ทริปนี้ไม่ได้แบกเป้ไปคนเดียว ทริปนี้ลากกระเป๋าขึ้นเครื่องเก๋ๆ พร้อมกับบิกินี่ที่จัดมาสำหรับ 3 วัน แบบไม่ซ้ำ
ตอนแรกว่าจะไม่ตั้งกระทู้ล่ะ เพราะทริปนี้ซื้อทัวร์ล้วนๆ แต่เหตุจากเรื่องร้านอาหารในกระบี่ที่เป็นกระแส แต่ตอนเราไปเจอร้านอาหารที่ดีมากเลยอยากมาแชร์ จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ แต่ก็จะเล่าเกี่ยวกับทริปเที่ยวทั้ง 3 วันด้วยนะคะ
เริ่มเดินทางกันเลย วันที่ 31 มีนา ออกจาก กทม ถึง กระบี่ ชีวิตทำได้แค่จองตั๋วโปร เลยบินได้แต่แอร์เอเชีย ดีนะ ประหยัดไปได้เยอะเลย ทริปนี้บินไปกลับไม่ถึง 1000 บาท
เราซื้อแพคเกจ 3 วัน 2 คืน ของเกาะพีพีทัวร์ ราคา 3000 บาทต่อคน รวมรถรับส่งสนามบิน ที่พักโรงแรมมารีไทม์ ในตัวเมืองกระบี่ พร้อมบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า และ ทัวร์ที่เกาะห้องเรือสปี้ดโบ๊ท 1 วัน แล้วซื้อแพคเกจของทัวร์เดียวกัน ที่งาน ททท ไป 4 เกาะทะเลแหวก เรือสปี้ดโบ้ท ราคา 600 บาท
มาถึงสนามบินกระบี่ก็มีรถตู้จากเกาะพีพีทัวร์มารับไปโรงแรมมารีไทม์ เรามาถึงตอน 10 โมงกว่า จึงไม่ทันทัวร์สระมรกต ตอนแรกนึกว่าทันแต่แอร์เอเชียเลื่อนเที่ยวบิน เราเลยจ้างเหมารถตู้เที่ยวในราคา 2400 (ตอนแรก 2500 แต่ต่อเพราะเราไป 4 คนจะได้หารพอดีๆ 555)
ที่แรกที่ไปคือ ร้านโกจ้อย ขนมจีนไก่ทอด ร้านนี้น้าคนขับบอกดัง อร่อย ร้านแบบดูภายนอกคือ ดูร้านชาวบ้าน หลังคาสังกะสี แต่คนเต็มร้านแสดงว่าเด็ดจริง ร้านที่ดูธรรมดาเนี่ยแหละ รสชาติเด็ดเสมอ จัดไป มาร้านขนมจีนก็กินขนมจีนสิ ไปสี่คนสั่งสี่แบบเลย น้ำยาป่า น้ำยากะทิ น้ำพริก แกงไตปลา ชอบเส้นขนมจีน สดดี ผักเครื่องเคียงจัดเต็ม ถาดใหญ่มาก ไก่ทอด กรอบ รสเครื่องเทศแน่นพอดี เนื้อฉ่ำ เอาง่ายๆอร่อยอ่ะ แล้วก็ห่อหมก เนื้อปลาเน้นๆ คือ กินเองเนี่ยไม่รู้หรอก รู้แค่อร่อยไม่อร่อย แต่พี่ที่ไปบอกเนี่ยไม่ค่อยมีแป้งเนื้อปลาล้วน มื้อนี้กินแน่นท้อง แต่จ่ายราคาเบาๆ ตกคนละ 67 บาท เบาจริง กลับมาเปิดดูตารางค่าใช้จ่ายที่จดไว้ยังอึ้ง 5555
