หลังจากที่ได้ติดตาม และหาข้อมูลท่องเที่ยวจากกระทู้ Iceland จนการท่องเที่ยวในครั้งนี้ได้เป็นจริงขึ้นมา
วันนี้ขอนำภาพจากธารน้ำแข็ง Skaftafelljökull ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์มาฝาก ซึ่งช่วงที่ไปเป็นช่วงปลายของฤดูหนาว
จากถนนทางตอนใต้ขับรถหนีพายุไปๆมาๆจนในวันที่ 24 ก.พ. 2558 เราจึงได้มาเยือนที่นี่
โดยจุดหมายแรกเริ่มคือการเที่ยวน้ำตก Svartifoss หรือน้ำตกดำ แต่เมื่อไปถามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้วทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าน้ำตกแห่งนี้ปิดในฤดูหนาว ถ้าต้องการไปจริงๆต้องมีอุปกรณ์ช่วยในการเดินเพราะเส้นทางลื่นมาก แต่เจ้าหน้าที่ก็แนะนำอีกว่าให้ไปที่ Skaftafelljökull ที่นี่สีของน้ำแข็งจะสวยมากในหน้าหนาว ทางเดินก็ไม่ลำบาก เดินไป-กลับใช้เส้นทางเดียว
ตามแผ่นที่เราต้องเดินไปทางขวาล่างตามเส้น S1 สีฟ้า ตามทางเดินจะมีหลักไม้ปักและแสดงตัวเลขจุดชมวิวต่างๆตลอดทางเดิน
ในวันที่ไปฟ้าก็ยังคลื้มๆอยู่ แต่โชคดีที่ไม่มีหิมะตก แต่ตลอดเส้นทางเดินฉาบไปด้วยผิวน้ำแข็งซึ่งค่อนข้างลื่นมาก
บรยากาศข้างทางตามแนวเขาที่เราเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ เหมือนเดินเข้าไปในภาพขาว-ดำ
น้ำตกที่ถูกหยุดไว้ด้วยความหนาวเย็น
สุดทางเดินตามแผ่นที่ ธารน้ำแข็งรอเราอยู่ข้างหน้าแล้ว
ด้านซ้ายยังคงเป็นเนินเขาที่ยาวต่อเนื่องไปจนถึงธารน้ำแข็ง
มาดูกันชัดๆอีกที ด้านสีของปลายธารน้ำแข็งจะค่อนข้างเข้ม (เดาเอาเองว่าอาจเกิดจากฝุ่น หิน ดิน และโคลนจากเนินเขาจึงสีเข้มๆดำๆ)
ปลายอีกด้านสีฟ้าจะสด และดูใสกว่า
ที่นี้เราจะเดินเข้าไปสำรวจใกล้ๆกัน
กับบรรยากาศที่เหมือนคลื่นลมแปรปรวน และรุนแรง ทุกสิ่งระเนระนาด แต่ในความเป็นจริงทุกอย่ากลับสงบและนิ่ง ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง
ทุกสิ่งที่ถูกหยุดการเคลื่อนไหว
เคลือบไว้ด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ
เมื่อย่ำเท้าลงไปมีจังหวะให้หวาดเสียวเหมือนกัน กับเสียงแตก แครกของพื้นน้ำแข็ง
บึงน้ำที่เกิดจากละลายของธารน้ำแข็ง ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นน้ำแข็งเหมือนกัน
เข้าใกล้เข้าไปทุกที
พื้นน้ำแข็งบริเวณตีนของธารน้ำแข็งที่สามารถเดินข้ามไปได้ในหน้าหนาว
ถ้าลื่นทีคงเป็นเรื่องแน่น
ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้
พยายามเดินต่อไปในยังส่วนยอดของธารน้ำแข็ง การที่มีหิมะขาวๆให้เดินถือเป็นเรื่องโชคดี เพราะถ้าเดินบนผิวน้ำแข็งคงไปไม่ถึงแน่
และแล้วเราก็มาถึงจนได้
ผิวของน้ำแข็งดูแปลกตา เป็นระลอกที่อาจเกิดจากคลื่นลม และยังมีเกร็ดหิมะขาวๆที่ทำให้มีลวดลายน่าดูขึ้นไปอีก
และสิ่งที่น่าแปลกอีกอย่างคือ ไม่คิดว่าธรรมชาติจะสรรสร้างให้น้ำแข็งดูนุ่มนวลได้ขนาดนี้เลย
มองย้อนกลับไปด้านหลัง
