"ปากน้ำปราณบุรี" เริ่มต้นหงุดหงิด ปิดท้ายประทับใจ ...... Slow Life a beautiful day

ผมเริ่มทริปนี้ด้วยความหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากได้จองที่พักไว้กับบ้านพักที่ปากน้ำปราณบุรีไว้ เป็นที่พักและร้านอาหารด้วย  ผมออกเดินทางจากบ้านที่นนทบุรี เกือบ 10.00 น. แวะเที่ยวระหว่างทางที่หัวหิน กว่าจะถึงปากน้ำปราณบุรีก็ประมาณ 16.00 น. ตั้งใจขับรถตรงไปที่พัก แต่ปรากฏว่า เจ้าของบ้านพักบอกว่าห้องเต็มแล้ว มีคนเข้าไปพักในห้องพักที่ผมจองไว้แล้ว ด้วยความเข้าใจผิด บลา ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้ง ๆ ที่ช่วงบ่ายโมง ทางบ้านพักโทรมาคอนเฟิร์มว่าจะมาเข้าพักใช่มั๊ย ผมก็คอนเฟิร์มไปแล้ว

ด้วยความที่ขี้เกียจเถียงก็เลยขอเงินมัดจำคืน และขับรถลัดเลาะถนนเรียบชายหาดไปหาที่พักเอาข้างหน้าก็แล้วกัน

ต้องขอบคุณพระเจ้า !!! Oh my GOD. เรามาเจอที่พักแห่งหนึ่งอยู่ติดถนนริมชายหาด ด้วยราคาที่ไม่ได้ ห้องก็พออยู่ได้ ไม่หรูเหมือนโรงแรมห้าดาว แต่ก็อยู่กันได้สบาย ๆ เราไปกันสี่คน เจ้าของ guest house ก็อนุญาติให้เราเปิดห้องเพียงห้องเดียวได้ ใจดีซะไม่มี (ปกติให้อยู่ได้ห้องละ 2 คน) ห้องราคา 1200 บาท มีเครื่องทำน้ำอุ่น มีโทรทัศน์ มี WiFi ให้ใช้ด้วย และค่อนข้างเป็นส่วนตัว โอเคเลยทีเดียว (ผมลืมไม่ได้ถ่ายสภาพห้องมาให้ดูขออภัย)


ด้านหน้าเป็นห้องพักจอดรถได้ และมีบริเวณสวนให้พักผ่อนหย่อนใจได้



บ้านไทยแหลมเกด อยู่ถนนริมชายหาด ที่มุ่งหน้าไปเขากะโหลก ใครสนใจพักติดต่อได้นะครับ ผมไม่ได้ค่าในหน้าหรือเป็นหน้าม้าแต่อย่างใด
กลายเป็นว่า ที่นี่ดูดีและราคาถูกกว่าที่ผมจองไว้เสียอีก

ทริปนี้เราตั้งใจไว้แล้วครับว่า เราจะมากิน กิน และกินอาหารทะเล เป็นหลัก
หลังจากเดินทางมาถึง และได้ที่พัก เราก็นอนพักที่ห้องพักหนึ่งคืน รุ่งเช้าก็จัดแจงแต่งตัวออกมาจากบ้านพักประมาณ 8.00 น. ไปหาซื้อสเบียบไว้กินกัน ขับรถมุ่งหน้าไปทางเขากะโหลกจะมีร้านขาย ปู และอาหารทะเลสด ๆ ที่เพิ่งขึ้นจากทะเลกันสด ๆ แกะจากอวนกันเห็น ๆ เลย


ปูม้าเป็น ๆ เพิ่งขึ้นจากเรือ ตัวใหญ่มาก กิโลละ 450 บาท .... (เลยมาอีกหน่อย มีอีกร้านโลละ 300 บาท แถมบอกว่าซื้อหลายโลลดได้อีก แนะนำว่าก่อนซื้อถามให้ทั่วๆ ก่อนครับ

ซื้อเสร็จแล้วเราก็ให้แม่ค้านึ่งให้เลย ปูตัวใหญ่มาก ไม่เคยเห็นปูขนาดนี้ตามตลาดในกรุงเทพฯเลย


บางตัวใหญ่กว่าฝ่ามืออีก  น่ากินใช่มั๊ยครับ สดมาก เนื้อหวานนนนนน จนไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลย
สุดยอดจริง ๆ

เช้านั้นเราได้ ปูม้าเป็น ๆ ไซต์ยักษ์ ๆ ไปสองโล แม่ค้านึ่งให้เรียบร้อย
ปลาหมึกตัวโต ๆ อีก สองโล กุ้งอีก 1 โล เตรียมไว้บาบีคิวในตอนเย็น

หลังจากนั้นเราหาเรือเพื่อไปเที่ยวชมปากแม่น้ำปราณบุรี ชมธรรม
ชาติริมแม่น้ำ ค่าเรือ 500 บาท วิ่งชมวิว ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ แนะนำว่าให้ขึ้นเรือหลัง 15.00 น. จะได้เห็นป่าชายเลนที่มีชีวิตชีวา มีปู มีหอย มีปลาตีนให้ได้ชมกัน สำหรับกรุ๊บผม ไม่รู้ไปนั่งตอนเที่ยงก็เห็นแต่น้ำกับป่าชายเลน แต่ก็ไม่น่าเบื่อครับ เพราะผมเองก็ไม่เคยดูบรรยากาศแบบนี้ เรื่อย ๆ เย็น ๆ คิดอะไรได้เรื่อยเปื่อย เพลินดีครับ





