ภูกระดึง
31 มกราคม -2 กุมภาพันธ์ 2558
แม้เป้าหมายหลัก
ของการขึ้นภูกระดึงครั้งนี้จะไม่ใช่การดูนก แต่นกก็เป็นส่วนหนึ่งของป่าที่พบเห็นได้ระหว่างทางขึ้นลง ช่วงขาขึ้นเก็บกล้อง เก็บเลนส์ ไบนอคก็ไม่คล้องคอไว้อย่างเคย มีเพียงสีไพร-กล้องดิจิตอลตัวจิ๋ว กับลำหับ-มือถือสะดวกถ่ายทุกเวลา ไม่พร้อมเลยกับการดูนก ถ่ายภาพนก ด้วยใจคิดว่า
"ไม่น่าจะมี" จึงพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
นกตัวแรกที่พบได้ง่ายอยู่ในสนามหญ้ารอบที่ทำการฯ เจ้านกพุงลาย ตัวสีชมพูระเรื่อ เดินก้มหน้าหงุดๆหาอาหารไม่สนใจผู้คน
นกเด้าดินอกแดง (Red-throated Pipit) นั่นเอง
หลังจากจัดการที่หลับที่นอนเสร็จ ก็รีบคว้ากล้อง คว้าไบนอค ก่อนที่จะมีภาระกิจอย่างอื่นเข้ามา แต่...ยังช้ากว่าใครบางคน ที่เดินย่องๆ ไปแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ริมแอ่งน้ำนั่นแล้ว
เจ้านกปากซ่อมหางเข็ม นี่เข้าใกล้ได้ยากเหลือเกิน ตัวกลืนกับพื้นดินพื้นหญ้ามาก ย่องไปกะว่าจะเอาพุ่มไม้ริมแอ่งเป็นบังไพร เดินได้ไม่กี่ก้าวเจ้าปากซ่อมบินพรื้อออกไป อยู่ใกล้นิดเดียว บินหนีก่อนที่จะเห็นตัวทุกครั้ง
เช้าวันใหม่...
ระหว่างรอความพร้อม ไปดูจุดที่จะสร้างสถานีปลายทางกระเช้าไฟฟ้าพร้อมนักข่าวจากหลายสำนัก เลาะชายป่าหน้าที่ทำการอุทยานฯไปเรื่อยๆ
นกอีเสือหลังแดง ยืนรับลมพริ้วอยู่บนยอดสน นกกระเบื้องผาบนเสาทีวีก่อนจะโผมาเกาะบนหลังคา นกหัวขวานเล็กหงอนเหลืองไต่เจาะเปลือกต้นสนหาแมลงหาหนอนของโปรด
นกปรอดหัวโขน รวมตัวกันฝูงใหญ่ ส่งเสียงดังลั่นเป็นนักเลงไม่เกรงใจใคร โผไปมาระหว่างต้นไทรกับต้นไม้ในดงละเมาะ จำนวนเพิ่มขึ้นเยอะทีเดียว เมื่อปีก่อนๆแทบจะไม่พบเลย
"คุณ คุณ คุณ" ได้ยินเสียงเรียกอย่างร้อนรนจากเจ้าหน้าที่
ตกใจ! ... คิดว่ามีเหตุอะไร
"
นกพญาไฟใหญ่ เห็นมั้ยครับบนยอดไม้นั่น สีแดงแปร๊ดเลย"
ระหว่างทางไปผาหมากดูกเป็นป่าสนแทบจะไม่พบนกอะไรเลย มีเพียงนกขี้เถ้าใหญ่ ที่ดูเหมือนจะบินตามเราทั้งไปและกลับ
ออกจากผาหมากดูก เราตรงไปยังผาจำศีล เลี้ยวขวาที่ผานาน้อย เข้าสู่เส้นทางสายน้ำตก เพียงไม่นานก็พบทุ่งกว้างแห้งแล้งสุดตา เหยี่ยวถลาร่อนท้าแสงตะวัน คงไม่เห็นเราเป็นหนูตัวน้อยๆ โฉบลงมาจับกินเสียหล่ะ ตัดผ่านทุ่งท่ามกลางแดดจ้าสู่ป่าสนดำที่ถูกไฟป่าเผาเกรียม ทุกสิ่งหยุดนิ่ง เงียบสนิท ไร้เสียงนก ไม่มีใบไม้ไหว
ในความแห้ง แล้ง ร้อน
ดอกหรีดสีม่วงชูช่อ สดชื่น สดใส
มีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจสิ่งเลวร้ายรอบตัว
ต่างจากคนเราที่มักจะนำเรื่องรอบตัวมาใส่ใจ
อยากได้ อยากมี อยากเป็น
ชีวิตจึงเหี่ยวเฉา ไร้ชีวิตชีวา
ป่าสนเขียวขจีรออยู่ข้างหน้า ...
