สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
เท่าที่ดิฉันดูแพทฟอร์มของยูฟัน ต้องบอกสมาชิกเลยว่าลำบากพอสมควรเลยนะค่ะ
1. การที่บริษัทนำเงินของสมาชิกมา และมีการชี้แจงว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการนำเงินนั้นมาให้กับบริษัท (ประเด็นนี้เลี่ยงบาลีไปก็เท่านั้นค่ะ ตารางก็โชว์ คลิปยูทูปก็โชว์ชัดเจน เพราะทุกท่านที่นำเงินมาลงเพราะเหตุผลนี้) ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการสมัครแพคเกจ การลงทุน หรือในรูปแบบใดก็ตาม จะถือว่าเข้าข่ายลักษณะการกู้ยืมเงิน ซึ่งต้องขออนุญาตกับหน่วยงานรัฐ
- ถ้าเป็นลักษณะการขายตรง การขายของผ่านเว็ป (E-Commerce) การสมัครแพคเกจขายของ กับบริษัท ทางบริษัทจะต้องขอกับ สคบ.
- ถ้าเป็นลักษณะการระดมทุน จะต้องขอกับตลาดหลักทรัพย์/ธนาคารแห่งประเทศไทย
ถ้ายูฟันต้องชี้แจงกับศาล ยูฟันเอาตัวเองเข้าเงื่อนไขไหนค่ะ ถ้าไม่เข้าทั้ง 2 เงื่อนไข มันก็ไม่มีกฎหมายรองรับ กลายเป็นแชร์ลูกโซ่เพราะมีลักษณะใกล้เคียง ก็จะมีความผิดแน่นอน หรือจะเข้าเงื่อนไขที่ 1 ขายตรง ก็ผิดอยู่ดี ให้ลองไปอ่านพรบ ขายตรงดูนะค่ะ ที่สำคัญ สคบ. เรียกแล้วแต่ไม่มา ก็ชัดเจนผิดอีกกระทง
2. บริษัทต้องชี้แจงงบการเงิน ว่ารายได้ที่ได้มาเพียงพอต่อการชำระให้กับสมาชิกได้อย่างไร และจะอธิบายศาลว่ารายได้ที่ได้มา มาจากไหนค่ะ ขายสินค้า? คำถามคือขายอะไร? ได้มาเท่าไหร่? ค่าแลกเหรียญเป็นเงินในระบบ ได้ขอกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานรัฐไหน เพราะมีกำไรเกิดขึ้นจากการซื้อขายค่าเงิน ก็จะโดนอีกกระทง เพราะไม่มีกฎหมายรับรอง ที่สำคัญมันไม่เหมือนแสตมป์ 7-11 นะค่ะ แสตมป์ 7-11 ชี้แจงหลอกสมาชิกยูฟันอาจจะพอได้ แต่ศาลไม่ฟังแน่นอน เพราะมันไม่เหมือนกันเลย
3. กำไรที่ให้กับสมาชิก และกำไรที่บริษัทได้รับ มีสลิปการเสียภาษี หรือหัก ณ ที่จ่ายไหมค่ะ ถ้าไม่มีก็ผิดอีกกระทง ศาลก็จะมองว่า การดำเนินธุรกิจไม่โปร่งใส ลดความน่าเชื่อถือเมื่อถูกซักค้านไปอีก
4. พวกสมาชิกไม่สงสัยเลยหรอค่ะ ว่าทำไมหลังๆ เวลาถอนเงิน บริษัทถึงจ่ายเงินช้า จนถึงขั้นเปลี่ยนกฎกำหนดเพดานการถอน ก็เพราะช่วงหลังการหาสมาชิกมันไม่โฟล์เหมือนแต่ก่อน ทำให้ผู้บริหารชาวมาเลย์เลยต้องไปเดินสายที่ต่างประเทศ เพื่อไปหาสมาชิกมา เพิ่อเอาเงินต่อชีวิตให้บริษัทเดินต่อ
5. พวกสมาชิกเคยสงสัยไหมค่ะ ว่าเงินที่เข้าบัญชีของท่าน กรณีที่ท่านไม่ได้ซื้อขายกับแม่ทีม แต่ซื้อขายตรงกับบริษัท เงินที่เข้ามาบัญชีของพวกท่าน มาจากบัญชีอะไร ชื่ออะไร ใช่บัญชีบริษัทจริงๆ ไหม อยากให้ลองกลับไปเช็คดูนะค่ะ
