ห่างหายไปนานเหมือนกันกับกระทู้ตอนที่ 4 ไม่รู้ยังจำกันได้ไหม อิอิ วันหยุดยาว เลยมาอัพต่อครับ ครั้งนี้ก็จะรีวิวถึงการทำพื้นชั้น 1 ซึ่งเป็นการวางพื้นสำเร็จครับ มาดูกันเลยครับ
**เกริ่นสักนิด เผื่อคนที่ไม่เคยอ่านกระทู้ผม ผมคัดรีวิวนี้มาจาก blog ของผมนะครับ ซึ่งเขียนเกี่ยวกับการซื้อที่และปลูกบ้านของผมเอง ตอนที่ผมจะลงวันนี้ก็เป็นเรื่องของงานพื้นชั้น 1 ตอนต่อๆไปก็จะทยอยอัพ วันละครั้งหรือสอง สามวันครั้งนะครับ จนถึงตอนล่าสุดใน blog คือขั้นตอนฉาบ ใครใจร้อนอยากอ่านรวมเล่ม(ทำเป็นการ์ตูนไปได้ 555+) ก็อ่านได้จาก blog ผมเลยครับ หลายท่านอาจเคยไปอ่านแล้ว จะอ่านซ้ำก็ยินดีครับ ซึ่งถ้าผมทยอยอัพลง pantip จนครบตอนล่าสุดแล้ว ตอนต่อไปจะ real time แล้วครับ คือจะอัพทั้ง bloggang และ pantip ไปพร้อมๆกัน เผื่อกระทู้หล่นไปนาน จะได้ให้เพื่อนๆคนอื่นๆที่ไม่เคยอ่านและสนใจได้ติดตามกัน รับรองไม่ทิ้งหายแน่นอนครับ ^^**
ติดตามรีวิวงานสร้างบ้านของผมได้ตาม Link นี้นะครับ
ตอนที่ 1 : แบบบ้าน และเสาเข็ม http://ppantip.com/topic/33364192
ตอนที่ 2 : งานฐานราก :
http://ppantip.com/topic/33368698
ตอนที่ 3 : คานคอดินและคานชั้น 1 :
http://ppantip.com/topic/33391592
ตอนที่ 4 : งานพื้นหล่อในที่ชั้นหนึ่ง :
http://ppantip.com/topic/33434583
ตอนที่ 5 : งานพื้นสำเร็จชั้นหนึ่ง :
กระทู้นี้
อยากอ่านรวมเล่ม ติดตามได้ใน Blog นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=agentmolder&month=05-2013&date=30&group=1&gblog=1
ตอนนี้ก็จะมาเล่าเรื่องการวางแผ่นพื้นสำเร็จนะครับ โดยพื้นหล่อในที่เสร็จหมดเกือบทุกจุดแล้ว ก็จะมาทำพื้นสำเร็จ คานชั้น 1 ที่ทำไว้ก็ได้อายุพอดีครับ สาเหตุที่ต้องรอคานได้อายุ(ประมาณ 10-14 วัน) เพราะว่า ผรม.ไม่ต้องการทิ้งแบบไม้ไว้ใต้ท้องคานครับ เพราะจะมีปัญหาเรื่องปลวกตามมาในอนาคต ผรม.ต้องการให้ใต้ถุนบ้านเคลียที่สุดครับ
คานที่ยังไม่ได้อายุ ไม้ค้ำยังเอาออกไม่ได้ จะเห็นว่ามีแต่ไม้เต็มไปหมด อาหารปลวกดีๆนี่เองครับ
ผรม.บอกว่า จะวางแผ่นพื้นเลยก็ได้ ก็หมกไม้ไว้แบบนี้ งานเร็ว จขบ.ไม่รู้ ไม่มีปัญหา แต่อนาคตผลเสียตามมาเยอะครับ เลยเลือกรอหน่อย แต่เซฟกว่าจะดีกว่าครับ