เอิ่ม ไปต่อซะทีเหอะนะ ที่ต่อไปคือ สระมรกต แหม ขอเปลี่ยนชุดก่อนนะ วันที่ไปคนไม่เยอะมาก เสียค่าเข้า 20 เดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมานโลกว่า เป็นสะพาน ตามทางจะเป็นต้นไม้ ตรงไหนที่ไม่มีร่มไม้นี่ร้อนอยู่ ติดผ้าไปคลุมไหล่ ใส่หมวก และโบกกันแดดไปด้วย ส่วนน้ำที่เห็นคือ ใสมาก สระมรกตก็เขียวใสจริง สระไม่ได้ลึก แต่ไม่รู้ทำไมน้ำเป็นสีนี้ ริมสระลื่นตะไคร่มากเดินระวังๆด้วยนะ ใส่รองเท้าเดินไม่ลื่น ออ ที่นี่มีบ่อน้ำผุดด้วยแต่ไม่ได้เดินไป แอบเสียดายเบาๆ แต่คาดว่าคงใสแบบบ่อที่เห็นตอนเดินผ่านแถวทางเดินศึกษาธรรมชาติ ขากลับเราเดินกลับอีกทางสั้นกว่า 800 เมตร แต่ทางเป็นดินขรุขระ แล้วแต่จะเลือกแต่ทางแรกเดินสบายกว่า จบที่นี่ด้วยไอติมมะนาว ชื่นใจ พร้อมไปต่อ
ที่ต่อมา คือ น้ำตกร้อน เสียค่าเข้า 20 เช่นกัน เดินเข้าไปไม่ไกลมาก โอย บ่อน้ำร้อนกลางป่า บรรยากาศดีมาก จุ่มเท้าครั้งแรก โอ๊ย จะสุกไหม อ่ะลองทนๆแช่ทั้งตัวเลย อ้ากกก พอผ่านจุดที่รู้สึกร้อนไป คุณจะรู้สึกสบาย ตัวเบา ไม่รู้สึกร้อนเลย เย็นๆนิดนึงด้วยซ้ำ บอกเลยว่าฟินมาก อยากจะแช่นานๆ แต่ไม่ได้ค่ะ เรามีเวลาทองเพียง 15 นาทีเท่านั้น เพราะตอนลุกขึ้นมาแอบเซนิดๆค่ะ 555 ใครมีโรคประจำตัวก็ระวังด้วยค่ะ โดยเฉพาะความดันกับเบาหวาน
ที่สุดท้ายก่อนไปหม่ำอาหารเย็น คือ วัดถ้ำเสือค่าาาาา มาไหว้สิ่งศักดิ์กัน ทำบุญเรียบร้อยก็ไปออกกำลังกายค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะ ไปจุดชมวิวพิชิตบันได 1260 ขั้นค่ะ (ป้ายข้างล่างบอก1234ขั้น #ร้องไห้หนักมาก) มา4คนแต่พิชิตได้คนเดียว คือ อิชั้นเอง มิอยากจะอวด 5555 ก่อนขึ้นพลาดอย่างแรง ฉันแบกกระเป๋ามาทำไม ระหว่างทางอยากจะโยนทิ้ง ดันใส่กระโปรงยาวมาอีก แต่สู้ค่ะ เพราะทริปหน้าอาจไม่ได้มาแล้ว เดินมั่ง หยุดมั่ง จนมาถึง เห้อ ฝรั่งหล่อมาก เอ้ย วิวสวยมากค่า ด้านหน้าฝั่งวัดจะเป็นต้นไม้ เขียวขจีมีฉากหลังเป็นภูเขาลิบๆ ส่วนด้านหลังเป็นภูเขาหินปูนสลับซับซ้อนดุจเขาเหลียงซาน(?) มีหมอกจางๆ โอ๊ย สวยค่ะ ด้านบนมีพระพุทธรูปให้สักการะ และมีจุดดื่มน้ำค่ะ เป็นน้ำกรอง โอ๊ยดีใจยิ่งกว่าเห็นฝรั่งหล่อ คือหลังจากเดินมาได้ 300 กว่าขั้นเพิ่งนึกได้ว่าลืมพกน้ำมา เลยจัดไปหลายแก้ว แต่มีสติ ค่อยๆจิบค่ะ เราจะได้ดู อุ้ย ชิลๆ 1260 ขั้น เบๆมาก (เหงื่อเต็มหน้าและหลังแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยกเว้นตอนปีนดอย) แต่ตอนลงนี่นึกว่าจะชิลค่ะ เพราะประสบการณ์ตอนลงดอยแทบจะไม่เหนื่อย นี่ก็ไม่เหนื่อยค่ะ แต่ปวดเข่ามาก และ ฝนตกค่ะ ตกตั้งแต่ลงมาได้ประมาณ 10 กว่าขั้น ตกจนเดินถึงขั้นสุดท้ายยังไม่หยุดค่า โอ๊ย ทริปนี้ เปียกทั้งวัน ไม่เปียกลงน้ำ ก็เปียกเหงื่อ สุดท้าย เปียกฝน กลับไปถึงโรงแรมซัดยาอย่างแรกเลย
