ขอสมมุติว่า เอ คือคนที่ผมกำลังจีบ
และ บี คือแฟนเก่าของ เอ นะครับ
..........เริ่มจากเมื่อปลายปี 56 ก่อนผมได้รู้จักกับ เอ ทางไลน์ที่เพื่อนผู้หญิงของผมคนหนึ่งแนะนำเธอให้รู้จักกับผม จากนั้นผมก็คุยกับเธอนิดๆ หน่อยๆ ถึงจะไม่ได้คุยแบบจีบอะไรแต่ก็ ไม่ถึงกับน้อยแบบถามคำตอบคำครับ เอ เขาเป็นคนสวยจากที่เห็นในรูป จากนั้นไม่นานผมก็ได้มีโอกาสเจอตัวจริงๆ ของเธอซึ่งก็เหมือนในรูปเปี๊ยบ
..........หลังจากที่เจอกัน เอ ก็ไลน์มาคุยกับผมมากขึ้นและบ่นว่าทะเลาะกับ บี แฟนของเอมาเรื่องและถูกท้าเลิก ผมเองก็ได้ให้คำแนะนำไปว่าคบกันมาก็นานพอควรน่าจะรอให้ใจเย็นๆ แล้วค่อยคุยกันใหม่ จากนั้นซัก 2-3 เดือน เอ ก็บอกว่าเคยทำตามที่ผมแนะนำไปแล้วซึ่ง บี ก็รับปากว่าจะไม่ไปจีบไปยุ่งผู้หญิงคนอื่นอีก แต่สุดท้ายก็ถูก เอ จับได้ จน เอ ยื่นคำขาดขอเลิกเด็ดขาด หลังจากนั้นหลายเดือน เอ ก็ไลน์มาคุยกับผมอีกคราวนี้ก็เริ่มคุยกันมากขึ้นจนสุดท้ายก็ได้ขอเบอร์โทรศัพท์คุยกัน จนเรามีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่งผมก็ชวนเธอไปเดทซึ่งเธอก็ตกลง จากนั้นเราก็ไปเดทกันหลายครั้งต่อหลายครั้ง และมีครั้งหนึ่งเราไปเที่ยวทะเลกันเป็นกลุ่มใหญ่ เธอกับผมก็นอนห้องเดียวกัน ซึ่งผมเธอเองก็กลัวว่าผมจะทำอะไร แต่สไตล์ผมจะไม่ทำอะไรกับผู้หญิงที่อยู่ตามลำพังกับตัวผมในคืนแรกเด็ดขาดเพื่อให้เกียรติพวกเธอ ช่วงนั้นผมก็ขอคบกับเธอ ซึ่งเธอก็บอกว่าต้องเหมือนเดิมนะ ผมก็ตกลง
..........จากนั้นผมก็อาสารับเธอจากหอไปส่งที่บ้านของเธอซึ่งค่อนข้างไกลกัน เธอก็ถามว่ากล้าไปเจอพ่อแม่เธอรึเปล่าผมก็บอกว่า "กล้าสิ" เมื่อไปเจอพ่อแม่ของ เอ พวกท่านก็ต้อนรับผมอย่างดีและยังแปลกใจเลยว่าลูกสาวพาผู้ชายมาที่บ้านเป็นครั้งแรก และก็ขอฝากให้ผมดูแล เอ ด้วย
..........เดทกันหลายเดือนจนกระทั่งปลายปี 57 เธอก็โทรมาหาผม ผมก็รับสายตามปกติปรากฎว่าคนที่ใช้โทรศัพท์ของ เอ คือ บี ซึ่งเป็นแฟนเก่าของเธอนั่นเอง บี บอกว่า เอ กลับไปคุยกับเขาแล้วและก็ให้ เอ คุยสายกับผม ซึ่งเธอบอกว่าพ่อเธอบอกว่าไม่ให้คบกับผมแล้ว ผมเองก็งงๆ ทั้งๆ ที่ท่านเพิ่งฝากให้ดูแลลูกสาวไม่กี่วันก่อนนี่นา จากนั้นผมเองก็ไปหาเธอเพื่อถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเธอก็บอกว่าตามที่คุยกันนั่นแหล่ะ ผมคิดว่าพ่อเธอกีดกันผมจริงๆ ก็เลยคิดจะยอมแพ้ไปแล้วในตอนนั้น
