สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาให้คำแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องอัดเสียงนะคะ
สืบเนื่องจากว่า ต้องใช้เครื่องอัดเสียงในการอัดเสียงของอาจารย์ แต่เดิมใช้โทรศัพท์อัด แต่เห็นเพื่อนอัดด้วยเครื่องแล้ว
ดูสะดวกดี เลยซื้อมาใช้บ้าง
ที่เราซื้อมาราคาไม่แพงเลยนะคะ ราคาประมาณ 800 บาท ยี่ห้อ ก็ทั่วไปนะคะ
แต่สิ่งที่เราซื้อมาได้ใช้ประโยชน์ เวลาอัดก็ง่าย เราเลยอยากมาแชร์วิธีในการเลือกซื้อดังนี้ค่ะ
เราเลือกซื้อผ่านเว็บไซต์ ที่เป็นที่นิยมกันอยู่ทั่วไปนะคะ
จากนั้นเราดูฟังชั่นต่างๆ ทำอะไรได้บ้าง อัดเสียงได้กี่แบบ (ของเราได้ 3 แบบ) และ จุได้กี่ GB (ได้ 8 GB) มีรับประกันไหม (ของเรา 3 เดือน)
ดูคุณสมบัติทั่วๆไปนะคะ ใช้ถ่าน AA หรือ AAA ชาร์จได้ไหม แต่เป็นเรา เราเลือกชาร์จได้นะคะ สะดวก ไม่ต้องซื้อถ่านมาคอยใส่ ชาร์จผ่านเวลาเล่นคอมก็ได้
ฟังชั่นอื่นๆ เช่นตัดเสียงรบกวนไหม และอื่นๆ น้ำหนัก คืออยากให้ดูรวมๆ เทียบอย่าง น้อย 3-4 อัน ราคาให้สมกับคุณภาพและปริมาณ
ข้อดี ที่ชอบและรู้หลังจากที่ซื้อมา
1. ฟัง mp 3 เพราะมาก
2. เวลาเอาลงคอม ลงง่าย ไม่เหมือนในโทรศัพท์
3. ใช้เป็นที่ฟังเพลงสำรองได้ แค่เสียบหูฟัง ฟังกับลำโพงก็ได้
4. ไม่เปลืองเมมโทรศัพท์
5. เบามากๆ ถึงมากที่สุด แทบไม่รู้สึกว่ากินพื้นที่ในกระเป๋าเลย
6. ใช้เป็น flashdrive ได้
สิ่งที่เสียใจเพราะลืมคำนึงตอนซื้อมา คือ
1. ช่องเสียบต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ ของเราต้องใช้สาย หมายความว่าถ้าไม่มีสายเราจะทำอะไรไม่ได้เลยกับคอม หรือแม้ใช้เป็น flashdrive
2. หัวต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ เป็นแบบรุ่นเก่า (หัวหยัก) เหมือนเครื่องเล่น mp3 ซัก 10 ปีมาแล้ว ดังนั้น ถ้าจะเอาแบบมีสาย ควรเลือกที่มีหัวเหมือนสมาร์ทโฟนปัจจุบัน (น้อยใจตรงที่ตอนเลือก็เจอเครื่องนึง บอกว่ามีหัวเหมือนสมาร์ทโฟน แต่เราไม่สนใจ)
สิ่งที่อยากแนะนำคนที่จะซื้อ
1. เลือกช่องเสียบที่เหมือนสมาร์ทโฟน เพราะปลั๊กหายาก เวลาพกแบตต้องพก 2 สาย หรือเราเข้าไปดู แบบใหม่ ตัวมันเองมีหัวแบบ USB ก็มี ราคาไม่เกิน 1,000 ด้วย
2. ตอนแรกมีตัวที่เราจะซื้อราคา 700 บาท ถูกกว่า 100 บาท แต่ไม่มี สายเชื่อมก้บโทรศัพท์ให้ ของเรา มีทั้ง หูฟัง ไมค์ และสายเชื่อมกับโทรศัพท์ - เอาไว้อัดการสนทนาในโทรศัพท์ ที่เราว่าเจ๋งมาก
