ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าไม่ได้เก่งอะไร
และยอดขายที่ได้ก็ไม่ได้สูงมากมายอะไรนัก

แต่เผอิญเราไปเขียนคอมเม้นท์ในกระทู้กิจกรรมของพันทิป
แล้วมีคนสนใจเรื่องสติ๊กเกอร์ไลน์ หลังไมค์มาสอบถามข้อมูล
แล้วอยากให้รีวิวเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู ก็เลยกลายเป็นที่มาของกระทู้นี้
เอาเป็นว่าเราแค่มาเล่าประสบการณ์หนุกๆ ให้ฟังละกัน ฮ่าๆ
ส่วนประโยชน์สาระที่ได้รับถือเป็นผลพลอยได้เน้อะ






สนุกกับมัน!

จุดแรกเริ่มของเราที่ตัดสินใจวาดส่ง
มาจากความชอบวาดการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ
ตอนแรกที่รู้ว่าทางไลน์ตั้งกฎบังคับให้วาดชุดนึงตั้ง 40 ตัว
เรางี้ มีเกือบถอยเหมือนกันเพราะเยอะเหลือเกิน
แต่พอได้วาดจริงๆ แป๊บเดียวก็เสร็จแหะ หุๆ
อาศัยใจรักล้วนๆ ก็เลยไม่รู้สึกเหนื่อยกับมันเท่าไหร่ แถมยังสนุกอีก!



ส่วนขั้นตอนการทำงาน
เราจะนั่งคิดคาแรกเตอร์ คำพูด และวาดท่าทางคร่าวๆ ในกระดาษก่อน
พอได้จนครบ 40 รูปแล้วก็ค่อยลงมือวาดจริง ลงสีจริงใน iPad
ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เป็นโปรแกรมโหลดฟรีจากแอพสโตร์ ชื่อว่า adobe ideas
พอวาดเสร็จก็ส่งไฟล์ไปทำงานต่อในคอมพ์
เพื่อตั้งค่าให้รูปอยู่ในขนาดและ format ที่ทางไลน์กำหนด

เท่าที่วาดๆ มา เราใช้เวลาทั้งคิดทั้งวาด 1 ชุดประมาณไม่เกินอาทิตย์
เมามันส์มากเลยขอบอก ฮ่าๆๆ
เพราะถ้าเป็นอะไรที่ชอบนะ จะวาดเร็วมากกก
(อาจเป็นเพราะรูปที่เราวาดรายละเอียดไม่ค่อยเยอะด้วยแหละ อิๆ)

สรุปคือต้องชอบวาดการ์ตูนจริงๆ ก่อน
แล้วจะรู้สึกสนุกกับมัน ชนิดที่ 40 รูปก็ไม่รู้สึกเหนื่อย
หรือถ้ายอดขายไม่ดีก็จะไม่รู้สึกแย่ เพราะถือว่าได้วาดรูปเล่นสนุกๆไรงี้





หาเป้าหมายที่ใช่!

ถ้าอยากให้มีคนมาโหลดสติกเกอร์ของเราเยอะๆ กลุ่มเป้าหมายถือเป็นเรื่องสำคัญมาก
อย่างสติ๊กเกอร์ชุดแรกที่เราวางขาย "ชีวิตติ่งๆ"
เรามีกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มแฟนคลับศิลปิน
เพราะอะไรนั่นหรอ ก็เพราะว่าเราเป็นติ่งเหมือนกันไง ฮ่าๆๆๆๆ


ด้วยความที่คลุกคลี และผูกพันกับกลุ่มคนที่เรียกว่าติ่ง
แถมตัวเองก็มีความเป็นติ่งอยู่ในสายเลือดด้วย
จึงไม่ยากที่จะคิดคำพูดหรือท่าทางตัวการ์ตูน
ให้สนองความต้องการของคนที่ได้ชื่อว่าติ่ง
ซึ่งเมื่อผลงานออกวางขาย ก็ได้รับการสนับสนุนจากติ่งทั้งหลายด้วยดี



จะเห็นได้ว่าเส้นกราฟหฤหรรษ์มาก
ฉวัดเฉวียนพุ่งทะยานสูงใน 2 วันแรก
เหตุเพราะเราได้โปรโมทผลงานผ่านทวิตของเราเอง
ซึ่งมีกลุ่มแฟนคลับของศิลปินที่เราติ่ง follow อยู่
เพื่อนๆ ชาวติ่งในโลกออนไลน์จึงพร้อมใจกันโหลดอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
แม้ไม่ได้เยอะอลังการอย่างสติ้กเกอร์รุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ
แต่นี่ถือว่าเกินความคาดหมายของเรามากๆ
เรียกว่าซึ้งใจคนโหลดกันเลยทีเดียว
ณ จุดนั้น เข้าใจอารมณ์ผู้เข้าประกวดรายการเพลง
ที่ต้องอาศัยแรงโหวตจากคนทั่วประเทศเลย ซึ้งๆๆ
น้ำตาแทบไหลด้วยความปลื้มปิติยินดีที่มีคนชอบ
ยังไงขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ซึ้งใจฝุดๆ