..........แต่จากนั้นผมได้ทราบจากพ่อแม่ของ เอ ว่าไม่เคยบอกอะไรอย่างนั้นเลย (พวกท่านรู้เรื่องนี้จากคนอื่นที่ไม่ใช่ผม กับ เอ ครับ) พอได้คุยกันจริงๆ ถึงพอจะรู้ว่า เอ เองก็ไม่ค่อยจะพอใจ บี แต่ก็ไม่ยอมเล่ารายละเอียดใดๆ (ผมเองคิดในใจและกลัวว่า บี จะถ่ายรูป อัดคลิป หรือมีอะไรไว้แบล็คเมล์ เอ รึเปล่า เพราะวันนั้น บี โทรเรียก เอ ไปหาเขาถึงที่บ้านเลยซึ่งมีพ่อแม่พี่ห้องเขาอยู่ครบและ เอ ก็ยอมไป) ผมก็เลยยกโทษให้เธอและขอคบกับเธอต่อ ซึ่ง เอ ก็ขอโทษผม แต่ เอ บอกว่าผมเองไม่ใช่แฟนของเธอแต่ถ้าผมจะจีบเธอ เธอก็ไม่รังเกียจ ผมก็โอเค เพราะว่าผมรักเธอมากไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรมาผมก็ยังรักเธออยู่ เรื่องทั้งหมดนี้พ่อแม่ของ เอ ก็รู้เรื่องและได้ตักเตือนลูกสาวด้วยว่าจะคบใครก็ขอให้คบคนเดียวไปเลย และแล้วเราก็เริ่มกลับมาคุยและไปโน้นไปนี่กันอีกครั้ง
..........จากนั้นอีก 3-4 เดือน เอ ก็โทรมาอีก ไม่น่าเชื่อ บี ก็ยังใช้โทรศัพท์ เอ โทรมาหาผมอีก และถามว่าผมไปยุ่งกับ เอ ทำไมไมู่รู้เหรอว่าเขากำลังคุยกับ เอ อยู่ ผมก็บอกว่า เอ บอกว่าเลิกคบกับ บี ไปนานแล้ว และตัวเขายังไม่มีแฟนผมเองก็มีสิทธิ์จีบ เอ ได้สิ และ บี ก็ให้ เอ มาคุยกับผม เช่นเคย เอ บอกกว่า "ไม่ต้องโทรมาหาแล้วนะ"
..........หลังเกิดเรื่องผมรอตอนดึกๆ ที่เธอน่าจะกลับหอแล้วโทรหาเธอถามเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งเธอไม่ยอมเล่ารายละเอียดอีกเช่นเคย แต่บอกว่าไม่ได้คิดอย่างที่พูดจริงๆ และบอกว่า บี ก็เป็นพวกอันธพาลอย่างนี้แหล่ะ แล้วก็ถามว่าผมคิดยังไง ผมบอกว่าไม่ได้คิดอะไรมากหรอก เธอก็พยายามให้ผมบอกความจริง ผมก็เลยบอกไปว่า เสียใจและน้อยใจมากนะแต่เราไม่ใช่แฟนกันผมเองก็เลยออกตัวอะไรมากไม่ได้ เอ ก็บอกว่าไม่มีอะไรกับ บี จริงๆ
----------เจออย่างนี้เข้าไปผมเองก็งงเลยสิครับ ถ้าไม่คิดจะจริงจังกับผมแล้วทำไมถึงพาผมไปหาพ่อแม่เขา และถ้าคิดจะจริงจังกับผมทำไมถึงต้องไปหา บี ด้วย เพื่อนๆ ช่วยวิเคราะห์ทีครับว่า เอ คิดอะไรอยู่กันแน่
***ผมรักเขามากนะครับหวังแต่งด้วย ตอนนี้ถึงไม่ค่อยจะมีเงินจนเริ่มหมุนเงินในแต่ละเดือนเกือบไม่ทัน แต่ก็เริ่มที่จะเก็บเงินไว้เพื่ออนาคตแล้วครับ แต่เจอแบบนี้ไปไม่เป็นเลยอ่ะครับ
สงสัยว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ครับ ทั้งกับแฟนเก่า และกับผมที่กำลังตามจีบ
