ประสบการณ์ถูกโจรกรรมบนรถไฟ Thalys (Amsterdam - Paris)

จริงๆก็มีคนเตือนมาหลายทีแล้วว่ายุโรปอาชญากรค่อนข้างเยอะ ก็ระวังตัวมาตลอด ไม่เคยคิดว่าจะเจอกับตัวเองจนในวันนี้ครับ ประสบการณ์ตรงที่ได้รับ ก็เลยอยากจะเตือนเพื่อนๆนักเดินทางทุกท่านให้ระวังไว้ครับ

เริ่มด้วยการเดินทางของผมทั้งหมดหลักคือ Germany-Netherlands-France ไปกันเองพ่อ-แม่-ลูก กัน 3 คน จัดทริปเอง จองตั๋วเองทุกอย่าง ออกจากไทยวันที่ 2-15 เมษา ก็ผ่านมาหลายเมืองไม่มีปัญหา จนมาถึงเมืองสุดท้าย ประเทศสุดท้ายที่จะขึ้นเครื่องกลับนี่ละครับ เจอดีเลย

เช้าวันที่ 11 ผมก็ check-out จากโรงแรมตามปกติ เพื่อออกมาขึ้นรถไปสาย Amsterdam-Paris ของ Thalys ครับ รถไปออกตอน 9:44 ได้ที่นั่ง 81-82-23 (แถวลองสุดท้ายก่อนจะมีที่กั้นเป็นห้องน้ำ) ที่นั่งมันติดกัน 1 คู่ ผมก็เลยให้พ่อกับแม่นั่งด้วยกัน โดยผมนั่งอีกตัวคนละแถว โดยพ่อกับแม่วางกระเป๋าเป้ของทั้งคู่ไว้บนชั้นที่วางของเหนือหัว ส่วนของผมก็วางแบบนั้นเหมือนกัน แต่ของผมเป็นกระเป๋าสะพายใหญ่ๆคล้ายๆของนักบอลเวลาลงสนามหรือพวกไปเล่นยิมอ่ะครับ

นั่งมาเรื่อยๆจนถึง สถานี Rotterdam ก็มีผู้ชายประมาณ 4 คนขึ้นมาบนตู้เดินมาเหมือนจะมานั่งข้างหลังเรา เพราะเห็นมีคนหนึ่งเอากระเป๋าขึ้นวางบนชั้น ทำทีเก็บของประมาณนั้น แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งถามผมว่ารถจะออกกี่โมง แล้วก็ชี้ให้ดูนาฬิกาข้อมือเค้า ผมก้บอกว่าไม่รู้ (เพราะไม่รู้จริงนิ รู้แต่เวลาถึงปารีสอ่ะ สถานีกลางทางใครจะไปรู้) แล้วเค้าก็ชี้ให้ดูป้ายว่าเราอยู่ที่ Rotterdam ใช่มั๊ย ผมก็บอกว่าใช่ แล้วพวกเค้าก็เหมือนทำทีเก็บของแล้วเดินจากไป

ตอนนั้น ผมก็เอ๊ะ ใจนิดนึ่งแล้วอ่ะ ว่าทำไมถึงมาถามแบบนี้ เพราะ คนขึ้นรถไฟก็น่าจะรู้เวลาออกของรถดีอยู่แล้ว รวมถึงสถานีด้วย ก็เลยจับกระเป๋ากางเกงตัวเองดู โอเค กระเป๋าตังค์และมือถืออยู่ครบ ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนรถออกจากสถานีก็หลับไป ซักพักพ่อก็มาปลุกว่า กระเป๋าเป้ 2 ใบของพ่อกับแม่หายไป เลยตกใจกันใหญ่ ปีนเบาะขึ้นไปดูบนชั้นก็ไม่เห็น เดินดูรอบๆ ว่ากระเป๋าเป้มันเลื่อนไปไหนหรือเปล่า ก็ไม่เจอ เลยคิดว่าโดนขโมยแน่ๆ