3. ของเรา เป็น ic recorder ที่เขาบอกว่าตัดเสียงรบกวนได้ค่ะ ให้เลือกที่มันเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ และดูว่าทำอะไรได้บ้าง
4. ของเราได้รับประกันด้วยค่ะ เราเห็นใหม่ๆตอนนี้ไม่มีเลย ที่ราคาเท่านี้
5. เราเพิ่งสังเกตุว่า เวลาเราจะเปิดอัด เราต้องคอยตั้งเวลาใหม่ทุกครั้ง สงสัยถูกเกินไป
6. สาเหตุที่เราไม่ได้เลือกซื้อแพงมาก เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้เปลี่ยนไปเร็วมาก คือเดี๋ยวผ่านไปปี 2 ปี เดี๋ยวก็มีอะไรใหม่ๆเข้ามา ของเราจะกลายเป็นเก่าล้าหลังไปเลย เราเลยไม่แนะนำ ไม่ว่าจะเป็น sony และอื่นๆ คือเราประมาณว่า เบื่อก็เปลี่ยน เบื่อก็ทิ้ง จะได้ไม่เสียดายค่ะ เหมือนโทรศัพท์ ใหม่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้เก่าแล้ว...
ข้อแนะนำตอนอัด
1. ควรวางไว้ใกล้ๆอาจารย์ ถ้าอาจารย์ไม่พิธีรีตรองมาก ไว้ใกล้ๆอ. ยังไงก็ชัดกว่า
ยังไงเพื่อนๆก็ลองสังเกตุดูนะคะ เราว่าเครื่องอัดสมัยนี้ราคาไม่แพงมาก และมีประโยชน์เยอะเลย เพระไมค์มันดีกว่าโทรศัพท์เยอะ และไม่เปลืองเมมโทรศัพท์ด้วย (สำหรับเราฟังเพลงจะใช้เยอะมาก)
แบตก็ค่อนข้างอึดและทน
ขอบคุณค่ะ...
คำแนะนำในการซื้อเครื่องอัดเสียงนะคะ
สืบเนื่องจากว่า ต้องใช้เครื่องอัดเสียงในการอัดเสียงของอาจารย์ แต่เดิมใช้โทรศัพท์อัด แต่เห็นเพื่อนอัดด้วยเครื่องแล้ว
ดูสะดวกดี เลยซื้อมาใช้บ้าง
ที่เราซื้อมาราคาไม่แพงเลยนะคะ ราคาประมาณ 800 บาท ยี่ห้อ ก็ทั่วไปนะคะ
แต่สิ่งที่เราซื้อมาได้ใช้ประโยชน์ เวลาอัดก็ง่าย เราเลยอยากมาแชร์วิธีในการเลือกซื้อดังนี้ค่ะ
เราเลือกซื้อผ่านเว็บไซต์ ที่เป็นที่นิยมกันอยู่ทั่วไปนะคะ
จากนั้นเราดูฟังชั่นต่างๆ ทำอะไรได้บ้าง อัดเสียงได้กี่แบบ (ของเราได้ 3 แบบ) และ จุได้กี่ GB (ได้ 8 GB) มีรับประกันไหม (ของเรา 3 เดือน)
ดูคุณสมบัติทั่วๆไปนะคะ ใช้ถ่าน AA หรือ AAA ชาร์จได้ไหม แต่เป็นเรา เราเลือกชาร์จได้นะคะ สะดวก ไม่ต้องซื้อถ่านมาคอยใส่ ชาร์จผ่านเวลาเล่นคอมก็ได้
ฟังชั่นอื่นๆ เช่นตัดเสียงรบกวนไหม และอื่นๆ น้ำหนัก คืออยากให้ดูรวมๆ เทียบอย่าง น้อย 3-4 อัน ราคาให้สมกับคุณภาพและปริมาณ
ข้อดี ที่ชอบและรู้หลังจากที่ซื้อมา
1. ฟัง mp 3 เพราะมาก
2. เวลาเอาลงคอม ลงง่าย ไม่เหมือนในโทรศัพท์
3. ใช้เป็นที่ฟังเพลงสำรองได้ แค่เสียบหูฟัง ฟังกับลำโพงก็ได้
