ประเด็นข่าวสุดร้อนแรงนอกเหนือจากเรื่องลุ้นแชมป์ของแต่ละลีกแล้ว...การซื้อ-ขายย้ายทีมทั้งนักเตะและโค้ชนี่เริ่มมีเค้าลางว่าใกล้เคียงความเป็นจริง
ถ้าตามทิศทางข่าวในฐานะนักข่าวเราไม่สามารถปฏิเสธข่าวทำนองนี้ได้เลย พูดง่ายๆ ว่าอย่าบอกว่าชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือมั่ว 100 เปอร์เซ็นต์ ในความน่าจะเป็นนั้น...เป็นไปได้มากหรือน้อยต่างหาก
ส่วนตัวของผมให้น้ำหนักของข่าวเป็นสองแบบ
rumour "ข่าวลือ" นับว่าเป็นเรื่องที่คนอยากรู้อยากเห็น หรือเป็นเรื่องที่ชาวบ้านชอบ หลายคนบริโภคข่าวนี้แล้วทึกทัก และ "เชื่อ" ทันที หลายคนบริโภคแล้วบอกว่า "ไม่เชื่อ" ส่ายหน้าไปมาเหมือนพัดลม
เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็มี...ผมว่าอย่างประเภทที่สามนี่โอเคเลย ถือว่าเข้าใจโลก ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ เพราะมันมีมุมของความเป็นไปได้
แล้วผมเชื่อแบบไหน...ผมบอกได้ว่าเป็นบางข่าวที่ผมคิดว่าไม่น่าเชื่อถือเลย แต่บางข่าวเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ไม่อยากปฏิเสธ เพราะมันพอมีตรรกะ เหตุและผลในการนำเสนอข่าวมาให้เราเสพแน่นอน
โดยข้อสรุปน้ำหนักข่าวลือ...มีความน่าเชื่อถือไม่มากมายอะไร แต่ถ้าจะให้น่าเชื่อถือมันต้องเป็นข่าวในแบบ "กระแสข่าว" ระบุว่า...
ว่าถึงกระแสข่าว หรือ speculation ไม่ใช่ current news นะครับ (จะเอาฮาไปไหน) มันเป็นลักษณะของข่าวที่มีน้ำหนักและทิศทางน่าเชื่อถือและสุดท้ายพอมีการเฉลยและเปิดโปงอะไรขึ้น เรารับรู้เลยว่า "ใช่"
กระแสข่าวที่ว่านี้มันมาได้ถูกต้องจริง
อย่างเช่นว่ามี "กระแสข่าว" ว่า คนนั้นคนนี้จะย้าย ท้ายที่สุดแล้วไม่มีการย้ายเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เราได้คือ "มันอาจจะมีการซื้อ-ขาย" แต่ไม่สามารถตกลงกันไม่ได้ เลยไม่ได้ย้าย ประเด็นเหล่านี้มันคือกระแสข่าว
ดังนั้นถ้าผมเขียนถึง "กระแสข่าว" มันแยกชี้ชัดเลยว่าเรื่องนี้น่าเชื่อถือได้
มีมากมายหลายข่าวที่ผมได้ติดตามมอนิเตอร์ในฐานะคนข่าวมาตลอด 23 ปี ผมรู้สึกว่า "กระแสข่าว" มันทำให้เราเห็นทิศทางของข่าวและตามข่าวไปได้เรื่อยๆ จนถึงที่สุดของมัน นั่นแหละครับ ที่เรารับรู้ได้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น
เอาแบบใกล้ตัวนะครับ...ในวันที่เชลซีมาเยือนเมืองไทย แล้ว โชเซ่ มูรินโญ่ พูดกับนักข่าวอังกฤษที่โรงแรมแชงกรี-ลา ว่า "เวย์น รูนี่ย์ เป็นนักเตะที่ผมชอบ" เท่านี้ก็มีข่าวลือว่าเชลซีสนใจรูนี่ย์ และพัฒนาเร็วมากในวันเดียวกลายเป็นกระแสข่าวไปในทิศทางนั้น