ก่อนจะปิดแผ่นพื้น ทุกอย่างใต้พื้นต้องเคลียให้จบนะครับ ไม่งั้นปิดแผ่นเทปูนไปแล้ว จะมาสกัดแก้นี่เรื่องใหญ่เลย ทุกอย่างใต้พื้นก็ได้แก่ ท่อน้ำดี น้ำเสีย ท่อไฟฟ้าที่จะลงใต้ดิน ท่อปลวกต่างๆ ต้องคุยกับ ผรม. สถาปนิก วิศวะกรให้เรียบร้อยเลยครับ confirm ว่าจะปิดพื้นแล้วนะ มีอะไรต้องแก้ไข เปลี่ยนแปลงอะไรไหม ถ้าทุกอย่าง ok ก็ปิดแผ่นพื้นได้
ตรวจสอบการเดินท่อให้เรียบร้อย
ท่อน้ำดี ติดแฮงเกอร์เพื่อแขวนกับพื้นสำเร็จ
ท่อร้อยสายไฟจากเมนเข้าบ้าน ผมใช้เป็นแบบเดินลอดใต้ดินมา ใช้ท่อ HDPE แบบนี้ครับ ไม่ใช้ PE แข็งๆ เพราะมันเปราะง่าย ท่อยางแข็งแบบนี้แข็งแรงกว่า
ที่สำคัญ ต้องมี มอก.ด้วยนะครับ
เดินมุดขึ้นมาโผล่ตรงนี้ ที่ผมวงแดงๆไว้ครับ ซึ่งตรงนี้จะเป็นห้องซักผ้าของภรรยา เดี๋ยวตอน finishing จะหาอะไรมาปิดอีกทีครับ หารูปที่ถ่ายใกล้ๆไม่มี สงสัยลืมถ่าย
มี Point ตอนเดินท่อประปาเล็กน้อยครับ เมื่อช่างเดินท่อประปาครบทุกจุดแล้ว ผรม.จะทำการเชคท่อครับ ว่ามีรั่วตรงไหนหรือไม่ ทำได้โดยอัดน้ำเข้าระบบ แล้วเอามาต่อกับหัววัดแรงดันตามรูปครับ
ตัววัดแรงดัน Set ไว้ที่ 6 Bar
โดยจะอัดแรงดันเข้าไปที่ 6 Bar ซึ่งท่อ PPR ปกติก็ทนแรงดันได้ 3 - 4 Bar ครับ เราอัดเข้าไปเกินๆเลย เพื่อดูรอยรั่ว แล้วทิ้งไว้วันนึงครับ พรุ่งนี้จะมาเชคดู ถ้าความดันมันลดลงไปแสดงว่าในระบบอาจมีรอบรั่ว ต้องตรวจสอบครับ
ผ่านไปวันนึงยัง 6 Bar เท่าเดิมครับ รอดตัวไป ^^
เมื่อเชคท่อน้ำ สายไฟ น้ำทิ้ง ต่างๆเรียบร้อย ก้จะปิดแผ่นพื้นละครับ อ้อ ผมลิมบอกไป ผมไม่ใช้ระบบปลวกแบบเดินท่อใต้คานนะครับ เพราะว่าระบบนี้กันได้แค่ 3 - 5 ปี ไม่ว่าระบบดีแค่ไหนก็ตาม ได้ประมาณ 5 ปีทั้งสิ้น ไม่ท่อตัน ก็ปลวกย้ายทางเดิน รุ่นพี่ผมที่ทำบ้านในหมู่บ้านนี้ก็ได้ประมาณ 4 ปี สุดท้ายปลวกก็ขึ้น ผมเลยเลือกใช้ระบบเหยื่อล่อครับ ซึ่งดีที่สุด ณ ตอนนี้แล้ว ผรม.เอง บอกกับผมเลยว่าให้เอาออกก้ได้นะ เพราะที่เขาสร้างๆบ้านมา ประมาณ 5 ปีก็เปลี่ยนระบบเป็นแบบ staion เหยื่อหมดเลย ผมเลยเอาระบบปลวกออกจาก BOQ ครับ แต่ก่อนปิดแผ่นพื้น จะทำการเทราดน้ำยาปลวกก่อนครับ เพื่อให้ดินใต้พื้นเป็นพิษต่อมันก่อน ซึ่งก็จะอยู่ได้ราวๆ 1 ปีครับ ค่อยติดตั้ง station แต่เรื่องปลวกก็นานาจิตตังนะครับ บางคนอาจเดินท่อไว้สบายใจก็ได้ ตามสะดวกครับ
แผ่นพื้นสำเร็จที่จะนำมาวาง ก็ต้องสั่งล่วงหน้านะครับ เป็น Custom made ตามแบบบ้านของเรา โดย ผรม.จะคำนวนขนาด และจำนวน เพื่อสั่งกับร้านทำแผ่นพื้น ต้องสั่งล่วงหน้า 2 สัปดาห์ เพราะต้องรอให้แผ่นได้อายุด้วยครับ
