เราเป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง เรียนอยู่ ม.ปลาย สิ่งที่เหมือนกับคนอื่นคือ เราก็อยากมีคนรักเหมือนคนอื่นๆค่ะ แต่เราหน้าตาธรรมดา ตัวเล็กๆไม่สูงมาก คนอื่นๆบอกว่าเราไม่อ้วนแต่เรา คิดว่าเราอ้วนเพราะกินเก่งค่ะ >,< เราเคยมีผู้ชายมาจีบ รุ่นๆเดียวกัน แต่คนที่มาจีบก็ไม่เข้าตาจริงๆ เลยไม่อยากคบ เพราะกลัวว่า จะทำให้เขาเสียใจภายหลังค่ะ ต่อมา เพื่อนๆก็เริ่มคิดว่าเราเป็นทอมจริงๆ แต่เรารู้ตัวนะว่าเราชอบผู้ชาย แต่ต่อมาเริ่มมีผู้หญิงที่เป็นดี้จริงๆมาจีบ เราก็เริ่มหวั่นไหว จนปิดเทอมเมื่อ 3ปีก่อน ตอนที่กำลังจะขึ้นชั้น ม.4 เราเริ่มคิดว่า เราจะมาสายทอม นี้แล้วดีหรือเปล่านะ เพราะปู้ชายเดี๋ยวนี้ก็เป็น เกย์ ,ตุ๊ด ส่วนผู้ชายดีๆ ไม่ต้องหล่อมากก็ได้ คงไม่น่าจะรอดถึงมือ ผู้หญิงธรรมดาๆอย่างเรา ร้องไห้ แต่ปิดเทอมหน้าร้อนเมื่อ 3 ปี ก่อนนี้ เหมือนความฝันค่ะ ระหว่างที่เราไปเดินพาราก้อนกับครอบครัว ตอนเข้าห้องน้ำ ออกมาก็สวนกับ ผู้ชายคนหนึ่ง เราคุ้นหน้ามากกกกๆๆ
" เกรซ นั่น เกรซ หรือเปล่า " เขาถามเรา เราก็นึกสงสัย เอ๊ะ เขารุ้ชื่อเราได้อย่างไง แต่ๆ หน้าเขาคุ้นๆมากเลยนะ
ใช่แล้ว เหมือนครูที่เคยสอนภาษาอังกฤษให้เราที่บ้านเมื่อตอน ป. 3- ป.6 เลย แต่ตอนนั้นครูอ้วนมากๆ น่าจะ 100 กิโลกว่าๆ เราไม่แน่ใจเลยลองถามดูค่ะ
" เอ่อ ใช่ ครูกุ่ย หรือเปล่าคะ "
" ใช่ ครูกุ่ยเอง " โหยยยย พอรู้ว่าเป็นครูกุ่ยคนนั้น เราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองค่ะ ตั้งแต่เราอยู่ ป.6 ผ่านมา 4 ปี (ตอนนั้นเรากำลังจะขึ้น ม.4 ค่ะ ) ครูที่อ้วนฉุขนาดนั้น ตอนนี้ดูอย่างไงก็ไม่เหลือเค้าเดิมเลย ครูเขาเป็นคนสูงอยู่แล้ว น่าจะสัก 181 cm ค่ะ ตอนนี้ดูดีมาก ต่อมาเพิ่งรู้ทีหลังว่า ครูเขาชอบออกกำลังกายค่ะ พอครุเค้ายิ้มให้ เราทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ
ต่อมา พ่อกับแม่ ออกจากห้องน้ำพอดี เราเลยได้คุยกัน เท่าที่เราจำได้ ตอนนั้น เราอยุ่ ป.6 แล้ว อยุ่ๆ ครูก็หยุดเลิกสอนภาษาอังกฤษที่ครูรัก เราถามครูว่าทำไมครุกุ่ยจะเลิกสอนคะ ไม่ชอบสอนหนังสือแล้วเหรอ ? ครูตอบเราว่า " ครูจะไปทำสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับชีวิต " หลังจากพูดคุยกัน ถึงรู้ว่า หลังจากลาออกจากการเป็นติวเตอร์ ครูไปสร้างธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ จนเริ่มกิจการดี และมี เล่นหุ้น อยุ่ค่ะ หนูก็ไม่ค่อยรุ้เรื่องกับเขาเท่าไหร่ แต่พอจับใจความได้ว่า พอครูมีกิจการที่มีระบบจัดการได้ดี และเล่นหุ้นอีกเล็กน้อย ทำให้ครูมีเวลาและเงิน มากขึ้น จนตอนนี้ชีวิตครูสบายขึ้นมากค่ะ