สุดท้ายเรื่องแดงออกมาว่าเชลซีติดต่อรูนี่ย์ แต่แมนฯ ยูฯ ไม่ขาย อย่างนี้เป็นต้น
ถ้างั้นประเด็นข่าวที่หลุดออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของฝรั่งหลายข่าวนี้น่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน
เริ่มจาก...ดาบิด เด เคอา ซึ่งคนสเปนอาจว่า "เด-เค-อา" นักพากย์ชาวอังกฤษออกเสียงว่า เด เฮีย นักพากย์ไทยบางคนเพี้ยนเป็น เด เฮย่า อะไรโน่น เอาตามคนสเปนเจ้าของภาษานะครับ ถูกต้องที่สุด
เด เคอา เป็นข่าวกับเรอัล มาดริด มานับตั้งแต่มกราคมหลังจากที่เขายังไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับแมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นที่รู้กันว่า ผจก.ส่วนตัวของเขาชื่อ จอร์จ เมนเดส ซูเปอร์เอเยนต์ชาวโปรตุเกส ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นลูกค้ารายใหญ่ นั่นทำให้สื่อกระทิงดุมอนิเตอร์ แล้วสื่ออังกฤษจับทางไล่ตามข่าวนี้
ประเด็นของ เด เคอา ไม่ใช่ข่าวลือแล้วครับ ยกเว้นเรื่องที่บอกว่าเขาแอบเซ็นสัญญากับเรอัล มาดริด ล่วงหน้า ตรงนี้ผมว่า "ลือ" และผมไม่ให้น้ำหนัก แต่ถ้าบอกว่า เด เคอา มีแววย้ายไปเรอัล มาดริด นี่คือ "กระแสข่าว"
ความน่าเชื่อถือมันมีขึ้นมาทันที...
โดยตรรกะ เด เคอา สามารถย้ายไปเรอัล มาดริด ได้ เหมาะสมและชอบธรรม และถ้าย้ายไปเขาก็จะเป็นมือหนึ่งของสโมสรและทีมชาติสเปนค่อนข้างแบเบอร์...ตอนนี้แฟนผีแอบเซ็งกันแล้วละครับ
มีประตูมือดีที่ช่วยทีมมาตลอดเตรียมย้ายกลับประเทศของตัวเอง และทีมนั้นเป็นเรอัล มาดริด ที่มีศักยภาพ มีอิทธิพลมากพอที่จะดึงนักเตะระดับเกรดเอร่วมทีมได้ตลอดเวลา ตัวอย่างมีให้เห็นหลายคน อย่าให้เอ่ยชื่อ
ยุทธการเขย่าโคนต้นเพื่อให้ดอก...ใบ และผลร่วงลงมาเก็บกินนั้นใช้ได้ดีอยู่เสมอ
เด เคอา กับเรอัล มาดริด จัดเข้าขั้นข่าวที่น่าเชื่อถือได้ เป็นลักษณะ speculation...กระแสข่าว ไม่ใช่ rumour หรือข่าวลือที่เชื่อถือไม่ได้ ที่จะลือคือว่าแอบเซ็นกันแล้ว ผมขอเลือกไม่เชื่อในเรื่องนี้ครับ
คราวนี้ถ้าแฟนบอลถามผมว่า "พี่เจเค คิดว่าเขาจะย้ายมั้ย" ผมตอบได้ว่า "ย้ายครับ"
จากเรื่อง เด เคอา ซึ่งน่าจะเป็น hot asset ในซัมเมอร์นี้ แล้วโค้ชละครับ เวลานี้มี 3 ชื่อที่พัวพันกับการย้ายทีม ประเด็นโค้ชนี้ขอให้ตัดชื่อ มานูเอล เปเยกรีนี่ เพราะผมเชื่อว่าเขาจะโดนปลดออกจากแมนฯ ซิตี้
ไม่โดนตอนนี้ก็โดนตอนปิดซีซั่น
แล้ว 3 คนที่พัวพันกับการย้ายละครับ มีใครบ้าง...ต้องว่ากันถึงคนแรกคือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่จะหมดสัญญา 30 มิ.ย. แล้วเป็นอิสระ ไม่ทำงานกับดอร์ทมุนด์ต่อ เชื่อว่าจุดนี้ ผจก.ส่วนตัวของเขาคงรับโทรศัพท์ไม่มีว่างทุกวัน
