http://ppantip.com/topic/33503087 ตอน 1
http://ppantip.com/topic/33506261 ตอน 2
http://ppantip.com/topic/33509487 ตอน 3
--------------------------
หมายเหตุ : กระทู้นี้ไม่เหมาะกับ
“ผู้ดี” , “พวกหัวสูง” , “คนใฝ่ธรรม” , “ผู้ทรงศีล” หากท่านเป็นบุคคลประเภทดังกล่าวแล้วไม่ต้องการเสียสุขภาพตา - สุขภาพใจ แนะนำให้กดปิดหน้าต่างนี้ไปได้เลย เพราะภาพที่จะได้เห็นต่อไปนี้ ผมเชื่อว่าพวกคุณยังไงก็ไม่มีทางรับได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องโลกๆ โลกีย์วิสัยของปุถุชนคนธรรมดา กิน ขับถ่าย สืบพันธุ์ นอน ก็ตาม
แต่ถ้าท่านใจกว้าง พอจะเปิดหูเปิดตา รับว่าภายใต้โลกอุดมคติของท่าน ยังมีโลกอีกใบที่ไม่สวยงาม แต่มันคือความสุขความสนุกเล็กๆ ของคนที่อาจจะมีภูมิธรรม ภูมิประพฤติต่ำต้อยกว่าท่านบ้าง
ก็ขอเชิญรับชมได้ครับ
---------------------------
15-04-2015
"ไม่มีใครที่ไม่อยากกลับบ้าน แม้สถานที่อื่นจะสวยกว่า หรูกว่า อลังการกว่า แต่คงไม่มีที่ใด ที่คนเราจะผูกพันมากไปกว่าบ้านเดิมของเราอีกแล้ว"
ไม่ผิดใช่ไหมครับที่ผมจะพูดแบบนี้ เชื่อเถอะครับ ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน ท้ายที่สุดลึกๆ แล้ว การได้กลับมาดูถิ่นฐานบ้านเกิด ถือเป้นสิ่งที่มนุษย์เราโหยหามากเรื่องหนึ่ง แม้บางครั้งบ้านเกิดของเราอาจจะไม่หรูหรา ไม่เจริญใหญ่โตอะไรมากมาย แต่ด้วยความที่เราลืมตาดูโลก ค่อยๆ เติบโต ได้ใช้ช่วงเวลาอย่างยาวนานจนเกิดความผูกพัน
กระทั่งการเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ก็เช่นกัน แม้จะมีหลายสถานที่ที่ทางการกำหนดให้ มีการออกบูธออกร้านของผู้ประกอบการสินค้าต่างๆ มีดารา นักร้อง นักแสดง เซเลบมากมายมาร่วมงาน จนดูใหญ่โตอลังการ แต่ท้ายที่สุด มันก็คงไม่เท่ากับพื้นที่เดิมๆ ที่เราได้ออกไปเล่นอย่างอิสระเสรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เรายังเยาว์ ยังเด็ก ยังวัยรุ่น ที่ได้สนุกสุดเหวี่ยงจนลืมโลกไปพร้อมกัน ตลอด 3 วันของเทศกาล
ผมเองก็คนหนึ่งที่เป็นเช่นนั้น ปีนี้ผมอายุ 30 แล้ว ผมเริ่มตระเวนเล่นสาดน้ำนอกบ้าน ตั้งแต่อายุ 14 ไปๆ มาๆ ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 4 กับถนนเลียบคลองทวีวัฒนา กระทั่งปี 2013 เมื่อสาย 4 ถูกแบน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจ ของบรรดาผู้ที่เกลียดการเล่นแบบสุดเหวี่ยงนี้ ดังนั้นแล้ว ผมจึงถือว่า ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เป็นดั่ง
"ที่มั่นสุดท้าย" ( Last Haven ) ของชาว กทม. ฝั่งตะวันตกตลอดจนชาวจังหวัดใกล้เคียง ที่จะได้มาร่วมปลดปล่อย มาร่วมสนุกกัน
ผมไม่รู้หรอกว่า..ที่มั่นสุดท้ายแห่งนี้จะดำรงอยู่ไปได้นานเท่าไร ดังนั้นแล้ว ผมจึงมีหน้าที่บันทึกภาพประวัติศาสตร์ เฉกเช่นกับที่ผมออกเดินทางบันทึกภาพเหล่านี้ ในจุดที่เล่นสาดน้ำตาม Concept
"เครื่องเสียง โคโยตี้ ดนตรีแดนซ์ แป้ง และรถบรรทุกถังน้ำ" ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อส่งผ่านมรดกชิ้นนี้ ให้คนรุ่นหลัง สืบทอดความมันส์ความสนุกนี้ต่อไป
แม้ใครหลายคนจะหาว่าผมขวางโลกหรือเป็นคนเพี้ยน-คนบ้าก็ตาม แต่จุดยืนนี้ผมไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ถ้ายังมีแรงและเวลาพอ ผมก็จะทำมันต่อไป
ภารกิจนี้ยังคงใช้ Samsung Galaxy S4 Zoom เช่นเดิม
---------------------------
18.20 น.
