ในระยะนี้เป็นช่วงที่ ฟุตบอลไทย เป็นที่กล่าวถึงอย่างมากมาย ในโลกออนไลน์ เพราะ กระแสความแรงของทัพช้างศึกที่คว้าชัยในรายการใหญ่อย่าง ซูซุกิคัพ ยังเป็นที่ตราตรึงและเป็นความสุขของเหล่าสาวกบอลไทย อีกทั้ง ยังเพิ่มจำนวนผู้ชมฟุตบอลไทยมากยิ่งขึ้น เวปไซค์ฟุตบอล , แฟนเพจฟุตบอล เกิดใหม่มากมายยิ่งกว่าดอกเห็ดในหน้าฝน ทำให้กระแสฟีเวอร์ฟุตบอลไทยยังแรงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ฟุตบลอลีกในบ้านเราก็มีแฟนๆให้ความสนใจกันมากกว่าเดิม
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ โค้ชคีย์บอร์ด มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็ไม่แปลกหรือไม่ผิดอะไร ที่แฟนบอลส่วนหนึ่งคลุกคลีกับวงการบอลไทย จะมีแนวคิด มีความเห็นที่แตกต่าง สร้างสรรค์ หรือ แม้กระทั่ง ด่าแบบรุนแรง ซึ่งถือเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลที่อยากจะวิเคราะห์ วิจารณ์ โดยการเผยแพร่ตามโลกออนไลน์ แต่ มีหลายๆคนมองว่า โค้ชคีย์บอร์ด ไม่ต่างจากพวกเกรียน ที่คอยซ้ำเติมเวลาทีมพ่ายแพ้ หรือ มีปัญหา แต่หากติดตามโลกฟุตบอลออนไลน์กันอย่างจริงๆจังจะพบว่า โค้ชคีย์บอร์ด บางคนนั้นถือเป็นระดับ โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน กันเลยทีเดียว เพราะติดตามฟุตบอลไทยกันมานาน ตั้งแต่ยุค โค้ชข้างสนามยังเป็นนักเตะกันอยู่เลย ไม่แต่เฉพาะทีมชาติ ฟุตบอลลีก ก็เช่นกัน แม้ว่า โค้ชข้างสนามจะคลุกคลีดูแลนักบอล ควบคุมการซ้อม ดูแลเรื่องต่างๆ แต่ก็ต้องมีบางจุดที่ละเลยหรือมองข้าม และ ไม่มีเวลามากพอที่จะหาข้อมูลต่างๆ วิเคราะห์เกมส์แต่ละแมตซ์ทั้งของทีมตัวเอง และ ของคู่แข่ง ผิดกับโค้ชคีย์บอร์ด ที่สามารถค้นหาข้อมูล นั่งดูแมตซ์การแข่งขันทั้งสดๆ และย้อนหลัง มาวิเคราะห์วิจารณ์จุดต่างๆ ด้วยหวังว่า ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกส่งถึง โค้ชข้างสนาม และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง และ โค้ชคีย์บอร์ด เองก็ยังมีหลายระดับเช่น โค้ชคีย์บอร์ดธรรมดา โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซนโดยเฉพาะความน่าสนใจของ
โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน กลุ่มนี้จะมีมุมมองที่น่าสนใจ มีการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ จุดเด่น จุดด้อย ของนักฟุตบอลได้มากพอสมควร ที่สำคัญก่อนคือจะมีการหาข้อมูลมารองรับการวิเคราะห์วิจารณ์จากแหล่งต่างๆไม่ได้มโนมั่วพิมพ์เหมือนเกรียนคีย์บอร์ด หรือ พวกที่มโนเอาตามความคิดตัวเองเป็นหลัก การวิเคราะห์วิจารณ์จากลุ่ม โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน เหล่านี้เป็นเรื่องที่แฟนบอลปฎิเสธไม่ได้ว่า บางเรื่องนั้นมันเป็นความจริง บางเรื่องนั้นต้องได้รับการแก้ไขปรับปรุงจริงๆ ซึ่งความคิดเห็นต่างๆเหล่านี้ โค้ชคีย์บอร์ด ก็มีความต้องการไม่แตกต่างจาก โค้ชข้างสนาม คือ ต้องการเห็นฟุตบอลไทยประสบความสำเร็จ พัฒนาไปในทิศทางที่ดี แม้ว่าบางครั้ง โค้ชคีย์บอร์ด บางส่วนที่เป็นหน้าใหม่ หรือ อาจจะเกรียนด้วยการใช้ถ้อยคำรุนแรง วิพากษ์วิจารณ์เกินพอดีไปบ้างก็ตาม แต่ สิ่งที่เราเลือกได้คือ เลือกความคิดเห็นที่ดี และ เป็นความจริง มาปรับปรุงแลพัฒนาให้ฟุตบอลไทยก้าวหน้าต่อไป
อย่าลืมสุภาษิตไทยที่ว่า ติเพื่อก่อยอเพื่อทำลาย ไม่มีแฟนฟุตบอลไทยคนไหนที่อยากเห็นความล่มสลายและพ่ายแพ้ของทีมชาติไทย และ กลุ่มแฟนบอล , โค้ชคีย์บอร์ด , โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน ทั้งหลายที่ออกมาเย้วๆกันในโลกโซเชี่ยลต่างก็อยากเห็นบอลไทยก้าวไกลในบอลโลกทั้งนั้น ถ้าเพียงแต่ผู้มีอำนาจจะจัดการวงการฟุตบอลไทยได้ดีขึ้น เป็นระบบมากขึ้น ชัดเจนมากขึ้น เชื่อเถอะว่า กลุ่มแฟนบอล , โค้ชคีย์บอร์ด , โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน จะเลิกเกรียน เลิกด่า และ แสดงความคิดเห็นแบบจริงจังและมีเหตุผลมากขึ้น