จบ 2 วันอันสวยงาม หลังจากนั้นกราฟก็ดำดิ่งตกฮวบลงมาทันทีในวันที่ 3-4
ต่อมาก็ขึ้นๆ ลงๆ เป็นระลอกคลื่นตามที่เห็น
นี่แหละสัจธรรมของชีวิต อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกอย่างไม่เที่ยงหนอ......
แต่ยังไงก็ที่งอยู่ดีที่ยังมีคนคอยโหลดไปใช้อยู่เรื่อยๆ ไม่หยุด
กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ






ส่วนสติ้กเกอร์ชุดที่สอง "Siam Elephant"
เป็นสติ้กเกอร์ที่มีภาษาอังกฤษและไทยแบบทับศัพท์คู่กันด้วย

ได้ยินหลายคนบอกว่าสติ้กเกอร์ภาษาอังกฤษกับไม่มีคำพูด
จะขายยากกว่าที่มีคำพูดภาษาไทย อันนี้จริงแท้สำหรับเรา หุๆ




กลุ่มเป้าหมายในตอนแรกที่เราตั้งไว้ คือ คนไทยที่มีเพื่อนหรือแฟนต่างชาติ
หรือไม่ก็คนต่างชาติที่ชอบช้าง ชอบภาษาไทย
แต่เมื่อผลงานออกวางขาย เราพบว่าขายไม่ค่อยได้เลยอ่ะ
ยอดขายตอนเปิดตัวดูย่ำแย่มากเมื่อเทียบกับสติ้กเกอร์ชุดแรก
แม้เราจะพยายามโปรโมทแนะนำผลงานอยู่หลายเพจ
ทั้งเพจที่เกี่ยวกับช้างไทย เพจคนรักช้าง เพจสถานศึกษาในต่างประเทศ
ซึ่งก็ไม่เป็นผล แหะๆ



ข่วงนั้นเราได้แต่คิดทบทวนเรื่องแผนการตลาด
(ดันทำตัวภาษาอังกฤษ เลยต้องมามึนต่อ
ว่าจะทำแผนการตลาดต่างประเทศยังไงดี เฮ้อออ)

คิดไปคิดมา ลองเสิร์ชคำว่า siam elephant และ thai elephant ในกูเกิ้ลดูเล่นๆ
พบว่ามีเป็นชื่อร้านอาหารที่อยู่ต่างประเทศอยู่หลายเพจ
เราเลยนึกขึ้นได้ว่าร้านอาหารที่ใช้ชื่อว่าช้าง มีโลโก้เป็นช้าง
และต้องติดต่อกับลูกค้าชาวต่างชาติที่ชอบอาหารไทยน่าจะสนใจงานเราอยู่บ้าง
คือถ้าเราเป็นเจ้าของร้านเราคงอยากมีสติ้กเกอร์
ที่เป็นตัวแทนประจำร้านเราเอง มันดูเจ๋งดีไรงี้



หลังจากนั้นเราก็เริ่มค้นหาเหล่าเพจของร้านอาหารไทย สปาไทย นวดไทยในต่างแดนทันที
เพราะแม้ชื่อจะไม่เกี่ยวกับช้าง แต่ยังไงเค้าก็ต้องอยากมีสติ้กเกอร์
ที่เป็นสัญลักษณ์แบบไทยๆ ในการติดต่อกับลูกค้าต่างชาติอยู่ดี

ซึ่งหลังจากไปแนะนำผลงานไว้หลายสิบเพจ
ผลปรากฎว่าได้ผลแหะ!
ใจชื้นเลยทีเดียวเมื่อได้เห็นยอดกราฟของ 2 วันต่อมา
ที่พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่วางขาย



ปล - เราลองเช็คยอดการใช้งานในโซนประเทศต่างๆ
ปรากฏว่าสติ้กเกอร์ตัวนี้ยอดสูงสุดไปอยู่ที่สิงคโปร์ (มากกว่าไทยอีก)
ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับเรามาก
เลยเดาว่าสิงคโปร์น่าจะเป็นประเทศที่มีคนไทยไปทำธุรกิจอยู่เยอะ





คนโหลดสุขใจ คนวาดก็ซึ้งใจ!