แผ่นพื้นมาแว้ว
แผ่นพื้นตาม spec ที่สถาปนิกผมออกแบบ ระบุไว้ว่ารับน้ำหนักไม่น้อยกว่า 200kg/ตร.ม. ซึ่งโดยปกติจะเป็นแผ่นพื้นที่มีเหล็ก 5 ตัวครับ แต่ ผรม.บอกว่า ช่องคานผมกว้าง 4 เมตร เลยสั่ง over spec มาเป็นเหล็ก 6 เส้นเลยครับ สามารถรับ นน.ได้ 250 kg/ตร.ม. ครับ
ที่วงไว้คือเหล็กเสริมแผ่นพื้น มี 6 เส้นครับ
อย่างที่เล่าข้างบนว่าช่วงคานผมกว้าง 4 เมตร ทำให้ต้องมีค้ำตรงกลางช่องคานครับ ไม่งั้นพอเทปูน แผ่นพื้นแอ่นตัวแน่นอนครับ เคยเห็นกระทู้ใน pantip แผ่นพื้นแอ่นกลาง หวาดเสียวมากๆเลย โดย ผรม.ผมเลือกใช้เหล็กกล่องเป็นตัวค้ำกลางครับ เพราะจะได้ทิ้งไว้ได้เลย ไม่ต้องรื้อออก ถ้า ผรม.เจ้าไหนใช้ไม้ค้ำ ต้องรื้อออกนะครับ สาเหตุเดิมครับ น้องปลวกนั่นเอง แต่ ผรม.บางเจ้าอาจก่ออิฐบล๊อคมาค้ำแทนก็ไม่ผิดกติกานะครับ แต่อิฐบล๊อคจะใช้ในกรณีท้องพื้นอยู่ไม่สูงนัก แต่ท้องพื้นผมสูง 80 cm. เลยครับ ใช้อิฐไม่ไหวแน่
เหล็กกล่อง เตรียมไว้ค้ำท้องพื้น
ช่องไหนกว้าง 4 เมตร ก็จะค้ำตามแนวขวางครับ
อีกมุมนึงครับ
ช่องนี้ท้องพื้นไม่สูงมาก ก็จะใช้เหล็กมาทำเสาค้ำเลยครับ
จากนั้นก็ทำการวางแผ่นพื้นได้ โดยใช้รถเครนช่วยยก โดยวันแรกจะยกลงแล้วทำการเชคตำแหน่ง ผูกเหล็ก วางไว์เมซให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะเทวันรุ่งขึ้นครับ จริงๆ ผรม.บอกวางเช้า เทบ่ายเลยก็ได้ แต่มันจะลวกไปครับ ไม่มีเวลามาเชคเหล็ก เชคแผ่น ต้องรีบวาง รีบปู รีบเท เดี๋ยวมีปัยหา เลยขอเชควันนึงเลยดีกว่า
ใช้เครนช่วยยกวาง
วางคร่าวๆก่อน
จัดวางให้ลงล๊อคแบบคร่าวๆ เหล็กหนวดกุ้งที่เห็นโผล่ๆขึ้นมา เอาไว้ล๊อคแผ่นพื้นกับไวร์เมซ จุดประสงค์เพื่อให้แผ่นพื้นไม่เคลื่อนที่ขณะเทปูน และเพื่อให้แผ่นพื้น+ปูนท้อปปิ้ง+คาน เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ได้เสริมความแข็งแรงอะไรนะครับ
วันต่อมาก็วางไวร์เมซ ตีเข้าแบบพื้น เตรียมเทครับ
วันต่อมาก็เทพื้น ใช้คอนกรีตของ CPAC เหมือนเดิมครับ จริงๆ คอนกรีตเทพื้นใช้แค่ 180 kg/ตร.ม. ก้พอครับเพราะไม่ใช่โครงสร้างอะไร แต่ ผรม.ก็เลือกใช้ 240kg ไปเลยครับ เพื่อความชัวร์ ความหนาของปูนตามมาตรฐานคือ 5 เซน รวมกับแผ่นพื้น 5 เซนเป็นสิบเซนติเมตรนะครับ คำนวนระดับดีๆด้วยนะ
