สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกๆ ท่าน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาตั้งกระทู้แบบนี้ในพันทิป
เพราะไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง...มันเป็นประสบการณ์ที่จะจำไม่รู้ลืมเลยค่ะ
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น ช่วงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคมที่ผ่านมา
เราเดินทางไปญี่ปุ่นกับพี่สาวค่ะ พักที่เมืองฟุกุโอกะ...เป็นครั้งที่ 3 ในการไปญี่ปุ่น
แต่เป็นครั้งแรกที่มาที่ฟุกุโอกะ เพราะสองครั้งที่ผ่านมาเที่ยวอยู่ในโตเกียวอย่างเดียว...(ไกลหน่อยก็ไปฟุจิซัง)
วันที่ 28 ก็ติดต่อเรื่องที่พักแล้วก็เที่ยวอยู่ในตัวเมืองไม่ได้นั่งรถออกไปไหน
แต่เรื่องมันเกิดขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเดินทาง...
เรานั่งรถรางเข้าไปเที่ยวเมืองคุมาโมโต้ตามแผนที่วางไว้ วันทั้งวันก็อยู่ที่คุมาโมโต้
ไปไหนมาไหนด้วยสองขาและตั๋ววันที่ขึ้นได้ทั้งรถรางและรถบัสในคุมาโมโต้ (เยี่ยมจริงๆ)
จนกระทั่งประมาณ 5โมงเย็น ได้เวลาต้องกลับไปสถานีคุมาโมโต้เพื่อนั่งชินคันเช็นกลับฟุกุโอกะแล้ว
รถรางที่ส่งเราที่หน้าสถานีคุมาโมโต้ค่ะ
นั่งสบาย รถค่อนข้างว่าง เราก็นั่งมองนู่นนี่นั่น สลับกับลั่นชัตเตอร์กล้อง
บรรยากาศเงียบสงบจนน่านอน น่าเสียดายที่ไม่มีหนุ่มญี่ปุ่นตรงสเป็คบนรถรางเที่ยวนั้น (ฮา)
จนในที่สุด...จะกลับฟุกุโอกะแล้วววววว รถรางมาส่งถึงหน้าสถานีคุมาโมโต้
ก่อนกลับก็ขอแวะดูของฝากที่สถานีก่อนละกัน วรั๊ยยยยยยยยยยย คุมะมงงงงงงงงง
หยิบกล้องมากดชัตเตอร์ อ๊ะ...ใช้มือถือถ่ายรูปด้วยดีกว่า จะได้อัพลงโซเชี่ยล....
มือถือ...........สูอยู่หนใด?
ชัดแล้วค่ะ.......ทำมือถือตกบนรถรางคันเมื่อกี้แน่ๆ คิดได้ดังนั้นก็รีบสิคะ!! จะรออะไรอยู่!!
และ...รถรางก็ไปซะแล้วววววววววววววว //โบกมือลาาาาา เสียงเพลงครวญมาต้องลาแล้วเพื่อนนนนน
บ๊ายบาย...ซัมซุง กาแล็คซี่ S3 เธอไปกับรถรางแล้ว.......
บายนะ....
(อ้าว...คนละบายหรอกเหรอ?)
ซะเมื่อไหร่...
บอกตามตรงเลยนะคะ...ณ เวลานั้น...ถ้าตัดความรู้สึกเสียดายภาพในมือถือไปแล้ว...
มันคือความปิติยินดีค่ะ!!!
ปลาบปลื้มที่จะได้ฤกษ์ถอยมือถือเครื่องใหม่แล้ว (ฮา) หลังจากใช้งานทนไม้ทนมือมาสามปีกว่า...
ตอนนั้นคิดแค่ว่า...ฉันจะซื้อรุ่นไหนดีนะ ไอโฟนดี ซัมซุงดี หรือใช้โซนี่ดี 5555555555555
เอ่อ...แต่คิดๆ ดูก็เสียดายภาพในเครื่องเหมือนกันนะคะ ไหนจะข้อมูลอะไรต่างๆ นาๆ อีก...
