จ่าขอสมน้ำหน้าคนที่เลือก "สุขุมพันธ์" เข้ามารับใช้ครับ
เพราะนอกจากจะไม่รับใช้แล้ว
ยังเจ้ายศ เจ้าอย่าง เจ้าอารมณ์
แขวะคนที่เขาตำหนิติติงการทำงานของตัวเองอีกต่างหาก
นี่แหละครับ
ผลงานผู้ว่าฯของพวกสลิ่ม
ฝนตกโครมเดียวท่วมเกือบทั่ว กทม.
ตอนปี 54 สมัยรัฐบาลปูว์
น้ำท่วมจนคนด่าปูว์กันทั้งเมือง
ตอนนั้น.....รัฐบาลปูว์ขอความร่วมมือจาก กทม.เพื่อใช้ระบบอุโมงค์ระบายน้ำของเอ๋อ
แต่ กทม.นอกจากจะไม่ร่วมมือกับเขาแล้ว
ยังยืนยันด้วยว่าอุโมงค์ออกแบบมาเพื่อ "ระบายน้ำฝน"
ไม่ได้ใช้สำหรับน้ำท่วม น้ำหลาก น้ำทะเลหนุน อะไรทั้งนั้น
แต่วันนี้มันชัดๆว่าน้ำที่ท่วมมันคือ "น้ำฝน"
แล้วทำไมไอ้อุโมงค์นี่ถึงใช้งานตามวัตถุประสงค์ไม่ได้เลย ????
ถ้าเป็นปูว์ทำโครงการอุโมงค์นี่
จ่าว่าป่านนี้โดน สตง.สอบ ,โดน ปปช.สอยไปนานแล้ว
อัยการก็จะรีบสั่งฟ้องคดี , สานรัฐธรรมนูญก็จะแถลงคดีตอนเช้า และ อ่านคำวินิจฉัยบ่าย
แล้วสานมันก็จะบอกว่าปูว์ผิด เพราะลงทุนโครงการไปมากมายแต่ดันไม่สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์
ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต,
ยึดทรัพย์ , ฟ้องเรียกค่าเสียหาย และ ไล่ให้ปูว์ไปอยู่บนดอยอย่างแน่นอน...!!!!
อุโมงค์นี้มีมูลค่า 2,300 ล้านบาท
เอ๋อคุยโวว่าระบายน้ำได้ดีพอๆกับระบบแก้มลิง
ตอนที่เอ๋อตีปี๊บออกสื่อ เอ๋อโม้น้ำไหลไฟดับว่าอุโมงค์จะช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในรัศมี 50 ตร.กิโลเมตร
ครอบคลุมพื้นที่หลักๆทั้ง ลาดพร้าว ,วังทองหลาง, บางกะปิ,
ห้วยขวาง , บึงกุ่ม และ สะพานสูง ในอัตรา 240 ลบ.ม./นาที
โดยใช้หลักการง่ายๆว่าหากมีน้ำท่วม กทม.ก็จะระบายน้ำทางอุโมงค์ลงแม่น้ำในลักษณะของ "ทางด่วนใต้ดิน"
น้ำมันก็จะไหลในอุโมงค์ใต้ดิน ลงไปที่เจ้าพระยาอย่างรวดเร็ว
เพราะไม่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ และ ไม่สะสมท่วมขังบนพื้นผิวจราจร (แหมม....พูดออกมาได้)
ขุดลอกคลอง , ปรับปรุงประตูระบายน้ำ , ทำความสะอาดท่อ , สร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ฯลฯ อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมดครับ
....แต่พอฝนตกโครมเดียวก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ ...!!!
