*เปิดเผยเนื้อหาภาพยนตร์*
The last feature film to be released by Studio Ghibli
ประเด็นความอบอุ่น ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่ลดน้อยถอยลงไป อันเนื่องมาจากความเจริญของระบอบทุนนิยม นับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่นักที่จะถูกนำมาถ่ายทอดในรูปแบบของการ์ตูนอนิเมชั่น เอาจริงๆ ก็เห็นกันกลาดเกลื่อนด้วยซ้ำ (จำพวกพ่อแม่บ้าทำงาน จนลืมดูแลลูก) แต่ When Marnie Was There กลับขยายประเด็นนี้ออกไป โดยพูดครอบคลุมไปถึงการหวนหาธรรมชาติของสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ ไปจนถึงการสำรวจภาวะจิตใจของตัวละครหลักที่ประสบปัญหาความขัดแย้งอันเป็นผลพวงมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์
หนังเลือกดำเนินเรื่องแบบกึ่งฝันกึ่งจริง จินตภาพทั้งหมดของแอนนาก็คือความทรงจำตอนวัยเด็กที่พร่าเลือน และถูกขุดขึ้นมาร้อยเรียงใหม่ ผ่านจิตใต้สำนึกของแอนนา ภาพที่ถูกนำเสนออกมาก็ออกเป็นในทิศทางของเพศที่สาม (ซึ่งอาจสะท้อนถึง Sexual Identity ของแอนนาจริงๆ ก็ได้เช่นกัน) แต่หากเรามองว่าแอนนาเอาตัวของตัวเองแทนคุณตาของตัวเองที่จากไปเพราะโรคร้าย ทำให้คุณยายของเธอต้องอยู่เพียงลำพัง คู่รักเลสเบี่ยนในหนังจึงสะท้อนจิตใต้สำนึกเธอคงพยายามอยากช่วยเหลือดูแลคุณยาย (ในตอนเด็ก) และรู้สึกว่าระหว่างเธอกับคุณยายมีความสัมพันธ์กันในแง่ของชะตากรรมที่ทั้งคู่ต้องประสบพบเจอ นั่นคือความรู้สึกโดดเดี่ยว (ปัจจุบัน) ซึ่งทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันของจิตใต้สำนึก เกิดเป็นภาพหลอนและเรื่องราวต่างๆ ในความฝัน
อีกหนึ่งประเด็นในหนังที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้นการรุกล้ำของชาติตะวันตก ที่ไม่เพียงระบบเศรษฐกิจ แต่ยังรวมไปถึงค่านิยม ความเชื่อของคนในหนังสังคมญี่ปุ่นก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกัน สังเกตจากชื่อของตัวละครที่เป็นภาษาต่างชาติ ในตาสีฟ้าของตัวละครหลัก หนังสื่อให้เห็นชัดเจนว่าการดำเนินตามทางของชาติตะวันตกเป็นสาเหตุหลักของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับแอนนา (โรคหอบหืดจากหมอกขวัญในเมืองใหญ่ ขาดความอบอุ่นนำไปสู่ การเก็บตัว ก้าวร้าว ขาดสังคม) การที่แอนนาได้ไปใช้ชีวิตในชนบท (ธรรมชาติ เนื้อแท้ของญี่ปุ่น) ต่างหากที่ช่วยเธอสะสางปัญหาที่คาราคาซังทั้งหมด และแน่นอน ทำให้ได้พบ Sexual Identity ของตัวเธอเองด้วย
ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ทางเฟสได้เลยน่ะครับ
https://www.facebook.com/survival.king
Tempy Movies Review รีวิวหนัง: When Marnie Was There {Hiromasa Yonebayashi}, 2015
*เปิดเผยเนื้อหาภาพยนตร์*
The last feature film to be released by Studio Ghibli
ประเด็นความอบอุ่น ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่ลดน้อยถอยลงไป อันเนื่องมาจากความเจริญของระบอบทุนนิยม นับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่นักที่จะถูกนำมาถ่ายทอดในรูปแบบของการ์ตูนอนิเมชั่น เอาจริงๆ ก็เห็นกันกลาดเกลื่อนด้วยซ้ำ (จำพวกพ่อแม่บ้าทำงาน จนลืมดูแลลูก) แต่ When Marnie Was There กลับขยายประเด็นนี้ออกไป โดยพูดครอบคลุมไปถึงการหวนหาธรรมชาติของสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ ไปจนถึงการสำรวจภาวะจิตใจของตัวละครหลักที่ประสบปัญหาความขัดแย้งอันเป็นผลพวงมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์
หนังเลือกดำเนินเรื่องแบบกึ่งฝันกึ่งจริง จินตภาพทั้งหมดของแอนนาก็คือความทรงจำตอนวัยเด็กที่พร่าเลือน และถูกขุดขึ้นมาร้อยเรียงใหม่ ผ่านจิตใต้สำนึกของแอนนา ภาพที่ถูกนำเสนออกมาก็ออกเป็นในทิศทางของเพศที่สาม (ซึ่งอาจสะท้อนถึง Sexual Identity ของแอนนาจริงๆ ก็ได้เช่นกัน) แต่หากเรามองว่าแอนนาเอาตัวของตัวเองแทนคุณตาของตัวเองที่จากไปเพราะโรคร้าย ทำให้คุณยายของเธอต้องอยู่เพียงลำพัง คู่รักเลสเบี่ยนในหนังจึงสะท้อนจิตใต้สำนึกเธอคงพยายามอยากช่วยเหลือดูแลคุณยาย (ในตอนเด็ก) และรู้สึกว่าระหว่างเธอกับคุณยายมีความสัมพันธ์กันในแง่ของชะตากรรมที่ทั้งคู่ต้องประสบพบเจอ นั่นคือความรู้สึกโดดเดี่ยว (ปัจจุบัน) ซึ่งทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันของจิตใต้สำนึก เกิดเป็นภาพหลอนและเรื่องราวต่างๆ ในความฝัน
อีกหนึ่งประเด็นในหนังที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้นการรุกล้ำของชาติตะวันตก ที่ไม่เพียงระบบเศรษฐกิจ แต่ยังรวมไปถึงค่านิยม ความเชื่อของคนในหนังสังคมญี่ปุ่นก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกัน สังเกตจากชื่อของตัวละครที่เป็นภาษาต่างชาติ ในตาสีฟ้าของตัวละครหลัก หนังสื่อให้เห็นชัดเจนว่าการดำเนินตามทางของชาติตะวันตกเป็นสาเหตุหลักของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับแอนนา (โรคหอบหืดจากหมอกขวัญในเมืองใหญ่ ขาดความอบอุ่นนำไปสู่ การเก็บตัว ก้าวร้าว ขาดสังคม) การที่แอนนาได้ไปใช้ชีวิตในชนบท (ธรรมชาติ เนื้อแท้ของญี่ปุ่น) ต่างหากที่ช่วยเธอสะสางปัญหาที่คาราคาซังทั้งหมด และแน่นอน ทำให้ได้พบ Sexual Identity ของตัวเธอเองด้วย
ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ทางเฟสได้เลยน่ะครับ https://www.facebook.com/survival.king