สายจะมาจากสเปน, อังกฤษ หรือในเยอรมันอีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องของคล็อปป์มีข่าวลือออกมาเป็น 3 ทาง ลือแรกมาอังกฤษ ลือที่สองอยู่ในเยอรมัน ลือที่สามคือมาสเปน เพราะนี่คือสามลีกที่คล็อปป์น่าจะสนใจไปทำงานด้วยความท้าทาย รวมทั้งการรับเงินค่าจ้างราคาสุดแพง
ขอว่าถึงลือแรกมายังอังกฤษ มีการเชื่อมโยงข่าวในลักษณะที่ไม่ใช่จับแพะชนแกะนะครับ ว่าแมนฯ ซิตี้ ก็เป็นตัวเต็ง ซึ่งกรณีนี้ค่อนข้างชัดว่าเรือใบสีฟ้าน่าจะมีการเปลี่ยนโค้ช อาจเลือกเป็นเยอรมันดูบ้าง หลังจากใช้อิตาลี, เวลส์, ชิลี แล้วไม่เวิร์กมากเท่าที่ต้องการ
แมนฯ ซิตี้ อาจเป็นจุดหมายปลายทางของคล็อปป์ เรื่องนี้รอดูในช่วงซัมเมอร์นี้ มันมีแววว่าเป็นไปได้
อีกกรณีหนึ่งของการลือคืออยู่ในเยอรมัน และทีมนั้นต้องเป็นบาเยิร์น มิวนิค ตรงนี้มันมีความเป็นไปได้และไม่ได้พอๆ กัน เพราะเสือใต้ยังมี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำงานอยู่ ติดตรงที่เขายังไม่ได้ต่อสัญญากับบาเยิร์น มิวนิค ออกไป
ประเด็นนี้ทำให้นักข่าวมอนิเตอร์ทันที
ถ้าคล็อปป์มาบาเยิร์น นั่นหมายถึงกวาร์ดิโอล่าต้องไปจากทีม...แล้วเขาไปไหนละครับ
ชื่อของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลอยมาอีกแล้ว ด้วยเพราะแมนฯ ซิตี้ น่าจะเปลี่ยนโค้ชและต้องจ้างยอดโค้ชมาทำงาน เป๊ปคือยอดโค้ช เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่เรื่องที่ชัดเจนที่สุดคือ ทีมบริหารที่เป็นที่ปรึกษาเชิงเทคนิค ซึ่งผมเขียนไปหลายครั้งแล้วว่า มีเพื่อนเป๊ปทำงานอยู่
ทั้ง เบกิริสไตน์ อดีตปีกบาร์ซ่าและทีมชาติสเปน, โซเรียโน่ ทีมบริหารที่เคยประสานงานกันกับเป๊ปในทีมบาร์ซ่า เมื่อปี 2009 และอยู่ในช่วงเวลาทองของเป๊ปกับทีมด้วย...สองคนนี้น่าจะยื่นเรื่องให้สโมสรพิจารณา
ถ้าอยากได้ยอดโค้ช...คงหนีไม่พ้นเป๊ป มีเงินเท่าไหร่ก็ต้องจ้าง
ถ้าเทียบกันระหว่างเป๊ปกับคล็อปป์ ผมว่าคนแรกมีภาษีดีกว่า แม้กระทั่งล่าสุดจะมีข่าว ดร.มุลเลอร์ โวห์ลฟาร์ท ลาออกจากการโดนวิจารณ์เรื่องทำให้นักเตะเจ็บแล้วหายช้า ทั้งที่เขาคือหมอเทวดาที่ทำงานกับทีมมา 38 ปี รวมทั้งทีมชาติเยอรมันด้วย
มีการพาดพิงว่า เป๊ปมีส่วนในการวิจารณ์และทำให้บุคคลผู้ทรงคุณค่าของทีมต้องลาออกไป เหมือนไปโทษหมอ เวลาบอลแพ้ กรณีนี้ผมคิดว่าคงไม่ใช่แรงผลักดันมากเท่ากับความท้าทายใหม่ในทีมแมนฯ ซิตี้ และเงินค่าจ้างที่สูงลิบลิ่ว
อีกคนหนึ่งคือ คาร์โล อันเชลอตติ มีกระแสข่าวที่ไม่ลือว่าเขาจะลาออกจากเรอัล มาดริด เพราะทำในสิ่งที่แฟนบอลต้องการไปแล้วนั่นคือแชมป์ ชปล. เมื่อปีก่อน ไม่มีอะไรท้าทาย และทุกครั้งที่อันเชลอตติประสบความสำเร็จ ปีต่อมาทีมของเขาจะตกลงทันที
