Suzuki Van Van 125
20-24 มีนาคม 2015
เชียงใหม่~ขอนแก่น~บุรีรัมน์~เชียงใหม่
ระยะ 1700+ กม.
ค่าน้ำมัน 1,490บาท
ขอเล่าสักนิดว่าตัวผมเองก็เป็นคนขี่รถ Big Bike เที่ยวมาพอประมาณ (แต่อาจจะไม่หน่ำใจต้องที่การ) และเร็วๆนี้ก็พึ่งขายรถคู่ใจคลาสพันไปสดๆร้อนเลยหารถขี่เที่ยวไปดูงงานแข่ง WSBK 2015 ที่สนาม Chang International Circuit Buri Ram กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สาย biker ที่นัดกันไว้
ก็มองๆ ที่จะเช่า Honda CB650 N, Suzuki V-Strom 650 หรือแม้ Yamaha Bolt เพราะล้วนแต่เป็นรถที่ยังไม่เคยได้ขี่ และมีความน่าสนใจในตัว
แต่ไม่ว่าจะด้วยรูปทรง ความชอบ หรือ ความสงสัยส่วนตัว ผมก็เลือกเจ้า Suzuki Van Van 125 ที่อยากขี่มานานแสนนานมาเป็นเพื่อนร่วมทริ๊ปของผมและภรรยาจากเชียงใหม่ไปบุรีรัมน์
หลังจากขี่ไปสี่วัน ระยะ 1700 กว่า กิโลเมตรก็ขอรีวิวแบบบ้านๆ ของผู้ใช้เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับใครที่สนใจรุ่นนี้อยู่
ความประทับใจแรกของเจ้า Van Van นอกจากรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น (ไม่ว่าขี่ไปไหนก็มีแต่คนมองด้วยความสนใจและแปลกใจ) คือเนื้องานที่ผมว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว
อีกอย่างที่ชอบขึ้นมาทันทีเลยตั้งแต่ก่อนได้ลองขี่รถคือการถอยหลังนั้นง่ายพอๆกับรถเล็กทั่วไปอย่าง Honda Wave ทั้งๆที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก ที่ชอบเพราผมสูง 170 ซม. 555... แฟนผมยังอึ้งตอนลองถอยเอง
ต่อมาท่าขี่นี้สบายมากๆ เครื่องนุ่มสุดๆ คือออกแนว cruiser ขี่เรื่อยๆ นิ่มๆ ไม่รีบ แต่ที่ผมชอบ และยอมรับว่าตกใจเล็กน้อย คือมีหกเกียร์ จากการออกทริ๊ปที่มีผมขี่ แฟนซ้อน กระเป๋าอีกสองใบ เครื่องนี้ลองบิดเต็มที่ก็จะได้ประมาณ 105~110 กม./ช แต่มีปัญหาสะดุด (เหมือนจ่ายน้ำมันไม่ทัน) อยู่บ้างถ้าขี่เกิน 105กม./ช แต่โดย 95% ของการขี่ทางตรงผมแช่ไม่เกิน 85~90 และสิ่งที่เห็นได้ชัดถ้าเทียบกับไซส์รถเล็กในคลาสเดียวกันเมื่อต้องวิ่งยาวๆ ก็คือ ความนิ่ง (ของตัวรถ) และความนิ่ม (เครื่องสั่นน้อย) ที่แตกต่างกันมาก ซึ่งเหมาะกับการขี่ชิลล์ๆ บนถนนคดเคี้ยว หรือ ทางตรงก็ได้ ไม่รีบไม่ร้อน แต่ แต่ แต่ ต้องเป็นถนนทางราบเท่านั้นเพราะถ้าเจอดอยเมื่อไรนั้น กลายเป็นหนังคนละม้วนขึ้นมาทันที
มีอยู่หลายต่อหลายดอยที่เจอทั้งขาไปและขากลับและมารู้ตัวจริงๆ จังๆ ว่าเครื่องมันมีกำลังไม่พอ ก็ ตอนขี่ขึ้นดอยแล้วมองซ้ายมองขวาแล้วเจอดอกใม้ข้างทางที่มีแมลงกำลังบินไปบินมาอย่างสงบ "นี้กรูมาเดินป่าหรือขี่รถออกทริ๊ปหว่ะเนี้ยะ" ... 555