เทียบกับบ้านเมืองอื่น
ที่เขามีระบบป้องกันน้ำท่วมเหมือนเราแล้วละก็
จ่าว่าเมืองหลวงของกะลาแลนด์ภายใต้การบริหารของเอ๋อมีการทำงานแบบเด็ก ป.4 จริงๆครับ
แถมบางประเทศที่ว่านี้ เขาอยู่ต่ำกว่าน้ำทะเลยิ่งกว่า กทม.ซะอีก....(ฮา)
ที่เนเธอร์แลนด์ "แดนกังหันลม"
พวกเขาไม่ได้มีดีแค่โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
แดนกังหันลมเป็นที่ราบต่ำ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากมาย
แถมยังมีแม่น้ำขนาดใหญ่เบ่อเร่อเท่อไหลผ่านประเทศถึง 3 สาย
มี 3 เหลี่ยมปากแม่น้ำเหมือนปากแม่น้ำเจ้าพระยาของกะลาแลนด์อีกต่างหาก
แต่เขามีระบบที่เรียกว่า Delta Works มารับมือน้ำท่วม
เขาเคยเกิดโศกนาฏกรรมในปี 53
เพราะน้ำท่วมใหญ่คราวนั้นมีคนตายเป็นพันๆศพ
โครงการนวัตกรรมการจัดการน้ำที่ชื่อ Delta Works เลยเกิดขึ้น
และ มันคือ "สิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมเพื่อป้องกันน้ำท่วม" ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
พวกดัทช์สร้างเขื่อนคอนกรีต
เพื่อกั้นน้ำจากทะเลไม่ให้ท่วมเมือง
เขื่อนนี้รับมือคลื่นยักษ์ขนาด 5 เมตรได้สบายมาก
แถมเขื่อนยังทำหน้าที่เป็นประตูระบายน้ำ กำแพงกั้นน้ำ คันดินกันน้ำ อีกต่างหาก
พวกดัทช์คุยว่าเขื่อนนี้มีอายุการใช้งาน 1 หมื่นปีครับ....พระเจ้าช่วยยยย..!!!
พวก "ไวกิ้ง" นอร์เวย์ก็เก่งเรื่องการจัดการน้ำ
เขาอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ
ที่มีปัญหาเรื่องน้ำแข็งละลาย
และ กลายมาเป็นน้ำที่ไหลท่วมเมือง
ชาวไวกิ้งจึงสร้าง Aqua Fence เพื่อแก้ปัญหา
Aqua Fence มันก็คือ "รั้ว" ดีๆนี่เอง
มันทำหน้าที่คล้ายกระสอบทราย และ ผนังกั้นน้ำ
ขนย้ายง่าย ติดตั้งสะดวก ป้องกันระดับน้ำได้ถึง 210 ซม.
ส่วนที่ Great Britain ก็เช่นกัน
GB โดนล้อมรอบด้วยน้ำทุกทิศทาง
อังกฤษ สก๊อตแล่น เวลส์ ไอร์แลนเหนือ
ล้วนแล้วแต่เคยมีปัญหาน้ำท่วมด้วยกันทั้งนั้น
พวกเขาลงทุนในโครงการ Rapidam เพื่อแก้ปัญหา
Rapidam คือ เขื่อนแบบ Fast food "แดรกด่วน"
มันมีลักษณะเป็นผนังกั้นน้ำแบบเอนกประสงค์เลยก็ว่าได้
เพราะมันไม่ได้มีดีแค่กันน้ำท่วม แต่ยังเอาไปใช้กั้นดินถล่ม โคลนถล่ม
หรือ เอาไปใช้ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติอื่นๆ เช่น ตึกถล่ม ได้อีกต่างหาก (โคตรคุ้มเลยว่ะ)
"นิวซีแลนด์" ก็เช่นกัน
เขาไม่ได้มีดีแค่ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง เท่านั้น
เพราะโครงการ Flood Barriers ของพวกเขามัน "เมพขิงๆ" เลยว่ะ...!!!
นิวซีแลนด์ที่เป็นเกาะ
ที่มีทั้งทะเล และ ป่าไม้
มีทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม และ ฝนตกชุก
พวกกีวี่เลยทำโครงการ Flood Barriers กั้นน้ำตามริมฝั่งเป็นแนวยาวถึง 2 หมื่น 4 พัน เมตร !!!
ทุกโครงการที่ว่ามานี้
ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาล
แต่เมื่อเกิดเหตุแล้ว มันสามารถใช้งานได้จริง
และ เกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ในการลงทุนเอา "ภาษี" ของคนในประเทศเขาไปผลาญ
เทียบกับ 2,300 ล้านบาทของเอ๋อ
ที่เอา "ภาษี" ไปผลาญกับ "อุโมงค์ยักษ์"
ที่เอ๋อคุยนักคุยหนาว่ามีประสิทธิภาพดีอย่างโง้น อย่างงี้ แล้วละก็....
จ่าสมน้ำหน้าคนกรุงจริงๆครับ ที่เลือกคนที่ทำตัวแบบอยู่บนหอคอยงาช้างมาบริหารเมืองหลวง
"โตไปไม่โกง" (ฮา...)
"อย่าดูถูกKU" (ฮา...)
"ทุกชีวิต เราดูแล" (ฮา...)
คนกรุง (เรียนสูง) เลือกคนแบบไหนก็ได้คนแบบนั้นครับ...!!!!!