เสียงแบบนี้
นกปีกลายสก็อตแน่นอน
เช้าวันเดินทางกลับ
แวะไปยังบึงน้ำ ใกล้ที่ทำการอุทยาน รอบบึงเต็มไปด้วยรอยเท้าสัตว์ รอยใหม่ๆของเก้ง กวาง หมูป่า เมื่อคืนคงมาชุมนุมดื่มกินกันอย่างกระหาย ไม่ไกลนักคือโป่งดิน สัตว์ป่าต่างทิ้งร่องรอยไว้เช่นกัน
จุดนี้ในช่วงเช้า พบนกหลายชนิด
นกกะรางคอดำหรือซอฮู้ ด้วยเสียงที่ไพเราะจึงเป็นนกอีกชนิดหนึ่งที่ถูกจับไปเลี้ยง
นกระวังไพรปากเหลือง ในบรรดานกทั้งหลาย นกระวังไพรจะขึ้นชื่อในเรื่องความเปรียว ว่องไวและช่างระแวง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสัญญาณไพรให้กับเพื่อนสัตว์อื่นๆได้เป็นอย่างดี
บริเวณป่าดิบเขาที่พลาดมาแล้วในช่วงขาขึ้น ขากลับจึงเตรียมพร้อม ลงจากหลังแปรมาไม่นาน มีเสียงคุ้ยเขี่ยในหมู่โขดหินข้างทาง ย่องตามไปสักพักเจ้าตัวเล็กก็เผยโฉม กระโดดตามพื้น มุดพุ่มไม้ เจ้าจู๋เต้นตัวลาย มีสีขาวสลับดำที่คอ กระหม่อมและหลังมีลายขีด ครั้งแรกก็ดูไม่ออกว่าเป็นนกจู๋เต้นชนิดไหน ข้อมูลจากน้องป่าน บล็อกเกอร์ plains-wanderer จากนกป่าสัปดาห์ละตัว บอกไว้ละเอียดจึงแยกแยะได้ว่า
นกจู๋เต้นหางสั้น จะมีแต้มสีขาวที่ปลายขนปีกเป็นจุดเด่น
ก่อนที่คณะหลังจะเดินมาทัน บนผาหิน
นกเขียวก้านตอง นกขมิ้นน้อยธรรมดา นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ นกภูหงอน นกพญาไฟเล็ก นกกินแมลงและนกกาฝาก ยากเกินกว่าที่นักดูนกมือใหม่จะจำแนกชนิดได้ มาโชว์ตัวในเวลาใกล้เคียงกัน กดชัตเตอร์ไม่ทันเลยทีเดียว
พอใจ สุขใจ
กับทริปนี้ ได้ทำอะไรเพื่อช่วยภูกระดึงบ้างแม้เพียงเล็กน้อย มีมิตรร่วมทางที่ดี มีนกให้ดู
สำหรับใครที่จะไปดูนกที่ภูกระดึง ขอแนะนำระหว่างทางขึ้นลง และโดยรอบๆที่ทำการอุทยาน สำหรับเส้นทางสายน้ำตกและป่าปิด หากมีโอกาสและไม่หมดแรงไปเสียก่อนคงได้ไปอีกสักครั้ง
นกจากภูกระดึงเมื่อปลายมกราคม 2558
31 มกราคม -2 กุมภาพันธ์ 2558
แม้เป้าหมายหลัก
ของการขึ้นภูกระดึงครั้งนี้จะไม่ใช่การดูนก แต่นกก็เป็นส่วนหนึ่งของป่าที่พบเห็นได้ระหว่างทางขึ้นลง ช่วงขาขึ้นเก็บกล้อง เก็บเลนส์ ไบนอคก็ไม่คล้องคอไว้อย่างเคย มีเพียงสีไพร-กล้องดิจิตอลตัวจิ๋ว กับลำหับ-มือถือสะดวกถ่ายทุกเวลา ไม่พร้อมเลยกับการดูนก ถ่ายภาพนก ด้วยใจคิดว่า "ไม่น่าจะมี" จึงพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