วันนั้น คุณแม่แนะนำให้ขอ เบอร์ติดต่อครุไว้ เผื่อเราสงสัยภาษาอังกฤษ ซึ่งครูก็ยินดีค่ะ ต่อมา เราก็เริ่มแลกเปลี่ยน เฟสบุ๊คกัน เราจึงเริ่มรู้ ช่วงเวลาที่หายไปของครูกุ่ยมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ เรายิ่งคุยก็ยิ่งชอบครูเขามากขึ้นเรื่อยๆค่ะ จนเริ่มคิดว่า เราไม่อยากเป็นทอมแล้ว เราเริ่มเข้าใจแล้วว่า ผู้หญิงหลายคนทำไมชอบ ผู้ชายที่มีอายุมากกว่า อาจจะเป็นเพราะ เขาผ่านโลกมา มากกว่าผู้ชายวัยรุ่นค่ะ ทำให้เขารู้วิธีที่จะจัดการกับ เราได้ดี คือ เขาไม่มี งอแง หรือ ชวนเราทะเลาะ เหมือนที่เคยเห็น เพื่อนเรามีแฟนเป็นผุ้ชายเลยค่ะ เข้าใจเราทุกเรื่อง
ตื่นเช้ามา เราก็จะเห็นข้อความที่แฝงไปด้วยความห่วงใย ทุกๆเช้า เพราะครูกุ่ยจะตื่นแต่เช้าตรู่ไป จ็อกกิ้งยามเช้า ที่สวนสาธารณะในหมู่บ้านค่ะ
ก่อนนอน ก็เป็นเราเสมอ ที่ต้องบอกไปขอนอนก่อน ถ้าเราบอกว่า ว่าง่วงนอน แล้ว เขาก็ไม่รั้ง เราไว้ค่ะ (คือเราค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสุงค่ะ อาจจะเป็นเหตุผลว่า เราไม่ค่อยมีผู้ชาย วัยเดียวกันมาจีบเท่าไหร่ ถึงมีเข้ามา ก็ไม่ใช่อ่าค่ะ )
หลังจากปิดเทอมหน้าร้อนเมื่อ 3 ปีก่อนชีวิตที่ผ่านมา เหมือนเจ้าหญิงเลยค่ะ ไม่รู้ว่า เพราะครุเขาเห็นเราตั้งแต่ตอนเด็กๆหรือเปล่า เขาจึงดูแลเราได้ดี หรือว่า ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่กว่า จะเป็นแบบนี้หรือเปล่านะคะ แต่ถึงเราเป็นเด็ก เราก็รุ้สึกได้ค่ะว่า ครูกุ่ยจัดอยู่ในผู้ชายระดับ A ซึ่งดีมากๆทุกอย่าง ซึ่งตรงนี้เราก็กลัวเหมือนกัน เรากลัวว่าจะมีผู้หญิงที่สวยกว่าเรา มาชอบครูกุ่ยน่ะค่ะ ผ่านมา 3 ปี แล้ว เราคิดว่า เรามีความสุขมากเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีได้ ใน3 ปีที่ผ่านมานี้ ครูไม่เคยล่วงเกินเราเลยค่ะ จะมีก็แค่ ลูบหัวเรา และจับมือเราตอนเดินข้ามถนน ตอนนี้ พ่อแม่เราไว้ใจครูกุ่ย ให้พาเราไปไหนมาไหนได้แบบเปิดเผยแล้ว
และดูเหมือนชีวิตของครูจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างเมื่อก่อนปัญหาเวลาไปเที่ยวหน้าสงกรานต์ หรือเทศกาล ตามห้างคือ หาที่จอดรถยากค่ะ แต่สงกรานต์ที่ผ่านมา ครูบอกเราว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถแล้ว สักพักเราก็ไปอยู่บนชั้นที่มี ที่จอดรถ VIP เราเห็น ลัมโบกินี , เฟอรรารี่ อย่างต่ำก็เบนซ์ หรือ บีเอ็ม ค่ะ
" ครูกุ่ย เราจอดรถตรงนี้ได้จริงๆเหรอคะ " เราถามด้วยความสงสัย
" ได้สิ ครูมีบัตรเบ่งแล้วน่ะ " ครูยิ้มแล้วก็ตอบ
เราไม่รู้มันคืออะไร แต่ ก็สบายดี ไม่ต้องวนรถหลายรอบ ข้อดีอีกข้อของครู คือ ไม่ว่าไปที่ไหนเขาก็เป็นสุภาพบุรุษ ควักจ่ายให้ตลอด แต่พ่อแม่เราบอกไว้ว่า ให้เราแย่งครูจ่ายเสมอค่ะ เราก็คิดตรงกับพ่อแม่ เพราะถึงเราเป็นเด็ก แต่บางครั้งก็ควรแสดงน้ำใจเพราะไม่อยากเอาเปรียบครุเขาค่ะ 3 ปี ที่ผ่านมา เราแย่งครุเขาจ่ายทันแค่ครั้งเดียว เพราะครูไวกว่าตลอด และถึงตอนที่เราไวกว่า พนักงานก็จะเลือกรับเงินจากครูมากกว่า อาจจะเพราะเห็นเราเป็นเด็กด้วยมั๊งคะ แต่เรากังวลอยุ่เรื่องหนึ่ง
1. ในโลกของธุรกิจและการเล่นหุ้น มีผู้หญิงสวยๆเยอะไหมคะ แล้วเราควรเป็นของเราแบบนี้ต่อไปดีไหม หรือควรปรับปรุงอะไรในตัวให้ดีขึ้นดีคะ เราเป็นผู้หญิงธรรมดาๆค่ะไม่สูงมาก เพื่อนๆบอกว่าเราน่ารัก แต่เราก็คิดว่าเราหน้าตาธรรมดา ไม่มีข้อเสีย และก็ไม่มีข้อดี พิเศษอะไรค่ะ เป็นเด็กธรรมดาปกติ หรือเราอาจจะไม่รุ้ก็ได้มั๊งคะ เราก็กลัวเหมือนกันว่า ครูจะไปชอบผู้หญิงที่ดูสวยๆ และเป็นผู้ใหญ่กว่า เรา เพราะครุชอบ บอกว่า เรายังเด็ก อยู่ เรื่อยเลยค่ะ จริงๆปีนี้ เราจะขึ้น ม.6 แล้วด้วยค่ะ เราว่าไม่เด็กแล้วนะ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะคะ เราแก้ไขเรื่องที่จะถามแล้วหลายอย่าง จริงๆอยากถามมากกว่านี้ แต่ก็เกรงใจ
เด็กผู้หญิงธรรมดา ม.ปลายกับ กับนักธุรกิจหนุ่ม ความรักจะเป็นไปได้ไหมคะ
" เกรซ นั่น เกรซ หรือเปล่า " เขาถามเรา เราก็นึกสงสัย เอ๊ะ เขารุ้ชื่อเราได้อย่างไง แต่ๆ หน้าเขาคุ้นๆมากเลยนะ
ใช่แล้ว เหมือนครูที่เคยสอนภาษาอังกฤษให้เราที่บ้านเมื่อตอน ป. 3- ป.6 เลย แต่ตอนนั้นครูอ้วนมากๆ น่าจะ 100 กิโลกว่าๆ เราไม่แน่ใจเลยลองถามดูค่ะ
" เอ่อ ใช่ ครูกุ่ย หรือเปล่าคะ "
" ใช่ ครูกุ่ยเอง " โหยยยย พอรู้ว่าเป็นครูกุ่ยคนนั้น เราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองค่ะ ตั้งแต่เราอยู่ ป.6 ผ่านมา 4 ปี (ตอนนั้นเรากำลังจะขึ้น ม.4 ค่ะ ) ครูที่อ้วนฉุขนาดนั้น ตอนนี้ดูอย่างไงก็ไม่เหลือเค้าเดิมเลย ครูเขาเป็นคนสูงอยู่แล้ว น่าจะสัก 181 cm ค่ะ ตอนนี้ดูดีมาก ต่อมาเพิ่งรู้ทีหลังว่า ครูเขาชอบออกกำลังกายค่ะ พอครุเค้ายิ้มให้ เราทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ
ต่อมา พ่อกับแม่ ออกจากห้องน้ำพอดี เราเลยได้คุยกัน เท่าที่เราจำได้ ตอนนั้น เราอยุ่ ป.6 แล้ว อยุ่ๆ ครูก็หยุดเลิกสอนภาษาอังกฤษที่ครูรัก เราถามครูว่าทำไมครุกุ่ยจะเลิกสอนคะ ไม่ชอบสอนหนังสือแล้วเหรอ ? ครูตอบเราว่า " ครูจะไปทำสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับชีวิต " หลังจากพูดคุยกัน ถึงรู้ว่า หลังจากลาออกจากการเป็นติวเตอร์ ครูไปสร้างธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ จนเริ่มกิจการดี และมี เล่นหุ้น อยุ่ค่ะ หนูก็ไม่ค่อยรุ้เรื่องกับเขาเท่าไหร่ แต่พอจับใจความได้ว่า พอครูมีกิจการที่มีระบบจัดการได้ดี และเล่นหุ้นอีกเล็กน้อย ทำให้ครูมีเวลาและเงิน มากขึ้น จนตอนนี้ชีวิตครูสบายขึ้นมากค่ะ
วันนั้น คุณแม่แนะนำให้ขอ เบอร์ติดต่อครุไว้ เผื่อเราสงสัยภาษาอังกฤษ ซึ่งครูก็ยินดีค่ะ ต่อมา เราก็เริ่มแลกเปลี่ยน เฟสบุ๊คกัน เราจึงเริ่มรู้ ช่วงเวลาที่หายไปของครูกุ่ยมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ เรายิ่งคุยก็ยิ่งชอบครูเขามากขึ้นเรื่อยๆค่ะ จนเริ่มคิดว่า เราไม่อยากเป็นทอมแล้ว เราเริ่มเข้าใจแล้วว่า ผู้หญิงหลายคนทำไมชอบ ผู้ชายที่มีอายุมากกว่า อาจจะเป็นเพราะ เขาผ่านโลกมา มากกว่าผู้ชายวัยรุ่นค่ะ ทำให้เขารู้วิธีที่จะจัดการกับ เราได้ดี คือ เขาไม่มี งอแง หรือ ชวนเราทะเลาะ เหมือนที่เคยเห็น เพื่อนเรามีแฟนเป็นผุ้ชายเลยค่ะ เข้าใจเราทุกเรื่อง
ตื่นเช้ามา เราก็จะเห็นข้อความที่แฝงไปด้วยความห่วงใย ทุกๆเช้า เพราะครูกุ่ยจะตื่นแต่เช้าตรู่ไป จ็อกกิ้งยามเช้า ที่สวนสาธารณะในหมู่บ้านค่ะ
ก่อนนอน ก็เป็นเราเสมอ ที่ต้องบอกไปขอนอนก่อน ถ้าเราบอกว่า ว่าง่วงนอน แล้ว เขาก็ไม่รั้ง เราไว้ค่ะ (คือเราค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสุงค่ะ อาจจะเป็นเหตุผลว่า เราไม่ค่อยมีผู้ชาย วัยเดียวกันมาจีบเท่าไหร่ ถึงมีเข้ามา ก็ไม่ใช่อ่าค่ะ )
