เพราะเรื่องบางเรื่องตัดสินใจได้แค่ครั้งเดียว และการตัดสินใจพลาดเพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้เสียใจไปทั้งชีวิตได้ ด้วยความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า ทุกวันนี้ดิฉันจึงไม่ค่อยมีความสุขหลังแต่งงาน มันไม่เป็นไปตามที่วาดฝันไว้ก่อนที่จะแต่งงาน ไม่สามารถเล่าความทุกข์ให้ใครฟังได้ จึงอยากจะมาตั้งกระทู้เตือนให้ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน ให้คิดไตร่ตรองให้ดีและสืบประวัติ นิสัยใจคอ ทางครอบครัวของสามีให้แน่ใจก่อนแต่ง เพราะคุณไม่ได้แต่งกับแค่สามีของคุณ แต่คุณเหมือนได้แต่งกับทางครอบครัวญาติพี่น้องของสามีด้วย
ใครแต่งงานแล้วชีวิตดี๊ดี มีความสุขก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ยิ่งกว่าถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่1อีกนะ
ดิฉันชอบนึกบ่อยๆว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ขอแต่งงานขออยู่เป็นโสดดีกว่า ก็ได้แต่คิดค่ะ สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ได้แต่เดินหน้าต่อไปตามทางที่เราเลือกเองจะโทษใครต้องโทษตัวเองสิ
ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องแค่คนสองคน แต่มันคือครอบครัวใหญ่ จากเดิมที่มีเพียงครอบครัวของตัวเราเอง ก็จะมีครอบครัวของสามีเพิ่มขึ้นมา ความเยอะมันก็จะเยอะขึ้นอีกเท่าตัว ทำอะไรก็ต้องเกรงใจผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ความเป็นส่วนตัวก็จะน้อยลง ยิ่งถ้ามีลูก คุณจะต้องเตรียมพร้อมทุกด้านทั้งร่างกายและจิตใจ ความอดทน ความแข็งแกร่งต้องมีมากขึ้น เรื่องไปเที่ยวหาความสุขให้ตัวเองก็จะน้อยลง
ส่วนชีวิตคู่ของดิฉันนั้นครอบครัวของสามีมายุ่งวุ่นวายมากจนเกินความพอดี เปรียบเป็นเจ้าชีวิตของดิฉันไปเลย ทุกวันนี้ไม่อยากครอบครัวแตกแยก ดิฉันรักสามีและลูกมาก จึงได้แต่อดทนอดกลั้น จนรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า ได้ลองคุยปรึกษากับสามีแล้วก็เกิดเหตุการณ์สามีทะเลาะกับพ่อแม่ตัวเอง ยิ่งหนักไปกว่าเดิมจึงต้องอยู่เฉยๆแล้วทนไปค่ะ เพื่อบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น รายละเอียดมันเยอะ พิมพ์3วันก็ไม่จบ แต่ดิฉันก็ยังโชคดีที่มีสามีดีไม่มีปัญหาเรื่องมือที่สาม หากเป็นเรื่องนี้ดิฉันคงเลือกที่จะไม่ทนค่ะ
สุดท้ายนี้ความตั้งใจตั้งกระทู้นี้ของดิฉันคืออยากจะเตือนผู้หญิงด้วยกันค่ะที่อยากแต่งงานให้คิดให้ดี ศึกษาครอบครัวของแฟนให้มากพอๆกับศึกษาแฟนก่อนจะแต่งงานค่ะ เพราะไม่อยากให้มาเลิกกันทีหลัง หรือต้องทนกันไปทั้งชีวิต แล้วก็มานั่งนึกทีหลังว่า"รู้งี้อยู่เป็นโสดดีกว่า" ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบค่ะ
ปล.ยินดีรับคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ชีวิตคู่ทั้งดีและไม่ดีค่ะ
เตือนผู้หญิงที่กำลังคิดจะแต่งงาน...
ใครแต่งงานแล้วชีวิตดี๊ดี มีความสุขก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ยิ่งกว่าถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่1อีกนะ
ดิฉันชอบนึกบ่อยๆว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ขอแต่งงานขออยู่เป็นโสดดีกว่า ก็ได้แต่คิดค่ะ สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ได้แต่เดินหน้าต่อไปตามทางที่เราเลือกเองจะโทษใครต้องโทษตัวเองสิ
ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องแค่คนสองคน แต่มันคือครอบครัวใหญ่ จากเดิมที่มีเพียงครอบครัวของตัวเราเอง ก็จะมีครอบครัวของสามีเพิ่มขึ้นมา ความเยอะมันก็จะเยอะขึ้นอีกเท่าตัว ทำอะไรก็ต้องเกรงใจผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ความเป็นส่วนตัวก็จะน้อยลง ยิ่งถ้ามีลูก คุณจะต้องเตรียมพร้อมทุกด้านทั้งร่างกายและจิตใจ ความอดทน ความแข็งแกร่งต้องมีมากขึ้น เรื่องไปเที่ยวหาความสุขให้ตัวเองก็จะน้อยลง
ส่วนชีวิตคู่ของดิฉันนั้นครอบครัวของสามีมายุ่งวุ่นวายมากจนเกินความพอดี เปรียบเป็นเจ้าชีวิตของดิฉันไปเลย ทุกวันนี้ไม่อยากครอบครัวแตกแยก ดิฉันรักสามีและลูกมาก จึงได้แต่อดทนอดกลั้น จนรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า ได้ลองคุยปรึกษากับสามีแล้วก็เกิดเหตุการณ์สามีทะเลาะกับพ่อแม่ตัวเอง ยิ่งหนักไปกว่าเดิมจึงต้องอยู่เฉยๆแล้วทนไปค่ะ เพื่อบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น รายละเอียดมันเยอะ พิมพ์3วันก็ไม่จบ แต่ดิฉันก็ยังโชคดีที่มีสามีดีไม่มีปัญหาเรื่องมือที่สาม หากเป็นเรื่องนี้ดิฉันคงเลือกที่จะไม่ทนค่ะ
สุดท้ายนี้ความตั้งใจตั้งกระทู้นี้ของดิฉันคืออยากจะเตือนผู้หญิงด้วยกันค่ะที่อยากแต่งงานให้คิดให้ดี ศึกษาครอบครัวของแฟนให้มากพอๆกับศึกษาแฟนก่อนจะแต่งงานค่ะ เพราะไม่อยากให้มาเลิกกันทีหลัง หรือต้องทนกันไปทั้งชีวิต แล้วก็มานั่งนึกทีหลังว่า"รู้งี้อยู่เป็นโสดดีกว่า" ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบค่ะ
ปล.ยินดีรับคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ชีวิตคู่ทั้งดีและไม่ดีค่ะ