ต่อไปก็เรื่องช่วงล่าง ถ้าขี่ข้ามพวกหลังเต่านี้ก็นิ่มๆ ดีทีเดียว แต่ถ้าวิ่งสัก 70 แล้วเจอหลุมนี้สะท้านและจุกทั้งคนขี่และคนซ้อน ทั้งๆ ที่ยางและเบาะเบิ้มมาก โดนไปครั้งแรกถึงกับมองหน้ากันแบบงงรับประทานกัน ^^
ขอวิจารณ์เรื่องเกียร์ว่าง (อาจจะเฉพาะรถคันที่ผมขี)่ แต่การเข้าเกียร์ว่างตอนที่รถจอดอยู่นี้ยากกว่าการวิดพื้นมือข้างเดียวซะอีก กดเบาๆแล้วก็เลย งัดนี้เท้าแถบระเบิด ... 555
อย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากในความสบายในการขี่คือถึงแม้ว่าจะขี่มาทั้งวัน พอถึงที่หมาย อาบน้ำเสร็จทั้งผมทั้งแฟนก็สามารถขี่รถต่อชมเมืองได้ด้วยกันด้วยความสบายและง่ายดาย ซึ่งถ้าเป็นรถใหญที่เคยขี่ผมจะขี้เกียจขึ้นมา ^^'
เรื่องราคาขอไม่พูดถึง อันนี้แล้วแต่ใครเห็นว่าคุ้มไม่คุ้ม แต่สำหรับผมเจ้า Van Van เป็นรถที่มีเอกลักษณ์ ขี่สนุก สบาย ในสไตล์เรื่อยๆ เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันหรือออกทริ๊ประยะสัก 300 กม.
นี้เป็นการรีวิวครั้งแรกใน Pantip ของผม ถ้าถูกผิดยังไงก็ขออภัย ยังไง ไว้จะมารีวิวบ้านๆ คันอื่นในทริ๊ปต่อไปน่ะครับ ^^
[CR] รีวิวบ้านๆ Suzuki Van Van 125
20-24 มีนาคม 2015
เชียงใหม่~ขอนแก่น~บุรีรัมน์~เชียงใหม่
ระยะ 1700+ กม.
ค่าน้ำมัน 1,490บาท
ขอเล่าสักนิดว่าตัวผมเองก็เป็นคนขี่รถ Big Bike เที่ยวมาพอประมาณ (แต่อาจจะไม่หน่ำใจต้องที่การ) และเร็วๆนี้ก็พึ่งขายรถคู่ใจคลาสพันไปสดๆร้อนเลยหารถขี่เที่ยวไปดูงงานแข่ง WSBK 2015 ที่สนาม Chang International Circuit Buri Ram กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สาย biker ที่นัดกันไว้
ก็มองๆ ที่จะเช่า Honda CB650 N, Suzuki V-Strom 650 หรือแม้ Yamaha Bolt เพราะล้วนแต่เป็นรถที่ยังไม่เคยได้ขี่ และมีความน่าสนใจในตัว
แต่ไม่ว่าจะด้วยรูปทรง ความชอบ หรือ ความสงสัยส่วนตัว ผมก็เลือกเจ้า Suzuki Van Van 125 ที่อยากขี่มานานแสนนานมาเป็นเพื่อนร่วมทริ๊ปของผมและภรรยาจากเชียงใหม่ไปบุรีรัมน์
หลังจากขี่ไปสี่วัน ระยะ 1700 กว่า กิโลเมตรก็ขอรีวิวแบบบ้านๆ ของผู้ใช้เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับใครที่สนใจรุ่นนี้อยู่
ความประทับใจแรกของเจ้า Van Van นอกจากรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น (ไม่ว่าขี่ไปไหนก็มีแต่คนมองด้วยความสนใจและแปลกใจ) คือเนื้องานที่ผมว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว
อีกอย่างที่ชอบขึ้นมาทันทีเลยตั้งแต่ก่อนได้ลองขี่รถคือการถอยหลังนั้นง่ายพอๆกับรถเล็กทั่วไปอย่าง Honda Wave ทั้งๆที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก ที่ชอบเพราผมสูง 170 ซม. 555... แฟนผมยังอึ้งตอนลองถอยเอง
ต่อมาท่าขี่นี้สบายมากๆ เครื่องนุ่มสุดๆ คือออกแนว cruiser ขี่เรื่อยๆ นิ่มๆ ไม่รีบ แต่ที่ผมชอบ และยอมรับว่าตกใจเล็กน้อย คือมีหกเกียร์ จากการออกทริ๊ปที่มีผมขี่ แฟนซ้อน กระเป๋าอีกสองใบ เครื่องนี้ลองบิดเต็มที่ก็จะได้ประมาณ 105~110 กม./ช แต่มีปัญหาสะดุด (เหมือนจ่ายน้ำมันไม่ทัน) อยู่บ้างถ้าขี่เกิน 105กม./ช แต่โดย 95% ของการขี่ทางตรงผมแช่ไม่เกิน 85~90 และสิ่งที่เห็นได้ชัดถ้าเทียบกับไซส์รถเล็กในคลาสเดียวกันเมื่อต้องวิ่งยาวๆ ก็คือ ความนิ่ง (ของตัวรถ) และความนิ่ม (เครื่องสั่นน้อย) ที่แตกต่างกันมาก ซึ่งเหมาะกับการขี่ชิลล์ๆ บนถนนคดเคี้ยว หรือ ทางตรงก็ได้ ไม่รีบไม่ร้อน แต่ แต่ แต่ ต้องเป็นถนนทางราบเท่านั้นเพราะถ้าเจอดอยเมื่อไรนั้น กลายเป็นหนังคนละม้วนขึ้นมาทันที
มีอยู่หลายต่อหลายดอยที่เจอทั้งขาไปและขากลับและมารู้ตัวจริงๆ จังๆ ว่าเครื่องมันมีกำลังไม่พอ ก็ ตอนขี่ขึ้นดอยแล้วมองซ้ายมองขวาแล้วเจอดอกใม้ข้างทางที่มีแมลงกำลังบินไปบินมาอย่างสงบ "นี้กรูมาเดินป่าหรือขี่รถออกทริ๊ปหว่ะเนี้ยะ" ... 555
ต่อไปก็เรื่องช่วงล่าง ถ้าขี่ข้ามพวกหลังเต่านี้ก็นิ่มๆ ดีทีเดียว แต่ถ้าวิ่งสัก 70 แล้วเจอหลุมนี้สะท้านและจุกทั้งคนขี่และคนซ้อน ทั้งๆ ที่ยางและเบาะเบิ้มมาก โดนไปครั้งแรกถึงกับมองหน้ากันแบบงงรับประทานกัน ^^
ขอวิจารณ์เรื่องเกียร์ว่าง (อาจจะเฉพาะรถคันที่ผมขี)่ แต่การเข้าเกียร์ว่างตอนที่รถจอดอยู่นี้ยากกว่าการวิดพื้นมือข้างเดียวซะอีก กดเบาๆแล้วก็เลย งัดนี้เท้าแถบระเบิด ... 555
อย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากในความสบายในการขี่คือถึงแม้ว่าจะขี่มาทั้งวัน พอถึงที่หมาย อาบน้ำเสร็จทั้งผมทั้งแฟนก็สามารถขี่รถต่อชมเมืองได้ด้วยกันด้วยความสบายและง่ายดาย ซึ่งถ้าเป็นรถใหญที่เคยขี่ผมจะขี้เกียจขึ้นมา ^^'
เรื่องราคาขอไม่พูดถึง อันนี้แล้วแต่ใครเห็นว่าคุ้มไม่คุ้ม แต่สำหรับผมเจ้า Van Van เป็นรถที่มีเอกลักษณ์ ขี่สนุก สบาย ในสไตล์เรื่อยๆ เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันหรือออกทริ๊ประยะสัก 300 กม.
นี้เป็นการรีวิวครั้งแรกใน Pantip ของผม ถ้าถูกผิดยังไงก็ขออภัย ยังไง ไว้จะมารีวิวบ้านๆ คันอื่นในทริ๊ปต่อไปน่ะครับ ^^