ก็เลยพับกิเลสตัวเองลง(นิดนึง) แล้วยืมมือถือพี่สาว พี่M (นามสมมุติ) เฟสไปหาเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Sซัง (นามสมมุติเหมือนกัน)
ถ้าว่าง...รบกวนให้ช่วยโทรไปถามทางบริษัทรถรางของคุมาโมโต้ให้หน่อย เผื่อจะฟลุ๊กได้คืน...
ซึ่ง...ได้คืนก็ดี
ไม่ได้...ก็ไม่เป็นไร มีตัวเลือกมากมายรออยู่ กร๊ากกกกกกกกกก
(ระหว่างรอ Sซังตอบเฟสกลับมา กำลังเปิดเช็คราคามือถือรุ่นอื่นอยู่ 555555)
Sซัง ก็สมกับเป็นคนญี่ปุ่นมากค่ะ ฮีก็กระตือรือร้นประหนึ่งเป็นความเดือดร้อนของตนเองรีบโทรไปถามบริษัทรถรางให้แทบจะทันที
(คือ...อยากจะบอกว่าไม่ต้องรีบก็ได้ลูกพี่ เค้าอาจจะเลิกงานกลับบ้านกลับช่องไม่ก็ไปโนมิไกกันหมดบริษัทแล้วก็ได้...)
แล้วสักพักฮีก็ตอบกลับมา "ขอโทษนะ...เค้าไม่รับ คงเลิกงานแล้วล่ะ (ก็แหงล่ะย่ะ) เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองโทรไปให้นะ"
อู๊ยยยยยยยยย Sซังคนดี๊คนดี พ่อคนดี ไม่คิดว่าหนุ่มที่หวงพื้นที่ส่วนตัวขนาดหนักจะเป็นดีขนาดนี้
เราก็โอเค รบกวนด้วยนะคะ ตามที่ Sซังสะดวกเลย (ไม่ต้องรีบ...เพราะเราไม่รีบ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า)
ทีนี้...วันต่อมา (วันที่ 2 มีนาคม) Sซังก็เฟสกลับมาบอกว่า ว่าเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทรถรางที่เราให้ไปมันเป็นคนละบริษัทกัน (ฮา)
เพราะเบอร์นั้นเราเอามาจากในแผนที่ท่องเที่ยวน่ะค่ะ ซึ่งไม่รู้ว่าเบอร์ไหนเป็นของบริษัทไหน...
Sซังก็แสดงสปีริต (ไม่แน่ใจว่าจากใจหรือช่วยเหลือตามมารยาท ซึ่งถ้าเป็นมารยาทคือ...มาตรฐานสูงมาก เราอ่านผู้ชายคนนี้ไม่ออกค่ะ...)
ฮีบอกว่าเดี๋ยวจะโทรถามบริษัทให้อีกที ยูไม่ต้องห่วงนะ (ยูเที่ยวของยูไปเลย เดี๋ยวไอจัดการให้เอง)
อู๊ยยยยยยยย ซาบซึ้งน้ำตาไหลอีกแล้ว คือเจ้าของเครื่องยังดูไม่เดือดร้อน Sซังเดือนร้อนแทนจนรู้สึกผิดเลยค่ะ ขอโทษนะคะ Sซัง
และวันที่ 3 มีนาคม...Sซัง ก็เฟสมาบอกว่า...มือถืออยู่สุขสบายดีที่บริษัทรถรางในคุมาโมโต้ค่ะ (ชริ!)
ถ้าเรายังมีพรหมลิขิตต่อกัน จะหมางเมินซัมซุงก็ใช่ที่ แต่ถ้าจะให้นั่งชินคันเซ็นกลับไปคุมาโมโต้อีกทีก็กระไรอยู่...จะทำไงดีน้าาาา
เพราะตอนนั้น...เราอยู่นางาซากิแล้วค่ะ นั่งชินคันเซ็นไปฟุกุโอกะใช้เวลา 2 ชั่วโมง...แล้วต้องนั่งไปคุมาโมโต้อีกครึ่งชั่วโมง...
