เนื่องด้วยเพิ่งมีโอกาสไปผ่าฟันคุดมาสดๆร้อนๆเลยเมื่อตนอหัวค่ำ
หึหึ นอนไม่หลับ เนื่องด้วยความเจ็บปวด จึงอยากมาแชร์ความเจ็บปวดรวดร้าว
ให้ผู้ที่เคยร่วมชะตากรรม และผู้ที่กำลังคิดจะมีชะตากรรมเดียวกัน555

แน่นอนว่ามันเริ่มที่เรารู้สึกเจ็บแถวฟันกรามด้านล่างซ้าย
แรกๆก้คิดว่าไม่มีไรมั้ง ส่องกระจกก็เห็นเป็นฟันซี่หนึ่งธรรมดา
แต่ไปๆมาๆพักหลังเวลาเคี้ยวอาหารเริ่มเศษอาหารเข้าไปติดง่าย
จนผิดปกติ

ในที่สุดก้เริ่มปวดและเคี้ยวไม่ได้ ก้เลยตัดสินใจนัดหมอฟันละ
เพราะตอนนั้นเริ่มแบบว่าต้องเคี้ยวข้างเดียว -*- เลยคิดซะว่าซ้อมไว้ก่อนละกันวะ

ช่วงเวลาหลายวันระหว่างรอพบหมอ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น(เกิ๊น)
ก็เลยเข้าเว็บหาข้อมูลเกี่ยวกับผ่าฟันคุด
อื้มหืมมม แชร์กันเพียบ
แถมยังบ่นออกไปในทำนองเดียวกันว่าเจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกิน
ทรมานงู้นงี้ แถมเรายังเปิดดูคลิปวีดีโออี๊กก -*-

ที่นี่ก็เกิดการจินตนาการละสิว่าเฮ้ย มันคงต้องแบบนี้สินะ
ช่วงนั้นก้ผวาไปก่อนละ บวกกับถามคนรู้จักที่เคยผ่า ยิ่งหนักเลย
ขู่กันเข้าไป! -*-

แล้ววันนัดก้มาถึง....
ไปถึงก้ได้มีเวลานั่งรอหมอ+ทำใจอยู่ครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว
จนผู้ช่วยหมอเรียกเราขึ้นเขียง
วันนี้เจอคุนหมอใจดี เป็นผู้หญิง ยิ้มแย้มแจ่มใส
Cheer upคนไข้กันเต็มที่ ก้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยละว่านี่หละ ต้องมือเบาแน่ๆ

เราก้ขึ้นนอนบนเก้าอี้กึ่งเตียงที่ปรับช่วงเบาะที่พิงได้
ผู้ช่วบก้หยิบตุ๊กตากระต่ายน้อยมาให้เราแล้วก้บอกว่า
"เอาไว้บีบตอนฉีดยาชานะคะ"
เราก้แบบ"-*- มันคงจะเจ็บสินะคะ"
จากนั้นหมอก้ทายาชา หมอพูดเพราะมาก ดูนุ่มนวล
มีจิตวิทยาในการทำให้เราผ่อนคลาย
ซึ่งเอาจริงๆมันก้ช่วยได้นิดหน่อย

ตอนทายาชาไม่เท่าไหร่นะ จำได้ว่าอ่านพันทิปมาบอกว่าต้องฉีดไม่ใช่เหรอ
ไอเราก้คิดไปว่าสงสัยที่นี่เทคโนโลยีเยี่ยมแน่ๆ เย้ๆ
ดีใจไม่กี่วิ จู่ๆหมอก้ทำลายความฝันดาว
"อ้าปากกว้างๆเลยนะคะ เด๋วหมอจะฉีดยาชานะคะ"
เรานี่แบบ บีบตุ๊กตาแน่นแถมเกร็งขาจนตะคริวจะแดรกส์อยู่ละ
ความรู้สึกที่เอาเข็มจิ้มเข้าไปที่เหงือกข้างซ้ายคือ
เหมือนมันจะเบา นุ่มนวล แต่ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ อยู่แว่บหนึ่ง
ฉีดอยู่แปบนึง ผู้ช่วยก้พาไปเอกซเรย์
ระหว่างเดินไปห้องเอกซเรย์ก้รู้สึกได้ว่าปากเริ่มชาๆละ