เทๆ ปาดๆ
ส่วนไหนที่พอหมาดๆแล้ว ก็จะใช้ไม้กวาดกรีดไลน์ไว้ทำฟินิชชิ่ง
ทิ้งไว้ 24 ชม.ก็แกะแบบได้ครับ รดน้ำให้ชุ่มเพื่อบ่มปูน มีแอ่งเล็กน้อย พอรับได้
แอบส่องดูใต้พื้น เพื่อเชคความเรียบร้อยครับ ก็ออกมาดี ท้องพื้นไม่แอ่น การเดินท่อ แฮงเกอร์ก็ทำเรียบร้อยดีครับ ส่วนของไม้ค้ำที่เป็นไม้ พอครบอายุปูนประมาณ 2 สัปดาห์ต้องเอาออกให้หมดครับ แต่ตรงนี้พื้นสูง คนงานมุดเข้าไปตีแบบออกได้ครับ ตรงไหนมุดไม่ได้ ก็ใช้เหล็กกล่องแทน เหมือนรูปด้านบนโน้น
การเดินท่อ ร้อยแฮงเกอร์ไปผูกกับแผ่นพื้นด้านบน
ท้องพื้นเสมอกันดี ไม่โก่ง ไม้ค้ำต้องตีออกเมื่อได้อายุปูน
ลาไปด้วยภาพวิวใหม่ของบ้านครับ พอดีที่ดินเปล่าตรงข้ามบ้านผมเขาเคลียริ่งแล้ว มองเห็นภูเขาอยู่ไกลๆ สวยมากเลยครับ ตอนแรกไม่เห็นอะไรเลย เพราะเป็นป่า พอเอาต้นไม้ออก โอ้วว วิวดีสุดๆ
วิวถูเขา เจ๋งดีครับ เสาที่เห็นเป็นโรงรถ จะเห็นห้องน้ำชั้น 1 ตรงนั้นหน้าต่างหันออกรับวิวพอดี แจ่มเลย
ตอนนี้เทพื้นชั้น 1 ครบหมดแล้ว ก็เริ่มทำเสาชั้น 1 และคานพื้นชั้น 2 ต่อเลยครับ งานเริ่มไปเร็วแล้ว เริ่มเห็นเสาพ้นพื้นดินสักที เริ่มมองเห็นขนาดของบ้าน และพื้นที่ใช้สอยเป็นรุปเป็นร่างแล้วครับ เจอกันกระทู้หน้า สวัสดีวันสงกรานต์ครับ
[CR] [รีวิว]งานสร้างบ้านของผมเอง ตั้งแต่แบบบ้านยันสร้างเสร็จ ตอนที่ 5 : พื้นชั้นหนึ่ง(พื้นสำเร็จ)
**เกริ่นสักนิด เผื่อคนที่ไม่เคยอ่านกระทู้ผม ผมคัดรีวิวนี้มาจาก blog ของผมนะครับ ซึ่งเขียนเกี่ยวกับการซื้อที่และปลูกบ้านของผมเอง ตอนที่ผมจะลงวันนี้ก็เป็นเรื่องของงานพื้นชั้น 1 ตอนต่อๆไปก็จะทยอยอัพ วันละครั้งหรือสอง สามวันครั้งนะครับ จนถึงตอนล่าสุดใน blog คือขั้นตอนฉาบ ใครใจร้อนอยากอ่านรวมเล่ม(ทำเป็นการ์ตูนไปได้ 555+) ก็อ่านได้จาก blog ผมเลยครับ หลายท่านอาจเคยไปอ่านแล้ว จะอ่านซ้ำก็ยินดีครับ ซึ่งถ้าผมทยอยอัพลง pantip จนครบตอนล่าสุดแล้ว ตอนต่อไปจะ real time แล้วครับ คือจะอัพทั้ง bloggang และ pantip ไปพร้อมๆกัน เผื่อกระทู้หล่นไปนาน จะได้ให้เพื่อนๆคนอื่นๆที่ไม่เคยอ่านและสนใจได้ติดตามกัน รับรองไม่ทิ้งหายแน่นอนครับ ^^**
ติดตามรีวิวงานสร้างบ้านของผมได้ตาม Link นี้นะครับ
ตอนที่ 1 : แบบบ้าน และเสาเข็ม http://ppantip.com/topic/33364192
ตอนที่ 2 : งานฐานราก : http://ppantip.com/topic/33368698
