ไปญี่ปุ่น...ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกๆ ท่าน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาตั้งกระทู้แบบนี้ในพันทิป
เพราะไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง...มันเป็นประสบการณ์ที่จะจำไม่รู้ลืมเลยค่ะ


เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น ช่วงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคมที่ผ่านมา
เราเดินทางไปญี่ปุ่นกับพี่สาวค่ะ พักที่เมืองฟุกุโอกะ...เป็นครั้งที่ 3 ในการไปญี่ปุ่น
แต่เป็นครั้งแรกที่มาที่ฟุกุโอกะ เพราะสองครั้งที่ผ่านมาเที่ยวอยู่ในโตเกียวอย่างเดียว...(ไกลหน่อยก็ไปฟุจิซัง)


วันที่ 28 ก็ติดต่อเรื่องที่พักแล้วก็เที่ยวอยู่ในตัวเมืองไม่ได้นั่งรถออกไปไหน
แต่เรื่องมันเกิดขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเดินทาง...

เรานั่งรถรางเข้าไปเที่ยวเมืองคุมาโมโต้ตามแผนที่วางไว้ วันทั้งวันก็อยู่ที่คุมาโมโต้
ไปไหนมาไหนด้วยสองขาและตั๋ววันที่ขึ้นได้ทั้งรถรางและรถบัสในคุมาโมโต้ (เยี่ยมจริงๆ)
จนกระทั่งประมาณ 5โมงเย็น ได้เวลาต้องกลับไปสถานีคุมาโมโต้เพื่อนั่งชินคันเช็นกลับฟุกุโอกะแล้ว


รถรางที่ส่งเราที่หน้าสถานีคุมาโมโต้ค่ะ


นั่งสบาย รถค่อนข้างว่าง เราก็นั่งมองนู่นนี่นั่น สลับกับลั่นชัตเตอร์กล้อง
บรรยากาศเงียบสงบจนน่านอน น่าเสียดายที่ไม่มีหนุ่มญี่ปุ่นตรงสเป็คบนรถรางเที่ยวนั้น (ฮา)

จนในที่สุด...จะกลับฟุกุโอกะแล้วววววว รถรางมาส่งถึงหน้าสถานีคุมาโมโต้



ก่อนกลับก็ขอแวะดูของฝากที่สถานีก่อนละกัน วรั๊ยยยยยยยยยยย คุมะมงงงงงงงงง


หยิบกล้องมากดชัตเตอร์ อ๊ะ...ใช้มือถือถ่ายรูปด้วยดีกว่า จะได้อัพลงโซเชี่ยล....







มือถือ...........สูอยู่หนใด?






ชัดแล้วค่ะ.......ทำมือถือตกบนรถรางคันเมื่อกี้แน่ๆ คิดได้ดังนั้นก็รีบสิคะ!! จะรออะไรอยู่!!

และ...รถรางก็ไปซะแล้วววววววววววววว //โบกมือลาาาาา เสียงเพลงครวญมาต้องลาแล้วเพื่อนนนนน




บ๊ายบาย...ซัมซุง กาแล็คซี่ S3  เธอไปกับรถรางแล้ว.......
บายนะ.... เม่าเคาะซื้อ (อ้าว...คนละบายหรอกเหรอ?)


นานาเสียใจ



ซะเมื่อไหร่...




บอกตามตรงเลยนะคะ...ณ เวลานั้น...ถ้าตัดความรู้สึกเสียดายภาพในมือถือไปแล้ว...


มันคือความปิติยินดีค่ะ!!! อมยิ้ม02



ปลาบปลื้มที่จะได้ฤกษ์ถอยมือถือเครื่องใหม่แล้ว (ฮา) หลังจากใช้งานทนไม้ทนมือมาสามปีกว่า...
ตอนนั้นคิดแค่ว่า...ฉันจะซื้อรุ่นไหนดีนะ ไอโฟนดี ซัมซุงดี หรือใช้โซนี่ดี 5555555555555


เอ่อ...แต่คิดๆ ดูก็เสียดายภาพในเครื่องเหมือนกันนะคะ ไหนจะข้อมูลอะไรต่างๆ นาๆ อีก...
ก็เลยพับกิเลสตัวเองลง(นิดนึง) แล้วยืมมือถือพี่สาว พี่M (นามสมมุติ) เฟสไปหาเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Sซัง (นามสมมุติเหมือนกัน)
ถ้าว่าง...รบกวนให้ช่วยโทรไปถามทางบริษัทรถรางของคุมาโมโต้ให้หน่อย เผื่อจะฟลุ๊กได้คืน...