และ บี คือแฟนเก่าของ เอ นะครับ
..........เริ่มจากเมื่อปลายปี 56 ก่อนผมได้รู้จักกับ เอ ทางไลน์ที่เพื่อนผู้หญิงของผมคนหนึ่งแนะนำเธอให้รู้จักกับผม จากนั้นผมก็คุยกับเธอนิดๆ หน่อยๆ ถึงจะไม่ได้คุยแบบจีบอะไรแต่ก็ ไม่ถึงกับน้อยแบบถามคำตอบคำครับ เอ เขาเป็นคนสวยจากที่เห็นในรูป จากนั้นไม่นานผมก็ได้มีโอกาสเจอตัวจริงๆ ของเธอซึ่งก็เหมือนในรูปเปี๊ยบ
..........หลังจากที่เจอกัน เอ ก็ไลน์มาคุยกับผมมากขึ้นและบ่นว่าทะเลาะกับ บี แฟนของเอมาเรื่องและถูกท้าเลิก ผมเองก็ได้ให้คำแนะนำไปว่าคบกันมาก็นานพอควรน่าจะรอให้ใจเย็นๆ แล้วค่อยคุยกันใหม่ จากนั้นซัก 2-3 เดือน เอ ก็บอกว่าเคยทำตามที่ผมแนะนำไปแล้วซึ่ง บี ก็รับปากว่าจะไม่ไปจีบไปยุ่งผู้หญิงคนอื่นอีก แต่สุดท้ายก็ถูก เอ จับได้ จน เอ ยื่นคำขาดขอเลิกเด็ดขาด หลังจากนั้นหลายเดือน เอ ก็ไลน์มาคุยกับผมอีกคราวนี้ก็เริ่มคุยกันมากขึ้นจนสุดท้ายก็ได้ขอเบอร์โทรศัพท์คุยกัน จนเรามีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่งผมก็ชวนเธอไปเดทซึ่งเธอก็ตกลง จากนั้นเราก็ไปเดทกันหลายครั้งต่อหลายครั้ง และมีครั้งหนึ่งเราไปเที่ยวทะเลกันเป็นกลุ่มใหญ่ เธอกับผมก็นอนห้องเดียวกัน ซึ่งผมเธอเองก็กลัวว่าผมจะทำอะไร แต่สไตล์ผมจะไม่ทำอะไรกับผู้หญิงที่อยู่ตามลำพังกับตัวผมในคืนแรกเด็ดขาดเพื่อให้เกียรติพวกเธอ ช่วงนั้นผมก็ขอคบกับเธอ ซึ่งเธอก็บอกว่าต้องเหมือนเดิมนะ ผมก็ตกลง
..........จากนั้นผมก็อาสารับเธอจากหอไปส่งที่บ้านของเธอซึ่งค่อนข้างไกลกัน เธอก็ถามว่ากล้าไปเจอพ่อแม่เธอรึเปล่าผมก็บอกว่า "กล้าสิ" เมื่อไปเจอพ่อแม่ของ เอ พวกท่านก็ต้อนรับผมอย่างดีและยังแปลกใจเลยว่าลูกสาวพาผู้ชายมาที่บ้านเป็นครั้งแรก และก็ขอฝากให้ผมดูแล เอ ด้วย
..........เดทกันหลายเดือนจนกระทั่งปลายปี 57 เธอก็โทรมาหาผม ผมก็รับสายตามปกติปรากฎว่าคนที่ใช้โทรศัพท์ของ เอ คือ บี ซึ่งเป็นแฟนเก่าของเธอนั่นเอง บี บอกว่า เอ กลับไปคุยกับเขาแล้วและก็ให้ เอ คุยสายกับผม ซึ่งเธอบอกว่าพ่อเธอบอกว่าไม่ให้คบกับผมแล้ว ผมเองก็งงๆ ทั้งๆ ที่ท่านเพิ่งฝากให้ดูแลลูกสาวไม่กี่วันก่อนนี่นา จากนั้นผมเองก็ไปหาเธอเพื่อถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเธอก็บอกว่าตามที่คุยกันนั่นแหล่ะ ผมคิดว่าพ่อเธอกีดกันผมจริงๆ ก็เลยคิดจะยอมแพ้ไปแล้วในตอนนั้น