แต่ก่อนถึงโรงแรม เราต้องจัดมื้อเย็นก่อนค่ะ ซึ่งเป็นมื้อที่เริศอลังการที่สุดแล้วในทริปนี้เนื่องจาก โรงแรมอยู่ในซอกหลืบมาก คาดว่าวันต่อไปคงไม่ออกมา มื้อนี้จึงต้องจัดค่ะ จัดประหนึ่งมื้อสุดท้ายของชีวิต (แกจะดราม่าเพื่อ) และมันก็เริศจริงค่า ดีใจเลือกร้านไม่ผิด มาเลยค่าที่ร้าน ปากน้ำซีฟู้ด เป็นร้านอาหารอิสลาม อยู่เลยร้านน้องโจ๊กเข้ามาอีกค่ะ ตอนแรกเปรยๆกับน้าคนขับว่าอยากไปร้านนายดำ ตั้งอยู๋ริมน้ำ แกก็เอร้านไหน เราเป็นคนบอกชื่อไป คือ อ่านรีวิวไว้นานแล้ว น้าคนขับแกก็บอกสงสัยร้านนี้แหละ ปากน้ำซีฟู้ด เราก็เออออ สงสัยเปลี่ยนชื่อมั้ง อ่ะๆ ร้านไหนก็ได้เชื่อใจน้าเค้า วัดจากร้านแรก 555 มาถึง โอ๊ย บรรยากาศดี นี่ถ้าฝนไม่ตกจัดแล้วค่ะ โต๊ะฝั่งติดแม่น้ำกระบี่ แต่ๆๆๆ ฝนค่ะ ไม่เป็นใจ เลยนั่งด้านในไป ร้านก็เปิดเพลงเศร้า อกหักเกือบตลอดงานตั้งแต่เข้าร้าน แต่ก็น่าอ่ะนะคะ เพราะเข้าไป ร้านโล่งเลย มีแค่โต๊ะเรา กับอีกโต๊ะนึงเอง พอๆ นี่ลากยาวไปล่ะ มาที่เมนูดีกว่า ด้วยความที่เราไปแบบหญิงสาวสี่คน เลยจัดอาหารมาเบาๆแบบกุลสตรี กินน้อยแต่พอดีเดี๋ยวคุณหญิงแม่ว่า อาหารที่สั่งคือ ปูดำใหญ่นึ่ง 4 ตัว ต้มยำทะเลน้ำข้น หอยชักตีน ใบเหลียงผัดไข่ หมึกนึ่งมะนาว ส้มตำปูม้า ส้มตำไทย ยำกุ้งกับยอดมะพร้าวอ่อน ข้าว 1 โถ น้ำแข็ง น้ำเปล่า และไอศกรีมคนละ 1 แท่ง นั่งโต๊ะเดียว แต่อาหารวางยาว 2 โต๊ะ ปริมาณพอดี อาหารสด อร่อย บอกเลยร้านดังที่อ่าวนาง 2 ร้านที่เคยไปมา ตกอ่าวนางลอยไปหาดนพรัตน์เลยค่ะ โอ๊ย หอยชักตีนเนื้อหวาน รู้สึกได้เลย เนื้อปูแน่นๆ รสชาติอาหารจัดจ้านแบบพอดี เรื่องอาหารสดแน่นอนเพราะมีบ่อค่ะ โห น้องปูนี่เดินกันเริงร่า น้องปลาว่ายครีบสะบัด เสียดาย มานี่จัดหมด กุ้ง หอย หมึก ลืมสั่งปลาค่ะ แต่ปลาที่มาในต้มยำอร่อยค่ะ มาคราวหน้านี่ขอสั่งปลา ห้ามลืม เด็ดขาด อุ้ย สั่งไปเบาๆขนาดนี้ (เบาบ้าไรกางเกงแทบซิปแตก) ราคาจะเบาไหมนะ ลุ้นค่ะลุ้น เลขที่ออกคือ 475 ค่ะ เอิ่ม ราคาต่อคนนะคะ ไม่ใช่ทั้งหมด โหยกิน ขนาดนี้ ไม่ถึง 500 อยากจะยกมุมผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา ทันทีที่กลับมา เพื่อนไปกระบี่แล้วถามว่าไปกินร้านไหนดี เชียร์ร้านนี้สุดใจ แกไม่ไปฉันตัดเพื่อน เว่อร์ แต่เพื่อนก็ไปมาค่ะ นางมาขอบคุณด้วย บอกเด็ดจริง ส่วนทางไปอย่าถามนะคะ ถามอากู๋เลย กทม อยู่มาจนโตยังหลงค่ะ บอกเลย ใครไปกระบี่ ห้ามพลาดนะคะร้านนี้ (หวังว่าจะมีคนมาอ่านกระทู้ของอิชั้นบ้างจะได้โปรโมทร้านเค้า 555)