"เอาเวลาเที่ยวไปรับมือถือ...เอาเงินไปซื้อเครื่องใหม่ดีกว่า" //เสียงกระซิบจากปิศาจในใจ
บังเอิ๊ญญญญ บังเอิญว่า...เพื่อนเราอีกคนนึงที่รู้จัก Sซัง และรู้เรื่องที่มือถือเราหาย
นางบอกว่าจะมาเที่ยวที่โอซาก้าช่วงกลางเดือนมีนาคม (นางมาดูคอนผู้ชายค่ะ) เดี๋ยวไปรับของให้ก็ได้ (คนดีอีกแล้วววว)
Sซังก็เลยบอกว่าจะรบกวนทางบริษัทส่งเครื่องมาให้ Sซังที่โตเกียว แล้วฮีจะส่งไปที่พักของเพื่อนสาวเราที่โอซาก้าในช่วงที่นางมาดูผู้ชายให้
เรื่องราวก็สรุปจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งค่ะ (แม้จะเสียดายที่ไม่ได้มือถือเครื่องใหม่ก็ตาม)
เราก็เที่ยวแบบไม่มีมือถือตลอดทริป (ไม่ทำให้เดือดร้อนสักเท่าไหร่) กลับเมืองไทยวันที่ 4 มีนาคม...
และกลางเดือน...เพื่อนสาวเรา K (นี่ก็นามสมมุติอีกเหมือนกัน) ก็ไปส่องผู้ชายที่โอซาก้าตามแผนที่นางวางไว้
แต่หนนี้นอกจากหิ้วของฝาก ก็มีพัสดุของ Sซังจากโตเกียวด้วยอีกชิ้น...
มือถือเครื่องนี้เดินทางจะคุมาโมโต้ ไปโตเกียว มาโอซาก้า และกลับสู่เมืองไทย
ขนส่งทางไปรษณีย์หรือบริษัทส่งของของทางญี่ปุ่น ไร้รอยแตกรอยบุบค่ะ วิเศษจริงๆ
หยิบออกมารู้สึกละอายใจ ภาพการ์ตูนบนเคสมองด้วยสายตาแช่มชื่น "หล่อนคิดจะทิ้งชั้นจริงๆ สินะ"
ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะ...//กัดฟัน
และนี่เป็นรูปสุดท้ายที่เราใช้มือถือถ่ายก่อนนางจะตีตั๋วนั่งรถรางยาวเกินหน้าเกินตาเจ้าของเครื่องค่ะ
ซึ่งจากประสบการณ์ครั้งนี้...ค่าใช้จ่ายในการส่งพัสดุ...Sซังไม่ยอมให้เราจ่ายคืนค่ะ ฮีบอกว่ายินดีช่วยค่ะ
เรากำลังคิดว่าจะซื้อของไปขอบคุณในความมีน้ำใจครั้งนี้ แต่ฮีเล่นตัวเหลือเกิน...ทำไงดี
แต่เราก็อยากซื้ออะไรส่งไปให้อยู่ดี ช่วยแนะนำให้ด้วยนะคะ (ฮา)
ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่อยากเอามาแบ่งปันให้สมาชิก(และไม่ใช่สมาชิก)ทุกท่านเข้ามาอ่าน
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เราชอบอยู่แล้ว พอเจอเหตุการณ์นี้เข้าไป...ยิ่งชอบบวกล้านเลยค่ะ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...กรุณารักษาสิ่งของให้ดีนะคะ อย่าสะเพร่าแบบเรานะ
เพราะถ้าไม่ได้ Sซัง ซัมซุงคงนอนตายเป็นมรดกอยู่ในบริษัทรถรางคุมาโมโต้แน่ๆ ค่ะ...
เราโชคดีที่มี Sซังคอยประสานงานแทนเราที่ภาษาญี่ปุ่นไม่กระดิกเลย...
และ...ของหายในญี่ปุ่น โอกาสได้คืนสูงมากกกกกกกกกกก
ขอคอนเฟิร์มอีกเสียงค่ะ!!
