เอ้า งานธรรมชาติ งานธรรมชาติ ก็เข้าใจถึงอาการหนีเตลิดของเคทนะ กวางน้อยแบมบี้ ... เรื่องแบบนี้เคยคุ้นเสียที่ไหน แต่ประสบการณ์ในวันนั้นก็ทำให้พัทธรินทร์ระลึกตรึกได้ว่าที่ผ่านมาเรามองคุณเสกข์แบบไหน นอกจากเป็นยักษ์ขมูขีและเป็นผู้ใหญ่กว่าเรามากแล้ว มีอะไรจุดสว่างขึ้นในใจกวางน้อยอย่างเคทบ้าง คืนวันที่ผ่านมาอาจมีน้ำตามีร้องไห้มีความอึดอัดและคิดถึงบ้านที่จากมา แต่เธอก็คงปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน ว่าเธอเริ่มเคยชินที่จะคอยอยู่ชิดใกล้ดูแลผู้ชายตัวโต ๆ คนนึง ซึ่งไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เขาแค่ต้องการคนคอยอยู่ใกล้ แล้วมองเธอทำอะไรต่อมิอะไรภายในบ้าน
เคทคงไม่เคยมองในมุมนั้นมาก่อน จนกระทั่งวันนี้คุณเสกข์เอ่ยด้วยอารมณ์ลึกล้ำเข้มข้นว่าทำไมจึงกลายเป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่เธอชัง ภายใต้สายตาไม่แน่ใจ เหมือนมีอะไรที่ทำให้เธอฉุกคิด ภาพต่าง ๆ นานา คงลอยวนในหัว วันหนึ่ง ๆ เธอทำอะไรกับเขาบ้าง เธอรู้ ... ว่าเขาเจ็บปวดอย่างไร เธอรู้ ... ว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเคร่งครัดเขร่งขรึม ยังมีภาพของเด็กชายเกเรคนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในตัวเขา เด็กชายเกเรที่เรียกร้องความสนใจ ความเอาใจใส่ ซึ่งเธอยิ่งปฏิเสธไม่ลงเมื่อเห็นสายตาแบบนั้นจับจ้อง ปฏิเสธตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าที่ทำอยู่ทั้งหมดนี้หาใช่เป็นเพราะเรื่องครอบครัวอย่างเดียวไม่
แม้ไม่มีคำจะเอื้อนเอ่ยแต่เธอก็รู้ว่าความคิดของเธอในวันนี้พัดพาเอาความเปลี่ยนแปลงมาไว้ในชีวิต แล้วมันจะหันหลังกลับไม่ได้อีก ด้วยวัยที่ยังเยาว์ เธอตื่นกลัว เธอตกใจ นี่เราทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรลงไปใช่ไหม ? หากกลไกความรู้สึกใหม่ก็ปฏิบัติหน้าที่ของมันแล้ว ความอบอุ่นอ่อนหวานที่ได้รับ เธอเริ่มตระหนักว่าสิ่งนี้สินะ คือ "ความรัก" กลีบอ่อนของมันแย้มบานเมื่อไหร่ไม่ทราบได้ แต่เมื่อพ้นผ่านคืนนั้นไป .... จากกลีบอ่อนแรกแย้ม กลายเป็นเถาไม้ที่กระหวัดรัดเกี่ยวเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ดิ้นไม่หลุดเสียแล้วเคทเอ๋ย .... แต่เธอจะทำฉันใด ในเมื่อเรื่องราวมันยุ่งเหยิงพัวพันขึ้นทุกที
"นี่หรือความรัก" เสกข์ก็คงคิดเช่นนั้นเหมือนกัน ด้วยแรงอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยว โศกเศร้า มันแปรเปลี่ยนเป็นการเรียกร้องและโหยหา ซึ่งเสกข์ก็ได้เห็นแล้วว่าในที่สุดกลไกระหว่างเขากับเคทก็เคลื่อนไหว ไปในทางที่ตรงกันเสียด้วย เมื่อตระหนักได้ในข้อนี้ ... ความหลังฝังใจก็ไม่มีค่าหรือราคาอะไร นอกจากเสี้ยนหนามเล็ก ๆ ที่แสบ ๆ คัน ๆ ภาระที่หนักยิ่งกว่าคือเขาจะไปตามกวางน้อยตัวนั้นได้ที่ไหน ด้วยความคิดถึงหัวใจจึงติดปีกบินไปหา ไม่ผิดคำที่ภาเคยว่า สำหรับเสกข์เวลาเกลียดก็เกลียดจริง เวลารักก็รักจริง
