ผมพาคณะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ช่วงวันที่ 4-9 เมษายน 2558 โดยไปเที่ยวกันเอง ศึกษาข้อมูลจากพี่ๆในห้องบลูแพลนเน็ต และจากแหล่งอื่นๆอีก ทำให้เที่ยวได้อย่างสนุกสนาน ไม่มีการหลงทิศหลงทางใดๆเลย จึงอยากกแบ่งปันโปรแกรมการเดินทางที่ผมได้ใช้จริง ให้ท่านที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ลองนำไปปรับใช้ดูบ้าง
ผมพักที่โรงแรมชินากาว่า ปริ๊น โรงแรมนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR สถานีชินากาว่า ประมาณ 100 เมตร ออกจากสถานีรถไฟแค่ข้ามถนนเดินอีกหน่อยก็ถึงโรงแรมแล้ว ซึ่งสะดวกมากต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้งสายเคคิว ที่ไป-กลับจากสนามบินฮาเนดะ รถไฟชินคันเซ็น รถไฟ JR สายยามาโนเตะไลน์ ที่ใช้บ่อยที่สุด แถมยังมีรถลีมูซีนบัสรับ-ส่งจากสนามบินฮาเนดะ สนามบินนาริตะ มายังโรงแรมและไปสนามบินอีกต่างหาก อาหารการกินก็ไม่เดือดร้อนมีเซเว่นอยู่หน้าโรงแรม มีซุปเปอร์มาร์เก็ตหน้าสถานี JR
การเดินทางด้วยรถไฟ JR สายต่างๆและ รถไฟสายเคคิว ไม่ยากอะไร แค่ครั้งแรกถ้าจะใช้รถไฟ JR ให้ท่านมองหาตู้ขายบัตรซุยกะอัตโนมัติ ซื้อบัตรใบใหม่ ราคา 5,000 เยน ก็ใช้ขึ้นรถไฟได้ทุกสายทุกขบวนทั้งใต้ดิน บนดิน กินซ่าไลน์ ยามาโนเตะไลน์ โทบุไลน์ เคคิวไลน์ ยกเว้นรถไฟชินคันเซ็นที่ต้องซื้อตั๋วแยกต่างหากที่ห้องขายตั๋ว ซึ่งก็ไม่ยากอะไรเพียงท่านปริ๊นท์ วัน เวลา สถานีต้นทาง ปลายทาง แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู จ่ายเงินก็จะได้ตั๋วมาใช้ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นแล้ว
การเดินทางด้วยรถไฟ JR ท่านอาจกังวลว่าจะขึ้นรถไฟถูกไหม เป็นเรื่องไม่ยาก หากท่านหมั่นสังเกต
1. ท่านต้องรู้ว่าท่านจะใช้รถไฟสายอะไร เช่นยามาโนเตะไลน์ สายที่ใช้บ่อยที่สุด สายนี้เป็นสายสีเขียวอ่อน ที่ป้ายบอกทางไปสายยามาโนเตะไลน์จะเป็นขีดแนวตั้งสีเขียวอ่อน ท่านก็เดินตามป้ายที่บอกว่าสายยามาโนเตะไลน์ไปทางนี้
2. ท่านต้องรู้ว่าจะไปลงที่สถานีไหน แล้วจึงอ่านที่ป้ายบอกว่าให้ไปขึ้นที่ชานชาลาไหน ท่านก็ตรงไปขึ้นที่ชานชาลานั้น เมื่อเห็นด้านหน้าและด้านข้างขบวนรถไฟที่มีสีเขียวอ่อนมาก็เป็นอันว่าใช่สายยามาโนเตะไลน์แล้ว
3. เมื่ออยู่บนรถไฟ พึงสังเกตที่จอเหนือประตูทาง-เข้าออก จะบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษสลับกันว่าสถานีต่อไปสถานีอะไร ท่านจะได้เตรียมตัวลงถูกสถานี
4. เมื่อลงสถานีปลายทางตามที่ท่านตั้งใจลงแล้ว ต้องรู้ว่าจะออกทางออกไหน เมื่อรู้แล้วก็เดินไปตามป้ายบอกทางออกนั้น
5. ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลารถไฟสายยามาโนเตะไลน์ที่ใช้บ่อยที่สุด ถ้าท่านไปถึงชานชาลาถูกต้องแค่ยืนรอเข้าคิว อีกสักครู่ก็จะมีรถไฟสายนี้มารับท่าน
ในแต่ละวันผมแค่เริ่มต้นขึ้นรถไฟให้ตรงเวลาที่ตั้งใจ ที่เหลือก็เป็นไปตามกำหนดเวลาของรถไฟเอง ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ไม่ได้เปิดเว็บ ไฮเปอร์เดีย เพื่อดูเวลารถไฟเลยแม้สักครั้งเดียว บางสถานที่อยากอยู่นานมากน้อยแค่ไหนก็ตามใจเรา ขอให้หาสถานีรถไฟ JR เจอและเวลาก่อนเที่ยงคืนเป็นพอ
สายรถไฟของญี่ปุ่นแม้จะมีมากมาย เห็นแผนผังรถไฟที่พันกันไป-มายุ่งเหยิง แล้วงงงวย ก็อย่ากังวลใจ เพียงท่านจับสายที่ท่านต้องการไปสายเดียวไม่ต้องไปดูสายสีอื่นๆให้งุนงงสงกา เท่านี้ก็ง่ายแล้ว ลองขึ้นรถไฟตั้งใจหมั่นสังเกต สัก2-3 ครั้งก็เป็นแล้ว ไม่ยากเลย ก็เหมือนรถไฟฟ้าบ้านเราครับ
ผมขอขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ชาวห้องบลูแพลนเน็ตทุกท่าน ที่กรุณาให้ข้อมูล คลายข้อสงสัย ทำรีวิวให้ดูอย่างชัดเจน จนผมนำชาวคณะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเองได้อย่างสนุกมีความสุขครับ