6. ที่สำคัญสุดนะค่ะแพทฟอร์มที่ยูฟันกำลังทำ หักล้างข้อซักค้านของอัยการยากมากค่ะ เพราะรายได้ที่แจ้งมาข้างต้น ใช้ชี้แจงความโปร่งใสของบริษัทไม่ได้เลย เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเอาเงินไปต่อเงิน ลองใจเป็นกลางแล้วลองดูว่ารายได้บริษัท มาจากส่วนไหนมากที่สุดใน 5 ข้อที่ จขกท เขียนมา ศาลจะมองว่าเป็น Money game ทันที
7. ความไม่โปร่งใสของผู้บริหาร/ผู้ถือหุ้น จากข่าวที่ออกมา ผู้บริหารอาจต้องชี้แจงว่าบัตรประชาชนที่ถืออยู่ และใช้ในการลงทะเบียนชื่อบริษัทนั้น เป็นของเขาจริงๆ ไหม ถ้าไม่ใช่ จะลดความน่าเชื่อถือตอนให้การในชั้นศาลเข้าไปอีก และแถมโดนความผิดอีกกระทงค่ะ
8. ใครจะขึ้นศาลชี้แจงค่ะ? ศาลมีหมายจับ และถ้าผู้บริหารไม่มาชี้แจงด้วยตัวเอง แต่หลบหนีอยู่ ที่สำคัญจะกล้าเข้ามาในไทยหรือไม่ เพราะศาลไม่ให้ประกันตัวกับคนที่โดนจับอยู่ตอนนี้ ส่วนทีมบริหารที่เป็นคนไทยจะกล้าเอาตัวเองเสี่ยงแสดงตัวไหมว่าเป็นผู้บริหาร เพราะจะโดนจับเข้าคุก ไม่ให้ประกันตัวทันที สมาชิกเองก็จะชี้แจงแทนบริษัทไม่ได้ซะด้วย ให้ทนายมาชี้แจงก็ไม่ได้ เพราะเคสนี้เป็นเคสฉ้อโกงที่ศาลไม่ให้ประกันตัว ต้องเป็นผู้บริหารเท่านั้นค่ะ
9. เมื่อผู้บริหารเข้าประเทศไม่ได้ เงินจะโอนเข้ามาในไทยด้วยวิธีใด ก็จะต้องใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือลักลอบเอาเงินเข้ามา เพราะเงินที่ถูกโอนเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากๆ จะถูกตรวจสอบ คำถามคือ ใครจะกล้าเอาตัวเองไปเป็นตัวกลาง ถ้าทำตำรวจสืบและตามถึงบ้านแน่นอนค่ะ
ตอนนี้ดิฉันคิดว่าสมาชิกยูฟันควรจะหยุดว่าคนอื่นว่าไม่เข้าใจแพทฟอร์มของบริษัทได้แล้วนะค่ะ แต่อยากให้สมาชิกลองไปอ่านข้อกฏหมายและทำความเข้าใจข้อกฏหมายดูว่าบริษัทมีหลักฐานอะไรบ้างทีชี้ว่าบริษัทถูกต้อง นอกจากคำชี้แจงในหน้า Facebook ที่สำคัญหยุดว่าประเทศไทยว่าล้าหลัง ไม่ทันกับยุคสมัย เพราะรัฐเขามีเหตุผลที่ให้ทำตามใจที่สมาชิกต้องการไม่ได้ เพราะมันมีผลกับประเทศอย่างมาก เพราะเงินที่คุณใช้มันเป็นเงินนอกระบบ ที่รัฐควบคุมไม่ได้ การใช้มาตรทางการเงินเพื่อบริหารประเทศ เขาถึงยอมให้ทำแบบนี้ไม่ได้ค่ะ
1. การที่บริษัทนำเงินของสมาชิกมา และมีการชี้แจงว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการนำเงินนั้นมาให้กับบริษัท (ประเด็นนี้เลี่ยงบาลีไปก็เท่านั้นค่ะ ตารางก็โชว์ คลิปยูทูปก็โชว์ชัดเจน เพราะทุกท่านที่นำเงินมาลงเพราะเหตุผลนี้) ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการสมัครแพคเกจ การลงทุน หรือในรูปแบบใดก็ตาม จะถือว่าเข้าข่ายลักษณะการกู้ยืมเงิน ซึ่งต้องขออนุญาตกับหน่วยงานรัฐ
- ถ้าเป็นลักษณะการขายตรง การขายของผ่านเว็ป (E-Commerce) การสมัครแพคเกจขายของ กับบริษัท ทางบริษัทจะต้องขอกับ สคบ.