อันเชลอตติก็เป็นตัวเลือกของแมนฯ ซิตี้ ที่น่าสนใจเช่นกัน แต่ประเด็นคือว่าเคยมีโค้ชอิตาเลียนมาแล้ว ได้ประมาณหนึ่ง แต่ไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นผู้บริหารทีมต้องคิดให้หนักว่าจะยังใช้บริหารโค้ชมะกะโรนีหรือไม่
ถ้าเราจับทิศทางข่าว...ยกระดับจากลือเป็น "กระแสข่าว" ทั้งสามสี่คนที่ว่า เราสามารถระบุได้เลยว่า ทิศทางข่าวหรือกระแสข่าวในเรื่องการย้ายทีมนั้นเป็นเรื่องของโค้ช ที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทีมแมนฯ ซิตี้
ขนาดเรามองภาพกว้างๆ ไม่เจาะรายละเอียดเหมือนทีมที่ปรึกษาแมนฯ ซิตี้ เรายังคิดว่าน่าใช้โค้ชคนนั้นคนนี้ แล้วที่ปรึกษาซึ่งต้องเอาข้อมูลตัวเลข โปรไฟล์ แบบละเอียดไปยืนยันกับชีค เจ้าของทีม แบบนี้ยิ่งชัดเจน
ดังนั้นผมขอเรียงลำดับและมั่นใจว่า "ย้ายแน่" สำหรับโค้ชคนใหม่ของแมนฯ ซิตี้
3 อันเชลอตติ
2 คล็อปป์
1 เป๊ป
1 และ 2 มีโอกาสเป็นโค้ชใหม่แมนฯ ซิตี้ ในทรรศนะของผม ส่วน 3 ดูแล้วน่าจะอยู่ที่เดิมมากที่สุด
Jackie
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.siamsport.co.th/Column/150419_046.html
ย้ายทีมแน่ๆ David de Gea
ประเด็นข่าวสุดร้อนแรงนอกเหนือจากเรื่องลุ้นแชมป์ของแต่ละลีกแล้ว...การซื้อ-ขายย้ายทีมทั้งนักเตะและโค้ชนี่เริ่มมีเค้าลางว่าใกล้เคียงความเป็นจริง
ถ้าตามทิศทางข่าวในฐานะนักข่าวเราไม่สามารถปฏิเสธข่าวทำนองนี้ได้เลย พูดง่ายๆ ว่าอย่าบอกว่าชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือมั่ว 100 เปอร์เซ็นต์ ในความน่าจะเป็นนั้น...เป็นไปได้มากหรือน้อยต่างหาก
ส่วนตัวของผมให้น้ำหนักของข่าวเป็นสองแบบ
rumour "ข่าวลือ" นับว่าเป็นเรื่องที่คนอยากรู้อยากเห็น หรือเป็นเรื่องที่ชาวบ้านชอบ หลายคนบริโภคข่าวนี้แล้วทึกทัก และ "เชื่อ" ทันที หลายคนบริโภคแล้วบอกว่า "ไม่เชื่อ" ส่ายหน้าไปมาเหมือนพัดลม
เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็มี...ผมว่าอย่างประเภทที่สามนี่โอเคเลย ถือว่าเข้าใจโลก ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ เพราะมันมีมุมของความเป็นไปได้
แล้วผมเชื่อแบบไหน...ผมบอกได้ว่าเป็นบางข่าวที่ผมคิดว่าไม่น่าเชื่อถือเลย แต่บางข่าวเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ไม่อยากปฏิเสธ เพราะมันพอมีตรรกะ เหตุและผลในการนำเสนอข่าวมาให้เราเสพแน่นอน
โดยข้อสรุปน้ำหนักข่าวลือ...มีความน่าเชื่อถือไม่มากมายอะไร แต่ถ้าจะให้น่าเชื่อถือมันต้องเป็นข่าวในแบบ "กระแสข่าว" ระบุว่า...
