คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2558 จำนวน4 ข้อ
เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ให้ทหารเป็นหลัก ตำรวจต้องประสานกับทหารทุกเรื่อง
คำสั่ง หน.คสช.เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวม
โดยที่ปรากฏว่าในปัจจุบันยังคงมีการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่คุ้มครอง ประโยชน์สาธารณะและประชาชนโดยส่วนรวมเป็นจํานวนมาก และการบังคับใช้กฎหมายยังเป็นไป อย่างไม่เคร่งครัดและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ และก่อให้เกิดปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในเรื่องต่าง ๆ เช่น การบุกรุกที่สาธารณะ ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ การใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะกีดขวางทางจราจร ทําให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในการใช้ชีวิตประจําวัน เป็นต้น
จึงเป็นการสมควรที่จะกําหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับ ใช้กฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวมเป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย อาจขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร โดยแจ้งความประสงค์ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพิจารณามอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไปปฏิบัติการตามคําขอดังกล่าว ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจขอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคําสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอํานาจหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง หรือหลายฉบับ เพื่อประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายนั้นให้เป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ
ข้อ 2 ในการปฏิบัติการตามข้อ 1ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายมีอํานาจหน้าที่ เช่นเดียวกับเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น รวมทั้งให้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญาและเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา
ข้อ 3 ให้เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้น ขอความช่วยเหลือจาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามกฎหมายนั้น ๆ โดยเคร่งครัด และให้ดําเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการตามคําสั่งนี้ หากขัดขืนหรือไม่ให้ความร่วมมือ จนก่อให้เกิดความเสียหายในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทําความผิดวินัยร้ายแรง
ข้อ 4 คําสั่งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 8 เมษายน พุทธศักราช 2558
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ม.44 คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2558
คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2558 จำนวน4 ข้อ
เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ให้ทหารเป็นหลัก ตำรวจต้องประสานกับทหารทุกเรื่อง
คำสั่ง หน.คสช.เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวม
โดยที่ปรากฏว่าในปัจจุบันยังคงมีการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่คุ้มครอง ประโยชน์สาธารณะและประชาชนโดยส่วนรวมเป็นจํานวนมาก และการบังคับใช้กฎหมายยังเป็นไป อย่างไม่เคร่งครัดและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ และก่อให้เกิดปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในเรื่องต่าง ๆ เช่น การบุกรุกที่สาธารณะ ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ การใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะกีดขวางทางจราจร ทําให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในการใช้ชีวิตประจําวัน เป็นต้น
จึงเป็นการสมควรที่จะกําหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับ ใช้กฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวมเป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย อาจขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร โดยแจ้งความประสงค์ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพิจารณามอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไปปฏิบัติการตามคําขอดังกล่าว ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจขอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคําสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอํานาจหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง หรือหลายฉบับ เพื่อประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายนั้นให้เป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ
ข้อ 2 ในการปฏิบัติการตามข้อ 1ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายมีอํานาจหน้าที่ เช่นเดียวกับเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น รวมทั้งให้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญาและเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา
ข้อ 3 ให้เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้น ขอความช่วยเหลือจาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามกฎหมายนั้น ๆ โดยเคร่งครัด และให้ดําเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการตามคําสั่งนี้ หากขัดขืนหรือไม่ให้ความร่วมมือ จนก่อให้เกิดความเสียหายในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทําความผิดวินัยร้ายแรง
ข้อ 4 คําสั่งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 8 เมษายน พุทธศักราช 2558
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