- ถ้าเป็นลักษณะการระดมทุน จะต้องขอกับตลาดหลักทรัพย์/ธนาคารแห่งประเทศไทย
ถ้ายูฟันต้องชี้แจงกับศาล ยูฟันเอาตัวเองเข้าเงื่อนไขไหนค่ะ ถ้าไม่เข้าทั้ง 2 เงื่อนไข มันก็ไม่มีกฎหมายรองรับ กลายเป็นแชร์ลูกโซ่เพราะมีลักษณะใกล้เคียง ก็จะมีความผิดแน่นอน หรือจะเข้าเงื่อนไขที่ 1 ขายตรง ก็ผิดอยู่ดี ให้ลองไปอ่านพรบ ขายตรงดูนะค่ะ ที่สำคัญ สคบ. เรียกแล้วแต่ไม่มา ก็ชัดเจนผิดอีกกระทง
2. บริษัทต้องชี้แจงงบการเงิน ว่ารายได้ที่ได้มาเพียงพอต่อการชำระให้กับสมาชิกได้อย่างไร และจะอธิบายศาลว่ารายได้ที่ได้มา มาจากไหนค่ะ ขายสินค้า? คำถามคือขายอะไร? ได้มาเท่าไหร่? ค่าแลกเหรียญเป็นเงินในระบบ ได้ขอกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานรัฐไหน เพราะมีกำไรเกิดขึ้นจากการซื้อขายค่าเงิน ก็จะโดนอีกกระทง เพราะไม่มีกฎหมายรับรอง ที่สำคัญมันไม่เหมือนแสตมป์ 7-11 นะค่ะ แสตมป์ 7-11 ชี้แจงหลอกสมาชิกยูฟันอาจจะพอได้ แต่ศาลไม่ฟังแน่นอน เพราะมันไม่เหมือนกันเลย
3. กำไรที่ให้กับสมาชิก และกำไรที่บริษัทได้รับ มีสลิปการเสียภาษี หรือหัก ณ ที่จ่ายไหมค่ะ ถ้าไม่มีก็ผิดอีกกระทง ศาลก็จะมองว่า การดำเนินธุรกิจไม่โปร่งใส ลดความน่าเชื่อถือเมื่อถูกซักค้านไปอีก
4. พวกสมาชิกไม่สงสัยเลยหรอค่ะ ว่าทำไมหลังๆ เวลาถอนเงิน บริษัทถึงจ่ายเงินช้า จนถึงขั้นเปลี่ยนกฎกำหนดเพดานการถอน ก็เพราะช่วงหลังการหาสมาชิกมันไม่โฟล์เหมือนแต่ก่อน ทำให้ผู้บริหารชาวมาเลย์เลยต้องไปเดินสายที่ต่างประเทศ เพื่อไปหาสมาชิกมา เพิ่อเอาเงินต่อชีวิตให้บริษัทเดินต่อ
5. พวกสมาชิกเคยสงสัยไหมค่ะ ว่าเงินที่เข้าบัญชีของท่าน กรณีที่ท่านไม่ได้ซื้อขายกับแม่ทีม แต่ซื้อขายตรงกับบริษัท เงินที่เข้ามาบัญชีของพวกท่าน มาจากบัญชีอะไร ชื่ออะไร ใช่บัญชีบริษัทจริงๆ ไหม อยากให้ลองกลับไปเช็คดูนะค่ะ
6. ที่สำคัญสุดนะค่ะแพทฟอร์มที่ยูฟันกำลังทำ หักล้างข้อซักค้านของอัยการยากมากค่ะ เพราะรายได้ที่แจ้งมาข้างต้น ใช้ชี้แจงความโปร่งใสของบริษัทไม่ได้เลย เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเอาเงินไปต่อเงิน ลองใจเป็นกลางแล้วลองดูว่ารายได้บริษัท มาจากส่วนไหนมากที่สุดใน 5 ข้อที่ จขกท เขียนมา ศาลจะมองว่าเป็น Money game ทันที
7. ความไม่โปร่งใสของผู้บริหาร/ผู้ถือหุ้น จากข่าวที่ออกมา ผู้บริหารอาจต้องชี้แจงว่าบัตรประชาชนที่ถืออยู่ และใช้ในการลงทะเบียนชื่อบริษัทนั้น เป็นของเขาจริงๆ ไหม ถ้าไม่ใช่ จะลดความน่าเชื่อถือตอนให้การในชั้นศาลเข้าไปอีก และแถมโดนความผิดอีกกระทงค่ะ
