[CR] ญี่ปุ่นครั้งแรก @ Kansai

สวัสดีค่ะ จะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก ไม่ค่อยละเอียดมากเพราะส่วนใหญ่จะใจจดจ่อกับการหาเส้นทางรถไฟมากกว่า ^^"
รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
1. บินด้วยสายการบินไทย bkk-kix ราคา total 17,xxx B. บิน 16 มีนา กลับ 23 มีนา
2. พักที่ Hotel Fine Sakai เป็น Love Hotel ค่ะ พักตั้งแต่ 16 จนวันกลับเลย 23 ทั้งหมด 7 คืน ราคา total 9,xxx B.
3. การเดินทางด้วยรถไฟ ไม่ได้ซื้อ Kansai Thru Pass หรือ JR เพราะว่าจากการดู Hyperdia ราคาที่ซื้อเองที่ตู้เหมือนจะต่ำกว่าทุกเส้น แต่ไม่เวิร์คค่ะ เพราะ
3.1) เสียเวลามารอคิวซื้อตั๋ว หรือเสียเวลาค้นหาเหรียญ (ใช้แต่แบงค์ จะลำบากเอาทีหลัง ต้องละลายเหรียญก่อนกลับอีก)
3.2) เวลาอ่านดู Hyperdia บางทีจะแนะนำให้เดินเพื่อเป็นการประหยัด แต่การเดินเอาเข้าจริงไม่ได้ใกล้ๆ เหมือนเวลาที่แจ้ง เมื่อยมากๆๆ
3.3) Kansai Thru Pass ให้สิทธิประโยชน์ในการเข้าชมสถานที่บางแห่ง รวมทั้งการนั่งรถเมล์ (ค่ารถเมล์ก็พอตัวอยู่ค่ะ)
3.4) ถ้าหลงทาง ลงผิดสถานี เซ็งค่ะ ต้องจ่ายเพิ่มอีก เปลืองจีจี 555 (อาจจะเป็นที่เราไม่ศึกษาเส้นทางรถไฟให้ชำนาญ เลยทำให้ลงผิดบ้าง แต่ยังไงก็แนะนำ Kansai Thruฯ ค่ะ)

4. ซื้อ sim ของ b-mobile แบบ 14 วันค่ะ เนื่องจากกลัวว่าถ้าซื้อแบบ 1GB จะใช้หมดก่อนถึงวันกลับแล้วจะลำบากเวลาหาเส้นทาง ราคาประมาณ 3,980 Yen ก็สัก 1,2xx B. ให้ส่งมาที่ที่อยู่ของรร. ค่ะ ส่งฟรี ใช้เสร็จทิ้ง สบายยยยย (ความเร็วก็ตามที่เค้าแจ้งค่ะ ไม่กี่ร้อย kb แต่โดยรวมใช้หาเส้นทางได้ แค่เปิดรับรูปจากไลน์ไม่ค่อยได้ โทรไลน์ได้ค่ะ เราใช้ iPhone5 iOS 8.2 มาถึงใส่ซิม ทำตามวิธีการที่เค้าแนบมา ไม่มีปัญหาสัญญาณไม่ขึ้นค่ะ ทุกอย่างปกติดี เป็นสัญญาณของ docomo แต่ส่วนตัวว่า dtac roaming ไวกว่า)
5. แฟนเปิด data roaming ของ dtac ไปค่ะ เนื่องจากต้องใช้ติดต่องานบ้าง เลยเปิดแยกกัน อีกอย่างเผื่อพลัดหลงกัน จะได้ไลน์หากันได้ด้วย
6. download app "KANSAI Route Map" ค่ะ เวิร์คมาก



ทริปนี้ไปกับแฟน 2 คนค่ะ ค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่าง (บิน,นอน,กิน,ช้อป) ประมาณ 1 แสนค่ะ หัวละ 5 หมื่น