ตอนที่ 3 : คานคอดินและคานชั้น 1 : http://ppantip.com/topic/33391592
ตอนที่ 4 : งานพื้นหล่อในที่ชั้นหนึ่ง : http://ppantip.com/topic/33434583
ตอนที่ 5 : งานพื้นสำเร็จชั้นหนึ่ง : กระทู้นี้
อยากอ่านรวมเล่ม ติดตามได้ใน Blog นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนนี้ก็จะมาเล่าเรื่องการวางแผ่นพื้นสำเร็จนะครับ โดยพื้นหล่อในที่เสร็จหมดเกือบทุกจุดแล้ว ก็จะมาทำพื้นสำเร็จ คานชั้น 1 ที่ทำไว้ก็ได้อายุพอดีครับ สาเหตุที่ต้องรอคานได้อายุ(ประมาณ 10-14 วัน) เพราะว่า ผรม.ไม่ต้องการทิ้งแบบไม้ไว้ใต้ท้องคานครับ เพราะจะมีปัญหาเรื่องปลวกตามมาในอนาคต ผรม.ต้องการให้ใต้ถุนบ้านเคลียที่สุดครับ
คานที่ยังไม่ได้อายุ ไม้ค้ำยังเอาออกไม่ได้ จะเห็นว่ามีแต่ไม้เต็มไปหมด อาหารปลวกดีๆนี่เองครับ
ผรม.บอกว่า จะวางแผ่นพื้นเลยก็ได้ ก็หมกไม้ไว้แบบนี้ งานเร็ว จขบ.ไม่รู้ ไม่มีปัญหา แต่อนาคตผลเสียตามมาเยอะครับ เลยเลือกรอหน่อย แต่เซฟกว่าจะดีกว่าครับ
ก่อนจะปิดแผ่นพื้น ทุกอย่างใต้พื้นต้องเคลียให้จบนะครับ ไม่งั้นปิดแผ่นเทปูนไปแล้ว จะมาสกัดแก้นี่เรื่องใหญ่เลย ทุกอย่างใต้พื้นก็ได้แก่ ท่อน้ำดี น้ำเสีย ท่อไฟฟ้าที่จะลงใต้ดิน ท่อปลวกต่างๆ ต้องคุยกับ ผรม. สถาปนิก วิศวะกรให้เรียบร้อยเลยครับ confirm ว่าจะปิดพื้นแล้วนะ มีอะไรต้องแก้ไข เปลี่ยนแปลงอะไรไหม ถ้าทุกอย่าง ok ก็ปิดแผ่นพื้นได้
ตรวจสอบการเดินท่อให้เรียบร้อย
ท่อน้ำดี ติดแฮงเกอร์เพื่อแขวนกับพื้นสำเร็จ
ท่อร้อยสายไฟจากเมนเข้าบ้าน ผมใช้เป็นแบบเดินลอดใต้ดินมา ใช้ท่อ HDPE แบบนี้ครับ ไม่ใช้ PE แข็งๆ เพราะมันเปราะง่าย ท่อยางแข็งแบบนี้แข็งแรงกว่า
ที่สำคัญ ต้องมี มอก.ด้วยนะครับ
เดินมุดขึ้นมาโผล่ตรงนี้ ที่ผมวงแดงๆไว้ครับ ซึ่งตรงนี้จะเป็นห้องซักผ้าของภรรยา เดี๋ยวตอน finishing จะหาอะไรมาปิดอีกทีครับ หารูปที่ถ่ายใกล้ๆไม่มี สงสัยลืมถ่าย
มี Point ตอนเดินท่อประปาเล็กน้อยครับ เมื่อช่างเดินท่อประปาครบทุกจุดแล้ว ผรม.จะทำการเชคท่อครับ ว่ามีรั่วตรงไหนหรือไม่ ทำได้โดยอัดน้ำเข้าระบบ แล้วเอามาต่อกับหัววัดแรงดันตามรูปครับ
ตัววัดแรงดัน Set ไว้ที่ 6 Bar
โดยจะอัดแรงดันเข้าไปที่ 6 Bar ซึ่งท่อ PPR ปกติก็ทนแรงดันได้ 3 - 4 Bar ครับ เราอัดเข้าไปเกินๆเลย เพื่อดูรอยรั่ว แล้วทิ้งไว้วันนึงครับ พรุ่งนี้จะมาเชคดู ถ้าความดันมันลดลงไปแสดงว่าในระบบอาจมีรอบรั่ว ต้องตรวจสอบครับ