ผมเลยรีบวิ่งไปถามเจ้าหน้าที่รถไฟ ถามว่าบนตู้รถไฟมีกล้องวงจรปิดหรือเปล่า เพราะเคยเห็นรถไฟ DB ของเยอรมัน เค้ามีป้ายและกล้องติดไว้ว่ามีกล้องวงจรปิดติดอยู่ เค้าก็บอกว่าไม่มี ก็เลยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเรื่องราวเป็นไง เค้าก็บอกเสียใจด้วยนะ แล้วบอกว่าเหตุโจรกรรมเกิดขึ้นบนรถไฟบ่อยมาก จะแจ้งความหรือเปล่า ถ้าแจ้งก็คงต้องแจ้งที่เนเธอร์แลนด์นะ ซึ่งตอนนั้นน่าจะอยู่เบลเยี่ยมแล้วมั๊ง ผมบอกว่างั้นคงไม่เป็นไรมั๊ง เพราะในกระเป๋ามีแค่เสื้อกันหนาว ,ถุงเครื่องสำอางของแม่ ,ของกิน แล้วก็หนังสือท่องเที่ยวปารีส โชคดีมากๆ ที่ผมบอกให้พ่อกับแม่เอากระเป๋าตังค์กับpassport ติดตัวเสมอ เผื่อเดินไปเดินมาแล้วเจอเจ้าหน้าที่ขอตรวจ (ซึ่งก็ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเป็น passport โดนขโมยไป ทริปที่เหลือคงชุลมุนกันน่าดู) ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่รถไฟว่าช่างเถอะ คงไม่แจ้งความอะไร เพราะต้องเดินทางต่อ จนท เค้าก็มีน้ำใจถามว่า พ่อกับแม่จะทานอะไรมั๊ย เดี๋ยวไปที่ตู้เสบียงทานอะไรแล้วลงบัญชีเค้าได้ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร (พ่อกับแม่คงทานอะไรไม่ลง เพราะคงไม่มีอารมย์ทาน) เค้าก็เลยเดินมาโซนที่เรานั่ง แล้วก็บอกว่าเสียใจด้วยนะ แล้วเดี๋ยวจะเค้าจะทำบันทึกรายงานเรื่องนี้ให้ (ก็คงทำได้แค่นั้นจริงๆ)

พอลงรถที่ปารีส ก็รีบมา check-in เพื่อดูว่าของอะไรหายบ้าง ก็ยังพอโชคดีครับ ไม่มีของมูลค่าสูงหายไปเลย และไม่อยากคิดว่าเกิดโจรมันขโมยกระเป๋าผมไปแทน คงได้เยอะกว่ามาก เพราะมีทั้ง iPad กล้องดีจิตอล และของอีกหลายๆอย่าง ถ้าหายไปนี่ทริปคงหมดสนุกแน่ๆ
ก็เลยอยากเตือนเพื่อนๆนักเดินทางทุกท่าน ให้ stay alert ไว้แล้วกันนะครับ เผื่อเกิดเหตุการณ์แปลกๆแบบนี้ขึ้น จะได้ระวังและต้องสำรวจของส่วนตัวให้ดีว่าอยู่ครบหรือเปล่า

ปล.ผมคิดว่าแก็งค์นี้น่าจะดูแล้วล่ะว่า พวกเราน่าจะเป็นเป้าหมายได้ง่าย เพราะเป็นนักท่องเที่ยว แถมนั่งด้านหลังอีก ฉกอะไรไปคงไม่มีใครทันสังเกตุเห็นเหตุการณ์ ก็เลยจะเตือนเพื่อนๆอีกว่า ถ้าเลือกที่นั่งได้ เลือกตรงกลางๆนะครับ ที่ๆคนเยอะๆ ยอมทนเสียงดังนิดหนึ่ง เพราะพวกมิชฉาชีพคงทำงานลำบากขึ้นอีกหน่อยอ่ะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่