ถ้าพูดถึงกลุ่มคนที่โหลดสติ้กเกอร์ชุด "ชีวิตติ่งๆ"
เราแบ่งได้ 3 กลุ่ม ดังนี้

1 กลุ่มคนที่ทำงานในออฟฟิสเดียวกัน
จะช่วยโหลดกันไม่กี่คน มีแค่ 3-4 คนเท่านั้น

2 กลุ่มเพื่อนสมัยเรียน
ก็คล้ายๆ ข้อ 1 คือโหลดแค่ 2-3 คน

3 กลุ่มเพื่อนๆที่รู้จักใน social network
กลุ่มนี้สิ ช่วยกันโหลดสุดฤทธิ์จนรู้สึกอึ้ง+ทึ่ง+ประทับใจสุดๆ
คือบางคนไม่เคยเสียเงินซื้อก็ซื้อ
บางคนโหลดไม่เป็นก็ใช้ให้คนอื่นช่วยโหลด
บางคนเอา AD เราไปช่วยโพสต์โฆษณาให้
(อันนี้ไม่ได้วานให้ช่วย แต่พวกเค้าทำให้เองเลย สุดๆ อ่ะ)
บางคนโหลดแล้วแค้บหน้าจอมาอวดให้ได้ชื่นใจ
พร้อมบอกฟีดแบ็คว่าชอบ



สรุป งานนี้ตื้นตันกับเพื่อนๆ ในสังคมออนไลน์สุดๆ

ส่วนสติ้กเกอร์ชุด "siam elephant"
ขายได้เฉพาะกลุ่มคนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จักเลย
ยอดโหลดและฟีดแบ็คอาจเทียบไม่ได้เลยกับ "ชีวิตติ่งๆ"
แต่ยังไงก็ประทับใจทุกครั้งที่ยังมีคนโหลดใช้อยู่ในแต่ละวันไม่ขาด (แม้จะไม่กี่โหลด)
เพราะถือว่าคนที่โหลดต้องชื่นชอบงานเราจริงๆ
โดยไม่ได้อาศัยว่าเป็นคนรู้จักกันแล้วช่วยโหลดไรงี้


ยังไงก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้
หวังว่าคงจะช่วยกระตุ้นไฟให้นักวาดการ์ตูนสติ้กเกอร์ LINE
ที่วาดยังไม่เสร็จ หรือส่งแล้วแต่ยังรออนุมัติอยู่ไม่ให้ท้อแท้
เพราะเราเองก็ผ่านอาการเบื่อหน่ายและหมดใจกับการดองเค็ม 5 เดือนมาแล้ว
แต่ ณ ตอนนี้ ผ่านแล้ว ขายแล้ว อารมณ์มันคือคุ้มค่ากับการรอคอยนะ

เพราะนอกจากชีวิตคุณจะได้มีสีสัน
สนุกกับการติดตามผล ลุ้นยอดโหลดในแต่ละวันแล้ว
(ของเราช่วงแรกๆ กดดูมันทุกครึ่งชั่วโมงเลย หุๆๆ)
คุณยังได้สัมผัสความประทับใจที่เพื่อนๆ ชาวออนไลน์ได้มอบให้คุณ
(ทั้งที่รู้จักคุณและไม่รู้จักคุณ) ในแต่ละโหลด จนคุณต้องซึ้งแล้วซึ้งอีก ^____^




ข้อแนะนำเพิ่มเติม

สิ่งที่สำคัญมากๆ อย่างนึงที่เราได้รับจากการขายสติ้กเกอร์ครั้งนี้ก็คือ
ต้องอย่ายึดมั่นถือมั่นเด็ดขาด
คือ อย่าหลงสุขเวลาเห็นกราฟพุ่งสูง
อย่าคาดหวังว่าวันนี้สูงแล้วพรุ่งนี้จะต้องสูงแบบนี้อีก
และอย่าหลงทุกข์เวลาเห็นกราฟดิ่งตัวต่ำจนน่าใจหาย

เพราะอย่างที่บอก 2 วันแรกเรายอดพุ่งมาก จิตเราสุขสุดๆ
พอมาวันที่ 3-4 กราฟตกเร็วมาก จิตเราทุกข์

ตั้งแต่วันนั้น เคล็ดลับสำหรับเราคือ ไม่คาดหวังสูงเกินไป
สนุกกับการตั้งเป้าแค่จำนวนต่ำๆ
เช่น ตรวจยอดตอนเที่ยงได้ 18xx
ก็จะตั้งเป้าลุ้นเล่นๆ ว่าตอนเย็นยอดจะถึง 2000 มั้ยน้อ
พอเป็น 22xx ก็จะลุ้นต่อว่าจะถึง 2500 มั้ยน้อ
ซึ่งเวลาเช็คแล้วยอดมันถึงหรือเกินก็จะรู้สึกทึ่ง+ตกใจเสมอเลย

อันนี้ถือเป้นการป้องกันไม่ให้ทุกข์เกิด
พร้อมสร้างสุขเล็กๆ ให้จิตเราได้กระชุ่มกระชวย ฮ่าๆ