ASTVผู้จัดการ – หนุ่มญี่ปุ่นจิตอาสา Koki Aki ออกมาแฉอีกหลังเพื่อนญี่ปุ่นที่มาช่วยเด็กในชุมชนในไทยโดนโก่งค่าแท็กซี่จากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ทั้งๆ ที่รับบัตรคิว ชี้สุวรรณภูมิคือความน่าอายของประเทศไทย ส่วนที่ออกมาแฉเมื่อเดือน ม.ค. ก็ไร้ผล เพราะกลับเป็นเหมือนเดิมอีก ฝากไปถึงรัฐบาลด้วย
วันนี้ (18 เม.ย.) เฟซบุ๊ก @Koki Aki ซึ่งเป็นชายชาวญี่ปุ่นที่ทำงานจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ผู้ยากไร้ในประเทศ ได้โพสต์ข้อความกล่าวถึงปัญหาแท็กซี่สุวรรณภูมิคิดเกินราคาอีกครั้ง หลังจากที่เดือนมกราคม 2558 ที่ผ่านมาเขาเคยออกมาแฉเรื่องดังกล่าวจนกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมหันมาจับตา ลามไปถึงทั้งผู้บริหารภาครัฐทั้งอธิบดีกรมขนส่งทางบก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงรัฐบาล
“ครั้งนี้เพื่อนๆของผมมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาช่วยเด็กในชุมชนประเทศไทย พวกเขามาทำขนมญี่ปุ่นให้เด็กๆในชุมชนทาน แต่ครั้งนี้พวกเขาก็โดนแท็กซี่สนามบินเก็บค่าโดยสารเกินจริงอีก เพื่อนผม คุณ A มากัน 11 คน มาถึงเมื่อวันที่ 14 เมษายน เวลา 18.00 น. พวกเขาขึ้นรถคันใหญ่ 2 คัน แต่คนขับไม่กดมิเตอร์ และเรียกราคา 600 และ 750 บาท ไม่รวมค่าทางด่วน
ครั้งนี้คนขับก็ขอเก็บบัตรคิวแท็กซี่จากพวกเขาด้วย และคุณ A บอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ที่กดบัตรคิวก็มัวแต่เล่นกัน ผมพูดเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนมกราคม แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ...” Koki Aki กล่าวฟ้อง และว่าตนกล่าวหลายครั้งแล้วว่าสนามบินคือประตูสู่ประเทศ และหน้าตาของประเทศ เรื่องดังกล่าวเป็นความน่าอาย ซึ่งผู้รับผิดชอบควรออกมาแก้ไข ซึ่งตนเอยากจะฝากไปถึงรัฐบาลด้วย
สำหรับข้อความที่ @Koki Aki โพสต์ทั้งหมดมีรายละเอียดดังนี้
"ผมขอบอกอีกครั้งนะครับว่าสนามบินสุวรรณภูมิคือความน่าอายของประเทศไทย
ครั้งนี้เพื่อนๆของผมมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาช่วยเด็กในชุมชนประเทศไทย
พวกเขามาทำขนมญี่ปุ่นให้เด็กๆในชุมชนทาน
แต่ครั้งนี้พวกเขาก็โดนแท็กซี่สนามบินเก็บค่าโดยสารเกินจริงอีก
เพื่อนผม คุณ A มากัน 11 คน มาถึงเมื่อวันที่ 14 เมษายน เวลา 18.00 น.
