เหตุผลที่ว่า ก็คือเหตุผลเดียวกับที่เขาว่าเป็น "กุศโลบาย" ของเทศกาลนี้นี่แหละ

นั่นคือ "ให้วงศาคณาญาติมาเจอกัน" ญาติเรา เอาจริงๆ ก็ไม่ได้มีใครนิสัยไม่ดี
อวดร่ำอวดรวย ทะเลาะอะไรกัน หรือถามอะไรที่ไม่อยากให้ถาม
แต่แค่ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเจอ

ที่สำคัญ เราไม่ชอบคนเยอะๆแบบนั้น
ที่ฝ่ายใดฝ่ายนึงต้องพยายามชวนคุย ทั้งๆที่ไม่มีเรื่องจะคุย

และเชื่อว่า ทางโน้นเอง ก็คงไม่ได้กระตือรือร้นที่จะเจอเราเหมือนกัน
ไม่งั้นคงไม่มานั่งถามอายุกันทุกปีหรอก (ปีที่แล้วเท่าไหร่ ปีนี้ก็บวกไปอีกปีสิคุณ)
เจอกันก็ไม่ได้คุยอยู่ดี เราหยิบหนังสือติดมือไปนั่งอ่านเงียบๆทุกปี

กับข้าวกับปลา ก็ไม่เคยอยู่กินกับเขา ไหว้เสร็จเราไปหาร้านอร่อยจังหวัดนั้นกิน
เพราะเราไม่ชอบอาหารจีน เพราะฉะนั้นก็ไม่มีเวลาจะมานั่งกินนั่งคุย

พูดง่ายๆว่า ญาติหลายๆคน ไหว้วันนี้ วันพรุ่งนี้เดินสวนกันก็ไม่รู้จักแล้ว จำไม่ได้

เมื่อรวมกับความร้อน เหนื่อย การต้องเดินทางแต่เช้ามืด ถึงบ้านซะดึก
ไหนจะแพ้ฝุ่นแพ้ควัน เราเลยเลิกไปมาเกือบยี่สิบปีแล้ว

ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ตอนนั้นก็มีเถียงๆกับที่บ้านนิดหน่อย
จนเดี๋ยวนี้เป็นอันรู้กันแล้ว ก็มีชวนทุกปีแหละ แต่ไม่ไป

แต่เหตุผลหลัก คือไม่อยากเจอญาติเยอะนั่นแหละ
เราให้ความสำคัญกับญาติ และคนอื่นๆที่อยู่รอบๆตัวมากกว่า

ส่วน ถ้าแค่มีเทือกเถาเหล่ากอร่วมกันมา แต่ไม่เคยมีส่วนร่วมใดๆในชีวิต
มาตลอดระยะเวลาเกือบสามสิบปีมานี้ ก็ไม่เห็นความจำเป็นต้องทำความรู้จัก

ป.ล. เคยมีคนถามว่า พ่อแม่ไม่ทำ จะทำต่อไหม เราตอบเลยว่าไม่ ไม่ทำแน่นอน
และก็เคยอ่านเจอคนตั้งคำถามว่า แล้วถ้าคนอยู่ในนั้นเป็นพ่อแม่ล่ะ อันนี้ตอบได้เหมือนกัน
ว่าไม่มีทาง เพราะตั้งแต่รุ่น ตา ยาย ย่า ลงมา ใช้วิธีเผาหมดแล้ว(ปู่เรายังอยู่)