8. ใครจะขึ้นศาลชี้แจงค่ะ? ศาลมีหมายจับ และถ้าผู้บริหารไม่มาชี้แจงด้วยตัวเอง แต่หลบหนีอยู่ ที่สำคัญจะกล้าเข้ามาในไทยหรือไม่ เพราะศาลไม่ให้ประกันตัวกับคนที่โดนจับอยู่ตอนนี้ ส่วนทีมบริหารที่เป็นคนไทยจะกล้าเอาตัวเองเสี่ยงแสดงตัวไหมว่าเป็นผู้บริหาร เพราะจะโดนจับเข้าคุก ไม่ให้ประกันตัวทันที สมาชิกเองก็จะชี้แจงแทนบริษัทไม่ได้ซะด้วย ให้ทนายมาชี้แจงก็ไม่ได้ เพราะเคสนี้เป็นเคสฉ้อโกงที่ศาลไม่ให้ประกันตัว ต้องเป็นผู้บริหารเท่านั้นค่ะ
9. เมื่อผู้บริหารเข้าประเทศไม่ได้ เงินจะโอนเข้ามาในไทยด้วยวิธีใด ก็จะต้องใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือลักลอบเอาเงินเข้ามา เพราะเงินที่ถูกโอนเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากๆ จะถูกตรวจสอบ คำถามคือ ใครจะกล้าเอาตัวเองไปเป็นตัวกลาง ถ้าทำตำรวจสืบและตามถึงบ้านแน่นอนค่ะ
ตอนนี้ดิฉันคิดว่าสมาชิกยูฟันควรจะหยุดว่าคนอื่นว่าไม่เข้าใจแพทฟอร์มของบริษัทได้แล้วนะค่ะ แต่อยากให้สมาชิกลองไปอ่านข้อกฏหมายและทำความเข้าใจข้อกฏหมายดูว่าบริษัทมีหลักฐานอะไรบ้างทีชี้ว่าบริษัทถูกต้อง นอกจากคำชี้แจงในหน้า Facebook ที่สำคัญหยุดว่าประเทศไทยว่าล้าหลัง ไม่ทันกับยุคสมัย เพราะรัฐเขามีเหตุผลที่ให้ทำตามใจที่สมาชิกต้องการไม่ได้ เพราะมันมีผลกับประเทศอย่างมาก เพราะเงินที่คุณใช้มันเป็นเงินนอกระบบ ที่รัฐควบคุมไม่ได้ การใช้มาตรทางการเงินเพื่อบริหารประเทศ เขาถึงยอมให้ทำแบบนี้ไม่ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
UFUN เค้าชี้แจงมาว่ายังงี้ครับ
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองนะครับ
UFUN เป็นธุรกิจใหม่ในประเทศไทยเรา ซึ่งใช้รูปแบบธุรกิจ 3 ตัวมารวมตัวกันในธุรกิจเดียวคือ
1.E-Commerce
2.Digital Token
3.Network Marketing
ซึ่งบริษัทฯทำการเปิดตลาดกลางมาให้สมาชิกทำกำไรกันเอง โดยมีความเกี่ยวเนื่องกันทั้ง 3 ช่องทางดังนี้
1.E-Commerce ตลาดกลางการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างสมาชิกและตกลงยินยอมซื้อขายกันเอง โดยผ่านตลาดกลางเดียวกันที่บริษัท UFUN ได้สร้างขึ้นมาให้ และเก็บค่าธรรมเนียมจากสมาชิกที่นำสินค้าและบริการมาจำหน่ายในตลาดนี้ 10% และห้ามใช้เงินสดแต่ต้องใช้ตัวกลางการแลกเปลี่ยนหรือคูปองที่ชื่อว่า Utoken เท่านั้น (เหมือนซื้อคูปองอาหารในห้างน่ะครับ) คือ
www.ubtmall.com
