เรื่องจริง สยองขวัญจากต่างจังหวัด

สวัสดีครับ ช่วงนี้ก็ขาดหายไปนานเลยกับความเชื่อและสิ่งลึกลับจากต่างแดน ก่อนอื่นต้องบอกเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่น่ารักทุกท่านก่อนนะครับ ว่าทุกเรื่องที่เจอที่ประสบพบหา เกิดจากเรื่องจริงที่ผมได้เจอมาด้วยตนเอง แต่ในด้านความเชื่อว่า  "จริง" หรือ "ไม่"

รบกวน ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่าน


ด้วยตนเองนะครับ มองเป็นเรื่องราวสนุกสนานอ่านเพลิดเพลินก็ได้ครับ

**** เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่ออาทิตย์ก่อน (ประมาณวันที่ 4-7 เม.ย. 2558) ผมและคณะได้ร่วมเดินทางไป ทำบุญเพื่อสร้างพระและถวายปัจจัย ให้กับวัดแห่งหนึ่งในภาคอิสาน ขณะนั้นเราก็นั่งเครื่องไปลงที่จังหวัดนั้นครับ พอถึงผมก็เดินผ่าน Gate เข้ามาในอาคารก็วิงเวียนศีรษะ เลยนั่งพักตรงเก้าอี้ที่ท่าอาศยานจัดเตรียมไว้ให้พอผมนั่งได้สักพักก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมาแจ้งว่า รถตู้พร้อมแล้วค่ะ ทางคณะจึงถามว่าพร้อมไหม ตอนนั้นดีขึ้นมาแล้วครับ เราก็ไปกันต่อ

เรานั่งรถกันไปสักประมาณ 30 นาทีโดยประมาณก็ถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พอลงจากรถ "อันนี้ขอชม" นิดนึงนะครับว่าคนที่นี่เขาดูแลต้อนรับแขกได้ดีมากเดินมารับถึงรถ เดินพูดคุยพาไปนั่งที่เก้าอี้หาน้ำ หาขนมทานเล่นมาให้นั่งพูดคุยยิ้มแย้มแจ่มใส ถามทุกข์สุขอีกต่างหาก นี่ละครับชีวิตชาวบ้านแบบซื่อๆ น่ารักมาก

ผ่านไป10 นาที เราก็เริ่มแห่พระ วงดนตรีบรรเลงระหว่างทางที่กำลังแห่ก็เดินไปเรื่อยๆ กลิ่นทุ่งนา กลิ่นไอดิน กลิ่นความแห้งแล้งคนเมืองอย่างผมได้แต่ถามตัวเองว่าชาวบ้านอยู่กันได้อย่างไร ร้อนแห้งแล้ง มองไปทางไหนก็มีแต่ผืนนาแห้งๆ แต่พอหันไปมองชาวบ้านที่กำลังเต้นกันหน้าวงดนตรีก็พอจะรู้ว่าเขามีความสุขกับสิ่งที่มี ก็ดีไปอีกแบบ

แห่ไปสักพักได้ยินเสียงเหมือนลมพัด วิ้งๆเข้าหู หันไปก็เจอป้าผู้หญิงยืนอยู่ ยิ้มด้วยก็ยิ้มตอบครับ สักพักก็เป็นแบบเดิมอีกแต่ครั้งนี้มีกลิ่นดอกไม้หอม หอมมาก ชื่นใจมากๆครับ ผมก็คิดว่าป้าคนเมื่อสักครู่ คงจะแกล้งผมแน่เลย เลยหันกลับไปแต่ทันใดนั้นป้าคนเมื่อสักครู่เขาก็ยืนเฉยๆไม่ได้แกล้งเป่าลมหรือยื่นดอกไม้มาไกล้ผมเลย ผมก็เดินไปเรื่อยๆ ยิ่งไกล้ถึงหน้าวัดยิ่งมีกลิ่นหอมมากขึ้น ผมเลยถามพี่ที่มาด้วยซึ่งเป็นรุ่นพี่ผมเรียนที่เดียวกัน แต่เขาอยู่จังหวัดนี้ ว่าที่นี่มีต้นโมกเยอะหรอครับพี่ หอมจัง

**เจ--- พี่เจ ก็หันมามองผม ทำสีหน้าตกใจ คุณแม่เขาที่อยู่ไกลๆก็ได้ยิน แล้วถามผมว่าผมเคยมาหรอที่นี่ ถึงรู้อะไรเยอะ
--ผม** ผมก็งงนะครับ ก็ได้แต่ตอบว่า ปล่าวนี่พี่ผมเพิ่งมาครั้งแรก
**เจ-- ทีหลังมีอะไรก็อย่าทักนะ เพราะที่นี่เก่าแก่มาก
--ผม** ผมก็ปล่าวทักนะพี่แค่ถาม
**เจ--  เออ ช่างเหอะหอมก็ดีแล้ว ดมไป ของดีน่ะ

สักพักเราก็แห่มาถึงวัด เป็นวัดที่ดูแล้วขาดแคลนปัจจัยหลายๆด้านเลย แต่พ่อแม่พี่น้องที่นี่ สามัคคีดีมากๆครับ มีกิจกรรมกันบ่อยครั้งสานสัมพันธ์กัน อันนี้ดูจากรูปภาพกิจจกรรมที่มีในวัด

