กระทู้อ่านแล้วอาจดูแรงไปนะครับ แต่ในความเห็นของผม:
เซียนพระ - ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีความรู้ในเรื่องพระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคลต่างๆ บางท่านก็ใช้ความชำนาญและประสพการณ์ในทางสายนี้ของตนมาประกอบอาชีพในการเป็นผู้ซื้อ/ขาย ของสะสมเหล่านี้ เซียนพระก็ไม่ต่างจากเซียนนาฬิกา เซียนรถ ต่างกันแค่ลักษณะความเชี่ยวชาญในทางของตน เซียนพระคนหนึ่งอาจเป็นคนขี้โกงเป็นพวกที่ชอบต้มตุ๋นลูกค้า ในขณะที่เซียนนาฬิกาอีกคนอาจเป็นคนอยู่ในศีลในธรรมก็เป็นได้ ประเด็นที่ผมอยากจะสื่อคือทุกอาชีพมีคนดีและไม่ดีปะปนกันไป อย่าเหมารวมว่าคนขายพระขายวัตถุมงคลจะเป็นคนดีเป็นคนรู้ธรรมเสมอไป
พระเครื่อง/พระบูชา/วัตถุมงคล - งานศิลปะที่สร้างโดยมนุษย์ ก็เหมือนของแอนทิคทั่วๆที่สามารถนำมาประดับตกแต่งบ้านหรือร้านรวงได้ คนจำนวนหนึ่งเชื่อว่ามันมีคุณวิเศษหรือพลังบางอย่างอยู่ในนั้น ราคาก็ขึ้นอยู่กับความเก่าแก่ เรื่องราวความเป็นมา ความงดงาม ความเชื่อ และตัวพระที่ปลุกเสกของชิ้นนั้น
ธรรมะ - คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบแล้วท่านก็ทรงมีเมตตาถ่ายทอดวิชาอันล้ำค่านี้ให้แก่มวลมนุษย์ สรุปสั้นๆง่ายๆก็คือ อริยสัจสี่นั่นเอง
พระ - ผุ้ที่ตัดสินใจ/ปลงใจแล้วว่าจะไปทางธรรมอย่างเต็มตัว เพราะการเป็นพระนั้นสะดวกและเอื้ออำนวยให้ไปถึงจุดหมายปลายทางแห่งการหลุดพ้นได้ง่ายกว่าเป็นฆราวาสมาก พระที่เมตตาสละเวลามาสอนฆราวาสในเรื่องอริยสัจสี่นั้นต้องยกให้ท่านเป็นผู้เสียสละ เป็นผู้ที่มีเมตตา เพราะชี้ทางพ้นทุกข์ให้กับผู้ที่ยังเต็มไปด้วยความทุกข์
เป็นคนพุทธต้องไม่ฉลาดน้อย ต้องใช้สติปัญญาเยอะๆ อย่าเอาสีขาวมาปนกับ สีเหลือง สีแดง สีดำ จนเป็นสีผสมแล้วเหมาว่านี่คือพุทธ
ต้องแยกกันให้ขาด ให้รู้ว่านี่สีขาวนะ นี่สีเหลืองนะ นี่สีแดงนะ นี่สีดำนะ
ต้องมองให้ขาดว่าใครเป็นคนลงสีขาว ใครเป็นคนลงสีเหลือง ใครเป็นคนลงสีแดง ใครเป็นคนลงสีดำ และ
ใครเป็นคนเอาสีมาปนกัน
ไข่แมว
เซียนพระคือพ่อค้า พระเครื่องและวัตถุมงคลคือของสะสม ธรรมะคือธรรมะ พระคือผู้ตัดสินใจไปทางธรรมแล้ว ต้องแยกกันให้ขาด
เซียนพระ - ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีความรู้ในเรื่องพระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคลต่างๆ บางท่านก็ใช้ความชำนาญและประสพการณ์ในทางสายนี้ของตนมาประกอบอาชีพในการเป็นผู้ซื้อ/ขาย ของสะสมเหล่านี้ เซียนพระก็ไม่ต่างจากเซียนนาฬิกา เซียนรถ ต่างกันแค่ลักษณะความเชี่ยวชาญในทางของตน เซียนพระคนหนึ่งอาจเป็นคนขี้โกงเป็นพวกที่ชอบต้มตุ๋นลูกค้า ในขณะที่เซียนนาฬิกาอีกคนอาจเป็นคนอยู่ในศีลในธรรมก็เป็นได้ ประเด็นที่ผมอยากจะสื่อคือทุกอาชีพมีคนดีและไม่ดีปะปนกันไป อย่าเหมารวมว่าคนขายพระขายวัตถุมงคลจะเป็นคนดีเป็นคนรู้ธรรมเสมอไป
พระเครื่อง/พระบูชา/วัตถุมงคล - งานศิลปะที่สร้างโดยมนุษย์ ก็เหมือนของแอนทิคทั่วๆที่สามารถนำมาประดับตกแต่งบ้านหรือร้านรวงได้ คนจำนวนหนึ่งเชื่อว่ามันมีคุณวิเศษหรือพลังบางอย่างอยู่ในนั้น ราคาก็ขึ้นอยู่กับความเก่าแก่ เรื่องราวความเป็นมา ความงดงาม ความเชื่อ และตัวพระที่ปลุกเสกของชิ้นนั้น
ธรรมะ - คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบแล้วท่านก็ทรงมีเมตตาถ่ายทอดวิชาอันล้ำค่านี้ให้แก่มวลมนุษย์ สรุปสั้นๆง่ายๆก็คือ อริยสัจสี่นั่นเอง
พระ - ผุ้ที่ตัดสินใจ/ปลงใจแล้วว่าจะไปทางธรรมอย่างเต็มตัว เพราะการเป็นพระนั้นสะดวกและเอื้ออำนวยให้ไปถึงจุดหมายปลายทางแห่งการหลุดพ้นได้ง่ายกว่าเป็นฆราวาสมาก พระที่เมตตาสละเวลามาสอนฆราวาสในเรื่องอริยสัจสี่นั้นต้องยกให้ท่านเป็นผู้เสียสละ เป็นผู้ที่มีเมตตา เพราะชี้ทางพ้นทุกข์ให้กับผู้ที่ยังเต็มไปด้วยความทุกข์
เป็นคนพุทธต้องไม่ฉลาดน้อย ต้องใช้สติปัญญาเยอะๆ อย่าเอาสีขาวมาปนกับ สีเหลือง สีแดง สีดำ จนเป็นสีผสมแล้วเหมาว่านี่คือพุทธ
ต้องแยกกันให้ขาด ให้รู้ว่านี่สีขาวนะ นี่สีเหลืองนะ นี่สีแดงนะ นี่สีดำนะ
ต้องมองให้ขาดว่าใครเป็นคนลงสีขาว ใครเป็นคนลงสีเหลือง ใครเป็นคนลงสีแดง ใครเป็นคนลงสีดำ และใครเป็นคนเอาสีมาปนกัน
ไข่แมว