2.Digital Token (คูปอง/แต้ม/พ้อยท์) ซึ่งเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนที่ชื่อว่า Utoken และได้เปรียบเทียบมูลค่าจากราคาปัจจุบันในการใช้งาน และสามารถเพิ่มมูลค่าได้จากความต้องการถือครองและใช้งานจริงในโลก (Demand & Supply) ราคาของคูปองนี้จะถูกกำหนดชัดเจนว่าห้ามวางขายต่ำกว่าราคาปัจจุบัน แสดงว่ามูลค่าของคูปองนี้ไม่มีลดมีแต่จะเพิ่มมูลค่าตามความต้องการถือครองและใช้งานจริงในโลกนั่นเอง และผู้สมัครต้องเป็นผู้ตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง เปรียบเสมือนพระเครื่องที่พอสร้างมาแทบจะแจกฟรี แต่พอมีความต้องการมากขึ้นกลับมีมูลค่าตามความต้องการที่มากขึ้น หรือที่ดิน ที่พอมีจำนวนประชากรมากขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยก็เพิ่มมากขึ้นเลยทำให้มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้น ซึ่ง Utoken ก็เป็นเช่นนั้น จำนวนจำกัด ความต้องการเพิ่มมากขึ้น (สมาชิกมีเพิ่มมากขึ้นและมีความยอมรับการใช้งานมากขึ้น ตามกฏเกณฑ์ของ Demand & Supply) เลยทำให้มูลค่าเพิ่มมากขึ้นได้ เลยมีคนสองประเภทเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกคือ
2.1.ผู้ที่ต้องการสมัครเพื่อซื้อขายสินค้าและบริการรวมถึงโฆษณาสินค้าโดยใช้ต้นทุนต่ำที่จะทำให้คนอีกเป็น 100 ประเทศรู้จักในตลาดกลาง ubtmall
2.2.ผู้ที่ต้องการถือครองคูปองที่ชื่อว่า Utoken เพื่อรอให้ราคาเพิ่มไปตามกลไกตลาดความต้องการและจำหน่ายต่อให้กับผู้ที่ต้องการต่อไป (สมาชิกที่ต้องการซื้อไว้ใช้หรือเก็บไว้ทำกำไรจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น)
แต่ตลาดกลางที่ 2 นี้มีการกำหนดชัดเจนว่า อนุญาตให้วางขายได้แต่กำไรเท่านั้น มีค่าธรรมเนียมการวางขาย 10% ส่วนต้นทุนต้องนำกลับไปใช้ในตลาดกลาง Ubtmall หรือโอนให้กันเองระหว่างสมาชิกเท่านั้นซึ่งมีค่าธรรมเนียมการโอน 0.1-1% ซึ่งตลาดกลางการซื้อขายคูปองนี้คือ
www.utokenkms.com
3.Network Marketing ก็คือระบบเครือข่าย ซึ่งเป็นระบบการเพิ่มจำนวนสมาชิกที่รวดเร็วช่องทางหนึ่ง ซึ่งทุกๆธุรกิจในโลกล้วนแล้วแต่นำระบบนี้ไปใช้ไม่ว่าจะเป็น Franchise ต่างๆ (7-11 / CP / KFC ฯลฯ) ธุรกิจประกันชีวิต รวมไปถึงธุรกิจ MLM ซึ่ง UFUN ก็นำระบบนี้มาประยุกต์ใช้และเรียกระบบนี้ว่า MGM (Member Get Member) ซึ่งจะมีการจ่ายค่านายหน้า (Commission) เหมือนการซื้อขายที่ดิน จ่ายครั้งเดียวจบ และมีการจ่ายค่าบริหาร (Development) ตามระบบ Binary ตามรูปแบบของ Network Marketing เหมือนประกันชีวิตที่จ่ายตามเบี้ยประกันครั้งเดียวจบเช่นกัน โดยไม่ได้ระบุว่าทุกคนต้องทำ จะไม่ทำก็ได้ เพราะเป็นเพียงช่องทางในการหารายได้เสริมอีกหนึ่งช่องทางเท่านั้น
