สมาชิกหมายเลข 2252659
เวลาตีความให้ศาสนาอิสลาม คุณก็บอก.....และข้อละเอียดเพียบ
(คือมีเงื่อนไข มีบริบทของสังคมเป็นส่วนประกอบการปรับใช้คำสอน)

เวลามาอ่านของพุทธ คุณก็โยนรายละเอียดปลีกย่อยที่ชาวพุทธอธิบายทิ้ง
(คือไม่เอาเงื่อนไข ไม่เอาบริบทมาพิจารณา)

ผมสรุปให้แล้วว่า ส่วนที่พุทธไม่มีคำสอน คือไม่มีค่าถึงขนาดต้องลงรายละเอียด ปล่อยให้เป็นเรื่องของแต่ละคนไป
มันไม่แน่นอน มันไหลไปตามใจคน บางครั้งทำตรงกันข้ามกันได้ผลอย่างเดียวกันซะงั้น
---------------------------------------------------------------------------
ปกติของศีล 5 ไม่ได้ = ปกติของค่านิยมสังคม และไม่ได้ = ปกติ ของ หลักกฏหมาย

ตกลง 0 = NULL ไหมครับ ?
บางกรณีก็เท่า แต่บางกรณีก็ไม่เท่าใช่ไหมครับ.... แล้วจะแต่งคำสอนขึ้นมาเองเพื่อฟันธงว่าเท่าได้ไงครับ

กรณีคำสอนของมุสลิมที่อ้างว่าละเอียดครอบคลุมทุกอย่าง ก็ไม่สามารถเจาะจงลงไปได้ทุกเรื่องหรอก
พอถึงเวลาปรับใช้ขึ้นมา มันก็ไหลไปตามใจตามดุลยพินิจของคนที่มีอำนาจนั่นหละ หรือไม่จริง?

อิสลามสอนให้ใส่ความศาสนาอื่นด้วยการยกเอาสิ่งที่ศาสนานั้นไม่ได้สอนมาอ้างลอยๆ
แล้วเทียบด้วยตรรกะวิบัติเอาเอง...หรือ....ผมว่าไม่นะ

ถ้าไม่เรียกว่า ตรรกะเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น จะให้เรียกว่าอะไร?