พวกเขาขึ้นรถคันใหญ่ 2 คัน
แต่คนขับไม่กดมิเตอร์ และเรียกราคา 600 และ 750 บาท ไม่รวมค่าทางด่วน
ครั้งนี้คนขับก็ขอเก็บบัตรคิวแท็กซี่จากพวกเขาด้วย
และคุณ A บอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ที่กดบัตรคิวก็มัวแต่เล่นกัน
ผมพูดเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนมกราคม แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
กระทรวงที่รับผิดชอบและผู้ที่ดูแลสนามบินควรจะทราบว่า แท็กซี่สนามบินและเจ้าหน้าที่บางคนได้สร้างความอับอายให้ประเทศไทย
พวกเขาจะรู้ไหมว่าเรื่องนี้ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหาย และทำให้ประเทศสูญเสียหลายสิ่ง
ครั้งที่แล้วที่ผมพูดเรื่องนี้ไป ก็มีคนขับแท็กซี่มาต่อว่าผม มีแม้กระทั่งข่มขู่
บางคนก็เอารูปที่ไม่ใช่รูปผมมาอ้าง
แต่ลองคิดดูนะครับ ถึงรายได้จะน้อย ถึงประสิทธิภาพจะไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะมาหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยว
การที่คนขับบ่นต่อว่ากับผู้โดยสาร พวกเขาน่าจะไปพูดกับกระทรวง หรือผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่านักท่องเที่ยวนะครับ
ครั้งนี้กลุ่มของคุณ A มาทำจิตอาสาให้เด็กๆในชุมชนในไทย โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรเลย
พอเกิดเรื่องครั้งก่อนก็มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจรถแท็กซี่ ผู้บริหารสนามบินก็ขอโทษผม แต่พอผ่านมาแค่ 2 เดือนทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิมอีก
ผมพูดหลายครั้งแล้วนะครับว่าสนามบินคือประตูสู่ประเทศ
นักท่องเที่ยวควรจะได้รับการบริการที่ปลอดภัยครับ
และสนามบินก็คือหน้าตาของประเทศเช่นกันครับ
ผมอยากจะบอกว่า ผู้ที่รับผิดชอบควรจะยอมรับว่าความน่าอายก็คือความน่าอายครับ
ช่วยทำให้สนามบินเป็นสนามบินที่ปกติสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ
ผมอยากจะฝากบอกกับรัฐบาลด้วยครับ
ภาพถ่ายมาจากอินเตอร์เนต ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาครับ"
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000044353
หนุ่มญี่ปุ่นแฉอีก “สุวรรณภูมิ” คือความน่าอายของไทย อัดครั้งก่อนแก้ปัญหาแท็กซี่โก่งราคาแค่ผักชีโรยหน้า
ASTVผู้จัดการ – หนุ่มญี่ปุ่นจิตอาสา Koki Aki ออกมาแฉอีกหลังเพื่อนญี่ปุ่นที่มาช่วยเด็กในชุมชนในไทยโดนโก่งค่าแท็กซี่จากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ทั้งๆ ที่รับบัตรคิว ชี้สุวรรณภูมิคือความน่าอายของประเทศไทย ส่วนที่ออกมาแฉเมื่อเดือน ม.ค. ก็ไร้ผล เพราะกลับเป็นเหมือนเดิมอีก ฝากไปถึงรัฐบาลด้วย
วันนี้ (18 เม.ย.) เฟซบุ๊ก @Koki Aki ซึ่งเป็นชายชาวญี่ปุ่นที่ทำงานจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ผู้ยากไร้ในประเทศ ได้โพสต์ข้อความกล่าวถึงปัญหาแท็กซี่สุวรรณภูมิคิดเกินราคาอีกครั้ง หลังจากที่เดือนมกราคม 2558 ที่ผ่านมาเขาเคยออกมาแฉเรื่องดังกล่าวจนกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมหันมาจับตา ลามไปถึงทั้งผู้บริหารภาครัฐทั้งอธิบดีกรมขนส่งทางบก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงรัฐบาล
“ครั้งนี้เพื่อนๆของผมมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาช่วยเด็กในชุมชนประเทศไทย พวกเขามาทำขนมญี่ปุ่นให้เด็กๆในชุมชนทาน แต่ครั้งนี้พวกเขาก็โดนแท็กซี่สนามบินเก็บค่าโดยสารเกินจริงอีก เพื่อนผม คุณ A มากัน 11 คน มาถึงเมื่อวันที่ 14 เมษายน เวลา 18.00 น. พวกเขาขึ้นรถคันใหญ่ 2 คัน แต่คนขับไม่กดมิเตอร์ และเรียกราคา 600 และ 750 บาท ไม่รวมค่าทางด่วน
ครั้งนี้คนขับก็ขอเก็บบัตรคิวแท็กซี่จากพวกเขาด้วย และคุณ A บอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ที่กดบัตรคิวก็มัวแต่เล่นกัน ผมพูดเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนมกราคม แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ...” Koki Aki กล่าวฟ้อง และว่าตนกล่าวหลายครั้งแล้วว่าสนามบินคือประตูสู่ประเทศ และหน้าตาของประเทศ เรื่องดังกล่าวเป็นความน่าอาย ซึ่งผู้รับผิดชอบควรออกมาแก้ไข ซึ่งตนเอยากจะฝากไปถึงรัฐบาลด้วย
สำหรับข้อความที่ @Koki Aki โพสต์ทั้งหมดมีรายละเอียดดังนี้
"ผมขอบอกอีกครั้งนะครับว่าสนามบินสุวรรณภูมิคือความน่าอายของประเทศไทย
ครั้งนี้เพื่อนๆของผมมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาช่วยเด็กในชุมชนประเทศไทย
พวกเขามาทำขนมญี่ปุ่นให้เด็กๆในชุมชนทาน
แต่ครั้งนี้พวกเขาก็โดนแท็กซี่สนามบินเก็บค่าโดยสารเกินจริงอีก
เพื่อนผม คุณ A มากัน 11 คน มาถึงเมื่อวันที่ 14 เมษายน เวลา 18.00 น.
พวกเขาขึ้นรถคันใหญ่ 2 คัน
แต่คนขับไม่กดมิเตอร์ และเรียกราคา 600 และ 750 บาท ไม่รวมค่าทางด่วน
ครั้งนี้คนขับก็ขอเก็บบัตรคิวแท็กซี่จากพวกเขาด้วย
และคุณ A บอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ที่กดบัตรคิวก็มัวแต่เล่นกัน
ผมพูดเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนมกราคม แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
กระทรวงที่รับผิดชอบและผู้ที่ดูแลสนามบินควรจะทราบว่า แท็กซี่สนามบินและเจ้าหน้าที่บางคนได้สร้างความอับอายให้ประเทศไทย
พวกเขาจะรู้ไหมว่าเรื่องนี้ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหาย และทำให้ประเทศสูญเสียหลายสิ่ง
ครั้งที่แล้วที่ผมพูดเรื่องนี้ไป ก็มีคนขับแท็กซี่มาต่อว่าผม มีแม้กระทั่งข่มขู่
บางคนก็เอารูปที่ไม่ใช่รูปผมมาอ้าง
แต่ลองคิดดูนะครับ ถึงรายได้จะน้อย ถึงประสิทธิภาพจะไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะมาหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยว
การที่คนขับบ่นต่อว่ากับผู้โดยสาร พวกเขาน่าจะไปพูดกับกระทรวง หรือผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่านักท่องเที่ยวนะครับ
ครั้งนี้กลุ่มของคุณ A มาทำจิตอาสาให้เด็กๆในชุมชนในไทย โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรเลย
พอเกิดเรื่องครั้งก่อนก็มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจรถแท็กซี่ ผู้บริหารสนามบินก็ขอโทษผม แต่พอผ่านมาแค่ 2 เดือนทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิมอีก
ผมพูดหลายครั้งแล้วนะครับว่าสนามบินคือประตูสู่ประเทศ
นักท่องเที่ยวควรจะได้รับการบริการที่ปลอดภัยครับ
และสนามบินก็คือหน้าตาของประเทศเช่นกันครับ
ผมอยากจะบอกว่า ผู้ที่รับผิดชอบควรจะยอมรับว่าความน่าอายก็คือความน่าอายครับ
ช่วยทำให้สนามบินเป็นสนามบินที่ปกติสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ
ผมอยากจะฝากบอกกับรัฐบาลด้วยครับ
ภาพถ่ายมาจากอินเตอร์เนต ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาครับ"
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000044353