาวอีกสองคนข้างล่าง ที่นี่มีอาหารให้ทานฟรีด้วยนะคะ อร่อยใช้ได้
เดินทางกลับกรุงเทพแล้วคะ เหนื่อยมากมาย โชคดีที่เพื่อนคนขับไม่เล่นด้วย ไม่งั้นเป็นอันสลบด้วยกัน 1 คืน 2 วันที่สวนสัตว์เขาเขียวใช้ได้เลยคะ สำหรับเพื่อนๆที่ไม่มีเวลาออกต่างจังหวัดนานๆแนะนำที่นี่เลยคะ มาประทับใจด้วยกันนะ