ผ่านไปวันนึงยัง 6 Bar เท่าเดิมครับ รอดตัวไป ^^
เมื่อเชคท่อน้ำ สายไฟ น้ำทิ้ง ต่างๆเรียบร้อย ก้จะปิดแผ่นพื้นละครับ อ้อ ผมลิมบอกไป ผมไม่ใช้ระบบปลวกแบบเดินท่อใต้คานนะครับ เพราะว่าระบบนี้กันได้แค่ 3 - 5 ปี ไม่ว่าระบบดีแค่ไหนก็ตาม ได้ประมาณ 5 ปีทั้งสิ้น ไม่ท่อตัน ก็ปลวกย้ายทางเดิน รุ่นพี่ผมที่ทำบ้านในหมู่บ้านนี้ก็ได้ประมาณ 4 ปี สุดท้ายปลวกก็ขึ้น ผมเลยเลือกใช้ระบบเหยื่อล่อครับ ซึ่งดีที่สุด ณ ตอนนี้แล้ว ผรม.เอง บอกกับผมเลยว่าให้เอาออกก้ได้นะ เพราะที่เขาสร้างๆบ้านมา ประมาณ 5 ปีก็เปลี่ยนระบบเป็นแบบ staion เหยื่อหมดเลย ผมเลยเอาระบบปลวกออกจาก BOQ ครับ แต่ก่อนปิดแผ่นพื้น จะทำการเทราดน้ำยาปลวกก่อนครับ เพื่อให้ดินใต้พื้นเป็นพิษต่อมันก่อน ซึ่งก็จะอยู่ได้ราวๆ 1 ปีครับ ค่อยติดตั้ง station แต่เรื่องปลวกก็นานาจิตตังนะครับ บางคนอาจเดินท่อไว้สบายใจก็ได้ ตามสะดวกครับ
แผ่นพื้นสำเร็จที่จะนำมาวาง ก็ต้องสั่งล่วงหน้านะครับ เป็น Custom made ตามแบบบ้านของเรา โดย ผรม.จะคำนวนขนาด และจำนวน เพื่อสั่งกับร้านทำแผ่นพื้น ต้องสั่งล่วงหน้า 2 สัปดาห์ เพราะต้องรอให้แผ่นได้อายุด้วยครับ
แผ่นพื้นมาแว้ว
แผ่นพื้นตาม spec ที่สถาปนิกผมออกแบบ ระบุไว้ว่ารับน้ำหนักไม่น้อยกว่า 200kg/ตร.ม. ซึ่งโดยปกติจะเป็นแผ่นพื้นที่มีเหล็ก 5 ตัวครับ แต่ ผรม.บอกว่า ช่องคานผมกว้าง 4 เมตร เลยสั่ง over spec มาเป็นเหล็ก 6 เส้นเลยครับ สามารถรับ นน.ได้ 250 kg/ตร.ม. ครับ
ที่วงไว้คือเหล็กเสริมแผ่นพื้น มี 6 เส้นครับ
อย่างที่เล่าข้างบนว่าช่วงคานผมกว้าง 4 เมตร ทำให้ต้องมีค้ำตรงกลางช่องคานครับ ไม่งั้นพอเทปูน แผ่นพื้นแอ่นตัวแน่นอนครับ เคยเห็นกระทู้ใน pantip แผ่นพื้นแอ่นกลาง หวาดเสียวมากๆเลย โดย ผรม.ผมเลือกใช้เหล็กกล่องเป็นตัวค้ำกลางครับ เพราะจะได้ทิ้งไว้ได้เลย ไม่ต้องรื้อออก ถ้า ผรม.เจ้าไหนใช้ไม้ค้ำ ต้องรื้อออกนะครับ สาเหตุเดิมครับ น้องปลวกนั่นเอง แต่ ผรม.บางเจ้าอาจก่ออิฐบล๊อคมาค้ำแทนก็ไม่ผิดกติกานะครับ แต่อิฐบล๊อคจะใช้ในกรณีท้องพื้นอยู่ไม่สูงนัก แต่ท้องพื้นผมสูง 80 cm. เลยครับ ใช้อิฐไม่ไหวแน่
เหล็กกล่อง เตรียมไว้ค้ำท้องพื้น
ช่องไหนกว้าง 4 เมตร ก็จะค้ำตามแนวขวางครับ
อีกมุมนึงครับ
ช่องนี้ท้องพื้นไม่สูงมาก ก็จะใช้เหล็กมาทำเสาค้ำเลยครับ