โดยรวมที่กล่าวมานี้ ผมจะขออนุญาตสรุปอีกครั้งและยกตัวอย่างให้ชัดเจนอีกครั้งครับว่า
ถ้าผมเองสมัครแพคเกจ 2 ดาว หรือ 1,000$ ผมจะต้องใช้เงินสมัครเป็นเงินไทย 35,000 บาท (เรทอัตรา 1$ / 35 บาท) และผมจะได้เหรียญในระบบที่ชื่อว่า U-Point ซึ่งสามารถนำไปซื้อคูปองที่ชื่อว่า Utoken ในการที่จะนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าของสมาชิกท่านอื่นๆหรือจะถือไว้รอมูลค่าให้เพิ่มขึ้นแล้ววางขายกำไรก็ได้ โดยต้องทำการซื้อด้วยตัวเองที่ตลาดกลางคูปอง www.utokenkms.com
แล้วเลือกใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ใน ubtmall หรือถือไว้เพิ่มมูลค่าแล้วขายกำไรในตลาดกลางซื้อขายคูปอง Utoken นั่นเอง ส่วนถ้าใครได้กำไรหรือมองเห็นว่าธุรกิจนี้เป็นโอกาสก็สามารถชวนคนได้โดยการสมัครสมาชิกผ่านรหัสของผู้ที่มีไอดีแล้วเท่านั้นผ่าน www.ubonusman.com ทางบริษัทก็จะทำการจ่ายผลประโยชน์เป็นเหรียญในระบบให้ ซึ่งสามารถแลกเป็นเงินได้ทั้งหมด 3 ช่องทางคือ ขายคืนบริษัทฯ(1$ / 30 บาท) / ขายต่อสมาชิกกันเอง / เก็บไว้เพื่อใช้แทนการสมัครสมาชิกใหม่ เพียงเท่านี้ระบบก็จะดำเนินไปได้เป็นวัฏจักรครับ
ส่วนการสมัครแพคเกจนั้นเป็นดังนี้
1 ดาวได้ U-Point 80%
2 ดาวได้ U-Point 85%
3 ดาวได้ U-Point 90%
4 ดาวได้ U-Point 95%
5 ดาวได้ U-Point 100%
ส่วนที่ถูกตัดไปก็เป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้าตามแพคเกจครับ
เท่ากับว่าบริษัทจะมีรายได้ทั้งหมด 5 ทางคือ
1.ค่าธรรมเนียมซื้อขายสินค้า 10%
2.ค่าธรรมเนียมซื้อขายคูปองกำไร 10%
3.ค่าธรรมเนียมการโอน 0.1-1%
4.ค่าแลกเหรียญเป็นเงินจากระบบ (35-30) อีก5 บาทหรือ ประมาณ 15%
5.ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 5-20%
ซึ่งทุกอย่างเป็นการทำกำไรจากตลาดกลางและเสียค่าธรรมเนียมให้กับบริษัท UFUN ผ่านระบบทั้ง 3 รูปแบบนี้ทั้งสิ้น ไม่มีการระดมเงินเพราะเป็นการซื้อขายกันเอง ไม่มีการนำเงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่าเพราะเป็นการตกลงยอมรับซื้อขายกันเองระหว่าสมาชิก และไม่ใช่ Money Game เพราะไม่มีการกำหนดการจ่ายผลประโยชน์ตามการเพิ่มมูลค่าได้ เพราะเป็นตลาด Demand & Supply ที่สมาชิกเป็นคนกำหนดจำนวนการซื้อขายเอง
เท่านี้ทุกๆท่านคงเข้าใจระบบการทำธุรกิจของ UFUN โดยครบถ้วนแล้วนะครับ
แล้วทีนี้ช่วยตอบคำถามผมหน่อยว่า UFUN ผิดกฏหมายและเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ได้อย่างไร...?
ขอบคุณมากครับ
โอ๋ indy UFUN