KB Financial Group INC
(
https://www.kbfg.com/Eng/ ) เป็นกลุ่มบริษัท.ในเครือ ด้าน INVESTMENT ARM ในด้านการลงทุนสินทรัพย์่ที่มีความเสี่ยงสุงต่างๆ เช่นหุ้น ทองคำ เงิน โลหะ ตราสารหนี้ต่างประเทศ etc. ให้กับแบงค์กุ้กมิน ในเครือของธนาคารกุ้กมิน แห่งประเทศเกาหลีใต้ (
https://omoney.kbstar.com/quics?page=oeng )
ซ่ึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปเอเชีย ในด้านทรัพย์สิน และรายได้ เปรียบได้กับขนาดของแบงค์ไทยสี่แห่งรวมกันคือ BBL, KTB, SCB , KBANK
ปัจจุบัน KB FINANCIAL GROUP INC
(
https://www.kbfg.com/Eng/ ) มีการจัดตั้งสาขาทั้งในรุปแบบของกองทุนต่างชาติ และบริษัทต่างชาติ ไปทำธุรกรรมด้านการลงทุนในต่างประเทศนอกประเทศเกาหลีใต้ รวมมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกแล้ว สำหรับในไทย กลุ่ม KB FINANCIAL GROUP ได้เข้ามาเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ปี คศ 2011 โดยจัดตั้งเป็นบริษัทต่างชาติธรรมดา ทั้งสิ้น ห้าบริษัท ( ไม่ได้มีการจดทะเบียนเป็นกองทุนต่างชาติเลย ) เริ่มต้นวงเงินลงทุนครั้งแรกในตลาดหุ้นไทยเมื่อปี 2011 ด้วยวงเงิน 1,000 ล้านเหรียญ US$ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ MORGAN STANLEY, UBS, CREDIT SUISSE, GOLDMAN ZAC สาขาประเทศเกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เป็นผู้ดูแลพอร์ตการลงทุน
( มีนโยบายการลงทุนแบบ HEDGE FUND เป็นหลัก )
โดยเน้นลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดเล็กที่เคยขาดทุนมาก่อน แต่สามารถพลิกฟื้นกิจการได้อย่างดีเยียม และมีจำนวนหุ้นหมุนเวียนไม่เกิน 1500 ล้านหุ้นในตลาด ( Free Float )
ปีแรกคือปี 2011 กลุ่ม KB สามารถทำกำไรจากตลาดหุ้นไทย ไปได้ถึง 400 ล้านเหรียญ US$
5 นับตี้งแต่ปี 2011 จนถึง สิ้นปี 2014 กลุ่ม KB สามารถทำกำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ไปแล้วจำนวนทั้งสิ้นกว่า ๅ 1,300 ล้านเหรีญ US$ จากจำนวนเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,000 ล้านเหรียญ us$
และในปี 2015 ล่าสุดนี้ กลุ่ม KB ของเกาหลีใต้ ได้จัดสรรงบประมาณขั้นต้นมาลงทุน ในตลาดหุ้นไทยแล้ว 1,200 ล้านเหรียญ US$ อีกทั้งยังได้สำรองเงินที่เป็นส่วนของกำไรเก่าอีก 500 ล้านเหรียญ US$ สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 58 อีกด้วย แต่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาของปี 2015ทางกลุ่ม KB ได้ใช้เงินลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทจดทะเบียนของไทยไปเพียง 200 ล้านเหรียญ เท่านั้น โดยเกือบ 75% ของวงเงินลงทุนจะเน้นหนักไปที่ตลาด MAI มากกว่า
พวกต่างชาตินี่เวลาเข้ามาซื้อขายๆหุ้นไทย นี่เขาก็ไม่ได้ตั้งเป็นกองทุนอย่างเดียวน่ะ เพิ่งรุ้เหมิอนกันพูดถึงเฉพาะพวกพอร์ตโต
( https://www.kbfg.com/Eng/ ) เป็นกลุ่มบริษัท.ในเครือ ด้าน INVESTMENT ARM ในด้านการลงทุนสินทรัพย์่ที่มีความเสี่ยงสุงต่างๆ เช่นหุ้น ทองคำ เงิน โลหะ ตราสารหนี้ต่างประเทศ etc. ให้กับแบงค์กุ้กมิน ในเครือของธนาคารกุ้กมิน แห่งประเทศเกาหลีใต้ ( https://omoney.kbstar.com/quics?page=oeng )
ซ่ึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปเอเชีย ในด้านทรัพย์สิน และรายได้ เปรียบได้กับขนาดของแบงค์ไทยสี่แห่งรวมกันคือ BBL, KTB, SCB , KBANK
ปัจจุบัน KB FINANCIAL GROUP INC
( https://www.kbfg.com/Eng/ ) มีการจัดตั้งสาขาทั้งในรุปแบบของกองทุนต่างชาติ และบริษัทต่างชาติ ไปทำธุรกรรมด้านการลงทุนในต่างประเทศนอกประเทศเกาหลีใต้ รวมมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกแล้ว สำหรับในไทย กลุ่ม KB FINANCIAL GROUP ได้เข้ามาเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ปี คศ 2011 โดยจัดตั้งเป็นบริษัทต่างชาติธรรมดา ทั้งสิ้น ห้าบริษัท ( ไม่ได้มีการจดทะเบียนเป็นกองทุนต่างชาติเลย ) เริ่มต้นวงเงินลงทุนครั้งแรกในตลาดหุ้นไทยเมื่อปี 2011 ด้วยวงเงิน 1,000 ล้านเหรียญ US$ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ MORGAN STANLEY, UBS, CREDIT SUISSE, GOLDMAN ZAC สาขาประเทศเกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เป็นผู้ดูแลพอร์ตการลงทุน
( มีนโยบายการลงทุนแบบ HEDGE FUND เป็นหลัก )
โดยเน้นลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดเล็กที่เคยขาดทุนมาก่อน แต่สามารถพลิกฟื้นกิจการได้อย่างดีเยียม และมีจำนวนหุ้นหมุนเวียนไม่เกิน 1500 ล้านหุ้นในตลาด ( Free Float )
ปีแรกคือปี 2011 กลุ่ม KB สามารถทำกำไรจากตลาดหุ้นไทย ไปได้ถึง 400 ล้านเหรียญ US$
5 นับตี้งแต่ปี 2011 จนถึง สิ้นปี 2014 กลุ่ม KB สามารถทำกำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ไปแล้วจำนวนทั้งสิ้นกว่า ๅ 1,300 ล้านเหรีญ US$ จากจำนวนเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,000 ล้านเหรียญ us$
และในปี 2015 ล่าสุดนี้ กลุ่ม KB ของเกาหลีใต้ ได้จัดสรรงบประมาณขั้นต้นมาลงทุน ในตลาดหุ้นไทยแล้ว 1,200 ล้านเหรียญ US$ อีกทั้งยังได้สำรองเงินที่เป็นส่วนของกำไรเก่าอีก 500 ล้านเหรียญ US$ สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 58 อีกด้วย แต่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาของปี 2015ทางกลุ่ม KB ได้ใช้เงินลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทจดทะเบียนของไทยไปเพียง 200 ล้านเหรียญ เท่านั้น โดยเกือบ 75% ของวงเงินลงทุนจะเน้นหนักไปที่ตลาด MAI มากกว่า