..........แต่จากนั้นผมได้ทราบจากพ่อแม่ของ เอ ว่าไม่เคยบอกอะไรอย่างนั้นเลย (พวกท่านรู้เรื่องนี้จากคนอื่นที่ไม่ใช่ผม กับ เอ ครับ) พอได้คุยกันจริงๆ ถึงพอจะรู้ว่า เอ เองก็ไม่ค่อยจะพอใจ บี แต่ก็ไม่ยอมเล่ารายละเอียดใดๆ (ผมเองคิดในใจและกลัวว่า บี จะถ่ายรูป อัดคลิป หรือมีอะไรไว้แบล็คเมล์ เอ รึเปล่า เพราะวันนั้น บี โทรเรียก เอ ไปหาเขาถึงที่บ้านเลยซึ่งมีพ่อแม่พี่ห้องเขาอยู่ครบและ เอ ก็ยอมไป) ผมก็เลยยกโทษให้เธอและขอคบกับเธอต่อ ซึ่ง เอ ก็ขอโทษผม แต่ เอ บอกว่าผมเองไม่ใช่แฟนของเธอแต่ถ้าผมจะจีบเธอ เธอก็ไม่รังเกียจ ผมก็โอเค เพราะว่าผมรักเธอมากไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรมาผมก็ยังรักเธออยู่ เรื่องทั้งหมดนี้พ่อแม่ของ เอ ก็รู้เรื่องและได้ตักเตือนลูกสาวด้วยว่าจะคบใครก็ขอให้คบคนเดียวไปเลย และแล้วเราก็เริ่มกลับมาคุยและไปโน้นไปนี่กันอีกครั้ง
..........จากนั้นอีก 3-4 เดือน เอ ก็โทรมาอีก ไม่น่าเชื่อ บี ก็ยังใช้โทรศัพท์ เอ โทรมาหาผมอีก และถามว่าผมไปยุ่งกับ เอ ทำไมไมู่รู้เหรอว่าเขากำลังคุยกับ เอ อยู่ ผมก็บอกว่า เอ บอกว่าเลิกคบกับ บี ไปนานแล้ว และตัวเขายังไม่มีแฟนผมเองก็มีสิทธิ์จีบ เอ ได้สิ และ บี ก็ให้ เอ มาคุยกับผม เช่นเคย เอ บอกกว่า "ไม่ต้องโทรมาหาแล้วนะ"
..........หลังเกิดเรื่องผมรอตอนดึกๆ ที่เธอน่าจะกลับหอแล้วโทรหาเธอถามเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งเธอไม่ยอมเล่ารายละเอียดอีกเช่นเคย แต่บอกว่าไม่ได้คิดอย่างที่พูดจริงๆ และบอกว่า บี ก็เป็นพวกอันธพาลอย่างนี้แหล่ะ แล้วก็ถามว่าผมคิดยังไง ผมบอกว่าไม่ได้คิดอะไรมากหรอก เธอก็พยายามให้ผมบอกความจริง ผมก็เลยบอกไปว่า เสียใจและน้อยใจมากนะแต่เราไม่ใช่แฟนกันผมเองก็เลยออกตัวอะไรมากไม่ได้ เอ ก็บอกว่าไม่มีอะไรกับ บี จริงๆ
----------เจออย่างนี้เข้าไปผมเองก็งงเลยสิครับ ถ้าไม่คิดจะจริงจังกับผมแล้วทำไมถึงพาผมไปหาพ่อแม่เขา และถ้าคิดจะจริงจังกับผมทำไมถึงต้องไปหา บี ด้วย เพื่อนๆ ช่วยวิเคราะห์ทีครับว่า เอ คิดอะไรอยู่กันแน่
***ผมรักเขามากนะครับหวังแต่งด้วย ตอนนี้ถึงไม่ค่อยจะมีเงินจนเริ่มหมุนเงินในแต่ละเดือนเกือบไม่ทัน แต่ก็เริ่มที่จะเก็บเงินไว้เพื่ออนาคตแล้วครับ แต่เจอแบบนี้ไปไม่เป็นเลยอ่ะครับ