จขกท. อยากมาแชร์ประสบการณ์จากคนที่อกหักแล้วเสียใจมาก จนพยายามทำชีวิตให้มีคุณค่ามากขึ้น
บางท่าน เวลาอกหักก็มักจะเสียอกเสียใจเป็นเวลานานๆ นอกจากเสียสุขภาพจิตแล้ว สุขภาพกายก็อาจจะไม่ดีไปด้วย ไม่ยอมออกไปทำอะไร มัวแต่จมอยู่ในวังวนของความเศร้า หลายท่าน เลือกที่จะเข้าหาธรรมะ เริ่มใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนมากขึ้น หางานอดิเรกทำ ออกกำลังกาย พัฒนาบุคลิกตัวเอง ฯลฯ ซึ่งเราก็ทำมาแทบทุกอย่างแล้ว และได้ผลดีมาก โดยเฉพาะการศึกษาธรรมะ
เราไม่เคยอกหักแบบจริงจัง แบบโดนนอกใจหรือโดนบอกเลิก แต่ว่าเราเป็นคนที่มักจะแอบรักเพื่อน คือ ถ้าเราได้สนิทกับเพื่อนบางคนเป็นพิเศษ ก็มักจะตกหลุมรักเค้า แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวบวกกับความเป็นเพื่อน เราก็มักจะได้แต่แอบรัก ซึ่งจุดจบก็มักจะเป็นการรักข้างเดียวและโดนปฏิเสธ เพราะเค้าก็คิดกับเราแบบเพื่อนเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้เรา
อกหัก
ครั้งแรก ที่อกหักหนักๆเพราะแอบรักเพื่อนสนิท ตอนนั้นเราเสียศูนย์ไปเป็นปีๆเลย เพราะ เราสนิทมาก และ เรารักเค้ามาก แบบว่าเจอกันทุกวันคุยกันทุกวัน พอวันนึงเราบอกรักเค้าไป เค้าก็ตีตัวออกห่างไปเลย ด้วยความที่เราเด็กและไม่ชินกับความผิดหวัง เสียใจไปเป็นเวลานานมากๆ ตอนนั้นที่ผ่านมาได้ก็เพราะธรรมะ ครอบครัว รวมถึงการเข้ามาฟังความคิดเห็นและได้กำลังใจจากหลายๆคนในพันทิป
ผ่านไป ปีสองปีพอเราโตขึ้นมาอีกหน่อย เราก็แอบชอบเพื่อนอีกคน แต่ครั้งนี้เรามีสติมากขึ้น สุดท้ายแม้จะผิดหวังอีกตามเคย แต่เราก็รับมือได้ดีขึ้น วันสองวันแรกหลังจากโดนปฏิเสธ เราแทบลุกไม่ขึ้น น้ำตาไหล เสียใจมาก แต่เราก็ฉุกคิดได้ว่า เราจะไม่เสียเวลาจมทุกข์แบบเดิมอีกแล้ว ไม่งั้นก็เหมือนเราไม่ได้บทเรียนจากประสบการณ์ครั้งก่อน
เราเลยคิดว่า ไม่ได้แล้ว เราต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต ปกติเราต้องเจอเพื่อนที่เราเคยแอบชอบทุกๆสัปดาห์เพราะมีกิจกรรมที่มหาลัยด้วยกัน เราก็มานั่งคิดว่า ถ้าเราเจอเค้าบ่อยๆ เราตัดใจไม่ได้แน่ แล้วเจอทีไร มันเจ็บที่ใจทุกที เราเลยมาทบทวนว่า เรายังอยากไปร่วมกิจกรรมของชมรมนี้อีกไหม ถ้าเราไม่ไปต่อ เราจะเสียดายรึเปล่า เราก็ทบทวนตัวเองอยู่สักพัก และได้คำตอบว่า เราชอบชมรมนี้นะ แต่เราก็ได้ทำมาปีกว่าแล้ว ได้ประสบการณ์มาพอสมควร อีกทั้งที่เราเลือกชมรมนี้ก็เพราะว่า เค้าชวนเรามา และตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อแล้ว เราเลยตัดสินใจว่าออกดีกว่า