จ่าพิเชษฐ์
ขอบคุณคุณโบกกรักที่ส่ง user มาให้จ่าลุยต่อครับ
@@@@@----------กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก.....จ่าล่ะ...สมน้ำหน้าจริงๆว่ะ......!!!!!!!----------@@@@@
เพราะนอกจากจะไม่รับใช้แล้ว
ยังเจ้ายศ เจ้าอย่าง เจ้าอารมณ์
แขวะคนที่เขาตำหนิติติงการทำงานของตัวเองอีกต่างหาก
นี่แหละครับ
ผลงานผู้ว่าฯของพวกสลิ่ม
ฝนตกโครมเดียวท่วมเกือบทั่ว กทม.
ตอนปี 54 สมัยรัฐบาลปูว์
น้ำท่วมจนคนด่าปูว์กันทั้งเมือง
ตอนนั้น.....รัฐบาลปูว์ขอความร่วมมือจาก กทม.เพื่อใช้ระบบอุโมงค์ระบายน้ำของเอ๋อ
แต่ กทม.นอกจากจะไม่ร่วมมือกับเขาแล้ว
ยังยืนยันด้วยว่าอุโมงค์ออกแบบมาเพื่อ "ระบายน้ำฝน"
ไม่ได้ใช้สำหรับน้ำท่วม น้ำหลาก น้ำทะเลหนุน อะไรทั้งนั้น
แต่วันนี้มันชัดๆว่าน้ำที่ท่วมมันคือ "น้ำฝน"
แล้วทำไมไอ้อุโมงค์นี่ถึงใช้งานตามวัตถุประสงค์ไม่ได้เลย ????
ถ้าเป็นปูว์ทำโครงการอุโมงค์นี่
จ่าว่าป่านนี้โดน สตง.สอบ ,โดน ปปช.สอยไปนานแล้ว
อัยการก็จะรีบสั่งฟ้องคดี , สานรัฐธรรมนูญก็จะแถลงคดีตอนเช้า และ อ่านคำวินิจฉัยบ่าย
แล้วสานมันก็จะบอกว่าปูว์ผิด เพราะลงทุนโครงการไปมากมายแต่ดันไม่สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์
ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต,
ยึดทรัพย์ , ฟ้องเรียกค่าเสียหาย และ ไล่ให้ปูว์ไปอยู่บนดอยอย่างแน่นอน...!!!!
อุโมงค์นี้มีมูลค่า 2,300 ล้านบาท
เอ๋อคุยโวว่าระบายน้ำได้ดีพอๆกับระบบแก้มลิง
ตอนที่เอ๋อตีปี๊บออกสื่อ เอ๋อโม้น้ำไหลไฟดับว่าอุโมงค์จะช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในรัศมี 50 ตร.กิโลเมตร
ครอบคลุมพื้นที่หลักๆทั้ง ลาดพร้าว ,วังทองหลาง, บางกะปิ,
ห้วยขวาง , บึงกุ่ม และ สะพานสูง ในอัตรา 240 ลบ.ม./นาที
โดยใช้หลักการง่ายๆว่าหากมีน้ำท่วม กทม.ก็จะระบายน้ำทางอุโมงค์ลงแม่น้ำในลักษณะของ "ทางด่วนใต้ดิน"
น้ำมันก็จะไหลในอุโมงค์ใต้ดิน ลงไปที่เจ้าพระยาอย่างรวดเร็ว
เพราะไม่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ และ ไม่สะสมท่วมขังบนพื้นผิวจราจร (แหมม....พูดออกมาได้)
ขุดลอกคลอง , ปรับปรุงประตูระบายน้ำ , ทำความสะอาดท่อ , สร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ฯลฯ อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมดครับ
....แต่พอฝนตกโครมเดียวก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ ...!!!