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
ไปญี่ปุ่น...ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้
เพราะไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง...มันเป็นประสบการณ์ที่จะจำไม่รู้ลืมเลยค่ะ
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น ช่วงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคมที่ผ่านมา
เราเดินทางไปญี่ปุ่นกับพี่สาวค่ะ พักที่เมืองฟุกุโอกะ...เป็นครั้งที่ 3 ในการไปญี่ปุ่น
แต่เป็นครั้งแรกที่มาที่ฟุกุโอกะ เพราะสองครั้งที่ผ่านมาเที่ยวอยู่ในโตเกียวอย่างเดียว...(ไกลหน่อยก็ไปฟุจิซัง)
วันที่ 28 ก็ติดต่อเรื่องที่พักแล้วก็เที่ยวอยู่ในตัวเมืองไม่ได้นั่งรถออกไปไหน
แต่เรื่องมันเกิดขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเดินทาง...
เรานั่งรถรางเข้าไปเที่ยวเมืองคุมาโมโต้ตามแผนที่วางไว้ วันทั้งวันก็อยู่ที่คุมาโมโต้
ไปไหนมาไหนด้วยสองขาและตั๋ววันที่ขึ้นได้ทั้งรถรางและรถบัสในคุมาโมโต้ (เยี่ยมจริงๆ)
จนกระทั่งประมาณ 5โมงเย็น ได้เวลาต้องกลับไปสถานีคุมาโมโต้เพื่อนั่งชินคันเช็นกลับฟุกุโอกะแล้ว
รถรางที่ส่งเราที่หน้าสถานีคุมาโมโต้ค่ะ
นั่งสบาย รถค่อนข้างว่าง เราก็นั่งมองนู่นนี่นั่น สลับกับลั่นชัตเตอร์กล้อง
บรรยากาศเงียบสงบจนน่านอน น่าเสียดายที่ไม่มีหนุ่มญี่ปุ่นตรงสเป็คบนรถรางเที่ยวนั้น (ฮา)
จนในที่สุด...จะกลับฟุกุโอกะแล้วววววว รถรางมาส่งถึงหน้าสถานีคุมาโมโต้
ก่อนกลับก็ขอแวะดูของฝากที่สถานีก่อนละกัน วรั๊ยยยยยยยยยยย คุมะมงงงงงงงงง
หยิบกล้องมากดชัตเตอร์ อ๊ะ...ใช้มือถือถ่ายรูปด้วยดีกว่า จะได้อัพลงโซเชี่ยล....
มือถือ...........สูอยู่หนใด?
ชัดแล้วค่ะ.......ทำมือถือตกบนรถรางคันเมื่อกี้แน่ๆ คิดได้ดังนั้นก็รีบสิคะ!! จะรออะไรอยู่!!
และ...รถรางก็ไปซะแล้วววววววววววววว //โบกมือลาาาาา เสียงเพลงครวญมาต้องลาแล้วเพื่อนนนนน
บ๊ายบาย...ซัมซุง กาแล็คซี่ S3 เธอไปกับรถรางแล้ว.......
บายนะ.... (อ้าว...คนละบายหรอกเหรอ?)
ซะเมื่อไหร่...
บอกตามตรงเลยนะคะ...ณ เวลานั้น...ถ้าตัดความรู้สึกเสียดายภาพในมือถือไปแล้ว...
มันคือความปิติยินดีค่ะ!!!
ปลาบปลื้มที่จะได้ฤกษ์ถอยมือถือเครื่องใหม่แล้ว (ฮา) หลังจากใช้งานทนไม้ทนมือมาสามปีกว่า...
ตอนนั้นคิดแค่ว่า...ฉันจะซื้อรุ่นไหนดีนะ ไอโฟนดี ซัมซุงดี หรือใช้โซนี่ดี 5555555555555
เอ่อ...แต่คิดๆ ดูก็เสียดายภาพในเครื่องเหมือนกันนะคะ ไหนจะข้อมูลอะไรต่างๆ นาๆ อีก...
