วันพีช คืออะไร?



        ผมไปเจอบทความนี้มาจากเว็ป  http://platootv.com ซึ่งอ่านและก็ชอบ และมีความเป็นไปได้สูง จึงนำมาแชร์..

  บทความนี้ผม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แปลมาจากภาษาอังกฤษ (แปลเอง ไม่ได้ใช้อากู๋)โดยต้นฉบับถูกคิดและเขียนโดย Ashura_KingFisher แห่ง ArlongParkForums
ผมไปเจอมาจาก Chrome_mist แห่ง CrunchyRoll   เห็นว่าน่าสนใจและมีความเป็นไปได้มากที่สุดเท่าที่เคยหาอ่านมา จึงอยากเอามาแปลให้ผู้อื่นที่สนใจอ่านบ้าง ใครอยากอ่านต้นฉบับก็ไปที่เครดิตได้เลย คำบางคำผมจะใช้ภาษาอังกฤษหรืออ่านทับศัพท์ไปเลย เพราะเข้าใจได้ง่ายกว่าคำแปล มันอาจจะยาวซักหน่อย แต่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่นอน


คำเตือน
“บทความนี้ สปอยด์ ขั้นรุนแรง ใครที่ยังไม่เคยอ่านวันพีช หรือยังอ่านไม่ถึงตอนที่ 600 (ถ้ารวมเล่มไทยก็ควรอ่านเกินเล่มที่ 65 ไปแล้ว) และไม่อยากถูกสปอยด์ก็ข้ามไปได้เลยครับ”

สืบสานปณิธาน “วันพีช”

“ช่วงร้อยปีแห่งความว่างเปล่า”

เริ่มจากสรุปเรื่องราวความเป็นมาก่อน
          อย่างที่เรารู้กัน มียุคๆหนึ่งในวันพีชเรียกว่า ช่วงเวลาร้อยปีแห่งความว่างเปล่า (The Void Century) นอกจากกลุ่มโจรสลัดโรเจอร์แล้ว ไม่มีผู้ใดที่ยังมีชีวิตอยู่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาร้อยปีนั้น  อย่างไรก็ตาม นักโบราณคดีแห่งโอฮารา ศจ.โคลเวอร์ มีเบาะแสบางอย่าง เขากล่าวว่า ในเวลานั้นมีอาณาจักรโบราณที่รุ่งเรืองและมีอำนาจมากแห่งหนึ่งปกครองทั่วทั้งมหาสมุทร แต่พวกเขาก็มีศัตรูจำนวนหนึ่ง ศัตรูเหล่านี้รู้สึกว่าถูกคุกคามจากการมีอยู่ของอาณาจักรและนโยบายการปกครองของพวกเขา ดังนั้นจึงทำการรุกรานอาณาจักรนี้ และก็ทำได้สำเร็จ อาณาจักรโบราณล่มสลาย และด้วยกลวิธีบางอย่าง ศัตรูเหล่านั้นได้จัดการลบร่องรอยทุกชิ้นที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรนั้นออกไปจากประวัติศาสตร์จนหมดสิ้น  ชั่งเป็นความบังเอิญที่การสิ้นสุดของอาณาจักรโบราณนั้น เป็นจุดสิ้นสุดของช่วงเวลาร้อยปีที่ว่างเปล่าพอดี ในขณะเดียวกัน รัฐบาลโลก ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก ศจ.โคลเวอร์ ก็เลยมีทฤษฎีว่า รัฐบาลโลก ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นศัตรูกลุ่มที่ว่านั้นนั่นเอง

เริ่มทฤษฏีเกี่ยวกับวันพีช

เส้นทางที่ถูกปิดซ่อนไว้
มีอยู่ 3 สิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
1. ความใฝ่ฝันของมนุษย์
2. การเวลาที่ไหลผ่านไป
3. การสืบสานปณิธาน
ตราบใดที่มนุษย์ยังดั้นด้นค้นหาความหมายของคำว่า “อิสรภาพ” พวกเขาจะไม่มีทางหยุดยั้ง
โดย โกลด์ ดี. โรเจอร์ (Gold D. Roger)


