.. เพราะหนี้สิน สามีจะไปอยู่กับ ผู้หญิงรวย คุณผู้หญิงรับได้มัย

.. มีหนี้จากการกู้ยืม 5-6ล้านบาทเอาที่ดิน 15ไร่ ค้ำธนาคาร สิ่งที่ได้มาก็คือธุรกิจ รีสอร์ทเล็กๆ พอมีรายได้เลี้ยงลูก 2คน
ต้องใช้หนี้เดือนล่ะ เฉียดแสน สามีทำงานอีกส่วน (รับเหมาก่อสร้าง) แรกๆ ก็พอได้มา พอใช้หนี้สิน
... ทั้งครอบครัวหาช่วยๆกันพ่อ-แม่สามีหาอีกแรง.. ฝ่ายหญิงสถานะ สะใภ้ มาดูแล ทำสะอาดรีสอร์ท ไม่จ้างพนักงานเพราะไม่คุ้ม
ต่อมา ฝ่ายสามีไปรู้จักกับผู้หญิง มีฐานะ ไปอยู่ที่เมืองนอก 10กว่าปี .. ญ.คนนั้น ชอบสามีและแอบคบกัน คุยกัน (ยังไม่มีอะไรเกินเลย)
คุยกัน เป็นปี เพราะฝ่าย ญ.นั้นก็อยู่ เมืองนอกมีหน้าที่การงาน.. อยู่ดีๆวัน1 . สามี บอกอยากไปทำงานเมืองนอกประเทศที่ ญ.คนนั้นอยู่ล่ะ
     หาเงินมาใช้หนี้นะ ช่วงนี้เมืองไทยย่ำแย่ หาเงินไม่คล่อง ..   ญ.นั้นกับสามีคงแอบคุยกันมาตลอด
ฝ่ายพ่อ-แม่ของสามี ก็ยอมบอกไปเถอะ บางทีจะได้เงินมาบ้าง(เขารู้ว่า ญ.นั้นมาชอบพอลูกชาย)
.. แล้วเมียล่ะ คุณๆ ภรรยา ที่มีลูก2คนอยู่ด้วยกันมา 16ปี. จะ อยู่เงียบๆทำใจ ดูแลรีสอร์ท กับลูกๆต่อไป ?

... ถ้าสามีไป รู้ล่ะว่า เขาต้องมีอะไรๆกัน ลึกซึ้ง ..รับได้ไหม? จะทำยังงัยดี สามีก็เหมือนใจร้อนร้นจะไป ไม่พยายามหางาน รับสร้างต่อ เหมือนเขา 2คน รักกันแล้วสามีไปเขาบอก 5-10ปีเลยนะ แต่หนี้สินจะหมดไป..
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
อมยิ้ม14..ถ้าโจทย์นั้น เป็นของครอบครัวไหน ..ครอบครัวนั้น ต้องคิดกันเอง

แต่ถ้าโจทย์นี้ มาเกิดในครอบครัวพี่นะ ..
สิ่งแรกเลยคือ พี่คิดว่า คุณผัวคงหมดรักเมียแล้วล่ะ ..เค้าถึงกล้าแอบไปคบกับผู้หญิงอีกคน
..ต่อให้บอกว่า ไม่เคยมีอะไรลึกซึ้งเกินเลยก็เหอะ
คือเรียกว่า ยังไม่เคย "นอกกาย" ..แต่เรื่อง "นอกใจ" นี่ ..เต็มๆ แล้ว

2. พี่คงเริ่มคิดว่า ผัวชั้น มันแย่ว่ะ ..ผู้ชายดีๆ ที่ไหนคิดจะไปเกาะผู้หญิงกิน
หรือแม้แต่ไปอยู่กับผู้หญิงอีกคน ..เพื่อดูดเงินมาให้ลูกเมียที่อยู่อีกที่นึง ..โดยส่วนตัว พี่ก็เห็นว่าน่าสมเพช

..เพราะถ้าสมมุติ ผัวเล็งเห็นช่องทางทำมาหากินที่ต่างประเทศ ..โดยไม่มี hidden agenda แอบแฝง
ที่จะถือโอกาสไปอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่นะ
..คือเค้าไปทำงานเอง ไปทำมาหากินเอง ไปโดยถูกต้อง สุจริต ปลอดภัยในชีวิต ..
ทำมาหากินได้ ก็ส่งเงินมาให้ลูกเมีย พ่อแม่ใช้หนี้ใช้สิน .. แบบนี้ เป็นอีกอย่างหนึ่ง
ซึ่งพี่ก็มีเพื่อนฝูง พี่น้อง ที่สามีเค้าไปเป็น Chef อยู่ต่างประเทศ ..
หรือบริษัทส่งไปรับตำแหน่งผู้จัดการโรงงานที่ site ใหม่ในต่างประเทศ..อยู่หลายคน
..แบบนี้ถือว่าเค้ายอมเสียสละความสุข เสียสละช่วงเวลาที่จะได้อยู่พร้อมหน้ากับลูกเมีย..ในวันนี้
เพื่อวันหน้า เมื่อหมดหนี้หมดสิน หรือมีเงินเก็บเป็นก้อน ..ไม่จำเป็นต้องแยกกันอยู่แบบนี้ ..เค้าก็กลับมาอยู่พร้อมหน้ากัน