เห็นว่าน่าสนใจ และ มีเหตุผลพอสมควรจากมุมมองของผู้เขียน เลยเอามาให้อ่านกัน
ที่มา stepfb
โค้ชข้างสนาม vs โค้ชคีย์บอร์ด แตกต่างแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ โค้ชคีย์บอร์ด มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็ไม่แปลกหรือไม่ผิดอะไร ที่แฟนบอลส่วนหนึ่งคลุกคลีกับวงการบอลไทย จะมีแนวคิด มีความเห็นที่แตกต่าง สร้างสรรค์ หรือ แม้กระทั่ง ด่าแบบรุนแรง ซึ่งถือเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลที่อยากจะวิเคราะห์ วิจารณ์ โดยการเผยแพร่ตามโลกออนไลน์ แต่ มีหลายๆคนมองว่า โค้ชคีย์บอร์ด ไม่ต่างจากพวกเกรียน ที่คอยซ้ำเติมเวลาทีมพ่ายแพ้ หรือ มีปัญหา แต่หากติดตามโลกฟุตบอลออนไลน์กันอย่างจริงๆจังจะพบว่า โค้ชคีย์บอร์ด บางคนนั้นถือเป็นระดับ โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน กันเลยทีเดียว เพราะติดตามฟุตบอลไทยกันมานาน ตั้งแต่ยุค โค้ชข้างสนามยังเป็นนักเตะกันอยู่เลย ไม่แต่เฉพาะทีมชาติ ฟุตบอลลีก ก็เช่นกัน แม้ว่า โค้ชข้างสนามจะคลุกคลีดูแลนักบอล ควบคุมการซ้อม ดูแลเรื่องต่างๆ แต่ก็ต้องมีบางจุดที่ละเลยหรือมองข้าม และ ไม่มีเวลามากพอที่จะหาข้อมูลต่างๆ วิเคราะห์เกมส์แต่ละแมตซ์ทั้งของทีมตัวเอง และ ของคู่แข่ง ผิดกับโค้ชคีย์บอร์ด ที่สามารถค้นหาข้อมูล นั่งดูแมตซ์การแข่งขันทั้งสดๆ และย้อนหลัง มาวิเคราะห์วิจารณ์จุดต่างๆ ด้วยหวังว่า ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกส่งถึง โค้ชข้างสนาม และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง และ โค้ชคีย์บอร์ด เองก็ยังมีหลายระดับเช่น โค้ชคีย์บอร์ดธรรมดา โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซนโดยเฉพาะความน่าสนใจของ
โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน กลุ่มนี้จะมีมุมมองที่น่าสนใจ มีการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ จุดเด่น จุดด้อย ของนักฟุตบอลได้มากพอสมควร ที่สำคัญก่อนคือจะมีการหาข้อมูลมารองรับการวิเคราะห์วิจารณ์จากแหล่งต่างๆไม่ได้มโนมั่วพิมพ์เหมือนเกรียนคีย์บอร์ด หรือ พวกที่มโนเอาตามความคิดตัวเองเป็นหลัก การวิเคราะห์วิจารณ์จากลุ่ม โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน เหล่านี้เป็นเรื่องที่แฟนบอลปฎิเสธไม่ได้ว่า บางเรื่องนั้นมันเป็นความจริง บางเรื่องนั้นต้องได้รับการแก้ไขปรับปรุงจริงๆ ซึ่งความคิดเห็นต่างๆเหล่านี้ โค้ชคีย์บอร์ด ก็มีความต้องการไม่แตกต่างจาก โค้ชข้างสนาม คือ ต้องการเห็นฟุตบอลไทยประสบความสำเร็จ พัฒนาไปในทิศทางที่ดี แม้ว่าบางครั้ง โค้ชคีย์บอร์ด บางส่วนที่เป็นหน้าใหม่ หรือ อาจจะเกรียนด้วยการใช้ถ้อยคำรุนแรง วิพากษ์วิจารณ์เกินพอดีไปบ้างก็ตาม แต่ สิ่งที่เราเลือกได้คือ เลือกความคิดเห็นที่ดี และ เป็นความจริง มาปรับปรุงแลพัฒนาให้ฟุตบอลไทยก้าวหน้าต่อไป
อย่าลืมสุภาษิตไทยที่ว่า ติเพื่อก่อยอเพื่อทำลาย ไม่มีแฟนฟุตบอลไทยคนไหนที่อยากเห็นความล่มสลายและพ่ายแพ้ของทีมชาติไทย และ กลุ่มแฟนบอล , โค้ชคีย์บอร์ด , โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน ทั้งหลายที่ออกมาเย้วๆกันในโลกโซเชี่ยลต่างก็อยากเห็นบอลไทยก้าวไกลในบอลโลกทั้งนั้น ถ้าเพียงแต่ผู้มีอำนาจจะจัดการวงการฟุตบอลไทยได้ดีขึ้น เป็นระบบมากขึ้น ชัดเจนมากขึ้น เชื่อเถอะว่า กลุ่มแฟนบอล , โค้ชคีย์บอร์ด , โค้ชคีย์บอร์ดโปรไลเซน จะเลิกเกรียน เลิกด่า และ แสดงความคิดเห็นแบบจริงจังและมีเหตุผลมากขึ้น
เห็นว่าน่าสนใจ และ มีเหตุผลพอสมควรจากมุมมองของผู้เขียน เลยเอามาให้อ่านกัน
ที่มา stepfb