อันนี้เป็นแผนที่วางไว้ค่ะ




เริ่มจากวันที่ไปถึง ไม่มีรูปนะคะ ขออภัย
ไปถึง 2 ทุ่มได้ (รับกระเป๋าเสร็จสรรพ) ตรงดิ่งไปขึ้นรถไฟสาย Nankai เพื่อมุ่งไปยัง Hotel Fine Sakai สถานี Ishizugawa อยู่เขตซะไก นั่งไปประมาณ 30-40 นาที และเดินต่ออีก 5-10 นาทีค่ะ ตอนเราไปเรายังอ่านสายรถไฟไม่คล่อง ไปลงที่ hogoromo แล้วหลงค่ะ แต่คนญี่ปุ่นใจดี พูดอังกฤษไม่ได้ก็นำทางไปขึ้นให้ถูกขบวนเลยค่ะ สังเกตหัวขบวน ดูปลายทางสถานีว่าผ่านของเรารึเปล่าค่ะ อย่างของเราต้องดูปลายทาง wakayamashi ค่ะ หากไม่มีก็ต้องเลือกขบวนที่ลงสถานีใหญ่สำหรับเปลี่ยนสายรถไฟ เช่น Shin-Imamiya, Tengachaya ค่ะ เรานั่งเลยไป 3 สถานี เพราะเป็นสาย express (exp.) จะไม่จอดสถานีเล็กๆ ค่ะ ตามตารางรถไฟเรา เราเอามาจาก Hyperdia ซึ่งหลังจากเดินทางจริง 2 วัน เราก็ไม่นั่งตามแพลนละค่ะ เอาตามสะดวกและความเร็วของรถไฟ เพราะที่ได้มาส่วนใหญ่จะเป็นหวานเย็น จอดทุกสถานี และจอดนานที่สถานีใหญ่ๆ (นานมากกกกก) เลยวิ่งดูปลายทางเอาบ้าง ถามคนแถวนั้นบ้าง หรือไม่ก็นายสถานี สนุกดีค่ะ แต่เหนื่อยเวลาเดินกลับเพราะหลง
หากใครไปพักที่เดียวกัน เปิด google map น่าจะพอนำทางไปได้ แต่เราบอกคร่าวๆ ค่ะ เดินลงจากสถานี ไปทางขวา จนผ่านแยกถนนใหญ่ 1 แยก รร.จะอยู่ทางซ้าย ป้ายโรงแรมเห็นชัดเจนดีค่ะ ใช้เวลาเดินจากสถานีไปรร.สัก 5-10 นาทีได้ ละแวกนี้จะเงียบค่ะ ไม่ค่อยมีคนเดินเตร็ดเตร่
อันนี้คือรูปที่พักค่ะ ได้ชื่อว่า love hotel ก็ไม่ค่อยจะมีคนกล้ามาพัก สำหรับเราถือว่าเป็นการเลือกที่ถูกใจมาก เป็นห้อง 2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องนอน มีทีวี มี projector กับจอสไลด์
ชั้นล่างเปิดเข้ามาจะเจอห้องวางรองเท้าวางร่ม จากห้องรองเท้าเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น โซฟาหนัง 2 ที่นั่ง โต๊ะรับแขก ทีวี ตู้เย็น ตู้เก็บเสื้อผ้า ตู้หยอดของกินเล่น ตู้ปาจิงโกะ และเก้าอี้นวด
เข้าไปทางห้องน้ำจะแยกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นเคาท์เตอร์ล้างมือพร้อมสบู่ครีมบำรุง หวี ไดร์ เจล สเปรย์แต่งผม หวี ฯลฯ พร้อม ผ้าเช็ดตัว 4 ผืนต่อวัน
แยกส่วนตัวส้วมกับที่อาบน้ำคนละห้อง ห้องอาบน้ำมีจากุชชี่และฝักบัว พร้อมด้วยทีวีสำหรับดูเวลาแช่น้ำค่ะ
เราใช้เวลาดูรร.นานมาก เป็นเดือนๆ จนตัดสินใจเอาตัวนี้แหละ เพราะคิดว่าคงเหนื่อยกับการเดินทาง ได้แช่จากุชชีคงจะสบายไม่น้อย แถมยังมีเก้าอี้นวดอีก อาจจะมีกังวลเรื่องความสกปรกหรือไม่มีแม่บ้านมาทำความสะอาดตอนแรกบ้าง จากที่อ่านคอมเม้นท์ แต่ปรากฎว่าเหมือนรร.ปกติค่ะ แขวนป้ายไว้ให้ทำ ก็มาทำทุกวัน ผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์ทุกอย่าง เยี่ยมมากเลยค่ะ ดูรูปประกอบตามนะคะ ยิ้ม







หากต้องการหาร้านอาหารแถวรร. จากสถานี ให้เดินตรงไปทางถนนใหญ่ข้างหน้าและเลี้ยวขวาค่ะ จะมีร้านอาหารอยู่เรียงราย รวมทั้งมินิมาร์ท Lawson
ร้านที่แนะนำ ก็ donkey ดังเรื่องซอสเนื้อค่ะ ส่วนตัวไม่กินเนื้อ พอกินเลยเหม็นๆ แนะนำเบียร์ของเค้าค่ะ ไม่แรง นุ่มดีค่ะ จะสั่งแก้วใหญ่ก็ระวังนะคะ ใหญ่เท่าเหยือกประเทศเรา 555 ขนมหวานก็อร่อยค่ะ




มื้อนี้กินเยอะค่ะ หมดไป 3,xxx B. ยังถือว่าถูกกว่าในไทยเหมือนกัน
และก็มีร้านราเมงอยู่ใกล้ๆ lawson ชื่อ makoto อะไรสักอย่าง อร่อยค่ะ สั่งตามเมนูแนะนำ ติดใจไปกินก่อนกลับอีกวัน
ร้านราเมงจะอยู่ใกล้กลับร้านหมูทอด มีสาขาในไทยด้วย จำไม่ได้ชื่ออะไร แต่อร่อยทั้งหมดค่ะ
ออ มีร้าน yoshinoya ใกล้ๆ เหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปลองทาน เพราะทานที่ไทยบ่อยละ ^^"

คืนแรกจบด้วยการกินราเมนค่ะ ส่วนรูปอาหารข้างบนเป็นวันอื่น แต่เอามาลงเพราะอยู่ใกล้รร. เผื่อใครหาร้านอยู่ค่ะ
ชื่อสินค้า:   Osaka - JAPAN
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่