หลังจากปิดเทอมหน้าร้อนเมื่อ 3 ปีก่อนชีวิตที่ผ่านมา เหมือนเจ้าหญิงเลยค่ะ ไม่รู้ว่า เพราะครุเขาเห็นเราตั้งแต่ตอนเด็กๆหรือเปล่า เขาจึงดูแลเราได้ดี หรือว่า ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่กว่า จะเป็นแบบนี้หรือเปล่านะคะ แต่ถึงเราเป็นเด็ก เราก็รุ้สึกได้ค่ะว่า ครูกุ่ยจัดอยู่ในผู้ชายระดับ A ซึ่งดีมากๆทุกอย่าง ซึ่งตรงนี้เราก็กลัวเหมือนกัน เรากลัวว่าจะมีผู้หญิงที่สวยกว่าเรา มาชอบครูกุ่ยน่ะค่ะ ผ่านมา 3 ปี แล้ว เราคิดว่า เรามีความสุขมากเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีได้ ใน3 ปีที่ผ่านมานี้ ครูไม่เคยล่วงเกินเราเลยค่ะ จะมีก็แค่ ลูบหัวเรา และจับมือเราตอนเดินข้ามถนน ตอนนี้ พ่อแม่เราไว้ใจครูกุ่ย ให้พาเราไปไหนมาไหนได้แบบเปิดเผยแล้ว
และดูเหมือนชีวิตของครูจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างเมื่อก่อนปัญหาเวลาไปเที่ยวหน้าสงกรานต์ หรือเทศกาล ตามห้างคือ หาที่จอดรถยากค่ะ แต่สงกรานต์ที่ผ่านมา ครูบอกเราว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถแล้ว สักพักเราก็ไปอยู่บนชั้นที่มี ที่จอดรถ VIP เราเห็น ลัมโบกินี , เฟอรรารี่ อย่างต่ำก็เบนซ์ หรือ บีเอ็ม ค่ะ
" ครูกุ่ย เราจอดรถตรงนี้ได้จริงๆเหรอคะ " เราถามด้วยความสงสัย
" ได้สิ ครูมีบัตรเบ่งแล้วน่ะ " ครูยิ้มแล้วก็ตอบ
เราไม่รู้มันคืออะไร แต่ ก็สบายดี ไม่ต้องวนรถหลายรอบ ข้อดีอีกข้อของครู คือ ไม่ว่าไปที่ไหนเขาก็เป็นสุภาพบุรุษ ควักจ่ายให้ตลอด แต่พ่อแม่เราบอกไว้ว่า ให้เราแย่งครูจ่ายเสมอค่ะ เราก็คิดตรงกับพ่อแม่ เพราะถึงเราเป็นเด็ก แต่บางครั้งก็ควรแสดงน้ำใจเพราะไม่อยากเอาเปรียบครุเขาค่ะ 3 ปี ที่ผ่านมา เราแย่งครุเขาจ่ายทันแค่ครั้งเดียว เพราะครูไวกว่าตลอด และถึงตอนที่เราไวกว่า พนักงานก็จะเลือกรับเงินจากครูมากกว่า อาจจะเพราะเห็นเราเป็นเด็กด้วยมั๊งคะ แต่เรากังวลอยุ่เรื่องหนึ่ง
1. ในโลกของธุรกิจและการเล่นหุ้น มีผู้หญิงสวยๆเยอะไหมคะ แล้วเราควรเป็นของเราแบบนี้ต่อไปดีไหม หรือควรปรับปรุงอะไรในตัวให้ดีขึ้นดีคะ เราเป็นผู้หญิงธรรมดาๆค่ะไม่สูงมาก เพื่อนๆบอกว่าเราน่ารัก แต่เราก็คิดว่าเราหน้าตาธรรมดา ไม่มีข้อเสีย และก็ไม่มีข้อดี พิเศษอะไรค่ะ เป็นเด็กธรรมดาปกติ หรือเราอาจจะไม่รุ้ก็ได้มั๊งคะ เราก็กลัวเหมือนกันว่า ครูจะไปชอบผู้หญิงที่ดูสวยๆ และเป็นผู้ใหญ่กว่า เรา เพราะครุชอบ บอกว่า เรายังเด็ก อยู่ เรื่อยเลยค่ะ จริงๆปีนี้ เราจะขึ้น ม.6 แล้วด้วยค่ะ เราว่าไม่เด็กแล้วนะ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะคะ เราแก้ไขเรื่องที่จะถามแล้วหลายอย่าง จริงๆอยากถามมากกว่านี้ แต่ก็เกรงใจ