จากนั้นก็ทำการวางแผ่นพื้นได้ โดยใช้รถเครนช่วยยก โดยวันแรกจะยกลงแล้วทำการเชคตำแหน่ง ผูกเหล็ก วางไว์เมซให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะเทวันรุ่งขึ้นครับ จริงๆ ผรม.บอกวางเช้า เทบ่ายเลยก็ได้ แต่มันจะลวกไปครับ ไม่มีเวลามาเชคเหล็ก เชคแผ่น ต้องรีบวาง รีบปู รีบเท เดี๋ยวมีปัยหา เลยขอเชควันนึงเลยดีกว่า
ใช้เครนช่วยยกวาง
วางคร่าวๆก่อน
จัดวางให้ลงล๊อคแบบคร่าวๆ เหล็กหนวดกุ้งที่เห็นโผล่ๆขึ้นมา เอาไว้ล๊อคแผ่นพื้นกับไวร์เมซ จุดประสงค์เพื่อให้แผ่นพื้นไม่เคลื่อนที่ขณะเทปูน และเพื่อให้แผ่นพื้น+ปูนท้อปปิ้ง+คาน เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ได้เสริมความแข็งแรงอะไรนะครับ
วันต่อมาก็วางไวร์เมซ ตีเข้าแบบพื้น เตรียมเทครับ
วันต่อมาก็เทพื้น ใช้คอนกรีตของ CPAC เหมือนเดิมครับ จริงๆ คอนกรีตเทพื้นใช้แค่ 180 kg/ตร.ม. ก้พอครับเพราะไม่ใช่โครงสร้างอะไร แต่ ผรม.ก็เลือกใช้ 240kg ไปเลยครับ เพื่อความชัวร์ ความหนาของปูนตามมาตรฐานคือ 5 เซน รวมกับแผ่นพื้น 5 เซนเป็นสิบเซนติเมตรนะครับ คำนวนระดับดีๆด้วยนะ
เทๆ ปาดๆ
ส่วนไหนที่พอหมาดๆแล้ว ก็จะใช้ไม้กวาดกรีดไลน์ไว้ทำฟินิชชิ่ง
ทิ้งไว้ 24 ชม.ก็แกะแบบได้ครับ รดน้ำให้ชุ่มเพื่อบ่มปูน มีแอ่งเล็กน้อย พอรับได้
แอบส่องดูใต้พื้น เพื่อเชคความเรียบร้อยครับ ก็ออกมาดี ท้องพื้นไม่แอ่น การเดินท่อ แฮงเกอร์ก็ทำเรียบร้อยดีครับ ส่วนของไม้ค้ำที่เป็นไม้ พอครบอายุปูนประมาณ 2 สัปดาห์ต้องเอาออกให้หมดครับ แต่ตรงนี้พื้นสูง คนงานมุดเข้าไปตีแบบออกได้ครับ ตรงไหนมุดไม่ได้ ก็ใช้เหล็กกล่องแทน เหมือนรูปด้านบนโน้น
การเดินท่อ ร้อยแฮงเกอร์ไปผูกกับแผ่นพื้นด้านบน
ท้องพื้นเสมอกันดี ไม่โก่ง ไม้ค้ำต้องตีออกเมื่อได้อายุปูน
ลาไปด้วยภาพวิวใหม่ของบ้านครับ พอดีที่ดินเปล่าตรงข้ามบ้านผมเขาเคลียริ่งแล้ว มองเห็นภูเขาอยู่ไกลๆ สวยมากเลยครับ ตอนแรกไม่เห็นอะไรเลย เพราะเป็นป่า พอเอาต้นไม้ออก โอ้วว วิวดีสุดๆ
วิวถูเขา เจ๋งดีครับ เสาที่เห็นเป็นโรงรถ จะเห็นห้องน้ำชั้น 1 ตรงนั้นหน้าต่างหันออกรับวิวพอดี แจ่มเลย
ตอนนี้เทพื้นชั้น 1 ครบหมดแล้ว ก็เริ่มทำเสาชั้น 1 และคานพื้นชั้น 2 ต่อเลยครับ งานเริ่มไปเร็วแล้ว เริ่มเห็นเสาพ้นพื้นดินสักที เริ่มมองเห็นขนาดของบ้าน และพื้นที่ใช้สอยเป็นรุปเป็นร่างแล้วครับ เจอกันกระทู้หน้า สวัสดีวันสงกรานต์ครับ