ขอตอบในเชิงที่ไม่มีแบรนด์ไหนดีกว่าแบรนด์ไหนนะครับ ส่วนตัวเคยทำงานให้ adidas ในรูปแบบอีเว้นท์ต่างๆ เลยได้รับรู้สรรพคุณของรองเท้า adidas พอสมควร ปัจจุบันมาทำกับ Asics แล้ว ก็ได้รับรู้เทคโนโลยีของเค้ามากขึ้นอีกพอสมควร

หลายคำแนะนำที่บอกว่าให้หารองเท้าที่เหมาะสมกับรูปแบบเท้าและการวิ่งของตัวเอง ถูกต้องแล้วครับ แล้วแต่ละแบรนด์ก็รับรู้ในจุดนี้ด้วย เค้าก็จะออกมาหลายรุ่นเพื่อตอบสนองลักษณะเท้าแบบต่างๆกันอยู่แล้วครับ

ทีนี้ ถ้าจะตอบคำถามของ จขกท. ผมเลยเอาเทคโนโลยีที่ 2 แบรนด์นี้เน้นมาวัดกันดีกว่า น่าจะสนุกดี

adidas 2-3 ปีที่แล้วได้คิดค้นวัสดุในการทำ mid-sole สำหรับรองเท้าวิ่งขึ้นมาใหม่ มีชื่อว่า BOOST ครับ ที่หน้าตาเหมือนโฟมสีขาวๆ แต่ถ้าใครไปเผลอเรียกโฟมให้เจ้าของแบรนด์ได้ยิน โดยตีตายแน่ 555 ... และตอนนี้มันอยู่ในรองเท้าวิ่งแทบจะทุกคู่ที่ adidas วางขายแล้วครับ คุณสมบัติคือ เด้งๆๆ สุดๆ มีพลังงานคืนกลับมาในทุกก้าววิ่ง ยิ่งรุ่นไหน อัด BOOST มาให้หนาๆ รุ่นนั้นวิ่งแล้วเด้งได้ใจ ผมใช้ Energy Boost อยู่ พอไปลอง Ultra Boost นี่น้ำตาจะไหล มันเด้งขึ้นได้อีกมากมาย

ส่วนเทคโนโลยีของ Asics ที่เป็นจุดเด่นเลยคือ GEL ครับ โดยจะมี GEL ที่มองเห็นจากด้านนอก และ GEL ที่ถูกฝังอยู่ด้านในที่เรามองไม่เห็น โดยจะถูกวางในตำแหน่งต่างๆที่เท้าจะมีแรงกระทำต่อพื้นครับ เจ้าตัว GEL นี่มีคุณสมบัติดูดซับแรงกระแทกได้ยอดเยี่ยมมากครับ ลองไปเสิร์ชดูใน Youtube ที่เค้าทดสอบ GEL ของ Asics โดยการโยนไข่ไก่ลงมาจากความสูง 6 ม. ลงบนแผ่น GEL หล่นลงมาตุ๊บ ไข่ไม่แตก แถมติดหนึบอีกตะหาก แต่จริงๆแล้วในรองเท้าคู่นึงของ Asics ไม่ได้มีแต่ GEL นะครับ ยังจะมี mid-sole ที่ใช้เทคโนโลยี FluidRide ที่ช่วยให้มีแรงส่งเวลาวิ่ง Guidance Line ใต้รองเท้าที่ช่วยให้การลงเท้าจากส้นสู่ปลายไหลลื่น พื้น AHAR+ ตรงช่วงส้นที่ทนทานสุดๆ เรียกได้ว่า GEL เป็นพระเอกที่มีพระรองคอยสนับสนุนเป็นพรวน ให้สังเกตรองเท้า Asics ที่มีสัญลักษณ์ I.G.S (Impact Guidance System) อยู่แถวๆส้นเท้า จะหมายความว่า รุ่นนั้นๆ ใส่เทคโนโลยีและฟังค์ชั่นที่พร้อมสุดๆ เท่าที่รองเท้าคู่นั้นควรจะมีครับ

ทีนี้อยู่ที่เราแล้วล่ะ ว่าเราจะชอบเทคโนโลยีตัวไหนที่แบรนด์ทั้งหลายต่างหยิบยื่นให้เราครับผม ต้องไปลองดูครับ