ดื่มด่ำกับบรรยากาศสักพัก ก็ได้เวลาบอกลา Skaftafelljökull แล้ว
โดยเดินเลียบผนังธารน้ำแข็งด้านที่ใกล้กับเนินเขา
เทียบสัดส่วนให้ดูกันนิดนึง
เดินมาสักพักจนเจอคลื่นโคลนน้ำแข็งสีดำๆ
ปิดท้ายด้วยปลายอีกด้านของธารน้ำแข็งที่ไม่ได้เดินไปสำรวจ มีบางจุดมืดๆไม่แน่ใจว่าเป็นถ้ำเข้าไปได้หรือเป็นแค่ซอกเงา
(อันเนื่องมาจากดูแล้วต้องเดินลัดเลาะขอบบึงน้ำแข็งไป พื้นน้ำแข็งบางส่วนก็ดูแล้วอาจแตกได้ จึงตัดสินใจขอแบบปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า)
จบทริปที่ Skaftafelljökull ใช้เวลาไปครึ่งวัน แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นบรรยายไม่ถูกเลยจริงๆ
ภาพที่เห็นถ่ายยังไงก็ไม่สวยเท่าสองดาดู อีกทั้งความงามตามธรรมชาติที่ยังสร้างสรรค์กันแบบไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ในแต่ละฤดู
ถ้าสมาชิกท่านใดมีวางแผนไปเที่ยว Iceland ในช่วงหน้าหนาวแล้ว นอกจาก Ice cave แล้วที่นี่เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
(แถมยังเดินไปชมได้เองโดยไม่ต้องซื้อทัวร์อีก
)
ส่วนสถานที่อื่นๆจะทยอยลงมาให้ชมกันอีกค่ะ
หรือสามารถเข้าไปแวะชมได้ที่
https://www.facebook.com/backpack.bagdd
เป็นเพจที่ทำไว้ลงรูปเที่ยวโดยเฉพาะค่ะ ถ้ามีข้อมูลอันไหนสงสัยก็สอบถามได้ในเฟสค่ะ อันไหนที่พอรู้ สามารถช่วยตอบให้ได้ค่ะ
ฺBackpack by BagDD
ขออนุญาตแนบเวปร้านไว้ด้วยนะคะ
[CR] ประสบการณ์บนธารน้ำแข็ง Skaftafelljökull, Iceland
วันนี้ขอนำภาพจากธารน้ำแข็ง Skaftafelljökull ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์มาฝาก ซึ่งช่วงที่ไปเป็นช่วงปลายของฤดูหนาว
จากถนนทางตอนใต้ขับรถหนีพายุไปๆมาๆจนในวันที่ 24 ก.พ. 2558 เราจึงได้มาเยือนที่นี่
โดยจุดหมายแรกเริ่มคือการเที่ยวน้ำตก Svartifoss หรือน้ำตกดำ แต่เมื่อไปถามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้วทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าน้ำตกแห่งนี้ปิดในฤดูหนาว ถ้าต้องการไปจริงๆต้องมีอุปกรณ์ช่วยในการเดินเพราะเส้นทางลื่นมาก แต่เจ้าหน้าที่ก็แนะนำอีกว่าให้ไปที่ Skaftafelljökull ที่นี่สีของน้ำแข็งจะสวยมากในหน้าหนาว ทางเดินก็ไม่ลำบาก เดินไป-กลับใช้เส้นทางเดียว
ตามแผ่นที่เราต้องเดินไปทางขวาล่างตามเส้น S1 สีฟ้า ตามทางเดินจะมีหลักไม้ปักและแสดงตัวเลขจุดชมวิวต่างๆตลอดทางเดิน
ในวันที่ไปฟ้าก็ยังคลื้มๆอยู่ แต่โชคดีที่ไม่มีหิมะตก แต่ตลอดเส้นทางเดินฉาบไปด้วยผิวน้ำแข็งซึ่งค่อนข้างลื่นมาก
บรยากาศข้างทางตามแนวเขาที่เราเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ เหมือนเดินเข้าไปในภาพขาว-ดำ
น้ำตกที่ถูกหยุดไว้ด้วยความหนาวเย็น
สุดทางเดินตามแผ่นที่ ธารน้ำแข็งรอเราอยู่ข้างหน้าแล้ว
ด้านซ้ายยังคงเป็นเนินเขาที่ยาวต่อเนื่องไปจนถึงธารน้ำแข็ง