เทียบกับบ้านเมืองอื่น
ที่เขามีระบบป้องกันน้ำท่วมเหมือนเราแล้วละก็
จ่าว่าเมืองหลวงของกะลาแลนด์ภายใต้การบริหารของเอ๋อมีการทำงานแบบเด็ก ป.4 จริงๆครับ
แถมบางประเทศที่ว่านี้ เขาอยู่ต่ำกว่าน้ำทะเลยิ่งกว่า กทม.ซะอีก....(ฮา)
ที่เนเธอร์แลนด์ "แดนกังหันลม"
พวกเขาไม่ได้มีดีแค่โยฮัน ครัฟฟ์ หรือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
แดนกังหันลมเป็นที่ราบต่ำ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากมาย
แถมยังมีแม่น้ำขนาดใหญ่เบ่อเร่อเท่อไหลผ่านประเทศถึง 3 สาย
มี 3 เหลี่ยมปากแม่น้ำเหมือนปากแม่น้ำเจ้าพระยาของกะลาแลนด์อีกต่างหาก
แต่เขามีระบบที่เรียกว่า Delta Works มารับมือน้ำท่วม
เขาเคยเกิดโศกนาฏกรรมในปี 53
เพราะน้ำท่วมใหญ่คราวนั้นมีคนตายเป็นพันๆศพ
โครงการนวัตกรรมการจัดการน้ำที่ชื่อ Delta Works เลยเกิดขึ้น
และ มันคือ "สิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมเพื่อป้องกันน้ำท่วม" ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
พวกดัทช์สร้างเขื่อนคอนกรีต
เพื่อกั้นน้ำจากทะเลไม่ให้ท่วมเมือง
เขื่อนนี้รับมือคลื่นยักษ์ขนาด 5 เมตรได้สบายมาก
แถมเขื่อนยังทำหน้าที่เป็นประตูระบายน้ำ กำแพงกั้นน้ำ คันดินกันน้ำ อีกต่างหาก
พวกดัทช์คุยว่าเขื่อนนี้มีอายุการใช้งาน 1 หมื่นปีครับ....พระเจ้าช่วยยยย..!!!
พวก "ไวกิ้ง" นอร์เวย์ก็เก่งเรื่องการจัดการน้ำ
เขาอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ
ที่มีปัญหาเรื่องน้ำแข็งละลาย
และ กลายมาเป็นน้ำที่ไหลท่วมเมือง
ชาวไวกิ้งจึงสร้าง Aqua Fence เพื่อแก้ปัญหา
Aqua Fence มันก็คือ "รั้ว" ดีๆนี่เอง
มันทำหน้าที่คล้ายกระสอบทราย และ ผนังกั้นน้ำ
ขนย้ายง่าย ติดตั้งสะดวก ป้องกันระดับน้ำได้ถึง 210 ซม.
ส่วนที่ Great Britain ก็เช่นกัน
GB โดนล้อมรอบด้วยน้ำทุกทิศทาง
อังกฤษ สก๊อตแล่น เวลส์ ไอร์แลนเหนือ
ล้วนแล้วแต่เคยมีปัญหาน้ำท่วมด้วยกันทั้งนั้น
พวกเขาลงทุนในโครงการ Rapidam เพื่อแก้ปัญหา
Rapidam คือ เขื่อนแบบ Fast food "แดรกด่วน"
มันมีลักษณะเป็นผนังกั้นน้ำแบบเอนกประสงค์เลยก็ว่าได้
เพราะมันไม่ได้มีดีแค่กันน้ำท่วม แต่ยังเอาไปใช้กั้นดินถล่ม โคลนถล่ม
หรือ เอาไปใช้ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติอื่นๆ เช่น ตึกถล่ม ได้อีกต่างหาก (โคตรคุ้มเลยว่ะ)
"นิวซีแลนด์" ก็เช่นกัน
เขาไม่ได้มีดีแค่ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง เท่านั้น
เพราะโครงการ Flood Barriers ของพวกเขามัน "เมพขิงๆ" เลยว่ะ...!!!
นิวซีแลนด์ที่เป็นเกาะ
ที่มีทั้งทะเล และ ป่าไม้
มีทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม และ ฝนตกชุก
พวกกีวี่เลยทำโครงการ Flood Barriers กั้นน้ำตามริมฝั่งเป็นแนวยาวถึง 2 หมื่น 4 พัน เมตร !!!
ทุกโครงการที่ว่ามานี้
ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาล
แต่เมื่อเกิดเหตุแล้ว มันสามารถใช้งานได้จริง
และ เกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ในการลงทุนเอา "ภาษี" ของคนในประเทศเขาไปผลาญ
เทียบกับ 2,300 ล้านบาทของเอ๋อ
ที่เอา "ภาษี" ไปผลาญกับ "อุโมงค์ยักษ์"
ที่เอ๋อคุยนักคุยหนาว่ามีประสิทธิภาพดีอย่างโง้น อย่างงี้ แล้วละก็....
จ่าสมน้ำหน้าคนกรุงจริงๆครับ ที่เลือกคนที่ทำตัวแบบอยู่บนหอคอยงาช้างมาบริหารเมืองหลวง
"โตไปไม่โกง" (ฮา...)
"อย่าดูถูกKU" (ฮา...)
"ทุกชีวิต เราดูแล" (ฮา...)
คนกรุง (เรียนสูง) เลือกคนแบบไหนก็ได้คนแบบนั้นครับ...!!!!!
จ่าพิเชษฐ์
ขอบคุณคุณโบกกรักที่ส่ง user มาให้จ่าลุยต่อครับ