เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็อยากไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ต่างประเทศ อาจจะเพราะดูดี ดูหรูกว่า อาจจะเพราะมีเงิน อาจจะเพราะคิดว่าดีกว่าไทย หรืออาจจะเพราะอยากฝึกภาษา หรือได้ทุน หรืออะไรก็แล้วแต่นะ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (ในความคิดของทุกคน)
วันนี้มีเรื่องการขอทุนไปเรียนต่อญี่ปุ่นจะบอกต่อๆ กันไป หลังจากเริ่มสงสัย เอ๊ะ ทำไมเดี๋ยวนี้พวกจบ ป.โท ในไทย ไปเรียนต่อ ม. วาเซดะ กันเยอะแยะจังเลย ทำไมเก่งกันจัง เพราะเคยเข้าใจว่า "ทุนมาบูโช" นั้น กว่าจะได้มาแสนจะยากเย็น เอาจริงทุกวันนี้ก็ยังยาก ถ้าเป็นแบบที่สอบผ่านสถานทูต ภาษาต้องเป๊ะทั้งอังกฤษและญี่ปุ่นก็อาจจะต้องได้ด้วย เกรดต้องเยี่ยม
แต่เดี๋ยวก่อนที่ทราบมา คนที่แห่กันไปเรียนนั้นไม่เห็นต้องสอบอะไรกันเลย แล้วก็ได้ทุนไปเรียนหน้าตาเฉย จึงเกิดการไปสืบเสาะมาแล้วพบว่า.....ใครอยากไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ ม. วาเซดะ โดนเฉพาะพวกสายสังคมศาสตร์-มนุษยศาสตร์ ก็แค่เดินเข้าไปทำความรู้จักอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น มักจะงมๆ หาข้อมูลอะไรต่อมิอะไรแถวหอสมุดแห่งชาติ (เรียกถูกป่าวอ่ะ) บอกแกว่าอยากขอทุนเรียนต่อเอก หรือไม่ก็ให้คนที่เรียนอยู่ที่วาเซดะพาไปแนะนำให้รู้จัก แค่นั้นแหละคุณเอ๊ย ก็ได้ไปเรียนเมืองนอกสมใจแล้ว อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น ภาษาจะx่วยแค่ไหน เกรดจะเลวร้ายแค่ไหน โปรไฟลล์จะตกต่ำสุดๆ ก็ไปเรียนได้ แถมจบมาสวยหรูดูดี อาจารย์ที่นั่นพูดไทยได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษา เวลาทำวิทยานิพนธ์ก็ไม่ต้องกลัวจ้างคนอื่นแปลไทยเป็นอังกฤษเอาก็ได้ และเหมือนว่าที่ ม. วาเซดะ จะมีศูนย์แปลภาษาให้ด้วยนะ แค่นั้นก็ได้ชื่อว่าจบญี่ปุ่น จบเมืองนอก ได้ทุนมาบูโชแน่ะ
นั่นแหละฮะท่านผู้ชมขอเชิญแห่แหนไปเรียนกันเยอะๆ เลยนะฮะ ให้โลกได้รู้ว่าทุนมาบูโชมันได้มาง่ายๆ แบบนี้แหละฮะ จากนั้นก็ต้องตั้งใจเรียนให้จบก็พอ จบมาสมัครงานแข่งกะคนเรียนมหาลัยในไทยก็คงมีชัยไปกว่าครึ่ง ทั้งๆ ที่ทุนนี้ได้มาไม่ยากเลยใช่ไหม โอกาสดีๆ แบบนี้ รีบคว้าไว้เลยจ้า
อยากเรียนเอกเมืองนอกเหรอ ง่ายนิดเดียว มหาลัยในญี่ปุนเข้าง่ายจริงๆ ง่ายกว่าไทยอีกนะ เออ
วันนี้มีเรื่องการขอทุนไปเรียนต่อญี่ปุ่นจะบอกต่อๆ กันไป หลังจากเริ่มสงสัย เอ๊ะ ทำไมเดี๋ยวนี้พวกจบ ป.โท ในไทย ไปเรียนต่อ ม. วาเซดะ กันเยอะแยะจังเลย ทำไมเก่งกันจัง เพราะเคยเข้าใจว่า "ทุนมาบูโช" นั้น กว่าจะได้มาแสนจะยากเย็น เอาจริงทุกวันนี้ก็ยังยาก ถ้าเป็นแบบที่สอบผ่านสถานทูต ภาษาต้องเป๊ะทั้งอังกฤษและญี่ปุ่นก็อาจจะต้องได้ด้วย เกรดต้องเยี่ยม
แต่เดี๋ยวก่อนที่ทราบมา คนที่แห่กันไปเรียนนั้นไม่เห็นต้องสอบอะไรกันเลย แล้วก็ได้ทุนไปเรียนหน้าตาเฉย จึงเกิดการไปสืบเสาะมาแล้วพบว่า.....ใครอยากไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ ม. วาเซดะ โดนเฉพาะพวกสายสังคมศาสตร์-มนุษยศาสตร์ ก็แค่เดินเข้าไปทำความรู้จักอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น มักจะงมๆ หาข้อมูลอะไรต่อมิอะไรแถวหอสมุดแห่งชาติ (เรียกถูกป่าวอ่ะ) บอกแกว่าอยากขอทุนเรียนต่อเอก หรือไม่ก็ให้คนที่เรียนอยู่ที่วาเซดะพาไปแนะนำให้รู้จัก แค่นั้นแหละคุณเอ๊ย ก็ได้ไปเรียนเมืองนอกสมใจแล้ว อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น ภาษาจะx่วยแค่ไหน เกรดจะเลวร้ายแค่ไหน โปรไฟลล์จะตกต่ำสุดๆ ก็ไปเรียนได้ แถมจบมาสวยหรูดูดี อาจารย์ที่นั่นพูดไทยได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษา เวลาทำวิทยานิพนธ์ก็ไม่ต้องกลัวจ้างคนอื่นแปลไทยเป็นอังกฤษเอาก็ได้ และเหมือนว่าที่ ม. วาเซดะ จะมีศูนย์แปลภาษาให้ด้วยนะ แค่นั้นก็ได้ชื่อว่าจบญี่ปุ่น จบเมืองนอก ได้ทุนมาบูโชแน่ะ
นั่นแหละฮะท่านผู้ชมขอเชิญแห่แหนไปเรียนกันเยอะๆ เลยนะฮะ ให้โลกได้รู้ว่าทุนมาบูโชมันได้มาง่ายๆ แบบนี้แหละฮะ จากนั้นก็ต้องตั้งใจเรียนให้จบก็พอ จบมาสมัครงานแข่งกะคนเรียนมหาลัยในไทยก็คงมีชัยไปกว่าครึ่ง ทั้งๆ ที่ทุนนี้ได้มาไม่ยากเลยใช่ไหม โอกาสดีๆ แบบนี้ รีบคว้าไว้เลยจ้า