ตอนเอกซเรย์นี่เค้าก้เอาแผ่นเล็กๆที่ถูกคีบด้วยอุปกรณ์อะไรซักอย่าง
วางลงบนลิ้นโดยหันแผ่นขนานกับลิ้นเราไปทางด้านซ้ายที่มีฟันคุด
แล้วก้เอาออก
จากนั้นก้พาเรากลับมาห้องเดิม
ขึ้นเขียงอีกครั้ง...ซึ่งตอนนี้ยาออกฤทธิ์ละ
เริ่มไร้ความรู้สึก
หมอก้เอาผ้าปิดตา แต่ปิดไม่ได้ดั่งใจเราเท่าไหร่
เราเลยรีบดึงลงมาปิดมากกว่าเดิมจนหมอแซวว่าไม่อยากเห็นขนาดนั้นเลยเหรอ
แหม! ไม่ต้องห่วงค่ะหมอ ดิฉันดูคลิปมาเรียบร้อยแล้ว
ไม่งั้นจะเกร็งขนาดนี้เหรอคะ>_<

จากนั้นผู้ช่วยก้อธิบายก่อนว่าผ่าแล้วมันต้องงี้ๆนะ
ต้องดูแลยังงัย พูดอย่างเร็วราวกะท่องเราก้แบบ
อ๋อๆ ค่ะๆ เหรอ อื้มๆ จำได้ไม่หมดหรอก

จากนั้นก้ถึงเวลาลงมือเสียที
คุณผู้ช่วยเองก้คอยให้กำลังใจเราตลอดเริ่มด้วย
"ขออนุญาติวางเครื่องมือบนตัวนะคะ"
0..0" เรานี่บั่บ....วะ..วาง เครื่องมือด้วยเหรอ
เราก้เลยหลับตาเลย กลัวเหลือบไปเห็นเครื่องมือแล้วยิ่งปอด

จากนั้นหมอก้ดำเนินการขุดเจาะ ลงเสาเข็ม โบกปูน
เจียร์ตัดเหล็ก เรียกได้ว่าเสียงดังราวกับทำงานก่อสร้างในช่องปากเรา
เวลาได้ยินเสียงเจียร์ฟัน แรงกดที่หน้าผากเรา แล้วมันก้แบบ
T-T ...

โชคดีที่ในห้องเปิดเพลงที่เราชอบพอดี
เราก้เลยพยามนึกถึงเนื้อเพลงแล้วร้องตามในใจ555
พยามลืมความรู้สึกเกี่ยวกับเสียงที่ได้ยิน
สัมผัสที่ราวกับว่าใครมาเจียร์มาตอกอะไรในช่องปากออกไป

ซึ่งเอาจริงๆมันก้ช่วยได้นิดโหน่ยย
จะบอกว่าเราสำลักไปสองสามครั้งได้
แต่นั่นก้ไม่ได้ทำให้หมอหยุดมือเลย
ยิ่งเร่งทำให้เสดเร็วๆเข้าไปอีก
เราก้แบบ..หลุดยังว้าาา

ซักพักเรื่มรู้สึกเหมือนหมอกำลังใช้ด้ายเย็บปาก
ก้เลยงงว่า ดึงออกไปตอนไหนฟร๊ะ แถบไม่รู้สึกตัวเลย

Processสุดท้ายหมอก้ให้กัดผ้าก็อตไว้แน่นๆ
เป็นอันเสร็จกระบวนการ

ส่วนที่เหลือก้กินยาแก้ปวดระดับแรงและปานกลาง
และก้ยาฆ่าเชื้อ....

สภาพจริงตอนนี้ของเราคือยาชาหมดฤทธิ์แล้วค้าบบย
ล่าสุดเราห้าวหาญเปลี่ยนผ้ากอตใหม่ตอนยาช้ายังไม่หมด
เพราะตั้งใจจะกินยาด้วย ปรากฏดันบ้วนเลือดทิ้งไปหลายรอบ
ดูท่าว่าจะยิ่งทำให้เลือดไหลหนักกว่าเดิมซะอีก
เซงตัวเอง-*-

ส่วนความเจ็บปวดตอนนี้ น่าจะยังจิ๊บๆนะ55
รอพรุ่งนี้ก่อน รับรอง...หรู่ เรื่อง!