----> ผ่านไปประมาณ 20 นาที

พี่น้องเมืองกรุง ได้เวลาทานข้าวแล้ว มาๆๆ อาหารก็ธรรมดาบ่ได้พิเศษ แต่มื้อนี้เฮ็ดด้วยใจ ผิดพลาดประการใดขออภัยครับ
เสียงประธานชุมชนกล่าว


ผมก็เชิญผู้ใหญ่มานั่งที่โต้ะอาหาร ชาวบ้านน่ารักมากเกรงอกเกรงใจ ช่วยกันตักข้าวเสริฟ ทำให้เราเกรงใจมากครับ ทั้งความน่ารักทั้งความสามัคคี
ผมก็พูดคุยนิดหน่อย เพราะคุยไม่เก่ง แต่ชาวบ้านเขาอยากคุยกับผมและคณะมากเพราะเขาดีใจ ที่มีคนนอกมาเยี่ยมพวกเขา
แล้วเราก็เริ่มทานข้าวครับ
- อาหารที่นี่รสชาดอร่อย เผ็ด เป็นงานที่อาหารค่อนข้างเป็นงานบุญ เพราะมีแค่ ไก่กับปลา ไม่มีสัตว์ใหญ่เลย
มีเมนู ปลาเผา ส้มตำปลาร้า ต้มไก่ ไข่พะโล้ อ่อมไก่ แกงเห็ด แกงไข่มดแดง และก็น้ำพริกผักลวก
ถือว่าอร่อยสุดๆ


ผมก็ทานไปจานแรก แล้วสักพักก็มีกลิ่นไม้หอมอีก ได้ยินเสียงกระซิบข้างหู เลยหันไปไม่มีใคร แต่ยังมีกลิ่นดอกไม่อยู่ ทานไปเรื่อยๆครั้งนี้มีความรู้สึกเหมือนมีคนมาวางแขนบนบ่าครับ นึกว่าเพื่อนๆที่มาด้วยกัน พอหันมามองผมตกใจมาก

เมื่อเห็นเสื้อผมบนบ่าขยับได้เหมือนมีคนวางและยกออก ไม่มีคนหรือสิ่งมีชีวิตมาเกาะแกะผมเลย เริ่มตกใจไม่กล้าทานต่อแล้ว นั่งนิ่งเงียบสักพัก ก้ทานต่อครับ

ปลาย่างอร่อยมาก ทานกับตำมะม่วงใส่ตัวปลาร้า แบบสุดยอดครับ ทานเสร็จก็นั่งพัก นั่งแซวพี่ๆที่กำลังทาน ป้าๆน้าๆก็กลัวจะไม่อิ่มเดินถือโถข้าวเตรียมจะเติมอย่างเดียวเลยครับ โห ขอบคุณมาก

ทานอิ่มผมก็รวบรวมจานครับ แต่ไม่ทันอีกแล้ว ชาวบ้านรีบมาเก็บและบอกว่า อย่าเฮ็ด เดี๋ยวจะตีมือนะ เป็นแขก พร้อมยิ้มแบบกวนๆ ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม

แล้วเราก็นั่งอืดดดดด แปบนึง ผมกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ แล้วทันใดนั้น ก็มีความรู้สึกเหมือนมีคนมาลูบบนศีรษะ ผมนี่รีบหันไปเลย ก็ไม่มีใครแถมตอนนั้น ลมไม่พัดด้วย คือตกใจครับเพราะความรู้สึกคือมือคนอย่างชัดเจน

ผมก็นั่งเล่นต่อ แต่ครั้งนี่ ได้กลิ่นดอกไม้หอม และรู้สึกเหมือนมีมือขนาดใหญ่ลูบศีรษะผมสองครั้ง ซึ่งผมรู้สึกสบายใจมากอย่างบอกไม่ถูก ผมหันกลับไปก็ไม่มีใคร  แถมข้างหลังผมถ้ามีคนแกล้งก้ยากที่จะหลบทัน หันไปรอบๆตัวก็ไม่มีใคร แต่ผมสังเกตุเห็นเหมือนเงาคนใต้ต้นมะม่วงต้นใหญ่เลยครับ แต่ไม่ชัดอาจจะเพราะว่ามันไกลก็ไม่รู้ ผมก็ยังคิดนะครับว่าเหตุการณ์นี้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่ตัวผมเองที่ประสบพบมาผมกล้ายืนยันครับว่าผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆและมีกลิ่นหอมอยู่หลายครั้งเลยครับ

ผมก็เก็บเรื่องนี้ไว้เงียบๆ ไม่ได้บอกใครครับ เลยอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ครับ


ยังไงก็ เนื้อหาตรงไหนอ่านยากเข้าใจยากต้องขออภัยด้วยนะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้จะเขียนแบ่ง 4 ตอนนะครับ รอติดตามตอนต่อไปด้วยคร้าบผมม ขอบคุณครับ
----> ตอนต่อไป
----> ตอนที่2 ตอน ณ.ห้องพัก
----> ตอนที่3 ตอน ต้นใม้ใหญ่
----> ตอนที่4 ตอนจบ ตอนสิ้นสุด ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง
------------------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  เรื่องเล่าสยองขวัญ แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่