กินเสร็จทำไงคะ แวะมินิมาร์ทหน่อยคะ จะกดตัง และซื้อของจุกจิกอีกเล็กน้อย ไว้ประทังชีวิตพรุ่งนี้ กลับถึงโรงแรมแยกย้ายค่ะ พี่ที่มาด้วยติดละครค่ะ โชคดีของอิชั้นมาก 555 เพราะที่นี่มีอ่างอาบน้ำค่ะ คราวที่แล้วที่มาโรงแรม 650 ต่อคืนก็มีอ่างค่ะ คราวนี้ก็มี แต่ที่ไม่มีคือ สบู่ที่ทำให้มันเป็นฟองค่ะ คือก็ไม่เคยใช้อ่ะนะ ไม่รู้เรียกว่าไง แต่พลาดสองรอบเลย เสียดาย ได้แค่เปิดน้ำอุ่นแช่ตัวเพลินๆ โหย เก๋มากเลย แค่นี้ก็สุขใจ 555
วันที่สองล่ะค่ะ เปลี่ยนชุดเตรียมว่ายน้ำเต็มที่ แต่ เราต้องจัดมื้อเช้าก่อนนะคะ บุฟเฟ่ต์จัดไปคะ ที่นี่ทัวร์จีนมานะคะ แต่ไม่มีเรื่องราวแย่งคิว เสียงดัง เราสิมัวแต่หยิบอาหาร ไม่รู้ไปทำอะไรผิดๆไว้อ่ะเปล่า ยังไงขออภัยมา ณ ที่นี้ เพราะตอนนั้นรีบจริงกลัวไม่ทันทัวร์ ทัวร์มารับ 8 โมงตรงเป๊ะ มุ่งหน้าสู้เกาะห้องค่ะ ใครที่เลือกมาทริปนี้แล้วหวังจะดูปะการัง บอกเลยว่าไม่มีค่ะ ขอแสดงความเสียใจด้วย แต่ ถ้าใครอยากจะมาถ่ายรูปสวยๆ น้ำสีเขียวมรกต ฉากหลังเป็นภูเขา จัดมาค่ะ ชุดจัดเต็มมาเลย เตรียมท่าโพสมาเลย แต่ไม่รู้เป็นเฉพาะทัวร์เรารึเปล่านะ คือ ไม่ใช่บริการไม่ดี แต่จุดที่ไปเนี่ย ไม่มีอะไรให้ดำน้ำดูเลย เลยกลายเป็นที่ที่ไปถ่ายรูปเก๋ๆ มีชิงช้าให้ปีนป่าย ถ่ายรูปกันไป ออ อาหารกลางวันเป็นข้าวกล่อง ไข่เจียว กับไก่ผัดกระเทียมพริกไทย และแตงโม อาหารตอนไปคราวที่แล้วดูดีกว่านะ แต่ช่างเหอะมาเที่ยวไม่ได้มากิน (ปลอบใจตัวเอง)
ตอนเย็นก็มาว่ายน้ำที่สระในโรงแรมต่อค่ะ ทานอาหารเย็นที่โรงแรม แล้วก็นั่งรถโรงแรมให้ไปส่งที่ร้านโรตีชื่อดังแถวห้างโว้ค โรตีธรรมดาแบบกรอบอร่อยมาก สั่งทุกโต๊ะ แนะนำเลย แล้วแวะซื้อเสื้อผ้าต่อนิดหน่อย เราเลยได้เสื้อตัวใหม่ไว้ใส่พรุ่งนี้ด้วย แต่ตัวที่พกมาก็ใหม่นะ ไม่เป็นไรไว้ทริปหน้า 555 ค่ารถไปกลับคนละ 160 กลับมาถึงไงคะ แช่น้ำอุ่นอีก โอ๊ย คืนสุดท้ายแล้ว จัดค่ะจัด ตัวดำผิวไหม้แดด ไม่แคร์ จะแช่น้ำอุ่น แต่อาบน้ำเย็นนะ 5555