ซึ่ง...ได้คืนก็ดี
ไม่ได้...ก็ไม่เป็นไร มีตัวเลือกมากมายรออยู่ กร๊ากกกกกกกกกก
(ระหว่างรอ Sซังตอบเฟสกลับมา กำลังเปิดเช็คราคามือถือรุ่นอื่นอยู่ 555555)


Sซัง ก็สมกับเป็นคนญี่ปุ่นมากค่ะ ฮีก็กระตือรือร้นประหนึ่งเป็นความเดือดร้อนของตนเองรีบโทรไปถามบริษัทรถรางให้แทบจะทันที
(คือ...อยากจะบอกว่าไม่ต้องรีบก็ได้ลูกพี่ เค้าอาจจะเลิกงานกลับบ้านกลับช่องไม่ก็ไปโนมิไกกันหมดบริษัทแล้วก็ได้...)

แล้วสักพักฮีก็ตอบกลับมา "ขอโทษนะ...เค้าไม่รับ คงเลิกงานแล้วล่ะ (ก็แหงล่ะย่ะ) เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองโทรไปให้นะ"

อู๊ยยยยยยยยย Sซังคนดี๊คนดี พ่อคนดี ไม่คิดว่าหนุ่มที่หวงพื้นที่ส่วนตัวขนาดหนักจะเป็นดีขนาดนี้


เราก็โอเค รบกวนด้วยนะคะ ตามที่ Sซังสะดวกเลย (ไม่ต้องรีบ...เพราะเราไม่รีบ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า)


ทีนี้...วันต่อมา (วันที่ 2 มีนาคม) Sซังก็เฟสกลับมาบอกว่า ว่าเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทรถรางที่เราให้ไปมันเป็นคนละบริษัทกัน (ฮา)
เพราะเบอร์นั้นเราเอามาจากในแผนที่ท่องเที่ยวน่ะค่ะ ซึ่งไม่รู้ว่าเบอร์ไหนเป็นของบริษัทไหน...
Sซังก็แสดงสปีริต (ไม่แน่ใจว่าจากใจหรือช่วยเหลือตามมารยาท ซึ่งถ้าเป็นมารยาทคือ...มาตรฐานสูงมาก เราอ่านผู้ชายคนนี้ไม่ออกค่ะ...)
ฮีบอกว่าเดี๋ยวจะโทรถามบริษัทให้อีกที ยูไม่ต้องห่วงนะ (ยูเที่ยวของยูไปเลย เดี๋ยวไอจัดการให้เอง)

อู๊ยยยยยยยย ซาบซึ้งน้ำตาไหลอีกแล้ว คือเจ้าของเครื่องยังดูไม่เดือดร้อน Sซังเดือนร้อนแทนจนรู้สึกผิดเลยค่ะ ขอโทษนะคะ Sซัง


และวันที่ 3 มีนาคม...Sซัง ก็เฟสมาบอกว่า...มือถืออยู่สุขสบายดีที่บริษัทรถรางในคุมาโมโต้ค่ะ (ชริ!)


ถ้าเรายังมีพรหมลิขิตต่อกัน จะหมางเมินซัมซุงก็ใช่ที่ แต่ถ้าจะให้นั่งชินคันเซ็นกลับไปคุมาโมโต้อีกทีก็กระไรอยู่...จะทำไงดีน้าาาา
เพราะตอนนั้น...เราอยู่นางาซากิแล้วค่ะ นั่งชินคันเซ็นไปฟุกุโอกะใช้เวลา 2 ชั่วโมง...แล้วต้องนั่งไปคุมาโมโต้อีกครึ่งชั่วโมง...