ว่าถึงกระแสข่าว หรือ speculation ไม่ใช่ current news นะครับ (จะเอาฮาไปไหน) มันเป็นลักษณะของข่าวที่มีน้ำหนักและทิศทางน่าเชื่อถือและสุดท้ายพอมีการเฉลยและเปิดโปงอะไรขึ้น เรารับรู้เลยว่า "ใช่"
กระแสข่าวที่ว่านี้มันมาได้ถูกต้องจริง
อย่างเช่นว่ามี "กระแสข่าว" ว่า คนนั้นคนนี้จะย้าย ท้ายที่สุดแล้วไม่มีการย้ายเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เราได้คือ "มันอาจจะมีการซื้อ-ขาย" แต่ไม่สามารถตกลงกันไม่ได้ เลยไม่ได้ย้าย ประเด็นเหล่านี้มันคือกระแสข่าว
ดังนั้นถ้าผมเขียนถึง "กระแสข่าว" มันแยกชี้ชัดเลยว่าเรื่องนี้น่าเชื่อถือได้
มีมากมายหลายข่าวที่ผมได้ติดตามมอนิเตอร์ในฐานะคนข่าวมาตลอด 23 ปี ผมรู้สึกว่า "กระแสข่าว" มันทำให้เราเห็นทิศทางของข่าวและตามข่าวไปได้เรื่อยๆ จนถึงที่สุดของมัน นั่นแหละครับ ที่เรารับรู้ได้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น
เอาแบบใกล้ตัวนะครับ...ในวันที่เชลซีมาเยือนเมืองไทย แล้ว โชเซ่ มูรินโญ่ พูดกับนักข่าวอังกฤษที่โรงแรมแชงกรี-ลา ว่า "เวย์น รูนี่ย์ เป็นนักเตะที่ผมชอบ" เท่านี้ก็มีข่าวลือว่าเชลซีสนใจรูนี่ย์ และพัฒนาเร็วมากในวันเดียวกลายเป็นกระแสข่าวไปในทิศทางนั้น
สุดท้ายเรื่องแดงออกมาว่าเชลซีติดต่อรูนี่ย์ แต่แมนฯ ยูฯ ไม่ขาย อย่างนี้เป็นต้น
ถ้างั้นประเด็นข่าวที่หลุดออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของฝรั่งหลายข่าวนี้น่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน
เริ่มจาก...ดาบิด เด เคอา ซึ่งคนสเปนอาจว่า "เด-เค-อา" นักพากย์ชาวอังกฤษออกเสียงว่า เด เฮีย นักพากย์ไทยบางคนเพี้ยนเป็น เด เฮย่า อะไรโน่น เอาตามคนสเปนเจ้าของภาษานะครับ ถูกต้องที่สุด
เด เคอา เป็นข่าวกับเรอัล มาดริด มานับตั้งแต่มกราคมหลังจากที่เขายังไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับแมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นที่รู้กันว่า ผจก.ส่วนตัวของเขาชื่อ จอร์จ เมนเดส ซูเปอร์เอเยนต์ชาวโปรตุเกส ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นลูกค้ารายใหญ่ นั่นทำให้สื่อกระทิงดุมอนิเตอร์ แล้วสื่ออังกฤษจับทางไล่ตามข่าวนี้
ประเด็นของ เด เคอา ไม่ใช่ข่าวลือแล้วครับ ยกเว้นเรื่องที่บอกว่าเขาแอบเซ็นสัญญากับเรอัล มาดริด ล่วงหน้า ตรงนี้ผมว่า "ลือ" และผมไม่ให้น้ำหนัก แต่ถ้าบอกว่า เด เคอา มีแววย้ายไปเรอัล มาดริด นี่คือ "กระแสข่าว"
ความน่าเชื่อถือมันมีขึ้นมาทันที...