ก็เลยพับกิเลสตัวเองลง(นิดนึง) แล้วยืมมือถือพี่สาว พี่M (นามสมมุติ) เฟสไปหาเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Sซัง (นามสมมุติเหมือนกัน)
ถ้าว่าง...รบกวนให้ช่วยโทรไปถามทางบริษัทรถรางของคุมาโมโต้ให้หน่อย เผื่อจะฟลุ๊กได้คืน...
ซึ่ง...ได้คืนก็ดี
ไม่ได้...ก็ไม่เป็นไร มีตัวเลือกมากมายรออยู่ กร๊ากกกกกกกกกก
(ระหว่างรอ Sซังตอบเฟสกลับมา กำลังเปิดเช็คราคามือถือรุ่นอื่นอยู่ 555555)
Sซัง ก็สมกับเป็นคนญี่ปุ่นมากค่ะ ฮีก็กระตือรือร้นประหนึ่งเป็นความเดือดร้อนของตนเองรีบโทรไปถามบริษัทรถรางให้แทบจะทันที
(คือ...อยากจะบอกว่าไม่ต้องรีบก็ได้ลูกพี่ เค้าอาจจะเลิกงานกลับบ้านกลับช่องไม่ก็ไปโนมิไกกันหมดบริษัทแล้วก็ได้...)
แล้วสักพักฮีก็ตอบกลับมา "ขอโทษนะ...เค้าไม่รับ คงเลิกงานแล้วล่ะ (ก็แหงล่ะย่ะ) เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองโทรไปให้นะ"
อู๊ยยยยยยยยย Sซังคนดี๊คนดี พ่อคนดี ไม่คิดว่าหนุ่มที่หวงพื้นที่ส่วนตัวขนาดหนักจะเป็นดีขนาดนี้
เราก็โอเค รบกวนด้วยนะคะ ตามที่ Sซังสะดวกเลย (ไม่ต้องรีบ...เพราะเราไม่รีบ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า)
ทีนี้...วันต่อมา (วันที่ 2 มีนาคม) Sซังก็เฟสกลับมาบอกว่า ว่าเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทรถรางที่เราให้ไปมันเป็นคนละบริษัทกัน (ฮา)
เพราะเบอร์นั้นเราเอามาจากในแผนที่ท่องเที่ยวน่ะค่ะ ซึ่งไม่รู้ว่าเบอร์ไหนเป็นของบริษัทไหน...
Sซังก็แสดงสปีริต (ไม่แน่ใจว่าจากใจหรือช่วยเหลือตามมารยาท ซึ่งถ้าเป็นมารยาทคือ...มาตรฐานสูงมาก เราอ่านผู้ชายคนนี้ไม่ออกค่ะ...)
ฮีบอกว่าเดี๋ยวจะโทรถามบริษัทให้อีกที ยูไม่ต้องห่วงนะ (ยูเที่ยวของยูไปเลย เดี๋ยวไอจัดการให้เอง)
อู๊ยยยยยยยย ซาบซึ้งน้ำตาไหลอีกแล้ว คือเจ้าของเครื่องยังดูไม่เดือดร้อน Sซังเดือนร้อนแทนจนรู้สึกผิดเลยค่ะ ขอโทษนะคะ Sซัง
และวันที่ 3 มีนาคม...Sซัง ก็เฟสมาบอกว่า...มือถืออยู่สุขสบายดีที่บริษัทรถรางในคุมาโมโต้ค่ะ (ชริ!)
ถ้าเรายังมีพรหมลิขิตต่อกัน จะหมางเมินซัมซุงก็ใช่ที่ แต่ถ้าจะให้นั่งชินคันเซ็นกลับไปคุมาโมโต้อีกทีก็กระไรอยู่...จะทำไงดีน้าาาา
เพราะตอนนั้น...เราอยู่นางาซากิแล้วค่ะ นั่งชินคันเซ็นไปฟุกุโอกะใช้เวลา 2 ชั่วโมง...แล้วต้องนั่งไปคุมาโมโต้อีกครึ่งชั่วโมง...