แบ่งปันโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวโตเกียว ฮาโกเน่ คามาคุระ สำหรับผู้พักย่าน ชินากาว่าครับ
ผมพักที่โรงแรมชินากาว่า ปริ๊น โรงแรมนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR สถานีชินากาว่า ประมาณ 100 เมตร ออกจากสถานีรถไฟแค่ข้ามถนนเดินอีกหน่อยก็ถึงโรงแรมแล้ว ซึ่งสะดวกมากต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้งสายเคคิว ที่ไป-กลับจากสนามบินฮาเนดะ รถไฟชินคันเซ็น รถไฟ JR สายยามาโนเตะไลน์ ที่ใช้บ่อยที่สุด แถมยังมีรถลีมูซีนบัสรับ-ส่งจากสนามบินฮาเนดะ สนามบินนาริตะ มายังโรงแรมและไปสนามบินอีกต่างหาก อาหารการกินก็ไม่เดือดร้อนมีเซเว่นอยู่หน้าโรงแรม มีซุปเปอร์มาร์เก็ตหน้าสถานี JR
การเดินทางด้วยรถไฟ JR สายต่างๆและ รถไฟสายเคคิว ไม่ยากอะไร แค่ครั้งแรกถ้าจะใช้รถไฟ JR ให้ท่านมองหาตู้ขายบัตรซุยกะอัตโนมัติ ซื้อบัตรใบใหม่ ราคา 5,000 เยน ก็ใช้ขึ้นรถไฟได้ทุกสายทุกขบวนทั้งใต้ดิน บนดิน กินซ่าไลน์ ยามาโนเตะไลน์ โทบุไลน์ เคคิวไลน์ ยกเว้นรถไฟชินคันเซ็นที่ต้องซื้อตั๋วแยกต่างหากที่ห้องขายตั๋ว ซึ่งก็ไม่ยากอะไรเพียงท่านปริ๊นท์ วัน เวลา สถานีต้นทาง ปลายทาง แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู จ่ายเงินก็จะได้ตั๋วมาใช้ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นแล้ว
การเดินทางด้วยรถไฟ JR ท่านอาจกังวลว่าจะขึ้นรถไฟถูกไหม เป็นเรื่องไม่ยาก หากท่านหมั่นสังเกต
1. ท่านต้องรู้ว่าท่านจะใช้รถไฟสายอะไร เช่นยามาโนเตะไลน์ สายที่ใช้บ่อยที่สุด สายนี้เป็นสายสีเขียวอ่อน ที่ป้ายบอกทางไปสายยามาโนเตะไลน์จะเป็นขีดแนวตั้งสีเขียวอ่อน ท่านก็เดินตามป้ายที่บอกว่าสายยามาโนเตะไลน์ไปทางนี้
2. ท่านต้องรู้ว่าจะไปลงที่สถานีไหน แล้วจึงอ่านที่ป้ายบอกว่าให้ไปขึ้นที่ชานชาลาไหน ท่านก็ตรงไปขึ้นที่ชานชาลานั้น เมื่อเห็นด้านหน้าและด้านข้างขบวนรถไฟที่มีสีเขียวอ่อนมาก็เป็นอันว่าใช่สายยามาโนเตะไลน์แล้ว
3. เมื่ออยู่บนรถไฟ พึงสังเกตที่จอเหนือประตูทาง-เข้าออก จะบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษสลับกันว่าสถานีต่อไปสถานีอะไร ท่านจะได้เตรียมตัวลงถูกสถานี
4. เมื่อลงสถานีปลายทางตามที่ท่านตั้งใจลงแล้ว ต้องรู้ว่าจะออกทางออกไหน เมื่อรู้แล้วก็เดินไปตามป้ายบอกทางออกนั้น
5. ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลารถไฟสายยามาโนเตะไลน์ที่ใช้บ่อยที่สุด ถ้าท่านไปถึงชานชาลาถูกต้องแค่ยืนรอเข้าคิว อีกสักครู่ก็จะมีรถไฟสายนี้มารับท่าน
ในแต่ละวันผมแค่เริ่มต้นขึ้นรถไฟให้ตรงเวลาที่ตั้งใจ ที่เหลือก็เป็นไปตามกำหนดเวลาของรถไฟเอง ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ไม่ได้เปิดเว็บ ไฮเปอร์เดีย เพื่อดูเวลารถไฟเลยแม้สักครั้งเดียว บางสถานที่อยากอยู่นานมากน้อยแค่ไหนก็ตามใจเรา ขอให้หาสถานีรถไฟ JR เจอและเวลาก่อนเที่ยงคืนเป็นพอ
สายรถไฟของญี่ปุ่นแม้จะมีมากมาย เห็นแผนผังรถไฟที่พันกันไป-มายุ่งเหยิง แล้วงงงวย ก็อย่ากังวลใจ เพียงท่านจับสายที่ท่านต้องการไปสายเดียวไม่ต้องไปดูสายสีอื่นๆให้งุนงงสงกา เท่านี้ก็ง่ายแล้ว ลองขึ้นรถไฟตั้งใจหมั่นสังเกต สัก2-3 ครั้งก็เป็นแล้ว ไม่ยากเลย ก็เหมือนรถไฟฟ้าบ้านเราครับ
ผมขอขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ชาวห้องบลูแพลนเน็ตทุกท่าน ที่กรุณาให้ข้อมูล คลายข้อสงสัย ทำรีวิวให้ดูอย่างชัดเจน จนผมนำชาวคณะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเองได้อย่างสนุกมีความสุขครับ