นกตัวแรกที่พบได้ง่ายอยู่ในสนามหญ้ารอบที่ทำการฯ เจ้านกพุงลาย ตัวสีชมพูระเรื่อ เดินก้มหน้าหงุดๆหาอาหารไม่สนใจผู้คน นกเด้าดินอกแดง (Red-throated Pipit) นั่นเอง
หลังจากจัดการที่หลับที่นอนเสร็จ ก็รีบคว้ากล้อง คว้าไบนอค ก่อนที่จะมีภาระกิจอย่างอื่นเข้ามา แต่...ยังช้ากว่าใครบางคน ที่เดินย่องๆ ไปแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ริมแอ่งน้ำนั่นแล้ว
เจ้านกปากซ่อมหางเข็ม นี่เข้าใกล้ได้ยากเหลือเกิน ตัวกลืนกับพื้นดินพื้นหญ้ามาก ย่องไปกะว่าจะเอาพุ่มไม้ริมแอ่งเป็นบังไพร เดินได้ไม่กี่ก้าวเจ้าปากซ่อมบินพรื้อออกไป อยู่ใกล้นิดเดียว บินหนีก่อนที่จะเห็นตัวทุกครั้ง
เช้าวันใหม่...
ระหว่างรอความพร้อม ไปดูจุดที่จะสร้างสถานีปลายทางกระเช้าไฟฟ้าพร้อมนักข่าวจากหลายสำนัก เลาะชายป่าหน้าที่ทำการอุทยานฯไปเรื่อยๆ นกอีเสือหลังแดง ยืนรับลมพริ้วอยู่บนยอดสน นกกระเบื้องผาบนเสาทีวีก่อนจะโผมาเกาะบนหลังคา นกหัวขวานเล็กหงอนเหลืองไต่เจาะเปลือกต้นสนหาแมลงหาหนอนของโปรด
นกปรอดหัวโขน รวมตัวกันฝูงใหญ่ ส่งเสียงดังลั่นเป็นนักเลงไม่เกรงใจใคร โผไปมาระหว่างต้นไทรกับต้นไม้ในดงละเมาะ จำนวนเพิ่มขึ้นเยอะทีเดียว เมื่อปีก่อนๆแทบจะไม่พบเลย
"คุณ คุณ คุณ" ได้ยินเสียงเรียกอย่างร้อนรนจากเจ้าหน้าที่
ตกใจ! ... คิดว่ามีเหตุอะไร
"นกพญาไฟใหญ่ เห็นมั้ยครับบนยอดไม้นั่น สีแดงแปร๊ดเลย"
ระหว่างทางไปผาหมากดูกเป็นป่าสนแทบจะไม่พบนกอะไรเลย มีเพียงนกขี้เถ้าใหญ่ ที่ดูเหมือนจะบินตามเราทั้งไปและกลับ
ออกจากผาหมากดูก เราตรงไปยังผาจำศีล เลี้ยวขวาที่ผานาน้อย เข้าสู่เส้นทางสายน้ำตก เพียงไม่นานก็พบทุ่งกว้างแห้งแล้งสุดตา เหยี่ยวถลาร่อนท้าแสงตะวัน คงไม่เห็นเราเป็นหนูตัวน้อยๆ โฉบลงมาจับกินเสียหล่ะ ตัดผ่านทุ่งท่ามกลางแดดจ้าสู่ป่าสนดำที่ถูกไฟป่าเผาเกรียม ทุกสิ่งหยุดนิ่ง เงียบสนิท ไร้เสียงนก ไม่มีใบไม้ไหว
ดอกหรีดสีม่วงชูช่อ สดชื่น สดใส
มีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจสิ่งเลวร้ายรอบตัว
ต่างจากคนเราที่มักจะนำเรื่องรอบตัวมาใส่ใจ
อยากได้ อยากมี อยากเป็น
ชีวิตจึงเหี่ยวเฉา ไร้ชีวิตชีวา
ป่าสนเขียวขจีรออยู่ข้างหน้า ...