"เอาเวลาเที่ยวไปรับมือถือ...เอาเงินไปซื้อเครื่องใหม่ดีกว่า" //เสียงกระซิบจากปิศาจในใจ

บังเอิ๊ญญญญ บังเอิญว่า...เพื่อนเราอีกคนนึงที่รู้จัก Sซัง และรู้เรื่องที่มือถือเราหาย
นางบอกว่าจะมาเที่ยวที่โอซาก้าช่วงกลางเดือนมีนาคม (นางมาดูคอนผู้ชายค่ะ) เดี๋ยวไปรับของให้ก็ได้ (คนดีอีกแล้วววว)
Sซังก็เลยบอกว่าจะรบกวนทางบริษัทส่งเครื่องมาให้ Sซังที่โตเกียว แล้วฮีจะส่งไปที่พักของเพื่อนสาวเราที่โอซาก้าในช่วงที่นางมาดูผู้ชายให้



เรื่องราวก็สรุปจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งค่ะ (แม้จะเสียดายที่ไม่ได้มือถือเครื่องใหม่ก็ตาม)

เราก็เที่ยวแบบไม่มีมือถือตลอดทริป (ไม่ทำให้เดือดร้อนสักเท่าไหร่) กลับเมืองไทยวันที่ 4 มีนาคม...

และกลางเดือน...เพื่อนสาวเรา K (นี่ก็นามสมมุติอีกเหมือนกัน) ก็ไปส่องผู้ชายที่โอซาก้าตามแผนที่นางวางไว้
แต่หนนี้นอกจากหิ้วของฝาก ก็มีพัสดุของ Sซังจากโตเกียวด้วยอีกชิ้น...



มือถือเครื่องนี้เดินทางจะคุมาโมโต้ ไปโตเกียว มาโอซาก้า และกลับสู่เมืองไทย

ขนส่งทางไปรษณีย์หรือบริษัทส่งของของทางญี่ปุ่น ไร้รอยแตกรอยบุบค่ะ วิเศษจริงๆ



หยิบออกมารู้สึกละอายใจ ภาพการ์ตูนบนเคสมองด้วยสายตาแช่มชื่น "หล่อนคิดจะทิ้งชั้นจริงๆ สินะ"


ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะ...//กัดฟัน


และนี่เป็นรูปสุดท้ายที่เราใช้มือถือถ่ายก่อนนางจะตีตั๋วนั่งรถรางยาวเกินหน้าเกินตาเจ้าของเครื่องค่ะ



ซึ่งจากประสบการณ์ครั้งนี้...ค่าใช้จ่ายในการส่งพัสดุ...Sซังไม่ยอมให้เราจ่ายคืนค่ะ ฮีบอกว่ายินดีช่วยค่ะ
เรากำลังคิดว่าจะซื้อของไปขอบคุณในความมีน้ำใจครั้งนี้ แต่ฮีเล่นตัวเหลือเกิน...ทำไงดี
แต่เราก็อยากซื้ออะไรส่งไปให้อยู่ดี ช่วยแนะนำให้ด้วยนะคะ (ฮา)


ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่อยากเอามาแบ่งปันให้สมาชิก(และไม่ใช่สมาชิก)ทุกท่านเข้ามาอ่าน
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เราชอบอยู่แล้ว พอเจอเหตุการณ์นี้เข้าไป...ยิ่งชอบบวกล้านเลยค่ะ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...กรุณารักษาสิ่งของให้ดีนะคะ อย่าสะเพร่าแบบเรานะ
เพราะถ้าไม่ได้ Sซัง ซัมซุงคงนอนตายเป็นมรดกอยู่ในบริษัทรถรางคุมาโมโต้แน่ๆ ค่ะ...
เราโชคดีที่มี Sซังคอยประสานงานแทนเราที่ภาษาญี่ปุ่นไม่กระดิกเลย...


และ...ของหายในญี่ปุ่น โอกาสได้คืนสูงมากกกกกกกกกกก
ขอคอนเฟิร์มอีกเสียงค่ะ!!


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ พาพันขอบคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่