         ข้อความนี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกในตอนที่ 100 และดูเหมือนว่าจะเป็นคำคมทั่วๆไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดำเนินไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ผมก็ตระหนักได้ว่า (คิดว่าหลายคนในที่นี้คงรู้สึกได้เหมือนกัน) เนื้อเรื่องของวันพีชดำเนินรอยตาม 3 ข้อที่กล่าวมา
         1. ความใฝ่ฝันของมนุษย์
          2. การเวลาที่ไหลผ่านไป
          3. การสืบสานปณิธาน
อย่างเช่น
1. ซากุระของ ดร.ฮิลรุค
          ดร.ฮิลรุค มีเป้าหมายที่แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่อย่าง คือการสร้างยารักษาสารพัดโรค อย่างไรก็ตามการทดลองของเขาล้มเหลวจนเวลาผ่านไป 30 ปี ในที่สุด ก็สามารถทำให้ซากุระของ ดร.ฮิลรุค เบ่งบาน แต่มันก็ยังไม่ใช่ยาที่เขาต้องการอยู่ดี ช็อปเปอร์ซึ่งเทิดทูน ดร. มาก จึงอาสาสืบสานปณิธานนี้ต่อ และตัดสินใจออกเรือไปกับลูฟฟี่

2. ระฆังทองแห่งเชนดอเรีย
          เพื่อนสนิทสองคนถูกแยกออกจากกันบนชายฝั่งของจายา มิตรภาพของพวกเขาไม่ได้จบลงตรงนั้น พวกเขาสัญญากันว่าจะพบกันอีกครั้งในสักวัน คัลการาตีระฆังทองตลอดมาเพื่อที่เพื่อนของเขาจะได้ไม่หลงลืม โชคร้ายที่โชคชะตาทำให้เกาะจายาลอยขึ้นไปบนฟ้าสูง 10000 เมตร หลังจากนั้น คัลการาตายในสงคราม ขณะที่โนแลนด์ถูกประหารที่บ้านเกิด คำสัญญาของพวกเขาก็เลยถูกฝังไปพร้อมกัน ณ ตอนนั้น
400 ปีถัดมา เด็กชายที่ชื่อว่าลูฟฟี่ ได้ค้นพบและทำให้ระฆังทองที่สาบสูญกลับมาส่งเสียงอีกครั้ง เป็นการเติมเต็มคำสัญญาที่ถูกลืมไป

3. ทะเลออลบลู (All Blue)
          เชฟขาแดง เซป ต้องการที่จะหาทะเลออลบลูในตำนาน แต่การล่องเรือเป็นปีในแกรนไลน์ไม่ได้ให้เบาะแสอะไรแก่เขาเลย อย่างไรก็ดี เขายังคงเชื่อว่ามันมีจริงอยู่ที่ไหนซักแห่งในโลกนี้ ดังนั้นเขาจึงส่งต่อปณิธานนี้ให้แก่ซันจิ โดยหวังว่าซันจิจะทำมันให้สำเร็จได้ในสักวัน

ผมเลือกมาเป็นตัวอย่างแค่ 3 เหตุการณ์ แต่จริงๆแล้วมีมากกว่านั้นเยอะ ดังนั้นทุกคนคงมองเห็นภาพแล้วใช่ไหม ว่าในที่นี้ผมหมายถึง
  1. ในอดีต จะมีใครสักคนที่มีความฝัน, เป้าหมาย หรือ คำสัญญาอันแน่วแน่ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถบรรลุมันได้
(ความใฝ่ฝันของมนุษย์)
  2. ความฝันนั้นล่วงเลยผ่านพ้นไปตามเวลาหลายปี
(การเวลาที่ไหลผ่านไป)
  3. ในที่สุด จะต้องมีใครสักคนในอนาคตที่จะมาสานฝันนั้นต่อ และทำมันให้สำเร็จ
(การสืบสานปณิธาน)
          ใช่แล้ว ตั้งเริ่มบทแรกจนถึงตอนนี้ เนื้อเรื่องของวันพีชมักจะดำเนินและเป็นไปตามรูปแบบนี้เสมอ ผมค่อนข้างประหลาดใจอยู่เหมือนกันที่เราผ่านเรื่องราวลักษณะนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมคิดว่าบางคนคงเอะใจอยู่เหมือนกัน ผมเรียกรูปแบบ แบบนี้ว่า Golden Pattern เพราะโกลด์ ดี โรเจอร์ บัญญัติมันขึ้นมา

     ถึงตอนนี้มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า แล้วโรเจอร์หล่ะ มีเส้นทางรูปแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่ และแล้วความสงสัยของผมก็กระจ่างเมื่อได้อ่านวันพีชบทที่ 576  




ปรากฎว่าโรเจอร์เองก็มีปณิธานของตัวเองเหมือนกัน และสิ่งนั้นได้ถูกส่งต่อมาเป็นเวลามากกว่าร้อยปี เขารอคอยที่จะพบใครสักคนที่จะสืบสานปณิธานนี้ต่อ ที่เหมือนกับว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างกับ วันพีชแล้วมันคืออะไรหล่ะ? อะไรคือความใฝ่ฝันของโรเจอร์?