เมื่อไม่ต้องฝืน เมื่อรู้ว่าใจของเขาและเคทตรงกัน .... อย่างที่เคยพูดไว้แต่ต้น เมื่อเสกข์จะรักจะรักด้วยหัวใจทั้งหมด และ รสนิยมของเขาคือสาวใสสายแบ๊วแอ๊วเอิน ดังนั้นเราจึงได้เห็นอาการ "สามีแห่งชาติ" รักทูนหัวทูนเกล้า ก้มลงในรองเท้าให้นี่เรื่องเล็ก เรียกว่าถนอมไม่ให้เสียนวลกันเลยทีเดียว และ เมื่อลงว่ารักแล้ว ใด ๆ ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เมื่อไม่ต้องฝืน ... หากอยากจะรู้ว่ายามรักเสกข์เป็นอย่างไรก็ดูอย่างที่เสกข์ทำกับเคท ลงว่ารักแล้วเก้าเกเทหมดหน้าตัก โลกนี้จะมีแต่เราสอง
และสิ่งนี้นี่เองทำให้เคทแสดงออกชัดเจนยิ่งขึ้น จากกวางน้อยเด็กใสกลายเป็นกวางสาววัยแรกแย้ม เหมือนซินเดอเรลล่ายามพบกับปริ๊นซ์ชาร์มมิ่งครั้งแรกที่งานบอลล์ ใบหน้าเขินอาย ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ ยามบอกกับแม่ว่า "คุณเสกข์มาหาเคท เขาว่าเขาคิดถึงเคท" แล้ววิ่งหนีเข้าบ้านไป ไม่ผิดอะไรกับเสกข์ที่ความรักพาหัวใจที่เคยชอกช้ำกลายเป็นหนุ่มน้อยที่ตกอยู่ในห้วงรักอีกครั้ง
เคยฟังเพลงหัวกระทู้ไหมล่ะ คิดว่าเคทกับเสกข์ คงรู้สึกไม่ต่างกัน
นี่น่ะหรือคือความรักที่ว่า
ที่พัดพาหัวใจลอยสู่สรวง
แสงสว่างกระจ่างใสข้างในทรวง
ความสุขล่วงอยู่ที่ใครมีแต่เรา
ดังหัวใจมีปีกบินสู่ฟ้า
แตะดาราทั่วหล้าให้คลายเหงา
ที่เคยฝันกลางวันยามยังเยาว์
นี่หรือเล่าอัศจรรย์แห่งรักเอย
เล่ห์รตี : So this is love
เอ้า งานธรรมชาติ งานธรรมชาติ ก็เข้าใจถึงอาการหนีเตลิดของเคทนะ กวางน้อยแบมบี้ ... เรื่องแบบนี้เคยคุ้นเสียที่ไหน แต่ประสบการณ์ในวันนั้นก็ทำให้พัทธรินทร์ระลึกตรึกได้ว่าที่ผ่านมาเรามองคุณเสกข์แบบไหน นอกจากเป็นยักษ์ขมูขีและเป็นผู้ใหญ่กว่าเรามากแล้ว มีอะไรจุดสว่างขึ้นในใจกวางน้อยอย่างเคทบ้าง คืนวันที่ผ่านมาอาจมีน้ำตามีร้องไห้มีความอึดอัดและคิดถึงบ้านที่จากมา แต่เธอก็คงปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน ว่าเธอเริ่มเคยชินที่จะคอยอยู่ชิดใกล้ดูแลผู้ชายตัวโต ๆ คนนึง ซึ่งไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เขาแค่ต้องการคนคอยอยู่ใกล้ แล้วมองเธอทำอะไรต่อมิอะไรภายในบ้าน
เคทคงไม่เคยมองในมุมนั้นมาก่อน จนกระทั่งวันนี้คุณเสกข์เอ่ยด้วยอารมณ์ลึกล้ำเข้มข้นว่าทำไมจึงกลายเป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่เธอชัง ภายใต้สายตาไม่แน่ใจ เหมือนมีอะไรที่ทำให้เธอฉุกคิด ภาพต่าง ๆ นานา คงลอยวนในหัว วันหนึ่ง ๆ เธอทำอะไรกับเขาบ้าง เธอรู้ ... ว่าเขาเจ็บปวดอย่างไร เธอรู้ ... ว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเคร่งครัดเขร่งขรึม ยังมีภาพของเด็กชายเกเรคนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในตัวเขา เด็กชายเกเรที่เรียกร้องความสนใจ ความเอาใจใส่ ซึ่งเธอยิ่งปฏิเสธไม่ลงเมื่อเห็นสายตาแบบนั้นจับจ้อง ปฏิเสธตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าที่ทำอยู่ทั้งหมดนี้หาใช่เป็นเพราะเรื่องครอบครัวอย่างเดียวไม่