วันสุดท้ายแล้ว เวลาผ่านไปไวดุจเด็กเลี้ยงแกะ นี่พรุ่งนี้ฉันต้องกลับไปทำงานแถมอยู่เวรสองวันติดเหรอเนี่ย โอ๊ย อย่าคิดถึงอนาคตอันใกล้ที่น่าหดหู่ ไปเที่ยวตากแดด แช่น้ำทะเลดีกว่า วันนี้เราจะไปทริป 4 เกาะทะเลแหวกค่ะ โหยวันนี้ไกด์แม๊คหล่อมากเลย อิชั้นปลื้มปริ่มมาก แต่ทำได้แค่แอบถ่ายรูปเก็บไว้ โอ๊ย แอบโรคจิตนะเนี่ย พอๆๆเรื่องผู้ชาย คนอ่านนี่เค้าจะคิดว่าอิชั้นเป็นคนยังไงเนี่ย อ่ะแต่ใครผ่านมาอ่านแล้วรู้จักไกด์ฝากบอกด้วยนะคะ ไหนบอกพอแล้วไงเรื่องผู้ชาย ไม่จบนะไม่จบ ค่ะ เข้าเรื่องผู้ชาย เอ้ย เรื่องเที่ยวต่อ ก็ 4 เกาะที่ไปมี เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะปอดะ ไร่เลย์ ก็เหมือนๆคราวที่แล้วที่มา แต่คราวนี้ได้แวะมาสักการะพระนาง ที่ถ้ำพระนางด้วย คราวที่แล้วไม่ได้เดินมา และได้ฟังประวัติจากไกด์ด้วย ที่หน้าถ้ำ เนื้อหาเหมือนฟังจากไกด์คราวที่แล้ว แต่คราวนี้อิชั้นจ้องหน้าตั้งใจฟังมากค่ะ (วนมาเรื่องเดิม) ก่อนไปจะทะเลแหวกแวะมาที่จุดดำน้ำก่อนค่ะ เอิ่ม ไม่เห็นอะไรเหมือนเดิม แต่เยอะกว่าเมื่อวานค่ะ มีปะการังเขากวาง ที่เล็กมาก จน เอิ่ม ที่เกาะพยามสวยกว่า โชคดีที่ดันกระแดะไม่เจียมตัว ว่ายไปไกลจากเรือ พอดีลูกเรือเห็นเลยถามด้วยความห่วงใยว่าว่ายกลับไหวไหม หญิงอึด ถึกอย่างชั้นตอบเลยค่ะว่า ว่ายมาช่วยก็ดีค่ะ พอลูกเรือมาถึง อ้อนต่อ เอ่อ เมื่อกี้ดำน้ำไป เห็นอะไรบ้างไหมคะ ช่วยพาดูหน่อย นั่นแหละค่ะ ลูกเรือผู้ใจบุญเลยช่วยลากอิชั้นไปดูโน่นนี่นั่นบ้าง เลยได้เห็นเยอะขึ้นเลย เห็นดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ ปะการังเขากวาง ปะการังโถ และหอยเม่น โอ๊ยแค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ แต่ทุกอย่างที่เห็นนี่เล็กจริงๆ ยังไงต้องขอขอบพระคุณลูกเรือเป็นอย่างสูง ก่อนกลับเลยถือโอกาสถ่ายรูปร่วมกันเล็กน้อย (แต่ไม่ได้ถ่ายกับไกด์ค่ะ #แอบร้องไห้เบาๆ) จบทริปด้วยทะเลแหวกค่ะ ถ่ายรูปกระโดดค่ะ ภารกิจที่ห้ามลืม เห้อ ตัวดำมาก ออ ก่อนกลับให้ไกด์ถ่ายพาโนรามา 3 เกาะให้ด้วย สวยดี แนะนำ ตอนจบก็กลับไปโรงแรม อาบน้ำในห้องยิม กินมาม่า แล้วก็ไปซื้อของฝากก่อนไปสนามบิน บินกลับ กทม อย่างปลอดภัย

ท้ายนี้ขอบคุณพี่ๆร่วมทริปทุกคน และขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ทริปนี้สนุกและคุ้มมาก ทริปต่อไปเดือนหน้าไปตรัง 6 - 8 พค ใครสนใจไปด้วยหลังไมค์ได้นะ (ความดำอันเก่าไม่ทันหายจะซ้ำอีกแล้วค่ะ)