ผมมาถึงที่ถนนอุทยาน หรือถนนอักษะเดิม
ยานพาหนะและผู้คนมากมาย ต่อแถวแน่นขนัด
[เล่าด้วยภาพ] สงกรานต์ 2015 : 15-4-2015 ส่งท้ายกันที่ "เลียบคลองทวีวัฒนา" แบบ "จัดหนัก-จัดเต็ม"
http://ppantip.com/topic/33506261 ตอน 2
http://ppantip.com/topic/33509487 ตอน 3
--------------------------
หมายเหตุ : กระทู้นี้ไม่เหมาะกับ “ผู้ดี” , “พวกหัวสูง” , “คนใฝ่ธรรม” , “ผู้ทรงศีล” หากท่านเป็นบุคคลประเภทดังกล่าวแล้วไม่ต้องการเสียสุขภาพตา - สุขภาพใจ แนะนำให้กดปิดหน้าต่างนี้ไปได้เลย เพราะภาพที่จะได้เห็นต่อไปนี้ ผมเชื่อว่าพวกคุณยังไงก็ไม่มีทางรับได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องโลกๆ โลกีย์วิสัยของปุถุชนคนธรรมดา กิน ขับถ่าย สืบพันธุ์ นอน ก็ตาม
แต่ถ้าท่านใจกว้าง พอจะเปิดหูเปิดตา รับว่าภายใต้โลกอุดมคติของท่าน ยังมีโลกอีกใบที่ไม่สวยงาม แต่มันคือความสุขความสนุกเล็กๆ ของคนที่อาจจะมีภูมิธรรม ภูมิประพฤติต่ำต้อยกว่าท่านบ้าง
ก็ขอเชิญรับชมได้ครับ
---------------------------
15-04-2015
"ไม่มีใครที่ไม่อยากกลับบ้าน แม้สถานที่อื่นจะสวยกว่า หรูกว่า อลังการกว่า แต่คงไม่มีที่ใด ที่คนเราจะผูกพันมากไปกว่าบ้านเดิมของเราอีกแล้ว"
ไม่ผิดใช่ไหมครับที่ผมจะพูดแบบนี้ เชื่อเถอะครับ ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน ท้ายที่สุดลึกๆ แล้ว การได้กลับมาดูถิ่นฐานบ้านเกิด ถือเป้นสิ่งที่มนุษย์เราโหยหามากเรื่องหนึ่ง แม้บางครั้งบ้านเกิดของเราอาจจะไม่หรูหรา ไม่เจริญใหญ่โตอะไรมากมาย แต่ด้วยความที่เราลืมตาดูโลก ค่อยๆ เติบโต ได้ใช้ช่วงเวลาอย่างยาวนานจนเกิดความผูกพัน
กระทั่งการเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ก็เช่นกัน แม้จะมีหลายสถานที่ที่ทางการกำหนดให้ มีการออกบูธออกร้านของผู้ประกอบการสินค้าต่างๆ มีดารา นักร้อง นักแสดง เซเลบมากมายมาร่วมงาน จนดูใหญ่โตอลังการ แต่ท้ายที่สุด มันก็คงไม่เท่ากับพื้นที่เดิมๆ ที่เราได้ออกไปเล่นอย่างอิสระเสรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เรายังเยาว์ ยังเด็ก ยังวัยรุ่น ที่ได้สนุกสุดเหวี่ยงจนลืมโลกไปพร้อมกัน ตลอด 3 วันของเทศกาล
ผมเองก็คนหนึ่งที่เป็นเช่นนั้น ปีนี้ผมอายุ 30 แล้ว ผมเริ่มตระเวนเล่นสาดน้ำนอกบ้าน ตั้งแต่อายุ 14 ไปๆ มาๆ ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 4 กับถนนเลียบคลองทวีวัฒนา กระทั่งปี 2013 เมื่อสาย 4 ถูกแบน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจ ของบรรดาผู้ที่เกลียดการเล่นแบบสุดเหวี่ยงนี้ ดังนั้นแล้ว ผมจึงถือว่า ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เป็นดั่ง "ที่มั่นสุดท้าย" ( Last Haven ) ของชาว กทม. ฝั่งตะวันตกตลอดจนชาวจังหวัดใกล้เคียง ที่จะได้มาร่วมปลดปล่อย มาร่วมสนุกกัน
ผมไม่รู้หรอกว่า..ที่มั่นสุดท้ายแห่งนี้จะดำรงอยู่ไปได้นานเท่าไร ดังนั้นแล้ว ผมจึงมีหน้าที่บันทึกภาพประวัติศาสตร์ เฉกเช่นกับที่ผมออกเดินทางบันทึกภาพเหล่านี้ ในจุดที่เล่นสาดน้ำตาม Concept "เครื่องเสียง โคโยตี้ ดนตรีแดนซ์ แป้ง และรถบรรทุกถังน้ำ" ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อส่งผ่านมรดกชิ้นนี้ ให้คนรุ่นหลัง สืบทอดความมันส์ความสนุกนี้ต่อไป
แม้ใครหลายคนจะหาว่าผมขวางโลกหรือเป็นคนเพี้ยน-คนบ้าก็ตาม แต่จุดยืนนี้ผมไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ถ้ายังมีแรงและเวลาพอ ผมก็จะทำมันต่อไป
ภารกิจนี้ยังคงใช้ Samsung Galaxy S4 Zoom เช่นเดิม
---------------------------
18.20 น.
ผมมาถึงที่ถนนอุทยาน หรือถนนอักษะเดิม
ยานพาหนะและผู้คนมากมาย ต่อแถวแน่นขนัด