ขอเล่าคร่าวๆนะค่ะ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมาค่ะ มีรถเก๋ง โซลูน่า คันเก่า ขับมาชนด้าข้างคนขับเต็มๆ จนยางหลังแตก ในวันนั้นมีฝนตก เขาอ้างว่าเขาควบคุมรถไม่อยู่ เขาก็ยอมรับผิดในอุบัติเหตุครั้งนี้ แล้วได้แจ้งความ มีตำรวจมาในที่เกิดเหตุ แล้วตำรวจในไปลงบันทึกที่ สน.
แต่ประเด็นที่สำคัญ รถเรา และรถคู่กรณี ไม่มีประกัน จึง
ทำให้ต้องเคลียกันเองแบบวุ่นวาย เมื่อไปถึง สน.ตำรวจรับฟังและให้เราเจรจาตกลงค่าเสียหาย ซึ่งตอนนั้นเราดันเชื่อใจคู่กรณี เพราะเขาพูดจาดีในการรับผิดชอบ และพูดน่าสงสาร(คนชนเป็น ผญแก่รุ่นแม่) เรากะแฟนจึงไม่ได้แจ้งลงบันทึกค่าปรับอะไร เพราะด้วยความที่เราเชื่อใจในคำพูดคนแก่ๆคนนึง ที่พูดว่ารับผิดชอบทุกอย่างต่อหน้าตำรวจและเจ้าของอู่
และก็แยกย้าย ในคู่กรณีได้ประสานงานในราคาค่าซ้อมกับอู่ (แต่เรารอบขอบอีกอย่างคือ ถ่ายรูปการชนและทะเบียนคู่กรณีไว้ และถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้ด้วยค่ะ). ต่อมาฉันเองได้โทรถามกับอู่ว่าราคาค่าซ้อมทั้งหมดเท่าไหร่ และคู่กรณีเขาจ่ายให้บ้างรึยัง. แต่อู่บอกว่า คู่กรณีเขาไม่ยอมจ่ายทั้งหมด หาว่าแพงอย่างนั้นอย่างนี้ เริ่มบ่ายเบี่ยงในการจ่ายค่าซ่อมทั้งหมด แล้วเราก็โทรไปหาคู่กรณีทันทีค่ะ เขาบอกว่ามันแพงไป แล้วฉันเลยถามว่าอะไรคือแพงไป เพราะรถฉันเองประตูพังเสียหายทั้งฝั่งคนขับหน้าหลังเลยแล้วค่าล้อค่าสี มันเยอะอยุ่ค่ะ เขาก็บอกว่าฉันมีจ่ายแค่ 25000. ซึ่งมันทั้งหมด รวมเบ็จเสด 40000-50000 อู่เข้าตีราคามาให้เรียบร้อย และอู่เขาก็บอกกับฉันว่า สามารถผ่อนจ่ายเป็นสองงวดได้ คู่กรณีก็ยังยืนยันไม่จ่าย จะจ่ายแค่ 25000. ฉันนี่เงิบเลย ดูแล้วเขาไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแน่ พอจะนัดมาให้คุยกันอีกรอบ ก็บ่ายเบี่ยงการเจอกัน และบอกจะโอนให้แค่ 25000. อย่างเดียว ฉันเลยมานั่งคิดว่า ต้องมาจ่าบเองอีกตั้งครึ่งนึงเนี่ยนะ ผิดก็ไม่ได้ผิด ข้ามมาชนเราเต็มๆแท้ๆ แล้วคู่กรณีพูดท้าให้มาฟ้องขึ้นศาลเอา ฉันมาหาตำรวจที่สน.อีกครั้ง ว่าแจ้งความเพื่อเอาไปฟ้องขึ้นศาลเรียกค่าเสียหายและค่าต่างๆจากคู่กรณี จึงอยากขอคำปรึกษาจากผู้รู้ว่าควรทำอย่างไรกับคู่กรณีดีค่ะ. แล้วฟ้องขึ้นศาล คิดว่ามันคุ้มไหมค่ะ กับค่าเสียหาย 40000-50000 บาทที่คู่กรณีจะต้องจ่ายให้เราค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
อันนี้รูปรถของฉันที่โดนชน
รูปนี้คู่กรณีที่มาชนค่ะ
อันนี้ทะเบียนคู่กรณีค่ะ
ไงขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ ฉันแค่อยากได้ความเปนธรรมในการถูกชนครั้งนี้ เพราะตังค์ฉันเองก็ไม่ได้มีมากที่จะมานั่งจ่ายค่ะ
โดนชน แล้วคู่กรณีบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายค่าซ่อมในราคาเต็ม
แต่ประเด็นที่สำคัญ รถเรา และรถคู่กรณี ไม่มีประกัน จึง
ทำให้ต้องเคลียกันเองแบบวุ่นวาย เมื่อไปถึง สน.ตำรวจรับฟังและให้เราเจรจาตกลงค่าเสียหาย ซึ่งตอนนั้นเราดันเชื่อใจคู่กรณี เพราะเขาพูดจาดีในการรับผิดชอบ และพูดน่าสงสาร(คนชนเป็น ผญแก่รุ่นแม่) เรากะแฟนจึงไม่ได้แจ้งลงบันทึกค่าปรับอะไร เพราะด้วยความที่เราเชื่อใจในคำพูดคนแก่ๆคนนึง ที่พูดว่ารับผิดชอบทุกอย่างต่อหน้าตำรวจและเจ้าของอู่
และก็แยกย้าย ในคู่กรณีได้ประสานงานในราคาค่าซ้อมกับอู่ (แต่เรารอบขอบอีกอย่างคือ ถ่ายรูปการชนและทะเบียนคู่กรณีไว้ และถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้ด้วยค่ะ). ต่อมาฉันเองได้โทรถามกับอู่ว่าราคาค่าซ้อมทั้งหมดเท่าไหร่ และคู่กรณีเขาจ่ายให้บ้างรึยัง. แต่อู่บอกว่า คู่กรณีเขาไม่ยอมจ่ายทั้งหมด หาว่าแพงอย่างนั้นอย่างนี้ เริ่มบ่ายเบี่ยงในการจ่ายค่าซ่อมทั้งหมด แล้วเราก็โทรไปหาคู่กรณีทันทีค่ะ เขาบอกว่ามันแพงไป แล้วฉันเลยถามว่าอะไรคือแพงไป เพราะรถฉันเองประตูพังเสียหายทั้งฝั่งคนขับหน้าหลังเลยแล้วค่าล้อค่าสี มันเยอะอยุ่ค่ะ เขาก็บอกว่าฉันมีจ่ายแค่ 25000. ซึ่งมันทั้งหมด รวมเบ็จเสด 40000-50000 อู่เข้าตีราคามาให้เรียบร้อย และอู่เขาก็บอกกับฉันว่า สามารถผ่อนจ่ายเป็นสองงวดได้ คู่กรณีก็ยังยืนยันไม่จ่าย จะจ่ายแค่ 25000. ฉันนี่เงิบเลย ดูแล้วเขาไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแน่ พอจะนัดมาให้คุยกันอีกรอบ ก็บ่ายเบี่ยงการเจอกัน และบอกจะโอนให้แค่ 25000. อย่างเดียว ฉันเลยมานั่งคิดว่า ต้องมาจ่าบเองอีกตั้งครึ่งนึงเนี่ยนะ ผิดก็ไม่ได้ผิด ข้ามมาชนเราเต็มๆแท้ๆ แล้วคู่กรณีพูดท้าให้มาฟ้องขึ้นศาลเอา ฉันมาหาตำรวจที่สน.อีกครั้ง ว่าแจ้งความเพื่อเอาไปฟ้องขึ้นศาลเรียกค่าเสียหายและค่าต่างๆจากคู่กรณี จึงอยากขอคำปรึกษาจากผู้รู้ว่าควรทำอย่างไรกับคู่กรณีดีค่ะ. แล้วฟ้องขึ้นศาล คิดว่ามันคุ้มไหมค่ะ กับค่าเสียหาย 40000-50000 บาทที่คู่กรณีจะต้องจ่ายให้เราค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
อันนี้รูปรถของฉันที่โดนชน
รูปนี้คู่กรณีที่มาชนค่ะ
อันนี้ทะเบียนคู่กรณีค่ะ
ไงขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ ฉันแค่อยากได้ความเปนธรรมในการถูกชนครั้งนี้ เพราะตังค์ฉันเองก็ไม่ได้มีมากที่จะมานั่งจ่ายค่ะ