เสียงแบบนี้ นกปีกลายสก็อตแน่นอน
เช้าวันเดินทางกลับ
แวะไปยังบึงน้ำ ใกล้ที่ทำการอุทยาน รอบบึงเต็มไปด้วยรอยเท้าสัตว์ รอยใหม่ๆของเก้ง กวาง หมูป่า เมื่อคืนคงมาชุมนุมดื่มกินกันอย่างกระหาย ไม่ไกลนักคือโป่งดิน สัตว์ป่าต่างทิ้งร่องรอยไว้เช่นกัน
จุดนี้ในช่วงเช้า พบนกหลายชนิด นกกะรางคอดำหรือซอฮู้ ด้วยเสียงที่ไพเราะจึงเป็นนกอีกชนิดหนึ่งที่ถูกจับไปเลี้ยง นกระวังไพรปากเหลือง ในบรรดานกทั้งหลาย นกระวังไพรจะขึ้นชื่อในเรื่องความเปรียว ว่องไวและช่างระแวง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสัญญาณไพรให้กับเพื่อนสัตว์อื่นๆได้เป็นอย่างดี
บริเวณป่าดิบเขาที่พลาดมาแล้วในช่วงขาขึ้น ขากลับจึงเตรียมพร้อม ลงจากหลังแปรมาไม่นาน มีเสียงคุ้ยเขี่ยในหมู่โขดหินข้างทาง ย่องตามไปสักพักเจ้าตัวเล็กก็เผยโฉม กระโดดตามพื้น มุดพุ่มไม้ เจ้าจู๋เต้นตัวลาย มีสีขาวสลับดำที่คอ กระหม่อมและหลังมีลายขีด ครั้งแรกก็ดูไม่ออกว่าเป็นนกจู๋เต้นชนิดไหน ข้อมูลจากน้องป่าน บล็อกเกอร์ plains-wanderer จากนกป่าสัปดาห์ละตัว บอกไว้ละเอียดจึงแยกแยะได้ว่า นกจู๋เต้นหางสั้น จะมีแต้มสีขาวที่ปลายขนปีกเป็นจุดเด่น
ก่อนที่คณะหลังจะเดินมาทัน บนผาหิน นกเขียวก้านตอง นกขมิ้นน้อยธรรมดา นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ นกภูหงอน นกพญาไฟเล็ก นกกินแมลงและนกกาฝาก ยากเกินกว่าที่นักดูนกมือใหม่จะจำแนกชนิดได้ มาโชว์ตัวในเวลาใกล้เคียงกัน กดชัตเตอร์ไม่ทันเลยทีเดียว
พอใจ สุขใจ
กับทริปนี้ ได้ทำอะไรเพื่อช่วยภูกระดึงบ้างแม้เพียงเล็กน้อย มีมิตรร่วมทางที่ดี มีนกให้ดู
สำหรับใครที่จะไปดูนกที่ภูกระดึง ขอแนะนำระหว่างทางขึ้นลง และโดยรอบๆที่ทำการอุทยาน สำหรับเส้นทางสายน้ำตกและป่าปิด หากมีโอกาสและไม่หมดแรงไปเสียก่อนคงได้ไปอีกสักครั้ง
http://www.oknation.net/blog/wansuk
นกระวังไพรปากเหลือง (White-browed Scimitar Babbler)
นกอุ้มบาตร (White Wagtail)
ขี้เถ้าใหญ่ (Large Cuckooshrike)
นกกระจิ๊ดธรรมดา (Yellow-browed Leaf Warbler)
นกกระจิ๊ดปากหนา (Radde's Warbler)
นกกระเบื้องผา (Blue Rockthrush)
นกกะรางคอดำ - นกซอฮู้ (Black-throated Laughingthrush)
นกจู๋เต้นหางสั้น (Streaked Wren-Babbler)
นกเด้าดินอกแดง (Red-throated Pipit)
นกปรอดหัวโขน (Red-whiskered bulbul)
นกปรอดหัวสีเขม่า (Sooty-headed Bulbul)
นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ (Puff-throated Bulbul)
นกปากซ่อมหางเข็ม (Pintail Snipe)
นกปีกลายสก็อต (Eurasian Jay-2)
นกพญาไฟใหญ่-ตัวผู้ (Scarlet Minivet)
นกพญาไฟใหญ่-ตัวเมีย (Scarlet Minivet)
นกภูหงอนท้องขาว (White-bellied Yuhina)
นกหัวขวานเล็กหงอนเหลือง (Lesser Yellownape)
นกอีเสือสีน้ำตาล (Brown Shrike)
นกอีเสือหลังแดง (Burmese Shrike)