เริ่มจากที่เราเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
เคยเลี้ยงหนูแฮมเตอร์ หนูแกสบี้ ปลา กระรอก แมว นก เรียกได้ว่าเราชอบเลี้ยงสัตว์มากเลยล่ะ
เมื่อ 3 เดือนที่แล้วเราเลยตัดสินใจซื้อหมามาเลี้ยงตัวนึง
ด้วยความตั้งใจ เราเก็บเงินวันละ 150 หางานทำบ้าง เก็บมาเรื่อยๆ จนสามารถมีเงินที่จะเลี้ยงเค้าได้ (เก็บเงินตั้งนานแหละ มุ่งมั่นมากๆเลยน่ะ)
พอซื้อมาแรกๆ ก็ไม่มีอาการอะไร เรารักมันมาก เหมือนลูกเลยนะ นอน กิน อยู่ด้วยกัน เรียกว่า ช่วยให้หายเหงาได้เยอะเลย

แต่ช่วงหลังๆนี้ เราเริ่มมีอาการคันที่เท้า มือ เป็นผื่นๆ เม็ดเล็กๆ ขึ้นเต็มไปหมด แล้วลามไปทั่ว แล้วเริ่มบวมด้วย
เราเลยไปหาหมอ หมอบอกว่าเราเป็นโรคภูมิแพ้สัตว์ มันเกิดจากการที่เรา สัมผัสกับน้ำลาย ฉี่ อึ และขนสัตว์ จากการหายใจสูดอากาศ และขนเขาไป
สะสมกันจนภูมิต้านทานร่างกายรับไม่ไหว เลยเป็นภูมิแพ้ หมอยังบอกอีกว่า โรคนี้มันไม่หาย ถ้าไม่หลีกเลี่ยวสัตว์ก็จะเป็นเรื่อยๆ และหนักขึ้น
ค่ารักษาหมดไปอาทิตละหลายพันแล้ว (ตอนแรกเราไม่เคยเป็นมาก่อนเลย และไม่รุ้ด้วยว่าจะเป็น คือร่างกายแข็งแรงดีมาตลอด)

ตอนนี้เราเคลียดมาก เราเลี้ยงหมา รักมันเหมือนลูก  แม่เราก็บอกว่าให้เลิกเลี้ยง ให้ห่วงสุขภาพของตัวเองก่อน
แล้วอีกอย่างเราเลี้ยงอยู่หอ ควรให้มันไปเจอเจ้าของใหม่ที่เขาให้ความสุขมันได้มากกว่า ดูแลมันได้ดีกว่า แม่จะหาคนเลี้ยงให้(ขายต่อ)

เราก็คิดน่ะ ถ้าเลิกเลี้ยง แล้วหมาที่เรารักล่ะ จะเอามันไปไว้ที่ไหน
เราคิดอะไรไม่ออกเลยตอนนี้ เสียใจมาก ทั้งๆที่ตั้งใจจะเลี้ยงแท้ๆ รักมันมาก ผูกพันมาก แต่ถึงเวลาที่ต้องจากกันแล้วหลอ
เรื่องนีมันอาจจะอธิบายความรุ้สึกออกมายาก แต่คนรักหมาเท่านั้นแหะ ที่จะเข้าใจ....

ป.ล เพื่อนๆคิดว่าเราควรทำไงดี จะเลือกสุขภาพของตัวเอง หรือสิ่งที่เรารักค่ะ