โชคดีครับ ไปเจอเรือกำลังงมหอยแมลงภู่พอดี ลุงคนขับเรือเลยถามว่าสนใจหอยแมลงภู่มั๊ย สด ๆ เลย ตัวอ้วนๆ รับรองอร่อยแน่นอน
ไม่ต้องถามครับ อย่างที่บอกไว้แล้วว่าทริปนี้ ความตั้งใจหลักคือมากินครับ เลยเทียบเรือเพื่อซื้อหอยทันที


คุณลุงคนเฝ้าเรือ ด้านบนจะมีคนเฝ้าเรือพร้อมกับดูเครื่องปั้มอากาศหนึ่งคน

และก็จะมีอีกคนดำลงไปงมหอย



คุณลุงเล่าให้ฟังว่า ใต้น้ำนี้ยังมีหอยแมลงภู่ หอยนางรม ให้งมหา ให้กิน ให้ขาย อีกเยอะ ยังอุดมสมบูรณ์ดีอยู่ ถ้าอยู่แถวนี้ขยันสักหน่อยก็ไม่อดตายหรอก

หอยเมลงภู่สด ๆ ตัวใหญ่มาก ลุงขายโลละ 50 บาท ผมบอกว่าเอาสองโล ลุงตักใส่ถุงมาเยอะมาก (ไม่มีกิโลชั่ง) น่าจะเกิน 3 โลแน่ ๆ ทั้งลดทั้งแจก แถมพูดจาดี น่าประทับใจครับ

หลังจากล่องเรือชมปากแม่น้ำปราณบุรีแล้ว ผมกลับที่พักเตรียมบาบีคิวปาร์ตี้กันครับ ที่พักที่ผมเช่ามีสถานที่ มีเตาปิ้ง มีอุปกรณ์ให้ มีน้ำจิ้มให้ฟรีอีก คุยกันตอนแรก เจ้าของที่พักบอกว่า 150 บาท ได้เตา ถ่าน พร้อมอุปกรณ์ และน้ำจิ้ม แต่พอเอาเข้าจริงตอนจ่ายเงิน กลับคิดแค่ ร้อยเดียว ... ทริปนี้ผมประทับใจกับน้ำใจคนปราณบุรีจริง ๆ

ขากลับผมแวะเที่ยวที่ วนอุทยานปราณบุรี ในวนอุทยาน จะมีที่เที่ยวสำคัญอยู่สองที่ คือชายหาด ที่เป็นส่วนตัวมาก มีคนเล่นน้ำน้อยมาก และก็ทางเดินชมป่าชายเลน แนะนำให้มาเดินชมหลัง 15.00 น. จะได้เห็นสัตว์เยอะหน่อยครับ


ระหว่างทางเดินชมป่าชายเลนจะมีที่นั่งให้นั่งพักได้เป็นระยะ รวมระยะทางเดิน 1 กม. พอดี





ชายหาดสวยมาก น้ำไม่ลึกแต่คลื่นแรงหน่อย น่าเล่นครับ



บรรยากาศเป็นส่วนตัวมาก ไม่พลุกพล่าน


มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ของวนอุทยานไว้บริการ ไม่เก็บค่าบริการครับ บริจาคตามกำลัง


ก่อนกลับเนื่องจากเล่นน้ำกันเหนื่อย ... หิวครับ เลยพักทานข้าวที่ร้านอาหารสวัสดิการของวนอุทยาน
อาหารราคาถูกและอร่อยมากครับ




แถมยังแจกโปสการ์ดสวย ๆ ให้ฟรีด้วย




--------------------------------------------------------------------------------

สรุปนะครับ
1. ซื้ออาหารทะเลสด ๆ ให้ซื้อริมชายหาด จะมีเพิงร้านค้าขาย บริเวณทางไปเขากะโหลก ให้ไปแต่เช้า 6.00 - 8.00 น. ไปช้ากว่านั้นอาจจะไม่ได้ปู และอาหารทะเลสด อื่น ๆ  (มีอีกที่อยู่แถวท่าเรือ แถว ๆ ร้าน กินปู ผมไม่ได้ไปซื้อแถวนั้นเลยไม่กล้าแนะนำครับ)
2. ลงเรือไปชมปากน้ำปราณ ควรไปหลัง 15.00 น. จะเห็น กุ้ง หอย ปู ปลา บริเวณหาดชายเลนปากแม่น้ำ จำนวนมาก สวยยยย หากไปก่อนนั้น จะเห็นแต่น้ำกับต้นไม้ แล้วก็เรือประมง
3. การไปเดินชมป่าชายเลน ในวนอุทยานก็เช่นกัน ควรไปหลัง 15.00 น. อากาศเย็นสบายไม่ร้อน และได้เห็นสัตว์ในป่าชายเลน
4. ห้องพักแนะนำ บ้านไทยแหลมเกด เจ้าของคุยดี ใจดี ราคาถูก เป็นกันเอง บรรยากาศดี
5. ไม่เหมาะสำหรับคนชอบแสงสีเสียง เหมือนพัทยา หรือแหล่งท่องเที่ยวอืน ๆ แต่เหมาะสำหรับคนที่จะมาพักผ่อน ชิว ๆ ทำเวลาในชีวิตให้เดินช้าลง อย่างสบาย ๆ
6. คน "ปากน้ำปราณ" ใจดี ลดแลกแจกแถม พูดคุยดี ประทับใจครับ

ดึกแล้ว ขอจบกระทู้รีวิวแรกในชีวิตไว้แค่นี้ก่อนนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่จะไปเที่ยวปากน้ำปราณ .......  bye
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่