โดยตรรกะ เด เคอา สามารถย้ายไปเรอัล มาดริด ได้ เหมาะสมและชอบธรรม และถ้าย้ายไปเขาก็จะเป็นมือหนึ่งของสโมสรและทีมชาติสเปนค่อนข้างแบเบอร์...ตอนนี้แฟนผีแอบเซ็งกันแล้วละครับ
มีประตูมือดีที่ช่วยทีมมาตลอดเตรียมย้ายกลับประเทศของตัวเอง และทีมนั้นเป็นเรอัล มาดริด ที่มีศักยภาพ มีอิทธิพลมากพอที่จะดึงนักเตะระดับเกรดเอร่วมทีมได้ตลอดเวลา ตัวอย่างมีให้เห็นหลายคน อย่าให้เอ่ยชื่อ
ยุทธการเขย่าโคนต้นเพื่อให้ดอก...ใบ และผลร่วงลงมาเก็บกินนั้นใช้ได้ดีอยู่เสมอ
เด เคอา กับเรอัล มาดริด จัดเข้าขั้นข่าวที่น่าเชื่อถือได้ เป็นลักษณะ speculation...กระแสข่าว ไม่ใช่ rumour หรือข่าวลือที่เชื่อถือไม่ได้ ที่จะลือคือว่าแอบเซ็นกันแล้ว ผมขอเลือกไม่เชื่อในเรื่องนี้ครับ
คราวนี้ถ้าแฟนบอลถามผมว่า "พี่เจเค คิดว่าเขาจะย้ายมั้ย" ผมตอบได้ว่า "ย้ายครับ"
จากเรื่อง เด เคอา ซึ่งน่าจะเป็น hot asset ในซัมเมอร์นี้ แล้วโค้ชละครับ เวลานี้มี 3 ชื่อที่พัวพันกับการย้ายทีม ประเด็นโค้ชนี้ขอให้ตัดชื่อ มานูเอล เปเยกรีนี่ เพราะผมเชื่อว่าเขาจะโดนปลดออกจากแมนฯ ซิตี้
ไม่โดนตอนนี้ก็โดนตอนปิดซีซั่น
แล้ว 3 คนที่พัวพันกับการย้ายละครับ มีใครบ้าง...ต้องว่ากันถึงคนแรกคือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่จะหมดสัญญา 30 มิ.ย. แล้วเป็นอิสระ ไม่ทำงานกับดอร์ทมุนด์ต่อ เชื่อว่าจุดนี้ ผจก.ส่วนตัวของเขาคงรับโทรศัพท์ไม่มีว่างทุกวัน
สายจะมาจากสเปน, อังกฤษ หรือในเยอรมันอีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องของคล็อปป์มีข่าวลือออกมาเป็น 3 ทาง ลือแรกมาอังกฤษ ลือที่สองอยู่ในเยอรมัน ลือที่สามคือมาสเปน เพราะนี่คือสามลีกที่คล็อปป์น่าจะสนใจไปทำงานด้วยความท้าทาย รวมทั้งการรับเงินค่าจ้างราคาสุดแพง
ขอว่าถึงลือแรกมายังอังกฤษ มีการเชื่อมโยงข่าวในลักษณะที่ไม่ใช่จับแพะชนแกะนะครับ ว่าแมนฯ ซิตี้ ก็เป็นตัวเต็ง ซึ่งกรณีนี้ค่อนข้างชัดว่าเรือใบสีฟ้าน่าจะมีการเปลี่ยนโค้ช อาจเลือกเป็นเยอรมันดูบ้าง หลังจากใช้อิตาลี, เวลส์, ชิลี แล้วไม่เวิร์กมากเท่าที่ต้องการ
แมนฯ ซิตี้ อาจเป็นจุดหมายปลายทางของคล็อปป์ เรื่องนี้รอดูในช่วงซัมเมอร์นี้ มันมีแววว่าเป็นไปได้
อีกกรณีหนึ่งของการลือคืออยู่ในเยอรมัน และทีมนั้นต้องเป็นบาเยิร์น มิวนิค ตรงนี้มันมีความเป็นไปได้และไม่ได้พอๆ กัน เพราะเสือใต้ยังมี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำงานอยู่ ติดตรงที่เขายังไม่ได้ต่อสัญญากับบาเยิร์น มิวนิค ออกไป
ประเด็นนี้ทำให้นักข่าวมอนิเตอร์ทันที
ถ้าคล็อปป์มาบาเยิร์น นั่นหมายถึงกวาร์ดิโอล่าต้องไปจากทีม...แล้วเขาไปไหนละครับ