ความฝันของโรเจอร์

“โกลเด้นแบบ”  (สิ่งที่อ่านต่อจากนี้เป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้น ยังไม่ปรากฎในเนื้อเรื่อง)
“ความใฝ่ฝันของมนุษย์”
         ปณิธานของโรเจอร์คือสิ่งที่หนวดขาวพูดถึง จริงๆแล้วมันไม่ได้เกิดจากตัวโรเจอร์เอง เขาได้รับสืบทอดมันต่อมาอีกที ซึ่งต้องย้อนไปราวๆ 800 ปีที่แล้ว ใช่แล้ว มันเป็นปณิธานอาณาจักรโบราณสร้างขึ้นนั้นเองอาณาจักรโบราณป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งปกครองและควบคุมเกือบจะทั้งโลก (เหมือนกับที่รัฐบาลโลกเป็นอยู่ในปัจจุบัน) พวกเขาแสดงให้เห็นว่าเป็นประชากรที่ค่อนข้างล้ำสมัย แต่สามารถพูดได้ว่าแทบจะไม่มีประโยชน์ เพราะพวกเขาไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจได้เลยด้วยสิ่งที่เขามีในเวลานั้นอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีประเด็นอย่างที่เรารู้กัน ในโลกของวันพีช แบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ  อีสบลู เวสบลู นอร์ทบลู และ เซาท์บลู  แต่ละแห่งถูกคั่นด้วย เรดไลน์ และ แกรนไลน์ อาณาจักรโบราณเห็นว่า เรดไลน์และแกรนไลน์เป็นอุปสรรคสำคัญเพราะมันเป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ให้คนเดินทางข้ามจากทะเลหนึ่งไปยังอีกทะเลหนึ่งได้ และยังเป็นการป้องกันไม่ให้อาณาจักรโบราณแผ่ขยายอาณาเขตได้อย่างสมบูรณ์
      ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างโปรเจ็คนี้ขึ้นมา เป็นโปรเจ็คที่บ้าบิ่น แต่มันก็จำเป็นต้องทำ โปรเจ็คนี้เกี่ยวข้องกับการทำลายเรดไลน์และแกรนไลน์ เพื่อที่จะหลอมรวมทะเลทั้ง 4 เป็นทะเลใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ชื่อเรียกของโปรเจ็คนี้ก็คือ วันพีช วิธีการก็คือ พวกเขาเริ่มคิดค้นอาวุธซึ่งจะต้องมีอานุภาพเพียงพอที่จะทำลายเรดไลน์ได้ ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า อาวุธโบราณ (Ancient Weapons)  แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับโปรเจ็คนี้ อาณาจักรอื่นๆ ลุกขึ้นมาต่อต้าน พวกเขาได้กลิ่นผิดปกติว่ามีอะไรอยู่เบื่องหลังโปรเจ็คนี้ แต่อาณาจักรโบราณยืนยันที่จะทำต่อไปไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เดาซิว่าเกิดอะไรขึ้น มหาสงครามปะทุขึ้น ระหว่างอาณาจักรโบราณ กับ กลุ่มอาณาจักรอื่นๆทั้ง 20 อาณาจักร ที่ต่อต้าน วันพีช
    ในที่สุด กลุ่ม 20 อาณาจักร ก็เป็นฝ่ายชนะ และทำการยกระดับตัวเองขึ้นเป็นรัฐบาลโลก ในขณะที่อาณาจักรโบราณได้ล่มสลายหายไปพร้อมกับประวัติศาสตร์ของตัวเอง และแล้วโปรเจ็ค วันพีช ก็ไม่ได้ถูกกล่าวถึงอีกเลย


“การเวลาที่ไหลผ่านไป”
          เป็นเรื่องไม่คาดฝันที่อาณาจักรโบราณเกิดการล่มสลาย แต่ก่อนที่สงครามจะเริ่มต้นขึ้นพวกเขาได้สลักข้อความบอกเล่าประวัติศาสตร์ลงไปบนโลหะอย่างดีชนิดหนึ่งซึ่งทนทานเหมือนเพชร ต่อมาถูกเรียกว่า โพเนกลีฟ และซ่อนพวกมันไว้ทั่วทุกมุมโลกพร้อมกับอาวุธโบราณที่พวกเขาสร้างขึ้น อาณาจักรโบราณต้องการให้แน่ใจว่าความปรารถนาของพวกเขาจะไม่สูญหายไป ถ้าหากว่าเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรกับพวกเขาขึ้นมา แน่นอนว่ารัฐบาลโลกไม่พอใจอย่างมากและได้ทำการสั่งระงับการค้นคว้าศึกษาโพเนกลีฟอย่างเด็ดขาด  แต่สายเกินไปซะแล้ว ปณิธานนี้ได้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นอย่างเงียบๆตั้งแต่นั้น รอคอยใครสักคนตอบรับมัน

