......เจ้าได้เปรียบวันยันค่ำ เพราะเป็นคนทำราคา......
1. ก่อนเก็บหุ้น ทุบราคาให้ลงต่ำ โยนราคาไปมา ต่อด้วยออกข่าวร้าย(เช่น ขายหุ้นที่เคยซื้อคืน แจก war เพิ่มทุน)เม่าบางส่วนมีหุ้นอยู่แล้วตัดสินใจเทขาย เข้าทางเจ้า เจ้าเก็บ
2. เจ้าได้หุ้นไม่พอ ทุบราคาลงต่อแล้วดองราคา เม่ากระอักบางส่วนทนไม่ไหว เทขาย บางส่วนสายป่านยาว มึนอยู่ต่อกะฮึดสู้
3. เจ้าใช้แผนเขย่าให้เม่าหลุด ดันราคาขึ้นหน่อยนึงแล้วดึงลง เม่าไม่ขายรอดูสถาณการณ์ ดันราคาขึ้นแล้วดึงลงอีกรอบ2 เม่าเกิดการเรียนรู้ ดันราคาขึ้นอีกคราวนี้เม่ากลัวหุ้นจะลงไปที่เดิมเทขายเพื่อหวังจะไปรอเก็บต่ำๆ
4. เจ้าได้ของเพียงพอแล้ว ค่อยทำราคาไล่ขึ้นเพื่อไม่ให้เม่าตื่น บรรยากาศเงียบเชียบเหมือนทะเลยามค่ำ
5. เมื่อราคาเป็นที่พอใจ เจ้าโยนราคาดันขึ้นดังสึนามิ บริษัทออกข่าวดีหนุนก่อกองไฟ (เช่น ผลประกอบการดี บริษัทซื้อหุ้นคืน) แล้วเจ้าเริ่มรินขายของออก
6. เม่าตกใจตื่นเห็นราคาพุ่งปรี๊ด เม่ากลัวตกรถกระโจนใส่บางคนเข้าก่อนออกก่อนก็ได้ค่ากับข้าว บางคนตื่นทีหลังเข้าทีหลังเริ่มสัมผัสลมหนาวโชยมายอดดอย
7. ถ้าเจ้ารินของออกไม่เป็นที่พอใจ ดันราคาต่อออกข่าวดีใหม่คราวนี้สะเทือนกว่าข่าวเก่า(เช่น ออกกองทุน มีปันผลระหว่างกาลเกินคาดหมาย คุ้นๆ ไหมล่ะ) ถ้าออกของพอใจแล้วปล่อยราคานิ่งให้เม่าชนกันเอง
8. ถ้าเจ้าใจดีก็ลอยราคานานหน่อย ถ้าเจ้าโลภด่วนได้ รีบทำเงิน สร้างฐานะออกข่าวร้ายทุบหุ้น เพื่อดึงราคาลงอย่างแรงโดยไม่แคร์ความรู้สึกของเม่า
9. เม่ารายไหนไหวตัวทัน ยอมตัดขาดทุน 5% 10% 20% รายไหนคิดช้าก็นั่งดูราคาไหลลง ลุ้นให้ราคารีบาวด์จับจองพื้นที่ดอยกลืนไม่เข้า คายไม่ออก อยากร้องแต่ไม่มีน้ำตา(แสดงว่ายังไม่เข็ด)
10. ราคาลงมาจนถึงระดับที่น่าพอใจแล้วเจ้าเริ่มเก็บของ เตรียมฉายรอบใหม่
............
และอีกไม่นานกาลครั้งนั้นเม่าก็ลืม
เม่า......อย่าคิดสู้
1. ก่อนเก็บหุ้น ทุบราคาให้ลงต่ำ โยนราคาไปมา ต่อด้วยออกข่าวร้าย(เช่น ขายหุ้นที่เคยซื้อคืน แจก war เพิ่มทุน)เม่าบางส่วนมีหุ้นอยู่แล้วตัดสินใจเทขาย เข้าทางเจ้า เจ้าเก็บ
2. เจ้าได้หุ้นไม่พอ ทุบราคาลงต่อแล้วดองราคา เม่ากระอักบางส่วนทนไม่ไหว เทขาย บางส่วนสายป่านยาว มึนอยู่ต่อกะฮึดสู้
3. เจ้าใช้แผนเขย่าให้เม่าหลุด ดันราคาขึ้นหน่อยนึงแล้วดึงลง เม่าไม่ขายรอดูสถาณการณ์ ดันราคาขึ้นแล้วดึงลงอีกรอบ2 เม่าเกิดการเรียนรู้ ดันราคาขึ้นอีกคราวนี้เม่ากลัวหุ้นจะลงไปที่เดิมเทขายเพื่อหวังจะไปรอเก็บต่ำๆ
4. เจ้าได้ของเพียงพอแล้ว ค่อยทำราคาไล่ขึ้นเพื่อไม่ให้เม่าตื่น บรรยากาศเงียบเชียบเหมือนทะเลยามค่ำ
5. เมื่อราคาเป็นที่พอใจ เจ้าโยนราคาดันขึ้นดังสึนามิ บริษัทออกข่าวดีหนุนก่อกองไฟ (เช่น ผลประกอบการดี บริษัทซื้อหุ้นคืน) แล้วเจ้าเริ่มรินขายของออก
6. เม่าตกใจตื่นเห็นราคาพุ่งปรี๊ด เม่ากลัวตกรถกระโจนใส่บางคนเข้าก่อนออกก่อนก็ได้ค่ากับข้าว บางคนตื่นทีหลังเข้าทีหลังเริ่มสัมผัสลมหนาวโชยมายอดดอย
7. ถ้าเจ้ารินของออกไม่เป็นที่พอใจ ดันราคาต่อออกข่าวดีใหม่คราวนี้สะเทือนกว่าข่าวเก่า(เช่น ออกกองทุน มีปันผลระหว่างกาลเกินคาดหมาย คุ้นๆ ไหมล่ะ) ถ้าออกของพอใจแล้วปล่อยราคานิ่งให้เม่าชนกันเอง
8. ถ้าเจ้าใจดีก็ลอยราคานานหน่อย ถ้าเจ้าโลภด่วนได้ รีบทำเงิน สร้างฐานะออกข่าวร้ายทุบหุ้น เพื่อดึงราคาลงอย่างแรงโดยไม่แคร์ความรู้สึกของเม่า
9. เม่ารายไหนไหวตัวทัน ยอมตัดขาดทุน 5% 10% 20% รายไหนคิดช้าก็นั่งดูราคาไหลลง ลุ้นให้ราคารีบาวด์จับจองพื้นที่ดอยกลืนไม่เข้า คายไม่ออก อยากร้องแต่ไม่มีน้ำตา(แสดงว่ายังไม่เข็ด)
10. ราคาลงมาจนถึงระดับที่น่าพอใจแล้วเจ้าเริ่มเก็บของ เตรียมฉายรอบใหม่
............
และอีกไม่นานกาลครั้งนั้นเม่าก็ลืม