ชื่อของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลอยมาอีกแล้ว ด้วยเพราะแมนฯ ซิตี้ น่าจะเปลี่ยนโค้ชและต้องจ้างยอดโค้ชมาทำงาน เป๊ปคือยอดโค้ช เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่เรื่องที่ชัดเจนที่สุดคือ ทีมบริหารที่เป็นที่ปรึกษาเชิงเทคนิค ซึ่งผมเขียนไปหลายครั้งแล้วว่า มีเพื่อนเป๊ปทำงานอยู่
ทั้ง เบกิริสไตน์ อดีตปีกบาร์ซ่าและทีมชาติสเปน, โซเรียโน่ ทีมบริหารที่เคยประสานงานกันกับเป๊ปในทีมบาร์ซ่า เมื่อปี 2009 และอยู่ในช่วงเวลาทองของเป๊ปกับทีมด้วย...สองคนนี้น่าจะยื่นเรื่องให้สโมสรพิจารณา
ถ้าอยากได้ยอดโค้ช...คงหนีไม่พ้นเป๊ป มีเงินเท่าไหร่ก็ต้องจ้าง
ถ้าเทียบกันระหว่างเป๊ปกับคล็อปป์ ผมว่าคนแรกมีภาษีดีกว่า แม้กระทั่งล่าสุดจะมีข่าว ดร.มุลเลอร์ โวห์ลฟาร์ท ลาออกจากการโดนวิจารณ์เรื่องทำให้นักเตะเจ็บแล้วหายช้า ทั้งที่เขาคือหมอเทวดาที่ทำงานกับทีมมา 38 ปี รวมทั้งทีมชาติเยอรมันด้วย
มีการพาดพิงว่า เป๊ปมีส่วนในการวิจารณ์และทำให้บุคคลผู้ทรงคุณค่าของทีมต้องลาออกไป เหมือนไปโทษหมอ เวลาบอลแพ้ กรณีนี้ผมคิดว่าคงไม่ใช่แรงผลักดันมากเท่ากับความท้าทายใหม่ในทีมแมนฯ ซิตี้ และเงินค่าจ้างที่สูงลิบลิ่ว
อีกคนหนึ่งคือ คาร์โล อันเชลอตติ มีกระแสข่าวที่ไม่ลือว่าเขาจะลาออกจากเรอัล มาดริด เพราะทำในสิ่งที่แฟนบอลต้องการไปแล้วนั่นคือแชมป์ ชปล. เมื่อปีก่อน ไม่มีอะไรท้าทาย และทุกครั้งที่อันเชลอตติประสบความสำเร็จ ปีต่อมาทีมของเขาจะตกลงทันที
อันเชลอตติก็เป็นตัวเลือกของแมนฯ ซิตี้ ที่น่าสนใจเช่นกัน แต่ประเด็นคือว่าเคยมีโค้ชอิตาเลียนมาแล้ว ได้ประมาณหนึ่ง แต่ไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นผู้บริหารทีมต้องคิดให้หนักว่าจะยังใช้บริหารโค้ชมะกะโรนีหรือไม่
ถ้าเราจับทิศทางข่าว...ยกระดับจากลือเป็น "กระแสข่าว" ทั้งสามสี่คนที่ว่า เราสามารถระบุได้เลยว่า ทิศทางข่าวหรือกระแสข่าวในเรื่องการย้ายทีมนั้นเป็นเรื่องของโค้ช ที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทีมแมนฯ ซิตี้
ขนาดเรามองภาพกว้างๆ ไม่เจาะรายละเอียดเหมือนทีมที่ปรึกษาแมนฯ ซิตี้ เรายังคิดว่าน่าใช้โค้ชคนนั้นคนนี้ แล้วที่ปรึกษาซึ่งต้องเอาข้อมูลตัวเลข โปรไฟล์ แบบละเอียดไปยืนยันกับชีค เจ้าของทีม แบบนี้ยิ่งชัดเจน
ดังนั้นผมขอเรียงลำดับและมั่นใจว่า "ย้ายแน่" สำหรับโค้ชคนใหม่ของแมนฯ ซิตี้
3 อันเชลอตติ
2 คล็อปป์
1 เป๊ป
1 และ 2 มีโอกาสเป็นโค้ชใหม่แมนฯ ซิตี้ ในทรรศนะของผม ส่วน 3 ดูแล้วน่าจะอยู่ที่เดิมมากที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้