“การสืบสานปณิธาน”
          800 ปีผ่านไป โจรสลัดนามว่า โรเจอร์ สามารถไปถึงเกาะสุดท้าย ราฟเทล และค้นพบข้อเท็จจริงของประวัติศาสตร์ เขารู้ทันทีว่าต้องทำอย่างไรต่อไป แต่โชคร้ายที่ร่างกายของเขาไม่สามารถตอบสนองตามความต้องการได้ เขาเป็นโรคที่รักษาไม่หาย จำได้ใช่ไหมว่า โปรเจ็คนี้ต้องการทั้งกำลังและเวลาอย่างมหาศาล ซึ่งเขาไม่มี ณ เวลานั้นอย่างไรก็ดี เขาตัดสินใจที่จะสร้างยุคทองแห่งโจรสลัดขึ้นมาแทน โดยหวังว่าจะมีใครสักคนที่แข็งแกร่งและดีพอที่จะเข้ามาทำให้ความปรารถนาของเขาสมบูรณ์ได้ ใครกันหนอที่จะเป็นคนคนนั้น ผมคิดว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจ


โปรเจ็ค วันพีช (Project Onepiece)

เอาหล่ะ ทีนี้เจ้าโปรเจ็คที่ว่านี้ต้องทำอย่างไรการหลอมรวมทะเลทั้ง 4 เป็นหนึ่งเดียว จะคุ้มค่ากับการเดินทางฝ่าฟันของพวกลูฟฟี่หรือไม่
ผมจะอธิบายให้ฟังนี่คือโลกของวันพีชอย่างคร่าวๆ



    

    แนวความคิดของโปรเจ็ควันพีช คือ การสร้างทะเลหนึ่งเดียว ทะเลที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินเรือ ดังนั้นจึงเกิดสิ่งที่ต้องทำ 2 อย่าง คือ รวมทะเลทั้ง 4 เป็นอันหนึ่งอันเดียวและกำจัดลักษณะเฉพาะของแกรนไลน์ (สภาพอากาศสุดขั้วของแกรนไลน์และเขตลมสงบคามเบลท์)

กำจัดลักษณะแฉพาะของแกรนไลน์เป็นไปได้เหรอ?
       มันเป็นไปได้สำหรับนักวิทยาศาสตร์ของอาณาจักรโบราณ กลวิธีก็คือ ทำลายจุดที่ทะเลทั้งหลายบนโลกมาบรรจบกันที่จุดเดียวกัน ได้แก่ อิสบลู เวสบลู นอร์ทบลู เซาท์บลู แกรนไลน์ ทะเลโลกใหม่ และ คามเบลท์

  มันมีจุดที่ว่านั่นด้วยเหรอ?

          ที่จริงแล้ว มีถึงสองจุดทีเดียว และทั้งคู่จะต้องถูกทำลาย จุดทั้งสองนั้นคือ จุดที่ Reverse Mountain และ แมรี่ จัวร์/เกาะเงือก บนเรดไลน์






ลองคิดดู มันเป็นไปได้ใช่ไหม แมรี่ จัวร์/เกาะเงือก ก็มีลักษณะภูมิประเทศคล้ายกันเพียงแต่อยู่อีกด้าน  ทีนี้จุดบรรจบก็ได้ถูกกำหนดแล้ว ต่อไปก็ได้เวลาของอาวุธโบราณ นำมาใช้ทำลายจุดบรรจบทั้งสองโอเค เริ่มจากระเบิด Reverse Mountain ทิ้งซะก่อน  บูมมมมมมม……



ถึงแม้จะมีอาวุธโบราณที่ทรงอานุภาพมาก แต่การทำลายล้างครั้งนี้ก็ต้องถูกคำนวณไว้อย่างดีและต้องทำให้ถูกขั้นตอนอย่างแม่นยำ ถ้าหากประสบผลสำเร็จ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ



   มีการสูญเสียผืนดินเป็นวงกว้าง ทะเลจะปั่นป่วนมากกว่าเดิม ทำให้เกิดน้ำวนขนาดมหึมาที่จุดกึ่งกลางของการการทำลาย มีพายุและคลื่นลมแรงทั่วทุกแห่ง แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว จากนั้นไม่กี่วันเหตุการณ์ก็จะคลี่คลายและสงบลง และแล้ว ปรากฎการณ์มหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น  สภาพอากาศสุดขั้วของทะเลในฝั่งแกรนไลน์ และฝั่งโลกใหม่จะไม่มีอีก สนามแม่เหล็กที่ทำให้เข็มทิศธรรมดาใช้การไม่ได้จะหายไป แม้กระทั่งในเขตคามเบลท์ก็เริ่มที่จะมีลมพัดผ่าน ......


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่