สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
มันเป็นเรื่องปกติของสังคมฟุ้งเฟื้อของเด็กๆน่ะ
อย่าไปอิจฉาเลย
.. คนที่เค้ามีของแท้ใส่ ก็ปล่อยเค้าไป
.. คนที่พอใจจะใส่ของปลอด ก็ปล่อยเค้าไป
ห่วง แต่ ... พวกที่ถูกชักจูงได้ง่ายๆ แล้วทำตัวผิดๆ เพื่ออยากให้มีของทัดเทียมคนอื่นนี่แหล่ะ
... มันคือสังคมฟุ้งเฟื้อที่พ่อแม่ห้ามได้ยาก ...เพราะมันเป็นช่วง ที่ทุกคน จะเชื่อฟัง เพื่อนๆ และสังคม มากกว่า
อย่าไปอิจฉาเลย
.. คนที่เค้ามีของแท้ใส่ ก็ปล่อยเค้าไป
.. คนที่พอใจจะใส่ของปลอด ก็ปล่อยเค้าไป
ห่วง แต่ ... พวกที่ถูกชักจูงได้ง่ายๆ แล้วทำตัวผิดๆ เพื่ออยากให้มีของทัดเทียมคนอื่นนี่แหล่ะ
... มันคือสังคมฟุ้งเฟื้อที่พ่อแม่ห้ามได้ยาก ...เพราะมันเป็นช่วง ที่ทุกคน จะเชื่อฟัง เพื่อนๆ และสังคม มากกว่า
ความคิดเห็นที่ 13
เด็กมหาลัยสมัยนี้ ก็มีฐานะดีไม่น้อย อย่างที่ทราบกันว่า เด็กสมัยนี้ มีรถขับกันเป็นเรื่องปกติ
โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีชื่อเสืยงระดับ Top Three น่ะ ผมว่า เด็กส่วนใหญ่ จะมาจากครอบครัวฐานะปานกลาง
ทุกวันนี้ ครอบครัวฐานะปานกลาง สามีภรรยา ต่างทำงานกว่าจะมีลูกเรียนมหาวิทยาลัย ก็มักจะทำงานเลย 20 ปี ถึงจะเป็นลูกจ้าง เงินเดือนอาจจะถึงหกหลักแล้ว ฐานะครอบครัวก็มั่นคงในระดับหนึ่ง ทำไมจะมีรถให้ลูกขับไปเรียนหนังสือไม่ได้
เหตุที่บุตรหลานคนฐานะปานกลาง ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ ส่วนหนึ่ง ก็มาจากทางบ้าน มีฐานะพอจะสนับสนุนการศึกษาได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียนพิเศษทางวิชาการ, การเพิ่มประสบการณ์และมุมมองของเด็กด้วยหลักสูตรนอกห้องเรียนต่าง ๆ ทางกิจกรรมดนตรี กีฬา, รวมถึงการไปเรียนพิเศษต่างประเทศช่วงปิดเทอม ย่อมจะทำให้เด็กมีโอกาสดีขึ้น มีความพร้อมมากขึ้น(ถ้าเด็กใฝ่ดี และรู้จักเรียนรู้)เมื่อต้องเข้าสู่การแข่งขันทางวิชาการ โอกาสจะเรียนต่อในสถาบันมีชื่อเสียงจะไปไหนเสีย
เรื่องการเรียนเสริมพวกนี้ ดูเหมือนจะแพง แต่สำหรับพ่อแม่แล้ว ไม่มีอะไรแพงไปสำหรับอนาคตลูกหรอกครับ
ถึงอย่างนั้น การให้เด็กใส่นาฬิกา ราคาหกหลักเนี่ย ก็ดูจะไม่สมเหตุสมผล ที่ผมว่ามาแต่ต้นเนี่ย เพียงแค่ให้พอเห็นภาพว่า เด็กพวกนี้ พ่อแม่เขาก็พอมีฐานะอยู่นะ มันขึ้นอยู่กับว่า เขาจะให้เฉพาะสิ่งจำเป็น เช่น การศึกษาแบบสุดกำลัง หรือ ให้ทุกอย่างที่ลูกอยากได้ อันนี้ ตังใครตังมัน
ส่วนมหาวิทยาลัยเอกชนน่ะ ปล่อยเขาไปเถอะครับ บางหลักสูตรค่าเล่าเรียนก็เจ็ดหลักต่อปีแล้ว ไม่ขอออกความเห็น
โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีชื่อเสืยงระดับ Top Three น่ะ ผมว่า เด็กส่วนใหญ่ จะมาจากครอบครัวฐานะปานกลาง
ทุกวันนี้ ครอบครัวฐานะปานกลาง สามีภรรยา ต่างทำงานกว่าจะมีลูกเรียนมหาวิทยาลัย ก็มักจะทำงานเลย 20 ปี ถึงจะเป็นลูกจ้าง เงินเดือนอาจจะถึงหกหลักแล้ว ฐานะครอบครัวก็มั่นคงในระดับหนึ่ง ทำไมจะมีรถให้ลูกขับไปเรียนหนังสือไม่ได้
เหตุที่บุตรหลานคนฐานะปานกลาง ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยดี ๆ ส่วนหนึ่ง ก็มาจากทางบ้าน มีฐานะพอจะสนับสนุนการศึกษาได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียนพิเศษทางวิชาการ, การเพิ่มประสบการณ์และมุมมองของเด็กด้วยหลักสูตรนอกห้องเรียนต่าง ๆ ทางกิจกรรมดนตรี กีฬา, รวมถึงการไปเรียนพิเศษต่างประเทศช่วงปิดเทอม ย่อมจะทำให้เด็กมีโอกาสดีขึ้น มีความพร้อมมากขึ้น(ถ้าเด็กใฝ่ดี และรู้จักเรียนรู้)เมื่อต้องเข้าสู่การแข่งขันทางวิชาการ โอกาสจะเรียนต่อในสถาบันมีชื่อเสียงจะไปไหนเสีย
เรื่องการเรียนเสริมพวกนี้ ดูเหมือนจะแพง แต่สำหรับพ่อแม่แล้ว ไม่มีอะไรแพงไปสำหรับอนาคตลูกหรอกครับ
ถึงอย่างนั้น การให้เด็กใส่นาฬิกา ราคาหกหลักเนี่ย ก็ดูจะไม่สมเหตุสมผล ที่ผมว่ามาแต่ต้นเนี่ย เพียงแค่ให้พอเห็นภาพว่า เด็กพวกนี้ พ่อแม่เขาก็พอมีฐานะอยู่นะ มันขึ้นอยู่กับว่า เขาจะให้เฉพาะสิ่งจำเป็น เช่น การศึกษาแบบสุดกำลัง หรือ ให้ทุกอย่างที่ลูกอยากได้ อันนี้ ตังใครตังมัน
ส่วนมหาวิทยาลัยเอกชนน่ะ ปล่อยเขาไปเถอะครับ บางหลักสูตรค่าเล่าเรียนก็เจ็ดหลักต่อปีแล้ว ไม่ขอออกความเห็น
แสดงความคิดเห็น
นาฬิกา Panerai นี่เห็นเด็กมหาลัยใส่กันเพียบเลย สังคมสมัยนี้รวยเนอะ
เท่าที่รู้มา Panerai เดี๋ยวนี้เรือนละ 2 แสนอัพ
เด็กมหาลัยนี่รวยๆกันทั้งนั้นเลย อิจฉาจังงง