แม้ไม่มีคำจะเอื้อนเอ่ยแต่เธอก็รู้ว่าความคิดของเธอในวันนี้พัดพาเอาความเปลี่ยนแปลงมาไว้ในชีวิต แล้วมันจะหันหลังกลับไม่ได้อีก ด้วยวัยที่ยังเยาว์ เธอตื่นกลัว เธอตกใจ นี่เราทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรลงไปใช่ไหม ? หากกลไกความรู้สึกใหม่ก็ปฏิบัติหน้าที่ของมันแล้ว ความอบอุ่นอ่อนหวานที่ได้รับ เธอเริ่มตระหนักว่าสิ่งนี้สินะ คือ "ความรัก" กลีบอ่อนของมันแย้มบานเมื่อไหร่ไม่ทราบได้ แต่เมื่อพ้นผ่านคืนนั้นไป .... จากกลีบอ่อนแรกแย้ม กลายเป็นเถาไม้ที่กระหวัดรัดเกี่ยวเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ดิ้นไม่หลุดเสียแล้วเคทเอ๋ย .... แต่เธอจะทำฉันใด ในเมื่อเรื่องราวมันยุ่งเหยิงพัวพันขึ้นทุกที
"นี่หรือความรัก" เสกข์ก็คงคิดเช่นนั้นเหมือนกัน ด้วยแรงอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยว โศกเศร้า มันแปรเปลี่ยนเป็นการเรียกร้องและโหยหา ซึ่งเสกข์ก็ได้เห็นแล้วว่าในที่สุดกลไกระหว่างเขากับเคทก็เคลื่อนไหว ไปในทางที่ตรงกันเสียด้วย เมื่อตระหนักได้ในข้อนี้ ... ความหลังฝังใจก็ไม่มีค่าหรือราคาอะไร นอกจากเสี้ยนหนามเล็ก ๆ ที่แสบ ๆ คัน ๆ ภาระที่หนักยิ่งกว่าคือเขาจะไปตามกวางน้อยตัวนั้นได้ที่ไหน ด้วยความคิดถึงหัวใจจึงติดปีกบินไปหา ไม่ผิดคำที่ภาเคยว่า สำหรับเสกข์เวลาเกลียดก็เกลียดจริง เวลารักก็รักจริง
เมื่อไม่ต้องฝืน เมื่อรู้ว่าใจของเขาและเคทตรงกัน .... อย่างที่เคยพูดไว้แต่ต้น เมื่อเสกข์จะรักจะรักด้วยหัวใจทั้งหมด และ รสนิยมของเขาคือสาวใสสายแบ๊วแอ๊วเอิน ดังนั้นเราจึงได้เห็นอาการ "สามีแห่งชาติ" รักทูนหัวทูนเกล้า ก้มลงในรองเท้าให้นี่เรื่องเล็ก เรียกว่าถนอมไม่ให้เสียนวลกันเลยทีเดียว และ เมื่อลงว่ารักแล้ว ใด ๆ ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เมื่อไม่ต้องฝืน ... หากอยากจะรู้ว่ายามรักเสกข์เป็นอย่างไรก็ดูอย่างที่เสกข์ทำกับเคท ลงว่ารักแล้วเก้าเกเทหมดหน้าตัก โลกนี้จะมีแต่เราสอง
และสิ่งนี้นี่เองทำให้เคทแสดงออกชัดเจนยิ่งขึ้น จากกวางน้อยเด็กใสกลายเป็นกวางสาววัยแรกแย้ม เหมือนซินเดอเรลล่ายามพบกับปริ๊นซ์ชาร์มมิ่งครั้งแรกที่งานบอลล์ ใบหน้าเขินอาย ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ ยามบอกกับแม่ว่า "คุณเสกข์มาหาเคท เขาว่าเขาคิดถึงเคท" แล้ววิ่งหนีเข้าบ้านไป ไม่ผิดอะไรกับเสกข์ที่ความรักพาหัวใจที่เคยชอกช้ำกลายเป็นหนุ่มน้อยที่ตกอยู่ในห้วงรักอีกครั้ง
ที่พัดพาหัวใจลอยสู่สรวง
แสงสว่างกระจ่างใสข้างในทรวง
ความสุขล่วงอยู่ที่ใครมีแต่เรา
ดังหัวใจมีปีกบินสู่ฟ้า
แตะดาราทั่วหล้าให้คลายเหงา
ที่เคยฝันกลางวันยามยังเยาว์
นี่หรือเล่าอัศจรรย์แห่งรักเอย