"เอาเวลาเที่ยวไปรับมือถือ...เอาเงินไปซื้อเครื่องใหม่ดีกว่า" //เสียงกระซิบจากปิศาจในใจ
บังเอิ๊ญญญญ บังเอิญว่า...เพื่อนเราอีกคนนึงที่รู้จัก Sซัง และรู้เรื่องที่มือถือเราหาย
นางบอกว่าจะมาเที่ยวที่โอซาก้าช่วงกลางเดือนมีนาคม (นางมาดูคอนผู้ชายค่ะ) เดี๋ยวไปรับของให้ก็ได้ (คนดีอีกแล้วววว)
Sซังก็เลยบอกว่าจะรบกวนทางบริษัทส่งเครื่องมาให้ Sซังที่โตเกียว แล้วฮีจะส่งไปที่พักของเพื่อนสาวเราที่โอซาก้าในช่วงที่นางมาดูผู้ชายให้
เรื่องราวก็สรุปจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งค่ะ (แม้จะเสียดายที่ไม่ได้มือถือเครื่องใหม่ก็ตาม)
เราก็เที่ยวแบบไม่มีมือถือตลอดทริป (ไม่ทำให้เดือดร้อนสักเท่าไหร่) กลับเมืองไทยวันที่ 4 มีนาคม...
และกลางเดือน...เพื่อนสาวเรา K (นี่ก็นามสมมุติอีกเหมือนกัน) ก็ไปส่องผู้ชายที่โอซาก้าตามแผนที่นางวางไว้
แต่หนนี้นอกจากหิ้วของฝาก ก็มีพัสดุของ Sซังจากโตเกียวด้วยอีกชิ้น...
มือถือเครื่องนี้เดินทางจะคุมาโมโต้ ไปโตเกียว มาโอซาก้า และกลับสู่เมืองไทย
ขนส่งทางไปรษณีย์หรือบริษัทส่งของของทางญี่ปุ่น ไร้รอยแตกรอยบุบค่ะ วิเศษจริงๆ
หยิบออกมารู้สึกละอายใจ ภาพการ์ตูนบนเคสมองด้วยสายตาแช่มชื่น "หล่อนคิดจะทิ้งชั้นจริงๆ สินะ"
ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะ...//กัดฟัน
และนี่เป็นรูปสุดท้ายที่เราใช้มือถือถ่ายก่อนนางจะตีตั๋วนั่งรถรางยาวเกินหน้าเกินตาเจ้าของเครื่องค่ะ
ซึ่งจากประสบการณ์ครั้งนี้...ค่าใช้จ่ายในการส่งพัสดุ...Sซังไม่ยอมให้เราจ่ายคืนค่ะ ฮีบอกว่ายินดีช่วยค่ะ
เรากำลังคิดว่าจะซื้อของไปขอบคุณในความมีน้ำใจครั้งนี้ แต่ฮีเล่นตัวเหลือเกิน...ทำไงดี
แต่เราก็อยากซื้ออะไรส่งไปให้อยู่ดี ช่วยแนะนำให้ด้วยนะคะ (ฮา)
ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่อยากเอามาแบ่งปันให้สมาชิก(และไม่ใช่สมาชิก)ทุกท่านเข้ามาอ่าน
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เราชอบอยู่แล้ว พอเจอเหตุการณ์นี้เข้าไป...ยิ่งชอบบวกล้านเลยค่ะ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...กรุณารักษาสิ่งของให้ดีนะคะ อย่าสะเพร่าแบบเรานะ
เพราะถ้าไม่ได้ Sซัง ซัมซุงคงนอนตายเป็นมรดกอยู่ในบริษัทรถรางคุมาโมโต้แน่ๆ ค่ะ...
เราโชคดีที่มี Sซังคอยประสานงานแทนเราที่ภาษาญี่ปุ่นไม่กระดิกเลย...
และ...ของหายในญี่ปุ่น โอกาสได้คืนสูงมากกกกกกกกกกก
ขอคอนเฟิร์มอีกเสียงค่ะ!!
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