*ใช้ความเศร้าให้เป็นประโยชน์* อกหักแล้วทำชีวิตให้มีคุณค่า+หารายได้เสริม
บางท่าน เวลาอกหักก็มักจะเสียอกเสียใจเป็นเวลานานๆ นอกจากเสียสุขภาพจิตแล้ว สุขภาพกายก็อาจจะไม่ดีไปด้วย ไม่ยอมออกไปทำอะไร มัวแต่จมอยู่ในวังวนของความเศร้า หลายท่าน เลือกที่จะเข้าหาธรรมะ เริ่มใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนมากขึ้น หางานอดิเรกทำ ออกกำลังกาย พัฒนาบุคลิกตัวเอง ฯลฯ ซึ่งเราก็ทำมาแทบทุกอย่างแล้ว และได้ผลดีมาก โดยเฉพาะการศึกษาธรรมะ
เราไม่เคยอกหักแบบจริงจัง แบบโดนนอกใจหรือโดนบอกเลิก แต่ว่าเราเป็นคนที่มักจะแอบรักเพื่อน คือ ถ้าเราได้สนิทกับเพื่อนบางคนเป็นพิเศษ ก็มักจะตกหลุมรักเค้า แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวบวกกับความเป็นเพื่อน เราก็มักจะได้แต่แอบรัก ซึ่งจุดจบก็มักจะเป็นการรักข้างเดียวและโดนปฏิเสธ เพราะเค้าก็คิดกับเราแบบเพื่อนเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้เรา อกหัก
ครั้งแรก ที่อกหักหนักๆเพราะแอบรักเพื่อนสนิท ตอนนั้นเราเสียศูนย์ไปเป็นปีๆเลย เพราะ เราสนิทมาก และ เรารักเค้ามาก แบบว่าเจอกันทุกวันคุยกันทุกวัน พอวันนึงเราบอกรักเค้าไป เค้าก็ตีตัวออกห่างไปเลย ด้วยความที่เราเด็กและไม่ชินกับความผิดหวัง เสียใจไปเป็นเวลานานมากๆ ตอนนั้นที่ผ่านมาได้ก็เพราะธรรมะ ครอบครัว รวมถึงการเข้ามาฟังความคิดเห็นและได้กำลังใจจากหลายๆคนในพันทิป
ผ่านไป ปีสองปีพอเราโตขึ้นมาอีกหน่อย เราก็แอบชอบเพื่อนอีกคน แต่ครั้งนี้เรามีสติมากขึ้น สุดท้ายแม้จะผิดหวังอีกตามเคย แต่เราก็รับมือได้ดีขึ้น วันสองวันแรกหลังจากโดนปฏิเสธ เราแทบลุกไม่ขึ้น น้ำตาไหล เสียใจมาก แต่เราก็ฉุกคิดได้ว่า เราจะไม่เสียเวลาจมทุกข์แบบเดิมอีกแล้ว ไม่งั้นก็เหมือนเราไม่ได้บทเรียนจากประสบการณ์ครั้งก่อน
เราเลยคิดว่า ไม่ได้แล้ว เราต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต ปกติเราต้องเจอเพื่อนที่เราเคยแอบชอบทุกๆสัปดาห์เพราะมีกิจกรรมที่มหาลัยด้วยกัน เราก็มานั่งคิดว่า ถ้าเราเจอเค้าบ่อยๆ เราตัดใจไม่ได้แน่ แล้วเจอทีไร มันเจ็บที่ใจทุกที เราเลยมาทบทวนว่า เรายังอยากไปร่วมกิจกรรมของชมรมนี้อีกไหม ถ้าเราไม่ไปต่อ เราจะเสียดายรึเปล่า เราก็ทบทวนตัวเองอยู่สักพัก และได้คำตอบว่า เราชอบชมรมนี้นะ แต่เราก็ได้ทำมาปีกว่าแล้ว ได้ประสบการณ์มาพอสมควร อีกทั้งที่เราเลือกชมรมนี้ก็เพราะว่า เค้าชวนเรามา และตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อแล้ว เราเลยตัดสินใจว่าออกดีกว่า