3. พี่ยังลังเลอยู่ ว่าจะเลือกความรู้สึกไหนดี ระหว่าง "เกลียดชัง" ผู้หญิงคนนั้น ที่โคตรจะไร้ยางอาย มายุ่งกับผัวชาวบ้าน
..เพราะจะอ้างว่า..หนูไม่รู้..ว่าเมียมี เห็นหล่อดี หนูก็เลยชอบเค้า... อะไรแบบนั้น ก็ไม่น่าจะได้นะ
ท่าทางจะไม่เด็กสาววัยใส เพราะคุณผัวเรา ก็น่าจะแถวๆ 40+/- นิดหน่อยแล้ว

หรือจะนึก "เวทนา" ผู้หญิงอีกคนนั้นดี ..เพราะอุตส่าห์ได้ผู้ชายไป ..คิดว่าจะได้สามีมาเป็นคู่คิด คู่ชีวิต ..ช่วยกันทำมาหากิน
ดันไปคว้า "ปลิง" มาดูดเลือด สูบกลับไปให้ครอบครัวเค้าทางเมืองไทย

4. บอกตรงๆ ว่าไม่แน่ใจอีกเหมือนกัน ..ว่าคนเฮงซวย ที่มันเริ่มคิดถึงความสุข ความสบายของตัวเอง
เพราะคิดว่าการไปเป็นผัวผู้หญิงคนนั้นที่เมืองนอก จะหาเงินได้คล่องกว่า..การอยู่เป็นผัวพี่ ที่บ้านเรา
คิดว่ากิจการที่ทำอยู่นั้น หนักหนา ไม่เจริญก้าวหน้า ..คิดทิ้งลูก ทิ้งเมียที่อยู่กินกันมา 16 ปีได้ง่ายๆ
..ก็ไม่อยากจะแน่ใจ ว่าถึงเวลามันไปแล้ว จะไม่ไปลับ

เพราะไม่มีอะไรการันตีว่า ไปถึงโน่นแล้ว จะยังนึกออก ว่ามีภาระอยู่ทางนี้
..หรือถ้าผู้หญิงทางโน้น เค้าก็ไม่โง่เง่าเต่าตุ่น ยืนเป็นควายเผือก อยู่นิ่งๆ ให้ปลิงมาดูดกิน สูบเลือดสูบเนื้อกันได้ง่ายๆ
เพราะเค้าน่าจะแกร่งพอตัว ถึงไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกได้
ถ้าเกิดเค้าไม่ปล่อยให้ตาผัว สามารถขยับกระดุกกระดิกตัว ออกนอกลู่นอกทางได้
..เงินทองหาได้เค้าเก็บหมด .. อิตาผัว จะมีปัญญาไปทำอะไรเค้าได้หว่า

ดังนั้น ถ้าเป็นพี่ ต้องมาเจอสภาพนี้ ..พี่คงจะบอกว่า ถ้าหมดรักกันแล้ว ไม่คิดจะเป็นครอบครัวกันอีกแล้ว
ก็ไม่ต้องมาหาเหตุผล หาข้ออ้าง  หรือหาความชอบธรรมอะไรมาพูดหรอก
..เคลียร์มาให้จบๆ เลย ..เรื่องลูก เรื่องทรัพย์สิน - หนี้สิน ต่างๆ
เรื่องกิจการ ตัวเราทำเองคนเดียวไหวมั้ย รีบคิดหาทางออก ..อย่าให้คาราคาซัง

เพราะอย่างที่บอก ว่าไม่มั่นใจว่าอิตาผัวจะทำตามที่พูดได้หรือเปล่า
..เผื่อไปแล้ว ไปลับ ..หนี้สินยังท่วมหัวท่วมหู ..พ่อแม่เธอก็แก่เฒ่าลง จะไม่ดูดำดูดี ส่งไปอยู่บ้านบางแค ก็จะว่าใจดำ
เพราะยังไงก็ปู่ย่าของลูกเรา
..ในขณะที่ลูกๆ ก็โตขึ้นทุกวัน ภาระค่าใช้จ่าย หลั่งไหลมายังกับสายน้ำ ..อีกไม่กี่ปี ก็คงถึงเวลาต้องส่งเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
ถ้าอีตาผัวโยนภาระทุกสิ่งอย่าง มาลงไปที่กบาลเมีย..แต่เพียงผู้เดียว .. และถ้าเกิดผิดคำพูด ตามที่ "ขายฝัน" ไว้ขึ้นมา
มิงานเข้ารึจ๊ะ ?

ดังนั้น ถ้าเป็นพี่ พี่จะขอจัดการให้เรียบร้อย ..ให้อยู่ในวิสัยที่ผู้หญิงตัวคนเดียว จะแบกรับไหวได้แล้ว
..อิตาผัว แกอยากจะไปอยู่กับใคร ก็เชิญ
และถ้ายังมีความเป็นคน มีจิตสำนึกของความเป็นพ่อ มีความรับผิดชอบ ..เพราะลูกยังอยู่ในวัยเรียน
ทำมาหากินได้ หรือจะเกาะเค้ากินได้ยังไง ก็ส่งมาเป็นค่าใช้จ่ายของลูก ค่าทงค่าเทอมลูก  ..อะไรก็ว่าไป
..แต่พี่คงกินเงิน..ที่มี "ที่มา" แบบนั้นไม่ลงแฮะ

ส่วนคุณ หรือ คนใกล้ตัวของคุณ จะคิดเห็น จะทำยังไง ..ก็ต้องถามตัวเองกันดูค่ะ
ขอให้โชคดีค่ะ ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่