มาดูกันชัดๆอีกที ด้านสีของปลายธารน้ำแข็งจะค่อนข้างเข้ม (เดาเอาเองว่าอาจเกิดจากฝุ่น หิน ดิน และโคลนจากเนินเขาจึงสีเข้มๆดำๆ)
ปลายอีกด้านสีฟ้าจะสด และดูใสกว่า
ที่นี้เราจะเดินเข้าไปสำรวจใกล้ๆกัน
กับบรรยากาศที่เหมือนคลื่นลมแปรปรวน และรุนแรง ทุกสิ่งระเนระนาด แต่ในความเป็นจริงทุกอย่ากลับสงบและนิ่ง ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง
ทุกสิ่งที่ถูกหยุดการเคลื่อนไหว
เคลือบไว้ด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ
เมื่อย่ำเท้าลงไปมีจังหวะให้หวาดเสียวเหมือนกัน กับเสียงแตก แครกของพื้นน้ำแข็ง
บึงน้ำที่เกิดจากละลายของธารน้ำแข็ง ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นน้ำแข็งเหมือนกัน
เข้าใกล้เข้าไปทุกที
พื้นน้ำแข็งบริเวณตีนของธารน้ำแข็งที่สามารถเดินข้ามไปได้ในหน้าหนาว
ถ้าลื่นทีคงเป็นเรื่องแน่น
ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้
พยายามเดินต่อไปในยังส่วนยอดของธารน้ำแข็ง การที่มีหิมะขาวๆให้เดินถือเป็นเรื่องโชคดี เพราะถ้าเดินบนผิวน้ำแข็งคงไปไม่ถึงแน่
และแล้วเราก็มาถึงจนได้
ผิวของน้ำแข็งดูแปลกตา เป็นระลอกที่อาจเกิดจากคลื่นลม และยังมีเกร็ดหิมะขาวๆที่ทำให้มีลวดลายน่าดูขึ้นไปอีก
และสิ่งที่น่าแปลกอีกอย่างคือ ไม่คิดว่าธรรมชาติจะสรรสร้างให้น้ำแข็งดูนุ่มนวลได้ขนาดนี้เลย
มองย้อนกลับไปด้านหลัง
ดื่มด่ำกับบรรยากาศสักพัก ก็ได้เวลาบอกลา Skaftafelljökull แล้ว
โดยเดินเลียบผนังธารน้ำแข็งด้านที่ใกล้กับเนินเขา
เทียบสัดส่วนให้ดูกันนิดนึง
เดินมาสักพักจนเจอคลื่นโคลนน้ำแข็งสีดำๆ
ปิดท้ายด้วยปลายอีกด้านของธารน้ำแข็งที่ไม่ได้เดินไปสำรวจ มีบางจุดมืดๆไม่แน่ใจว่าเป็นถ้ำเข้าไปได้หรือเป็นแค่ซอกเงา
(อันเนื่องมาจากดูแล้วต้องเดินลัดเลาะขอบบึงน้ำแข็งไป พื้นน้ำแข็งบางส่วนก็ดูแล้วอาจแตกได้ จึงตัดสินใจขอแบบปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า)
จบทริปที่ Skaftafelljökull ใช้เวลาไปครึ่งวัน แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นบรรยายไม่ถูกเลยจริงๆ
ภาพที่เห็นถ่ายยังไงก็ไม่สวยเท่าสองดาดู อีกทั้งความงามตามธรรมชาติที่ยังสร้างสรรค์กันแบบไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ในแต่ละฤดู
ถ้าสมาชิกท่านใดมีวางแผนไปเที่ยว Iceland ในช่วงหน้าหนาวแล้ว นอกจาก Ice cave แล้วที่นี่เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
(แถมยังเดินไปชมได้เองโดยไม่ต้องซื้อทัวร์อีก
ส่วนสถานที่อื่นๆจะทยอยลงมาให้ชมกันอีกค่ะ
หรือสามารถเข้าไปแวะชมได้ที่
https://www.facebook.com/backpack.bagdd
เป็นเพจที่ทำไว้ลงรูปเที่ยวโดยเฉพาะค่ะ ถ้ามีข้อมูลอันไหนสงสัยก็สอบถามได้ในเฟสค่ะ อันไหนที่พอรู้ สามารถช่วยตอบให้ได้ค่ะ
ฺ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น