4. ไม่เปลืองเมมโทรศัพท์
5. เบามากๆ ถึงมากที่สุด แทบไม่รู้สึกว่ากินพื้นที่ในกระเป๋าเลย
6. ใช้เป็น flashdrive ได้
สิ่งที่เสียใจเพราะลืมคำนึงตอนซื้อมา คือ
1. ช่องเสียบต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ ของเราต้องใช้สาย หมายความว่าถ้าไม่มีสายเราจะทำอะไรไม่ได้เลยกับคอม หรือแม้ใช้เป็น flashdrive
2. หัวต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ เป็นแบบรุ่นเก่า (หัวหยัก) เหมือนเครื่องเล่น mp3 ซัก 10 ปีมาแล้ว ดังนั้น ถ้าจะเอาแบบมีสาย ควรเลือกที่มีหัวเหมือนสมาร์ทโฟนปัจจุบัน (น้อยใจตรงที่ตอนเลือก็เจอเครื่องนึง บอกว่ามีหัวเหมือนสมาร์ทโฟน แต่เราไม่สนใจ)
สิ่งที่อยากแนะนำคนที่จะซื้อ
1. เลือกช่องเสียบที่เหมือนสมาร์ทโฟน เพราะปลั๊กหายาก เวลาพกแบตต้องพก 2 สาย หรือเราเข้าไปดู แบบใหม่ ตัวมันเองมีหัวแบบ USB ก็มี ราคาไม่เกิน 1,000 ด้วย
2. ตอนแรกมีตัวที่เราจะซื้อราคา 700 บาท ถูกกว่า 100 บาท แต่ไม่มี สายเชื่อมก้บโทรศัพท์ให้ ของเรา มีทั้ง หูฟัง ไมค์ และสายเชื่อมกับโทรศัพท์ - เอาไว้อัดการสนทนาในโทรศัพท์ ที่เราว่าเจ๋งมาก
3. ของเรา เป็น ic recorder ที่เขาบอกว่าตัดเสียงรบกวนได้ค่ะ ให้เลือกที่มันเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ และดูว่าทำอะไรได้บ้าง
4. ของเราได้รับประกันด้วยค่ะ เราเห็นใหม่ๆตอนนี้ไม่มีเลย ที่ราคาเท่านี้
5. เราเพิ่งสังเกตุว่า เวลาเราจะเปิดอัด เราต้องคอยตั้งเวลาใหม่ทุกครั้ง สงสัยถูกเกินไป
6. สาเหตุที่เราไม่ได้เลือกซื้อแพงมาก เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้เปลี่ยนไปเร็วมาก คือเดี๋ยวผ่านไปปี 2 ปี เดี๋ยวก็มีอะไรใหม่ๆเข้ามา ของเราจะกลายเป็นเก่าล้าหลังไปเลย เราเลยไม่แนะนำ ไม่ว่าจะเป็น sony และอื่นๆ คือเราประมาณว่า เบื่อก็เปลี่ยน เบื่อก็ทิ้ง จะได้ไม่เสียดายค่ะ เหมือนโทรศัพท์ ใหม่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้เก่าแล้ว...
ข้อแนะนำตอนอัด
1. ควรวางไว้ใกล้ๆอาจารย์ ถ้าอาจารย์ไม่พิธีรีตรองมาก ไว้ใกล้ๆอ. ยังไงก็ชัดกว่า
ยังไงเพื่อนๆก็ลองสังเกตุดูนะคะ เราว่าเครื่องอัดสมัยนี้ราคาไม่แพงมาก และมีประโยชน์เยอะเลย เพระไมค์มันดีกว่าโทรศัพท์เยอะ และไม่เปลืองเมมโทรศัพท์ด้วย (สำหรับเราฟังเพลงจะใช้เยอะมาก)
แบตก็ค่อนข้างอึดและทน
ขอบคุณค่ะ...